สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
หลังจากโตขึ้นเรื่อยๆ เราโฟกัสคนที่จะมาเป็นแฟนเราเลยว่าต้องเป็นคนที่เข้าใจเรา คนที่สามารถเป็นที่พักพิงให้เราได้ยามเราเหนื่อย ท้อแท้ คนที่สามารถก้าวทันกัน ตามความคิดเราได้และสามารถคุมเราให้อยู่ในโอวาทได้
เราก็เคยมีแฟนที่รักกันด้วยใจ เคยเลี้ยงข้าวเค้าตลอด เพราะคิดว่าบ้านเค้าไม่มีเงิน นั่นทำให้เค้ารักเรามากๆ แต่ต่อมามันมีความต่างเกิดขึ้นบ้านเค้าร่ำรวยมีเงินทอง บ้านเราจนหาเช้ากินค่ำ ครอบครัวเค้าสอนให้ลูกเป็นคุณหนู เค้าไม่สามารถตัดสินใจอะไรเองได้ บ้านเราสอนให้ลูกขยันขันแข็งหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวให้ได้ ทุกการตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวเอง หากเป็นตอนเด็กๆก็ไม่มีปัญหา เรารักกันที่ใจ
แต่เวลาผ่านไป เราพบเจอประสบการณ์ชีวิตมากมาย ผ่านความยากลำบากมา เจอแต่ความท้อแท้ เด็กอายุ 21 แต่ชีวิตตัวเองเดินมาไกลเกิน 28 แล้ว แต่เค้ายังอายุเท่าเดิม หยุดอยู่ที่เดิม ถึงแม้เราจะเล็งเห็นว่าคนแบบเค้าจะมีอนาคตที่สดใส คบกับเค้าเราจะไม่ลำบาก แต่ทุกวันนี้ปัจจุบันของเรามันกลายเป็นอนาคตของเราไปแล้ว
เราบอกเค้า "วันนี้งานหนัก เหนื่อยจัง"
เค้าบอกให้เราหยุดทำสิ จะทำทำไม เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องดิ้นรน เค้าอยู่แบบสบายได้ไม่คิดมากเรื่องเงินทอง แต่เรามีความคิดอยู่ทุกวันว่าจะทำยังไงถึงจะรวย ทำไงครอบครัวถึงจะสบาย
เราเคยโกรธตัวเองมากนะ ที่คิดดูถูกเค้า แต่มันก็เป็นความจริงที่ทัศนคติของเราต่างกันมากมาย
เราบอกเลิกเค้านะ ถึงเค้าจะดีพร้อมทุกอย่าง ถึงแม้จะสงสาร แต่อย่างที่บอกปัจจุบันมันคืออนาคตของเรา
ถ้ามันมีสิ่งที่แตกต่างกันเกินไป แค่รักไม่พอค่ะ ลองคิดดูนะ ^^
เราก็เคยมีแฟนที่รักกันด้วยใจ เคยเลี้ยงข้าวเค้าตลอด เพราะคิดว่าบ้านเค้าไม่มีเงิน นั่นทำให้เค้ารักเรามากๆ แต่ต่อมามันมีความต่างเกิดขึ้นบ้านเค้าร่ำรวยมีเงินทอง บ้านเราจนหาเช้ากินค่ำ ครอบครัวเค้าสอนให้ลูกเป็นคุณหนู เค้าไม่สามารถตัดสินใจอะไรเองได้ บ้านเราสอนให้ลูกขยันขันแข็งหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวให้ได้ ทุกการตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวเอง หากเป็นตอนเด็กๆก็ไม่มีปัญหา เรารักกันที่ใจ
แต่เวลาผ่านไป เราพบเจอประสบการณ์ชีวิตมากมาย ผ่านความยากลำบากมา เจอแต่ความท้อแท้ เด็กอายุ 21 แต่ชีวิตตัวเองเดินมาไกลเกิน 28 แล้ว แต่เค้ายังอายุเท่าเดิม หยุดอยู่ที่เดิม ถึงแม้เราจะเล็งเห็นว่าคนแบบเค้าจะมีอนาคตที่สดใส คบกับเค้าเราจะไม่ลำบาก แต่ทุกวันนี้ปัจจุบันของเรามันกลายเป็นอนาคตของเราไปแล้ว
เราบอกเค้า "วันนี้งานหนัก เหนื่อยจัง"
เค้าบอกให้เราหยุดทำสิ จะทำทำไม เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องดิ้นรน เค้าอยู่แบบสบายได้ไม่คิดมากเรื่องเงินทอง แต่เรามีความคิดอยู่ทุกวันว่าจะทำยังไงถึงจะรวย ทำไงครอบครัวถึงจะสบาย
เราเคยโกรธตัวเองมากนะ ที่คิดดูถูกเค้า แต่มันก็เป็นความจริงที่ทัศนคติของเราต่างกันมากมาย
เราบอกเลิกเค้านะ ถึงเค้าจะดีพร้อมทุกอย่าง ถึงแม้จะสงสาร แต่อย่างที่บอกปัจจุบันมันคืออนาคตของเรา
ถ้ามันมีสิ่งที่แตกต่างกันเกินไป แค่รักไม่พอค่ะ ลองคิดดูนะ ^^
แสดงความคิดเห็น
แอบเครียดค่ะ ถามสาว ๆ ถ้าคุณเจอผู้ชายที่ดี ดีเกือบทุกอย่าง ยกเว้น เรื่อง อนาคต คุณจะเลือกเค้ามั้ย
เราคบกับแฟนมาตั้งแต่เรียนมหาลัย จนตอนนี้อีกไม่กี่เดือนจะอายุ 30 แล้วค่ะ น่าจะคบมา 8-9 ปีแล้ว แฟนอายุเท่ากัน เค้าเป็นผู้ชายที่ดีเลยค่ะ ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว ไม่สูบบุหรี่ ตอนแรกยังแอบคิดว่าเป็นเกย์หรือเปล่า แต่ก็คิดว่าเป็นผู้ชายเรียบร้อยมากกว่า ฐานะเราต่างกันมาก ที่บ้านเค้ายากจนกว่าเรามาก ๆ ไปเห็นบ้านเค้าตอนแรก เราถึงกับอึ้ง อีกทั้งพ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง ของเค้าก็ดูเป็นคนขี้เกียจไม่ค่อยทำมาหากินกัน พอมีเงินก็ไปเล่นการพนัน ใช้เงินเกินตัว บ้านของเค้าถึงมีสภาพแบบนั้น แต่เราคิดว่าคบกันที่ใจ คนอื่นๆก็ไม่ได้มาเกี่ยวกับเราสองคน ขอให้เค้าเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว ช่วยกันหาเงินแต่งงานก็พอแล้ว เราเลยตัดประเด็นเรื่องทางบ้านเค้าไปเลย
ช่วงที่เราคบกันก็ทะเลาะกันบ่อยมาก ๆ อาจเพราะเป็นคนอารมณ์ร้อนทั้งคู่ เกือบจะเลิกกันหลายต่อหลายครั้ง แต่เราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาคนคบกันก็ต้องมีปัญหากันบ้าง ก็พยายามปรับจูนเข้าหากัน ถึงทุกวันนี้ก็ยังมีทะเลาะกันอยู่ แต่ก็น้อยลง คงเริ่มเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว และระยะเวลาที่ยาวนานก็ทำให้ความหวานแทบไม่มีแล้วล่ะค่ะ แต่ตรงนี้มันคงมีจุดที่ทำให้รักเราจืดจาง คิดว่าเริ่มจากเราที่โตขึ้น ความคิดมุมมองเราที่เริ่มมองอนาคตมันก็แวบเข้ามา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราพัฒนาตัวเองตลอด เราทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนเพิ่ม เรามีความทะเยอทะยานตั้งใจจนได้งานทำที่ดี มั่นคง จนตอนนี้มีสินทรัพย์ของตัวเองอยู่บ้าง ซึ่งตรงกันข้ามกับเค้าที่อยู่เฉยๆ ทุกวันนี้เงินเดือนเค้า 1 ใน 3 ของเงินเดือนเราได้ บางทีเงินเค้าไม่พอใช้เราก็ให้ยืม บางทีเราก็เลี้ยงข้าวเค้า แต่พอเค้ามีเงินเค้าก็เลี้ยงเรานะคะ แต่บ่อยครั้งที่เห็นเค้าอดมื้อกินมื้อ เพราะเงินไม่พอใช้ ไม่ก็ไปซื้ออะไรไร้สาระ แทนที่จะเก็บเงินไว้กินข้าว ก็ยอมอดข้าวเอาเงินไปซื้อของนั้นแทน
เราเลยอดคิดไม่ได้ว่าหากแต่งงานมีลูกด้วยกัน เราคงเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด เพราะลำพังรายได้ตัวเค้าเองยังไม่พอกินเลย เราคงต้องเป็นคนเลี้ยงลูก เผลอ ๆ ก็ต้องเลี้ยงเค้าด้วย มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็คงจะสาหัสไม่น้อย เพราะเงินเดือนที่เราได้มันก็ไม่ได้เยอะมากมาย แค่เลี้ยงตัวเองได้ เหลือเก็บเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้น
ผู้หญิงทุกคนคงจะเข้าใจว่า เลข 3 อันใกล้เข้ามาทุกที คนมีแฟนก็ต้องคิดเรื่องแต่งงาน จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ได้ก็ต้องมีลูก ถ้ามีคู่ชีวิตที่ช่วยกันทำมาหากิน รายได้เท่า ๆ กันกับเรา พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ครอบครัวเราคงสมบูรณ์ แต่ทุกวันนี้เรายังมองไม่เห็นอนาคตเค้าเลย เมื่อก่อนวันว่างๆ เราก็นั่งหางานให้เค้าสมัครทั้งวี่ทั้งวัน ถ้าไม่หาให้ไม่บังคบให้ไปสมัคร เค้าก็อยู่เฉย ๆ ทำงานเดิม ๆ ทั้งที่เงินเดือนน้อยมาก ๆ จะเลิกจ้างวันไหนก็ไม่รู้ เราพยายามหางานให้เค้า เคยลงทุนให้ทำธุรกิจเล็ก ๆ แต่ก็ต้องหยุดไปเพราะความคิดไม่ตรงกัน และเค้าก็ไม่มีหัวทำธุรกิจ
เราถามหาอนาคตเรื่องครอบครัวของเราสองคน ไม่เคยได้คำตอบ 3 ปีหลังมานี้เราเริ่มถาม เริ่มซีเรียส จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกัน บางทีเค้าก็โมโหใส่ บางทีเค้าก็เงียบทำหน้าเศร้า เราก็สงสารเค้า จนตอนนี้เราก็เลยเฉย ๆ เลิกพูด เลิกคิดเรื่องแต่งงานไป ก็คบกันไปวัน ๆ จนจะเป็นขี้ปากชาวบ้านแล้ว ทางบ้านเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากนะคะ เค้าเห็นแฟนเราเป็นคนดี เค้าก็ไม่ได้ห้ามที่จะคบกัน แต่ทุกวันนี้ คำถามว่า จะแต่งงานเมื่อไหร่ มันหนาหูมาก และเราก็ต้องปกป้องเค้าด้วยคำตอบว่า หนูยังไม่พร้อม ทั้งที่เราพร้อมมานานมากแล้ว เลิกก็ยากค่ะ เพราะมันเป็นความผูกพันธ์มากกว่าความรักไปแล้ว ยามที่เราเจ็บป่วยเกือบตาย ก็มีเค้าคอยส่งน้ำส่งข้าวให้ ตรงนี้มันทำให้เราตัดใจไม่ลง ความดีของเค้าก็มีอยู่มาก เรากลัวที่จะเสียคนดี ๆ ไป เราสงสารเค้า เป็นห่วงเค้า แต่เราก็สงสารตัวเอง เราสับสน ไม่รู้ว่าทำแบบนี้มันเป็นการยื้อให้เสียเวลาหรือเปล่า ในเมื่อมองอนาคตแล้วไม่มีทางได้แต่งงานกันเลยเพราะเค้าไม่มีเงิน เราต้องหาเงินมาแต่งงานเอง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะปัญหาคือหลังแต่งงานกันไปแล้วเราก็คงเป็นเสาหลักของครอบครัว คิดแล้วเหนื่อยเหมือนกัน ตอนนี้เราท้อแล้ว สับสน ไม่รู้จะเอาไงต่อไปดี ถ้าตัดใจเลิกกันได้ เค้าอาจเจอคนที่ดีกว่าเราก็ได้เนอะ คิดไม่ออก มองไม่เห็นทางเลยจริง ๆ T T