
วัดพระธาตุหริภุญไชย เป็นวัดประจำปีเกิดของปี่ระกา มีลักษณะเป็นรูป"ไก่"
สิงห์ใหญ่ยืนเป็นสง่าอยู่หน้าซุ้มประตู 2 ตัว
ดอกไม้ที่ตั้งอยู่บนซุ้มประตูทั้ง2ด้าน
ซุ้มประตู
ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า "วิหารหลวง" เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสน ชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์

พระครูบาเจ้าศรีวิชัย

หอพระไตรปิฎกหรือหอธรรม

รูปนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูป นั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

นอกจากนั้นภายในวัดยังจัดแสดงวัตถุโบราณที่อาคารพิพิธภัณฑ์ 50 ปี ทางด้านในจัดแสดงวัตถุโบราณและสิ่งของต่าง ๆ มากมาย นอจากเป็นสถานที่ พักผ่อนแล้วเรายังสามารถใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย
พระธาตุหริภุญชัย มีงานนมัสการประจำปี ในวันเพ็ญเดือน 6 คือ วันวิสาขบูชา (งานประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย น้ำที่สรงนำมาจากบ่อน้ำทิพย์บน ยอดดอยขะมัอ) นอกจากโบราณสถานที่กล่าวมาแล้วภายในวัดยังมีโบราณสถานที่สำคัญอีกหลายอย่าง ไห้เราได้กราบไหว้บูชา อาที วิหารพระเจ้าทันใจ,วิหารพระเจ้าองค์แดง,รอยพระพุทธบาทสี่ดวง,วิหารพระนอน
ทางไปนมัสการไม่ยากเลยค่ะอยู่ในตัวเมือง
ขอบคุณเพื่อนที่ติชมนะค่ะ วันนี้จบการนำเสนอเพียงเท่านี้นะค่ะ แล้วจะมารีวิวให้ชมใหม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ
[CR][SR] วัดพระธาตุหริภุญไชย วรมหาวิหาร เมืองลำพูน
สิงห์ใหญ่ยืนเป็นสง่าอยู่หน้าซุ้มประตู 2 ตัว
ดอกไม้ที่ตั้งอยู่บนซุ้มประตูทั้ง2ด้าน
ซุ้มประตู
ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า "วิหารหลวง" เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสน ชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์
พระครูบาเจ้าศรีวิชัย
หอพระไตรปิฎกหรือหอธรรม
รูปนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูป นั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป
นอกจากนั้นภายในวัดยังจัดแสดงวัตถุโบราณที่อาคารพิพิธภัณฑ์ 50 ปี ทางด้านในจัดแสดงวัตถุโบราณและสิ่งของต่าง ๆ มากมาย นอจากเป็นสถานที่ พักผ่อนแล้วเรายังสามารถใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย
พระธาตุหริภุญชัย มีงานนมัสการประจำปี ในวันเพ็ญเดือน 6 คือ วันวิสาขบูชา (งานประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย น้ำที่สรงนำมาจากบ่อน้ำทิพย์บน ยอดดอยขะมัอ) นอกจากโบราณสถานที่กล่าวมาแล้วภายในวัดยังมีโบราณสถานที่สำคัญอีกหลายอย่าง ไห้เราได้กราบไหว้บูชา อาที วิหารพระเจ้าทันใจ,วิหารพระเจ้าองค์แดง,รอยพระพุทธบาทสี่ดวง,วิหารพระนอน
ทางไปนมัสการไม่ยากเลยค่ะอยู่ในตัวเมือง
ขอบคุณเพื่อนที่ติชมนะค่ะ วันนี้จบการนำเสนอเพียงเท่านี้นะค่ะ แล้วจะมารีวิวให้ชมใหม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว