มีคนเตือนว่าอย่ากู้เงินไปทำธุรกิจ sme เพราะอนุมัติยาก ก็ไม่เชื่อ สุดท้ายเจ็บจนจุก ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนคงผ่านไปนานแล้ว

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะทุกท่าน ดิฉันมีเรื่องไม่สบายใจอยากระบายค่ะ ดิฉันเพิ่งถูกปฏิเสธอนุมัติเงินกู้ sme จากธนาคารกรุงไทยมา เป็นรายย่อยมาก ๆ นะคะ ขอกู้ 3 แสน หลักประกันเป็นที่ดินเปล่ามูลค่าขายในท้องตลาดล้านสาม อยากได้เงินมาพัฒนาสินค้า สร้างแบรนด์ สร้างแพ็คเกจ เพื่อต่อสู้กับคู่แข่ง (ร้านเปิดมา 5 ปี ช่วงปีแรก ๆ ขายดีมาก ๆ หลัง ๆ มาเริ่มมีคู่แข่ง และเป็นร้านใหญ่กว่า ทุนหนากว่า ประกอบกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองทำให้ยอดขายตก แต่ร้านก็ยังอยู่ได้ เพราะเป็นบ้านของตัวเอง ไม่เสียค่าเช่า ไม่สต๊อกของมาก รับฝากขายสินค้ามากกว่าลงทุนเอง  ขายของออนไลน์ ร้านค่อนข้างมีชื่อเสียง และได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้าเพราะเปิดมานาน) มั่นใจว่าอะไรที่ยาก ๆ เรื่องผ่านหมดตั้งแต่ เครดิตบูโร (มีบัตรเครดิตที่เป็นหนี้แต่ใช้ตรงทุกบัตรบางบัตรขั้นต่ำ บางบัตรเต็มจำนวน) รายได้เข้า ผ่านเกณฑ์ของธนาคาร (มีรายได้เสริมด้วย) แถมขอดูสเตทเม้นท์ถึง 2 ปี แผนธุรกิจ ดิฉันเขียนเองกับมือ วิเคราะห์อย่างละเอียด จุดอ่อนจุดแข็ง การลดต้นทุน เพิ่มกำไร หาแหล่งผลิต ทำงบประมาณอย่างละเอียด หาจุดคุ้มทุน ลูกค้า คู่แข่ง ครอบคลุมหมดทุกอย่าง

และทุกอย่างนี้ก็ผ่าน Pre approve จากสาขาย่อย (กว่าจะผ่านใช้เวลาพิจารณาตั้งสองเดือน) พอส่งเรื่องไปสาขาใหญ่ (กทม.) ไม่กี่วันธนาคารนัดดูหลักประกัน กว่าจะมาดูหลักประกันก็สิบห้าวัน ตอนธ.นัดก็ดีใจแล้วว่ามีหวัง เพราะทราบมาว่าถ้าได้ดูหลักประกัน ส่วนใหญ่จะได้ เพราะที่ยาก ๆ ผ่านหมดแล้ว ต่อมาหลังจากดูหลักประกันอีกสิบห้าวันนัดเยี่ยมชมกิจการ เยี่ยมชมกิจการแล้วก็รู้ผลภายในสิบห้าวัน เพื่อที่จะทราบว่าไม่ผ่าน (โทร.ไปถามจนท.สาขาย่อยที่ให้บริการดีมาก) เขาให้เหตุผลว่าไม่ผ่านเพราะ ของโชว์ที่ร้านน้อยเกินไป ทั้ง ๆ ที่วันนั้นจนท.มาดิฉันก็บอกว่า มันไม่มีที่โชว์มาก เก็บสต๊อกไว้หลังร้าน และของหลายอย่างก็เซลล์ไปมากแล้ว ด้วยสภาพเศรษฐกิจ และเมื่ออยากขายของใหม่ ของเก่าก็ควรหมดก่อน อีกอย่างจากสถานการณ์การเมืองที่มีประท้วง ไม่มีใครกล้าลงทุนสต๊อกของมาก เขาก็ดูไม่สนใจเลย เหมือนอยากจะสนับสนุนแต่ร้านที่มีสินค้าเต็มร้าน ไม่มีปัญหาใด ๆ เลย (แผนธุรกิจบอกหมดถึงปัญหาและวิธีรับมือ) พนง.ที่สาขาย่อยบอกว่า ร้านมีคู่แข่งเยอะด้วย ดิฉันว่า อ้าว! ก็อยากได้เงินมาพัฒนาสินค้าไง  ซื้อมาขายไปแบบเดิมก็โดนคู่แข่งตีมันไม่ไหว แล้วเหตุผลว่าของน้อยนี่ ทำร้ายจิตใจมาก ๆ ถ้าบอกว่าหนี้คุณเยอะ หรือแผนธุรกิจคุณไม่น่าจะโอเค หรือไม่มั่นใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ดิฉันยังจะสบายใจกว่าค่ะ

ยุคนี้ คสช.สนับสนุนธุรกิจ sme เป็นอย่างมาก ขนาดคนติดเครดิตบูโรแปดปีก็ยังให้โอกาส ขนาดคนค้างชำระหนี้ ก็ยังได้รับประนอมหนี้ คนทำธุรกิจใหม่มีผู้ค้ำประกันให้ เราทำงานหนัก ต่อสู้มาตลอดห้าปีเต็ม หลักประกันก็มี เมื่อคิดว่าจะได้รับโอกาส กลับเหมือนคนชายขอบ ถูกมองข้าม ดิฉันเคยคิดมาตลอดว่า "ธนาคารจะไม่มีวันอนุมัติเงินกู้ ถ้าเราจำเป็นต้องใช้เงิน" ซึ่งมันก็ถูกต้องอย่างที่คิด เป็นคนทำมาหากิน ยอมเสี่ยงเอาที่ดินมูลค่าเป็นล้านมาแลกกับเงินไม่กี่แสน กับโครงการที่ช่วยต่อลมหายใจของเรา มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย

มีเจ้าของกิจการที่มีชื่อเสียงหลายท่าน แนะนำว่าอย่าไปกู้เงินมาทำธุรกิจ เพราะท่านเหล่านั้นก็ถูกปฏิเสธมาก่อน บางท่านต้องรวบรวมที่ดินจากญาติ ๆ มาขายเพื่อต่อยอดเอง และประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ และในนี้ก็ได้ข่าวมาว่ากู้ยาก เรื่องมาก ดิฉันก็ไม่เชื่อ ลองเสียเวลาดู เผื่อจะได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีกับธนาคารบ้าง แต่สุดท้ายก็เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ แถมเสียใจด้วย "ธุรกิจที่กู้ได้คือธุรกิจที่ติดลมบนแล้วเท่านั้น เจริญก้าวหน้าแล้วเท่านั้น ไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องการเงินไปสร้างความเจริญก้าวหน้า" ถ้าดิฉันเข้าใจผิดหรือมีตัวอย่างที่ีดี รบกวนท่านที่มีข้อมูลยกตัวอย่างด้วยค่ะ เผื่อดิฉันจะได้รู้สึกดีขึ้น

ไม่ว่าอย่างไรคนทำกิจการส่วนตัวก็ยังเปล่าเปลี่ยว ยืนด้วยลำแข้งเหมือนเดิม ไม่เหมือนมนุษย์เงินเดือนนะคะ คนที่คิดอยากมาทำกิจการแทนการเป็นมนุษย์เงินเดือนคิดให้หนักนะคะ ดิฉันคิดว่าถ้าดิฉันเป็นมนุษย์เงินเดือนคงกู้ผ่านไปแล้ว เข้าใจว่ากิจการมีความเสี่ยง (แต่จะไม่ให้เจ้าของกิจการเล็ก ๆ ลืมตาอ้าปากบ้างหรืออย่างไรคะ)

ปล. หากมีธนาคารใด ต้องการติดต่อ กรุณาไม่ต้องติดต่อนะคะ ที่ดินแปลงที่จะเอาเข้าธนาคาร ดิฉันประกาศขายแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่