สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ จขกท.
ก่อนอื่น ผมขอแนะนำรายการ Human Ride จักรยานบันดาลใจ : นักออกแบบเส้นชัย - - Thai PBS
ชึ้งมันจะดีมาก ถ้าทุกคนได้ดูก่อนไปร่วมการทดสอบนี้ (เรียกว่าแข่งไม่ได้สินะ)
ผมเองไปปั่นระยะไกลนี้ครั้งแรก แต่ก็ด้วยความที่เป็นคนพื้นที่ และ มีเพื่อนที่ ปั่นเมื่อครั้งที่รายการนี้ไปถ่ายทำน่าจะ พ.ค. มั้ง
ไปกัน 3 คัน จบแค่ 2 คัน ผมต้องตามไปเก็บกลับบ้าน 1 คัน
รอบนี้ก็เลย ไปปั่นกะมันด้วย
ผมเองไม่ด้องดูแผนที่ตอนปั่น เพราะ ก่อนปั้น 1 เดือน ผมขับรถ เช็คเส้นทางก่อนแล้ว
ผมเองไม่เห็นถึงปัญหาเรื่องเส้นทางที่ กม.182 เพราะ มันสุดวิสัย (1เดือนที่แล้ว นรกกว่านี้)
ถ้าไปเส้นทางอื่นข้างเคียง อันตรากว่ามากครับ (ตอบในฐานะคนพื้นที่)
ผู้จัดเส้นทาง ลงปั่นด้วยนะครับ บอกไว้เผื่อหลายๆท่านจะไม่ทราบ
สุดท้าย มันคือการทดสอบตัวเราเอง
ก่อนรายนี้จะออกฉาย ผบ.ทบ. ก็จะไปขับรถรอ Service ให้ระหว่างทาง หรือ ตาม Checkpoint
แต่พอดูจบ อยากไปนักใช้ไหม ไปกันเองเลย กลับไม่ได้ จะตายตรงไหนโทรมา เดี่ยวไปรับ
#คนบางคนไม่ดูแผนที่
#คนบางคนหวังน้ำบ่อหน้า ปั้นตามๆไปต้องมีคนรู้ทางบางและ
#คนบางคนทิ้งขยะไม่เป็นที
#คนบางคนเบารถไม่เป็น
#เวลาเราเหนื่อยข้าวอร่อยทุกร้านเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
ความเห็นผมมีประมาณนี้ครับ
ก่อนอื่น ผมขอแนะนำรายการ Human Ride จักรยานบันดาลใจ : นักออกแบบเส้นชัย - - Thai PBS
ชึ้งมันจะดีมาก ถ้าทุกคนได้ดูก่อนไปร่วมการทดสอบนี้ (เรียกว่าแข่งไม่ได้สินะ)
ผมเองไปปั่นระยะไกลนี้ครั้งแรก แต่ก็ด้วยความที่เป็นคนพื้นที่ และ มีเพื่อนที่ ปั่นเมื่อครั้งที่รายการนี้ไปถ่ายทำน่าจะ พ.ค. มั้ง
ไปกัน 3 คัน จบแค่ 2 คัน ผมต้องตามไปเก็บกลับบ้าน 1 คัน
รอบนี้ก็เลย ไปปั่นกะมันด้วย
ผมเองไม่ด้องดูแผนที่ตอนปั่น เพราะ ก่อนปั้น 1 เดือน ผมขับรถ เช็คเส้นทางก่อนแล้ว
ผมเองไม่เห็นถึงปัญหาเรื่องเส้นทางที่ กม.182 เพราะ มันสุดวิสัย (1เดือนที่แล้ว นรกกว่านี้)
ถ้าไปเส้นทางอื่นข้างเคียง อันตรากว่ามากครับ (ตอบในฐานะคนพื้นที่)
ผู้จัดเส้นทาง ลงปั่นด้วยนะครับ บอกไว้เผื่อหลายๆท่านจะไม่ทราบ
สุดท้าย มันคือการทดสอบตัวเราเอง
ก่อนรายนี้จะออกฉาย ผบ.ทบ. ก็จะไปขับรถรอ Service ให้ระหว่างทาง หรือ ตาม Checkpoint
แต่พอดูจบ อยากไปนักใช้ไหม ไปกันเองเลย กลับไม่ได้ จะตายตรงไหนโทรมา เดี่ยวไปรับ
#คนบางคนไม่ดูแผนที่
#คนบางคนหวังน้ำบ่อหน้า ปั้นตามๆไปต้องมีคนรู้ทางบางและ
#คนบางคนทิ้งขยะไม่เป็นที
#คนบางคนเบารถไม่เป็น
#เวลาเราเหนื่อยข้าวอร่อยทุกร้านเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
ความเห็นผมมีประมาณนี้ครับ
Gozzo ถูกใจ, คุณหน่อย ถูกใจ, EthanB ถูกใจ, ช้างน้อยโคราช ถูกใจ, qaize ถูกใจ, Blue Lighthouse ถูกใจ, LataeCoffee ถูกใจ, Into the Groove ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1400987 ถูกใจ, =*Vincent*= ถูกใจรวมถึงอีก 8 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 32
พิมพ์ไว้เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ใน ThaiMTB ไม่คิดว่าวันนี้ ยังมีคนมาดราม่าเรื่องนี้กันอีก!!!!!!
"ก่อนคุณจะไปงานไหนซักงาน คุณไม่เคยอ่านกติกา
ไม่เคยทำความเข้าใจรูปแบบ เลยหรือครับ???"
เรื่องคำจำกัดความนี้ เวปไซต์ของ Audax แอฟริกาใต้ ได้ให้คำจำกัดความไว้อย่างครอบคลุม
หากใครขี้เกียจอ่าน ผมขอแปลไว้ด้วยภาษาอังกฤษเบื้องต้นของผมให้ละกันนะครับ
"The spirit of Audax is that of a self-supporting ride on any form of human powered vehicle
either alone or with others whilst maintaining an average speed of between 15 and 30 kph,
from start to finish and in between control points."
หากจะกล่าวถึงจิตวิญญาณของ Audax
มันก็คือคือการที่มุษย์เราขับเคลื่อนยานพาหนะใดๆโดยพลังงานของตนเอง โดยปราศจากการสนับสนุนใดจากภายนอก
ในขณะที่คุณต้องขับขี่เพียงลำพัง หรือร่วมกับผู้อื่น โดยในขณะเดียวกันคุณต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยระหว่าง 15 และ 30 ชม.
ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมีการกำหนดจุดควบคุม (Check Point) ระหว่างเส้นทาง โดยผู้ที่ผ่านการทดสอบ จะมีสิทธิ์ได้รับใบประกาศ
และเหรียญรางวัลอันน่าภาคภูมิใจ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามระยะของการทดสอบที่กำหนดไว้เฉพาะเท่านั้น
กิจกรรม Audax ไม่ใช่การแข่งขัน แต่มันคือการทดสอบสมรรถนะของตัวเรา โดยมีเส้นทางเริ่มต้นที่ระยะทาง 200 กม. ขึ้นไป
โดยตลอดเส้นทางตั้งแต่ต้นจนจบคุณจะต้องขี่โดยปราศจากการสนับสนุนใดๆจากภายนอก เว้นแต่ที่จุดลงเวลา
ซึ่งการสนับสนุนจากภายนอกจะกระทำได้ที่จุดนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางนั้น คุณอาจขี่โดยลำพัง กับทีมของคุณ หรือเข้าร่วมกับผ็ทดสอบอื่นๆได้ตามความเหมาะสม
การสนับสนุนของบุคคลอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในการทดสอบอาจทำให้คุณอยู่นอกเงื่อนไข (ตก) ในการพิชิตกิจกรรมในครั้งนี้
ตลอดเส้นทางในกิจกรรมครั้งนี้ คุณจะต้องช่วยเหลือตนเอง เส้นทางจะปราศจากการนำทาง คุณจะได้รับเพียงบัตรลงเวลาและแผนที่เส้นทาง
ก่อนเริ่มกิจกรรม จุดลงเวลานั้นอาจจะเป็นอะไรก็ได้ อู่ ร้านกาแฟ ซึ่งบางแห่งอาจไม่ได้มีทั้งน้ำและอาหารไว้ดูแล
โดยมีผู่ให้คำนิยามไว้ว่า
Audax เป็นการขี่จักรยานที่ผู้เข้าร่วมพยายามที่จะพิชิตระยะทางไกลภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
Audax เป็นกีฬาที่ไม่ใช่การแข่งขัน : ความสำเร็จจะเกิดขึ้นเมื่อคุณสามารถพิชิตเส้นทางทั้งหมดได้เท่านั้น
Audax มีจุดกำเนิดโดยเป็นกีฬาทดสอบความอดทนของอิตาลีในศตวรรษที่สิบเก้าปลาย และภายหลังมีการวางกฎระเบียบที่เป็นทางการ
ในประเทศฝรั่งเศสในต้นศตวรรษที่ยี่สิบ
และหากคุณได้สำเร็จการขี่ปีปฏิทินคุณจะได้รับสถานะ Super Randonneur
และได้รับเชิญให้ทำเป็นหนึ่งในการทดสอบระดับ 1200km เช่น PBP หรือ LEL
(ไม่รู้ว่าแปลถูกไหม แต่ไทยคงยังไปไม่ถึงจุดนั้น)
Cr : http://audaxsa.co.za/
จะเห็นได้ว่า Audax จะมีคำที่วนไปวนมาอยู่ไม่กี่คำครับ
เป็นการทดสอบไม่ใช่การแข่งขัน / ระยะไกล / พึ่งพาตนเอง / ไม่มีการสนับสนุน / และผ่านการทดสอบโดยการจบเส้นทางเท่านั้น
ส่วนตัวผม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่ได้เข้าร่วม คือครั้งทดสอบเส้นทาง เมื่อครั้งแรก
ในครั้งที่สองผมติดงาน นอนไม่พอ จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมการแข่งขัน แม้จะชำระเงินค่าสมัครไปแล้ว และครั้งที่ 3 ในครั้งนี้
สำหรับผมและทีมสเน่ห์ของ Audax การปั่นจักรยานเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของความสำเร็จเท่านั้น
การวางแผน....ความรู้ตัว....มิตรภาพ เป็นสิ่งที่คุณต้องใช้ตลอดระยะทางอันยาวนานนี้
คุณต้องแม่นและเจนจัดในเส้นทาง แม้ว่าคุณจะไม่เคยไปมาก่อน แผนที่เส้นทางที่ผู้จัดให้มาก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง
แต่จะดีกว่า หากคุณทำการบ้านมากขึ้น และรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี
ทีมของผม นั่ง simulate เส้นทางกันใหม่หมด นั่งทำแผนที่ใหม่ โหลดแผนที่ นั่งดู Street view กันเลยเพื่อไม่ให้พลาด
แผนการปั่นและการพัก ถูกวางไว้อย่างดี เพื่อพาทีมทุกคนไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ การแบ่งระยะ การทำความเร็ว ถูกกำหนดอย่างชัดเจน
ทีม Support ของทีมผมก็มี แต่จะทำตามกติกาทุกอย่าง Support ที่จุดเช็คพอยท์ และเก็บทีมที่ตัดใจลงจากหลังจักรยานเท่านั้น
นอกนั้นทีมจะแบกทุกอย่างที่จำเป็นไปด้วยตนเอง
ระหว่างทาง การทักทาย และการร่วมกับกลุ่มที่เราไม่ร็จักก็เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่เราสัมผัสได้
ถามว่าอะไรคือสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุด
ไม่ใช่ทริป Full Service อย่างทริปปั่นต่างๆ ที่เราคุ้นเคย....ไม่ใช่การแข่งเพื่อความสำเร็จอย่างตูเดอฟรองซ์....
แต่มันคือ การเดินทางระยะไกลประเภททัวริ่งด้วยจักรยานต่างหาก
จะปั่นไปไหน ระยะเท่าไร ระหว่างทางเราจะพักตรงไหน ตรงไหนจะกินน้ำ จะกินข้าวตอนไหน ต้องปั่นอย่างไรให้ไปถึง....
หากระดับสูงขึ้นไป 400-600 โล ต้องคิดถึงขนาดว่า จะนอนมั๊ย นานแค่ไหน ที่ไหนด้วย
หากการปั่นจักรยานของคุณคือ ชิลๆ เล่นๆ มีการบริการอย่างเพียบพร้อม หรือการแข่งขันเพื่อการพิชิตสนามแข่ง
คุณจงมองข้าม Audax ไปซะ เพราะนี่คงไม่ใช่เส้นทางของคุณ
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
เรื่องเซอร์วิส...เรื่องโกงไมล์....... มันอยู่ที่ใจครับ
คราวที่แล้วแฟนผมไปแล้วไม่ผ่าน ให้เพื่อนไปปั๊มให้ก็ได้แต่ไม่ทำ เธอก็กลับมาเก็บรอบนี้จนผ่านได้
น้องคนนึงยางมีปัญหาไม่มีอะไหล่ ขึ้นรถเซอร์วิสไป 20 กิโล...พอแฟนผมขึ้นรถเซอร์วิส เขาก็เอารถแฟนผมไปปั่น เขาก็ไม่ประทับตรา
ผมผ่าน Audax 200 BRM มาแล้ว 4 ครั้ง...กำลังวางแผนไปต่อครับ......
ความภาคภูมิใจ....มันอยู๋ที่ใจ หลอกใครก็ได้......แต่หลอกตัวเองไม่ได้ครับ
ปล.Check Point เมืองไทย นับว่าสบายแล้วนะครับ....มีของว่าง มีน้ำดื่ม...เมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ
"ก่อนคุณจะไปงานไหนซักงาน คุณไม่เคยอ่านกติกา
ไม่เคยทำความเข้าใจรูปแบบ เลยหรือครับ???"
เรื่องคำจำกัดความนี้ เวปไซต์ของ Audax แอฟริกาใต้ ได้ให้คำจำกัดความไว้อย่างครอบคลุม
หากใครขี้เกียจอ่าน ผมขอแปลไว้ด้วยภาษาอังกฤษเบื้องต้นของผมให้ละกันนะครับ
"The spirit of Audax is that of a self-supporting ride on any form of human powered vehicle
either alone or with others whilst maintaining an average speed of between 15 and 30 kph,
from start to finish and in between control points."
หากจะกล่าวถึงจิตวิญญาณของ Audax
มันก็คือคือการที่มุษย์เราขับเคลื่อนยานพาหนะใดๆโดยพลังงานของตนเอง โดยปราศจากการสนับสนุนใดจากภายนอก
ในขณะที่คุณต้องขับขี่เพียงลำพัง หรือร่วมกับผู้อื่น โดยในขณะเดียวกันคุณต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยระหว่าง 15 และ 30 ชม.
ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมีการกำหนดจุดควบคุม (Check Point) ระหว่างเส้นทาง โดยผู้ที่ผ่านการทดสอบ จะมีสิทธิ์ได้รับใบประกาศ
และเหรียญรางวัลอันน่าภาคภูมิใจ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามระยะของการทดสอบที่กำหนดไว้เฉพาะเท่านั้น
กิจกรรม Audax ไม่ใช่การแข่งขัน แต่มันคือการทดสอบสมรรถนะของตัวเรา โดยมีเส้นทางเริ่มต้นที่ระยะทาง 200 กม. ขึ้นไป
โดยตลอดเส้นทางตั้งแต่ต้นจนจบคุณจะต้องขี่โดยปราศจากการสนับสนุนใดๆจากภายนอก เว้นแต่ที่จุดลงเวลา
ซึ่งการสนับสนุนจากภายนอกจะกระทำได้ที่จุดนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางนั้น คุณอาจขี่โดยลำพัง กับทีมของคุณ หรือเข้าร่วมกับผ็ทดสอบอื่นๆได้ตามความเหมาะสม
การสนับสนุนของบุคคลอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในการทดสอบอาจทำให้คุณอยู่นอกเงื่อนไข (ตก) ในการพิชิตกิจกรรมในครั้งนี้
ตลอดเส้นทางในกิจกรรมครั้งนี้ คุณจะต้องช่วยเหลือตนเอง เส้นทางจะปราศจากการนำทาง คุณจะได้รับเพียงบัตรลงเวลาและแผนที่เส้นทาง
ก่อนเริ่มกิจกรรม จุดลงเวลานั้นอาจจะเป็นอะไรก็ได้ อู่ ร้านกาแฟ ซึ่งบางแห่งอาจไม่ได้มีทั้งน้ำและอาหารไว้ดูแล
โดยมีผู่ให้คำนิยามไว้ว่า
Audax เป็นการขี่จักรยานที่ผู้เข้าร่วมพยายามที่จะพิชิตระยะทางไกลภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
Audax เป็นกีฬาที่ไม่ใช่การแข่งขัน : ความสำเร็จจะเกิดขึ้นเมื่อคุณสามารถพิชิตเส้นทางทั้งหมดได้เท่านั้น
Audax มีจุดกำเนิดโดยเป็นกีฬาทดสอบความอดทนของอิตาลีในศตวรรษที่สิบเก้าปลาย และภายหลังมีการวางกฎระเบียบที่เป็นทางการ
ในประเทศฝรั่งเศสในต้นศตวรรษที่ยี่สิบ
และหากคุณได้สำเร็จการขี่ปีปฏิทินคุณจะได้รับสถานะ Super Randonneur
และได้รับเชิญให้ทำเป็นหนึ่งในการทดสอบระดับ 1200km เช่น PBP หรือ LEL
(ไม่รู้ว่าแปลถูกไหม แต่ไทยคงยังไปไม่ถึงจุดนั้น)
Cr : http://audaxsa.co.za/
จะเห็นได้ว่า Audax จะมีคำที่วนไปวนมาอยู่ไม่กี่คำครับ
เป็นการทดสอบไม่ใช่การแข่งขัน / ระยะไกล / พึ่งพาตนเอง / ไม่มีการสนับสนุน / และผ่านการทดสอบโดยการจบเส้นทางเท่านั้น
ส่วนตัวผม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่ได้เข้าร่วม คือครั้งทดสอบเส้นทาง เมื่อครั้งแรก
ในครั้งที่สองผมติดงาน นอนไม่พอ จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมการแข่งขัน แม้จะชำระเงินค่าสมัครไปแล้ว และครั้งที่ 3 ในครั้งนี้
สำหรับผมและทีมสเน่ห์ของ Audax การปั่นจักรยานเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของความสำเร็จเท่านั้น
การวางแผน....ความรู้ตัว....มิตรภาพ เป็นสิ่งที่คุณต้องใช้ตลอดระยะทางอันยาวนานนี้
คุณต้องแม่นและเจนจัดในเส้นทาง แม้ว่าคุณจะไม่เคยไปมาก่อน แผนที่เส้นทางที่ผู้จัดให้มาก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง
แต่จะดีกว่า หากคุณทำการบ้านมากขึ้น และรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี
ทีมของผม นั่ง simulate เส้นทางกันใหม่หมด นั่งทำแผนที่ใหม่ โหลดแผนที่ นั่งดู Street view กันเลยเพื่อไม่ให้พลาด
แผนการปั่นและการพัก ถูกวางไว้อย่างดี เพื่อพาทีมทุกคนไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ การแบ่งระยะ การทำความเร็ว ถูกกำหนดอย่างชัดเจน
ทีม Support ของทีมผมก็มี แต่จะทำตามกติกาทุกอย่าง Support ที่จุดเช็คพอยท์ และเก็บทีมที่ตัดใจลงจากหลังจักรยานเท่านั้น
นอกนั้นทีมจะแบกทุกอย่างที่จำเป็นไปด้วยตนเอง
ระหว่างทาง การทักทาย และการร่วมกับกลุ่มที่เราไม่ร็จักก็เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่เราสัมผัสได้
ถามว่าอะไรคือสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุด
ไม่ใช่ทริป Full Service อย่างทริปปั่นต่างๆ ที่เราคุ้นเคย....ไม่ใช่การแข่งเพื่อความสำเร็จอย่างตูเดอฟรองซ์....
แต่มันคือ การเดินทางระยะไกลประเภททัวริ่งด้วยจักรยานต่างหาก
จะปั่นไปไหน ระยะเท่าไร ระหว่างทางเราจะพักตรงไหน ตรงไหนจะกินน้ำ จะกินข้าวตอนไหน ต้องปั่นอย่างไรให้ไปถึง....
หากระดับสูงขึ้นไป 400-600 โล ต้องคิดถึงขนาดว่า จะนอนมั๊ย นานแค่ไหน ที่ไหนด้วย
หากการปั่นจักรยานของคุณคือ ชิลๆ เล่นๆ มีการบริการอย่างเพียบพร้อม หรือการแข่งขันเพื่อการพิชิตสนามแข่ง
คุณจงมองข้าม Audax ไปซะ เพราะนี่คงไม่ใช่เส้นทางของคุณ
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
เรื่องเซอร์วิส...เรื่องโกงไมล์....... มันอยู่ที่ใจครับ
คราวที่แล้วแฟนผมไปแล้วไม่ผ่าน ให้เพื่อนไปปั๊มให้ก็ได้แต่ไม่ทำ เธอก็กลับมาเก็บรอบนี้จนผ่านได้
น้องคนนึงยางมีปัญหาไม่มีอะไหล่ ขึ้นรถเซอร์วิสไป 20 กิโล...พอแฟนผมขึ้นรถเซอร์วิส เขาก็เอารถแฟนผมไปปั่น เขาก็ไม่ประทับตรา
ผมผ่าน Audax 200 BRM มาแล้ว 4 ครั้ง...กำลังวางแผนไปต่อครับ......
ความภาคภูมิใจ....มันอยู๋ที่ใจ หลอกใครก็ได้......แต่หลอกตัวเองไม่ได้ครับ
ปล.Check Point เมืองไทย นับว่าสบายแล้วนะครับ....มีของว่าง มีน้ำดื่ม...เมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ
แมวอ้วน กวนทุกวัน ถูกใจ, กาย คนจากแดนไกล ถูกใจ, au_wat ถูกใจ, khun12 ถูกใจ, คุณหน่อย ถูกใจ, EthanB ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 889339 ถูกใจ, เจ้าชายแตงโม ถูกใจ, augie (น้าวี) ถูกใจ, กูนเน่อร์ ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 2
เรื่องป้ายบอกทางนั้นไม่มีตามหลักกติกาอยู่แล้ว ให้ดูจาก cue sheet และศึกษาเส้นทางก่อน อันนี้ทำตามกติกาสากล ซึ่งมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนแล้ว ข้อนี้ผมว่า จขกท เข้าใจผิดนิดหน่อย
เรื่องรถเซอร์วิส หรือการเซอร์วิสนอกจุดอันนี้เป็นปัญหาที่น่าเบื่อมาก ถ้ามีหลักฐานพร้อมเอาไปฟ้องผู้จัดปรับตกได้เลย โดนจริง
200BRM มันจะมีพวกที่คิดว่าเป็นงานวัดใจอยู่ และพวกนึงนี้ส่วนนึงเป็นนักปั่นสายคุณหนูต้องการการประคบประหงมและเซอร์วิสเต็มระบบ หวังว่าผู้จัดจะใจเด็ด และเด็ดขาดพอตัดสิทธิ์พวกนี้
เรื่องรถเซอร์วิส หรือการเซอร์วิสนอกจุดอันนี้เป็นปัญหาที่น่าเบื่อมาก ถ้ามีหลักฐานพร้อมเอาไปฟ้องผู้จัดปรับตกได้เลย โดนจริง
200BRM มันจะมีพวกที่คิดว่าเป็นงานวัดใจอยู่ และพวกนึงนี้ส่วนนึงเป็นนักปั่นสายคุณหนูต้องการการประคบประหงมและเซอร์วิสเต็มระบบ หวังว่าผู้จัดจะใจเด็ด และเด็ดขาดพอตัดสิทธิ์พวกนี้
=*Vincent*= ถูกใจ, khun12 ถูกใจ, Blue Lighthouse ถูกใจ, LataeCoffee ถูกใจ, recoba@K5 ถูกใจ, akeis ถูกใจ, poundkub ขำกลิ้ง, augie (น้าวี) ถูกใจ, บ้านสวนริมกรุง ถูกใจ, Norito ถูกใจรวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
#####กระทู้หลังจากจบ Audax 200 Km.#####
ผมมากับพี่ในกลุ่มที่ปั่นด้วย 9 คน
คนลงทะเบียนต้องต่อแถวและรับเอกสารเพื่อไปแต่ละจุด Check Point
แถวก็ยาว แล้วพอ 7 โมง คนมาไม่ทันหรือยังต่อแถวอยู่ก็ต้องออกตัวช้ากว่าคนอื่นๆ
ตอนออกตัวก็บอกเฉยๆว่า "ออกเดินทางได้เลยครับ 7 โมงแล้ว...."
ตลอดทางก็ไม่มีป้ายหรืออะไรเลยที่บอกว่าต้องไปทางไหน นอกจาก Cut sheet ที่ให้มา หรือต้องปั่นตามคนที่รู้ทางเท่านั้น(ตอนแรกเข้าใจว่าพอจะมีป้ายบ้าง แต่นี้ไม่มีจริงๆ ถ้าไม่ตามๆเขา หลงแน่ๆ ตั้งแต่ ออกเมืองมา ก็เคว้งคว้างมากก)
การที่กฎบอกว่าห้ามมีรถ Service ของตัวเองตาม ผมไม่เชื่อว่าในงานนี้ไม่มี ซึ่งบอกเลยว่ามีเยอะมากๆ ผมเห็นจอดซ่อมยาง เปลี่ยนยาง เอาข้าวมาให้ตามจุดข้างทางเลยทีเดียว แต่ก็ไม่อยากหยุดไปเอาเรื่อง หรือไปบอกเจ้าหน้าที่ เพราะตอนถึงก็ไม่ได้รอกลุ่มที่ทำผิดกฎแบบนั้นหรอก
แล้วตอนถึงจุด Check Point ก็นะให้ถือไมล์ไปให้เพื่อยืนยันว่าเราปั่นไปกี่กิโลตามที่เขากำหนดไหม
ซึ่งบอกเลยว่าไม่มีความรอบคอบเท่าไรเลย เพราะบางคนถือแล้วบอกตัวเลขเลย ถามจริงถ้าเขาไม่ได้ปั่นมา หรือทำตัวเลขขึ้นมาเอง แล้วมาบอกเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้หรอก เพราะเขาดูแค่ ระยะทางรวมที่มาถึงแค่นั้นเอง
#สงสารคนที่ไม่มีทีม หรือเพื่อนมาด้วยมากๆ เห็นบ้างคนนั่งคนเดียว ปั่นคนเดียว ผมเชื่อว่าเขาปั่นตามๆกลุ่มอื่นมา เพราะไม่รู้ทางแน่ๆ
#น่าจะมีป้ายบอกบ้างก็ดีนะครับ รถของเจ้าหน้าที่ผมก็เห็นบ้างเป็นช่วงๆ แต่แบบแค่ถามว่าเป็นอะไรไหม แค่นั้น?
#เชื่อว่ามีคนหลง คนไม่จบเยอะครับ เพราะครั้งแรกของหลายๆคนเลยแหละ
#ผมอาศัยพี่ในกลุ่มดูดเอา AV 27-30 ตลอดทาง ปั่นไป แวะกินข้าว แวะ 7-eleven เจอบางคนไม่ไหวหรือไม่รู้ทางก็ให้เขาดูดๆตามมา
#ทีมผมมีล้ม 1 คันตรง Check Point ที่3 หน้าศูนย์ตำรวจจักรยาน แต่รู้สึกทริปครั้งนี้ รถล้มเยอะครับ มีคนกระดูกแขนร้าวก็มีครับ
#เส้นที่กลับตอนเหลือ 30 km. สุดท้าย เขาทำถนนกันแล้วเมื่อวานแม้จะไม่โดนฝน แต่มีร่องรอยของฝนคือ จากดินธรรมดา กลายเป็นบ่อโคลน คือไม่รู้ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงเลือกเส้นทางนี้ครับ ถนนเลนเดียว มีรถสวน มีโคลน ถนนขรุขระ มืดมากๆ ยังได้เสียงคนบ่นแถวนั้นคือ ด้วยที่มันมืดถนนไม่ดี บางคนปั่นขึ้นถนนที่ปูนยังไม่แห็งเลย เขาก็บ่นสิครับ ต้องมาเกลี่ยปูนใหม่ตรงที่ยางไปเหยียบอีก
คะแนนให้กับงาน Audax 200 Km. ให้ 7.5/10 ครับ ละกันครับ