ได้ฟังคุณวิชาไปพูดเรื่องการรณรงค์ต่อต้านทุจริต แล้ว “เทียดเอง” ของขึ้นเลยครับ

กระทู้สนทนา
นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของคนดีที่ไม่เคยรู้จักตัวเองดีเท่ากับที่รู้จักคนอื่น เป็นตัวอย่างของคนดีที่ไม่เคยรู้หน้าที่ของตัวเองมากไปกว่าหน้าที่ของคนอื่น และยังเป็นอีกหนึ่งคนดีที่ไม่เคยรู้ว่า ตัวเองนั่นแหละเป็นหนึ่งของความขัดแย้งในสังคมไทย

ฟังคุณวิชาพูดสิครับ ในต่างประเทศเรตติ้งการโกงของประเทศไทยโกงสูงมาก สอบตกทุกปี น่าอับอายและขายหน้าหรือไม่ หรือต้องนำปี๊บมาคุมหัวแบบสุกรี เจริญสุข ผมฟังแล้วก็งงกับคุณวิชาเป็นอย่างยิ่ง

คุณวิชาครับ การที่คุณวิชาออกมาพูดแบบนี้ ผมคิดว่า องค์กรของคุณวิชาต่างหากครับที่ควรต้องเอาปี๊บคุมก่อนคนอื่นเลยนะครับ เพราะว่า องค์กรของคุณวิชาไม่ใช่หรือ ที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ดังนั้นยิ่งคุณวิชาพูดมากเท่าไหร่ นั่นแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการทำหน้าที่ของพวกคุณวิชาเองหรือเปล่า นั่นแสดงถึงเงินภาษีของประชาชนที่เสียให้กับพวกท่านในแต่ละปี ทั้งไม่สามารถป้องกัน และยังไม่สามารถปราบปรามการทุจริตได้แม้แต่ให้เบาบางลง กลับเพิ่มขึ้นในแต่ละปี อย่างนี้ยังไม่รีบหาปี๊บมาคุมอีกหรือครับ

คุณวิชาครับ ก่อนที่จะปลุกจิตสำนึกร่วมการต่อต้านทุจริต ซึ่งคงต้องใช้เวลานานพอควร แต่การปลุกจิตสำนึกให้องค์กรของคุณวิชาทำหน้าที่ด้วยความซื่อตรง ไม่เลือกข้าง ผมคิดว่ามันจะง่ายกว่านะครับ เพราะเริ่มได้เลยตั้งแต่ตัวเองได้เลยนะครับ

คุณวิชาครับ การทุจริตจะไม่มีทางหมดไปจากประเทศไทยได้หรอกครับ ต่อให้รณรงค์ปลุกจิตสำนึกมากแค่ไหนก็ตาม ตราบใดที่องค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการปราบปรามทุจริตอย่างตรงไปตรงมา  เพื่อสร้างความมั่นใจและความศรัทธาให้กับประชาชน ถึงความพยายามที่จะกระทำโดยไม่ใช่ “ดีแต่พูด”อย่างที่เป็นอยู่

อย่าให้ประชาชนทนเห็นคดีหลายคดีที่ทำรัฐเสียหายเป็นแสนๆล้าน แต่กำลังจะหมดอายุความกลับไม่ใส่ใจ มัวแต่เอาเวลามาจัดการกับเรื่องจำนำข้าวที่มีอายุความอีกหลายปี

อย่าให้ประชาชนทนเห็นคดีอย่างประกันราคาข้าว ที่ดำเนินคดีกันอย่างล่าช้า ด้วยเหตุผลเอกสารสูญหายไปกับน้ำท่วม ในขณะที่เรื่องของอีกฝ่ายเกิดขึ้นทีหลัง กลับจะพยายามทั้งถอดถอน ทั้งฟ้องเป็นคดีอาญา ทั้งๆที่อาศัยจากงานวิจัย ทั้งๆที่คนทุจริตก็ยังไม่ได้สั่งฟ้อง แต่เร่งรีบที่จะดำเนินการกับคนออกนโยบายก่อน แบบนี้แล้วประชาชนอย่างผมก็เลยสงสัยว่า ที่แท้แล้วต้องการปราบปรามทุจริตหรือต้องการเล่นการเมืองกันแน่

นี่ยังแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อย ซึ่งความจริงแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ได้เห็นกันหมดแล้วว่า เรื่องทุจริตของรัฐบาลทั้งสองพรรค ที่ต่างก็มีมากมาย แล้วทาง ปปช.ของคุณวิชาจะเลือกเร่งตรวจสอบรัฐบาลไหนก่อน โดยไม่สนใจความหนักเบา ไม่สนใจเรื่องก่อนหลัง นี่ต่างหากครับที่ทำให้การทุจริต นอกจากไม่เบาบางลง กลับเพิ่มมากขึ้นทุกปี ก้อขอเพียงเลือกฝ่ายถูก ก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบไงล่ะครับคุณวิชา

คุณวิชายังพูดถึงการทุจริตเชิงนโยบาย โดยเข้ามาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง คิดแผนไว้ล่วงหน้า อาทิ การทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม. หรือ การทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

นี่ไงครับมาตรฐานของคุณวิชา ก็ยังคงแตะอยู่กับโครงการรับจำนำข้าว แต่ไม่ยอมแตะกับโครงการประกันข้าว ไทยเข้มแข็ง หรือนโยบายชุมชนพอเพียง หรือแม้แต่เสาโรงพักแฟลตตำรวจ อย่างนี้มันหมายความว่าอะไรมิทราบครับคุณวิชา

เฮ่อ หวังว่าที่ผมเคยรับฟังมาเกี่ยวกับคุณวิชานั้น คงไม่เป็นความจริงนะครับ นี่เป็นเพียงการบกพร่องอย่างสุจริต ประชาชนอย่างผมจึงยังพอมีความหวังรอได้ รอให้องค์กรของคุณวิชาได้ปฏิรูปและปลุกต่อมสำนึกในการทำหน้าที่ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

และที่น่าเกลียดและน่าขยักแขยงที่สุดก็คือ เรื่องสุดยอดความชั่วร้ายที่ทำให้รัฐจ่ายไป 7 แสนล้านบาทหายเข้าไปกระเป๋าพรรคพวก เป็นการโกงที่ยิ่งใหญ่ และยังแฉอีกว่า เงินโกงขนออกนอกประเทศ

คุณวิชาครับ ช่วยตอบผมหน่อย ตกลงแล้วประเทศไทยใช้เม็ดเงินเท่าไหร่กันแน่ครับในการรับจำนำข้าว
คุณวิชาครับ ช่วยตอบผมหน่อย ตกลงแล้วประเทศไทยเสียหายกับการจำนำข้าวเท่าไหร่กันแน่ครับ
คุณวิชาครับ ช่วยตอบผมหน่อย เงิน 7 แสนล้าน มันหนักประมาณ 7 แสนกิโลกรัม พวกเขานำออกไปต่างประเทศด้วยวิธีไหนกันครับ
คุณวิชาครับ ช่วยตอบผมหน่อย แล้ว ปปง.ปล่อยให้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ออกไปได้อย่างไรกันครับ
และคุณวิชาครับ ถ้าทั้งหมดที่คุณวิชาพูดมานั้น มีหลักฐานชัดเจน ทำไมคุณวิชาไม่บอกมาให้สังคมร่วมกันรับรู้ล่ะครับว่า มีใครบ้าง สังคมจะได้ร่วมกันประณามไม่ให้คนเหล่านี้มีที่ยืนในสังคม

แต่ถ้ายังไม่มีหลักฐาน นั่นคือการกล่าวหาลอยๆนะครับ มันจะกลายเป็นการชี้นำสังคม เป็นการให้ข้อมูลผิดๆกับกลุ่มวัยรุ่นที่คุณวิชาหวังเป็นฮีโร่ต่อต้านโกงนะครับ มันจะกลายเป็น “ปลุกจิตสำนึกให้โกงได้ เพียงขอให้เลือกข้างถูก” แบบนี้แล้วมันจะไม่ช่วยในการแก้ปัญหาคอรัปชั่นนะครับคุณวิชา

และที่ฟังแล้วผมรู้สึกรังเกียจมากก็คือ ความคิดเห็นในเรื่องการปรองดอง ฟังดูเหมือนดีนะครับ จะไม่ปรองดองกับคนที่ทุจริตโกงบ้านโกงเมือง แต่ตัวอย่างที่ยกมามันน่าทุเรศเลยรู้ไหมครับคุณวิชา

ที่จะไม่ปรองดองกับพวกที่บอกปาวๆว่า เผาเลยพี่น้องแล้วจะมาปรองดอง นี่คือความอคติที่ชัดเจน เป็นอคติที่ฝังลึกจนไม่แยกแยะเหตุผล ไม่สนใจข้อมูล

คุณวิชาครับ ตอนตะโกนกันปาวๆนั้น มันไม่มีการเผาแม้แต่ที่เดียว คุณวิชารู้หรือเปล่าครับ แต่มันเกิดขึ้นหลังจากมีการสังหารหมู่เพื่อนร่วมชาติของคุณวิชาด้วยอาวุธสงคราม และศาลก็วินิจฉัยแล้วด้วยว่า การตะโกนปาวๆนั้น มันไม่เป็นผลทำให้เกิดการเผาบ้านเผาเมืองหรอกนะครับ เพราะการชุมนุมได้เลิกแล้ว เข้าใจไหมครับคุณวิชา

ถ้าคุณวิชาจะไม่ปรองดอง จึงควรจะเป็นพวกที่สั่งฆ่าประชาชน จนทำให้เกิดการเผาบ้านเผาเมืองต่างหากครับ กลับหัวกลับหางแบบนี้ไงเล่า ประเทศจึงต้องตกอยู่กับวังวนของความขัดแย้งอยู่ร่ำไป

สุดท้ายอยากฝากคุณวิชาว่า ที่คุณวิชาบอกว่า ไม่ได้กังวลอะไรที่มีคนเสนอให้ปฏิรูป ปปช.ด้วยนั้น เพราะที่ผ่านมามีการปฏิรูปองค์กรตลอดเวลา เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับคุณวิชาอย่างยิ่งครับ เพราะมัวแต่ปฏิรูปองค์กร มันไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นหรอกครับ สิ่งที่องค์กรควรปฏิรูปที่สุด จึงน่าจะเป็นคนในองค์กรต่างหากครับ ตราบที่องค์กรยังคงไว้ซึ่งคนเลือกข้าง ก็ยากที่จะให้ความเที่ยงธรรมกับทุกฝ่าย แล้วเราจะปรองดองกันได้อย่างไร ใช่ไหมครับคุณวิชา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่