อยากเจอเค้าคนนั้นอีกครั้งที่เดินทางไป กาญจนบุรี ที่ไทรโยคน้อย

คือ วันนั้นเราได้มีโอกาสนั่งรถไฟเป็นครั้งแรก และได้ซื้อตั๋วไป-กลับ ที่กาญจนบุรีและหลายๆที่ และที่สุดท้ายคือน้ำตกไทรโยคน้อย เราก็นั่งรอรถไฟรถขบวนที่ 909 โบกี้ที่ 2 ที่สถานีรถไฟศาลายา
เมื่อวันที่ 18/10/2557
เราก็นั่งไปเรื่อย จนรถไฟมาถึงเราก็ขึ้นไปนั่งแบบไม่เป็นที่ที่เค้าจัดให้และพอรถไฟมมาถึง
สถานีรถไฟนครปฐม เค้าก็พาไปท่องเที่ยวที่วัดอะไรไม่รู้แต่มีพระธาตุองค์ใหญ่ที่ จ.นครปฐม และ จอดรอ 40 นาที และก็มีผู้โดยสารขึ้นมาเพิ่มอีกหลายคนอยู่ จากนั้นเราได้เจอผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณไล่เลี่ยกับเรา คือเราอายุ 13 ปี แต่เค้าเรียกเราว่าพี่   เค้ามี iphone 5s สีเงินหรือทองไม่รู้มองไม่ชัด พอเราได้เจอกันแต่ได้แค่มองหน้าไม่รู้จักชื่อแต่ก็แอบๆชอบเค้าเพราะเค้าหน้าตาดีมาก อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ แต่ไม่กล้าเพราะพ่อกับแม่มาด้วยนั่ง
ข้างๆเลย 555+ จากนั้นรถไฟก็วิ่งไปเรื่อยๆ พอรถไฟถึงสะพานแม่น้ำแคว เค้าก็จอดให้เราได้ไปรีแลค 25 นาที เราก็ลงไปเพื่อไปซื้อของกินที่ตลาดเพชรตลาดพลอยและ เราก็ซื้อหมวกแบบวัยรุ่นที่เป็นหมวกแก๊ปสีแดงดำ ปักคำว่า MIAMI ไมอามี่
พอถึงเวลาขึ้นรถเราได้เจอกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้วเพราะว่าเรานั่งไม่ไกลกันมากนัก อ้ออออ!!ลืมบอกเค้านั่งใกล้ๆห้องน้ำ

เค้าคนนั้นก็ซื้อหมวกคล้ายๆของเรา แต่ของเค้าเป็นสีเขียวแบบสว่างๆ ปักตัว M หรือ N ไม่รู้ว่าตัวไหนแต่ เป็นแบบสปีคบอลเค้าใส่ ใส่รองเท้ากีฬาสีออกเทาๆ
และก็เหมือนว่าเค้าจะแอบชอบๆเรา
เหมือนกันเพราะเค้าหันมามองฉัน
หลายรอบมากของมากของมาก เช่น 5 นาทีหันมามองเรา 2 รอบ ประมาณนั้น เราคงไม่ได้มโนเพราะแม่ก็บอกเวลา
เราหลับอ่ะเค้าก็หันมามองตั้งหลาย
รอบบางครั้งเราก็เอาหมวกมาปิดหน้าแล้วหันหน้าไปทางเค้าคือแกล้งหลับเค้าก็หันมาหาเราแบบว่าน่ารักอ่ะแบบแคร์เรามาก        หลังจากออกมาจากสะพานแม่น้ำแควได้ซักพักเค้าที่เป็นผู้ดูแลผู้โดยสารเค้าก็ประกาศบอกว่าข้างหน้ามีก้อนหินที่สวยที่สุดของกาญจนบุรีถ้าใครแตะก้อนหินได้ กลับไปอาจจะเป็นผู้โชคดี และแล้วฉันก็แตะได้ในขณะที่รถถไฟชะลอตัวเพื่อไม่ให้น้ำหนักของรถไฟที่มีโบกี้7ตู้โดยสารตกหล่นลงไปในทางภูเขา และอีกฟากฝั่งหนึ่งของภูเขาซึ่งมี
จุดวิวทิวทัศน์ของเรือแพที่สวยงามตระการตาอะเมซิ่งอินไทยแลนด์ ซึ่งเค้าคนนั้นอยู่ฝั่งนั้นทำให้เค้าเหล่อมากเพราะมรแสงแดดอ่อนๆพร้อมกับใส่หมวกสีเขียว เสื้อสีส้ม กางเกงสามส่วน รองเท้าสีเทาๆ เห็นแล้วอยากจะกรี๊ดดดดด จากนั้นรถไฟไปถึงถ้ำกระแตที่มีฝรั่ง
เป็นจำนวนมากที่อยู่ในถ้ำใกล้ๆกับ
สถานีรถไฟ จากนั้นก็มีผู้โดยสารบางคนลงไปบ้างขึ้นมาบ้างและแล้วรถไฟก็ออกไปต่อ
และแล้วก็ถึงสถานที่สุดท้ายคทอน้ำตกไทรโยคน้อยซึ่งทางรถไฟบอกว่าเราไม่สามารถขึ้นไปส่งท่านได้ถึงน้ำตกเพราะเส้นทางหมดระยะการเดินทางและเค้าก็มห้เวลาไปที่น้ำตก 2 ชั่วโมง และต้องนั่งรถ 2 แถวไปที่น้ำตก แต่พอลงมารถสองแถวก็จอดรอเต็ม
ไปหมดแต่ด้วยจำนวนคนที่มากรถสองแถวจึงไม่พอและเราก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องนั่งรถคันสุดท้ายเพื่อไปที่นำตกทั้งหมดก็กินเวลาไป 15 นาที อ้อลืมบอกไปเค้าคนนั้นนั่งรถคันแรกของคันแรกเลยเค้ามากับพ่อและน้องสาวที่น่ารักจึงไปถึงก่อนพอเราไปถึงสามพ่อลูกนั้นก็เล่นน้ำตกอย่างชื่นอกชื่นใจเพราะน้ำนั้นช่างเย็นสบายเหมาะกับอากาศในหน้านี้ แต่เราไม่ได้เล่นเพราะไม่ได้เอาเสื้อ
ผ้ามาเปลี่ยนแต่น้องของเราได้เล่นเพราะเอาเสื้อมาเปลี่ยน แต่เค้าคนนั้นก็ยังมองเราด้วยความที่ว่าอยากจะพูดกับเราด้วยพอเราขึ้นไปข้างบนของน้ำตกเค้าคนนั้นก็ขึ้นตามมามองเราพอเราลงเค้าก็ลงตามมา
เราก็เขิลนิดหน่อยถึงเขิลมากของมากของมาก จากนั้นเหลือประมาณ 20 นาที เราๆเขาๆท่านๆ ทั้งหลาย  ก็พากันเปลี่ยนเสื้อผ้ากันยกใหญ่พอ
เปลี่ยนเสื้อเสร็จกันเค้าคนนั้นก็เสื้อ
เป็นเสื้อสีขาวกางเกงสามส่วนรองเท้าสีเทาและก็ใส่หมวกสีเขียวอ้ายยเขิล พอมีรถสองแถวมาเค้าก็พากันแย่งขึ้นรถสองแถวจนเราเกือบขึ้นรถคันสุด
แต่ก็เกือบตกรถเพราะมัวแต่ไปซื้อไอติมกินกับน้องและเค้าคนนั้นก็เดินเค้ามาสั่งไอติมใกล้แถมสั่งรสมะนาวเหมือนกับเราด้วยอู้ยยยยขนลุกเลย พรหมลิขิตชัดๆ พอเราขึ้นรถหลังจากความสดชื่น
รถไฟที่เรานั่งมาก็วิ่งถอยหลังเพื่อกลับไปยังจุดหมายปลายทางเดิมที่เราแต่เค้าคนนั่นก้อยังนั่งมองเราเหมือน
เดิมมองแม้กระทั่งตอนหลับ บางทีก็ทำเหมือนกับเล่น
iphone 5s แล้วก็นั่งเอียงๆ ทำเหมือนแบบจะถ่ายรูปเราเก็บเป็นที่ระทึกเอ้ยยระลึกไว้ พอถึงเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดคือตอนนั้นเราปวดฉี่มากเลยชวนน้องไปเข้าห้องน้ำให้ไปเฝ้าพอเสร็จเค้าก็มองหน้าเราแบบเขิลอายๆกล้าๆกลัวๆ พอไปที่นั่งน้องของเราก็บอกอีกว่าปวดฉี่แม่ก็ให้เราไปเฝ้าหน้าห้องน้ำนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้เห็นหน้าเค้าอีก
สักครั้งก่อนถึงบ้านแต่ก็มีเรื่องไม่คาดคิดคือเค้ามาขอเฟสเรา เค้าพูดออกมาว่าพี่ครับของเฟสพี่
หน่อย แต่ด้วยความที่แม่เรานั่งจ้องเราอยู่ไม่งั้นเราให้ไปตั้งนานแล้วเราเลยบอกกับเค้าไปว่าไม่เอาค่ะ แบบทั้งเขิลทั้งอาย แล้วก็เดินไปนั่งที่พร้อมกับหน้าแดงใจเต้น ตุ้บตับอย่างกะหัวใจจะทะลุออกมาทั้งเขิลทั้งอายไม่มีใครเคยทำอย่างงี้กับเรามาก่อนพอถึงสถานีรถไฟศาลายาเราก็เดินออกมาด้วยทำหน้าโกธรแต่ฉี่จะราดแล้วแต่เค้าก็ยังมองหน้าเราอยู่
ด้วยว่าเราจะเจอเธออีกไหม พร้อมกับหน้าซึมๆ พอกลับไปถึงบ้านเรารีบเปิด Wifi แล้วค้นหาสถานที่ๆเราไปมาทั้งหมดว่ามีใครเช็คอินหรือป่าว เช่น วัด... น้ำตกไทรโยคน้อย บลาาาๆๆๆๆ
พอเราหมดหวังเราก็นอนซึมพอเผลอหลับไปกลับฝันไปว่าเค้าคนนั้นชื่อ มิกซ์  พอตื่นขึ้นมาเราก็ตั้งหน้าตั้งตาค้นหาคนชื่อมิกซ์ในเฟสบุ๊คทั้งหมดแต่ก็หาไม่เจอหรือเราหาไม่หมด เราเลยหาคนที่เช็คอินที่อื่นๆที่รถไฟวิ่งผ่าน เช่น
สถานีรถไฟตลิ่งชัน
สถานีรถไฟธนบุรี   
สถานีรถไฟบางบำหรุ สถานีรถไฟสามเสน สถานีรถไฟหัวลำโพง หายังไงก็หาไม่เจอหรือเรายังหาไม่ทั่วถึงดีพอ พอเราหาไม่เจอเราก็นั่งซึมเศร้าทั้งวันทั้งเสียใจทั้งอยากไฟนั่งรถไฟตามหาเค้าอีกแต่คงไม่มีโอกาสได้เจออีกครั้ง

ปล.เค้ามีน้องสาวผมยาวมีหน้าม้าและ เค้ามีกระเป๋าเป้สีชมพูมีหมวกสีเขียว
T.T ♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥ ถ้ามีเวทย์มนต์ราก็ขอให้เราได้เจอกันอีกครั้ง จขกท.เป็นผู้หญิง.......
ถ้าใครรู้จักเค้าคนนั้นที่เพิ่งไปที่ จ.กาญจนบุรีเป็นรุไฟนำเที่ยว ขบวน 909 โบกี้ที่ 2 ฝากตามบอกและตามหามาถ้าอยากติดต่อเราจะให้เฟสแต่ต้องหาให้เจอเราจะใบ้ให้
Facebook: Nong BamBie
IG : bam_bbaamm
ID : chalidabamboo

เราควรทำยังไงจะให้เราได้เจอเค้าอีกครั้ง ใครรู้จักโปรดบอกเค้าด้วย
ขอขอบคุณล้วงหน้าสำหรับทุกคำถามและทุกคำตอบ ♡♥♡♥
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่