รักครั้งแรกของคนๆหนึ่ง

......เท้าความก่อนนะครับ เมื่อประมาณ 6 ปีก่อนสมัยอยู่ม.ปลาย ผมมีความรักขึ้นครั้งแรกหรือรักแรกก็ว่าได้ เพราะสมัยม.ต้นคงยังเด็กเลยแค่ชอบโน้นนี้เฉยๆไม่ได้รักใครเลย เข้าเรื่องเลยแล้วกัน สมัยม.ปลาย ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดและเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ส่วนแฟนผมก็เป็นคนต่างจังหวัดแต่คนละจังหวัดกันแต่เรียนที่กรุงเทพ เรื่องเกิดขึ้นจากพี่ชายผม(พี่เอแล้วกัน)กับพี่สาวเขา(พี่บีแล้วกัน)เป็นแฟนกัน ซึ่งพี่เอก็อยู่มหาลัยสักปี4แล้วกันรุ่นเดียวกันกับพี่บี พี่เอก็พาพี่บีมาบ้านตอนวันแม่แห่งชาติแต่มาทั้งครอบครัวพี่บีเลย พอมาถึงบ้านของผมก็ต้อนรับตามมารยาทปกติ ซึ่งพี่บีก็มีน้องสาวอีกคนชื่อซีแล้วกัน(เป็นแฟนผมอนาคต)ก็รุ่นเดียวกันกับผม ครอบครัวพี่บี ก็ดีมากและเหมือนมาเที่ยวด้วยเพราะเราก็อยู่คนละจังหวัดกันแต่ภาคเดียวกันนะ พวกเขามาพักบ้านของผม3วัน2คืนแล้วก็กลับ เราก็แค่รู้จักกันเฉยๆคุยกันเหมือนเพื่อนแลกเฟสกันตามธรรมดาไม่ได้ขอเบอร์ พอเขากับไปเรียนที่กรุงเทพเราก็คุยกันในเฟสกันสมัยนั้นโทรศัพท์3Gก็ไม่มีอยู่ผมก็จะได้คุยกับเขาในเฟสแต่ออนไม่ตรงแน่นอน เพราะผมจะเล่นอินเตอร์เน็ตได้ที่โรงเรียนอย่างเดียว (บ้านไม่ได้ติด) ถ้าถามวันนี้ก็ตอบกันวันพรุ่งนี้นานคุยกันทีเป็นแบบนี้อยู่ประมาณ2เดือน คุยกันแบบเพื่อนเฉยๆ พอปิดเทอมแรกเราก็ไม่ค่อยได้คุยกัน มีอยู่วันหนึ่งเรามาจังหวัดเดียวกันพอดี มาทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่ายเลย แต่พี่เอกับพี่บีก็เหมือนจะเลิกรากันแล้วก็เลยไม่รู้ว่าพวกเรามา แต่เรากับซี รู้เพราะคุยกันอยู่ ซีก็บอกพี่บีว่าพวกผมมา พี่บีก็เลยให้ซีโทรหาผมแต่ไม่มีเบอร์ผมพี่บีเลยให้ซีโทรหาพี่เอเพราะมีเบอร์แล้วค่อยขอคุยกับผม ซีขอเบอร์ผมไว้และผมก็ได้เบอร์ซีมา แต่วันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันเพราะครอบครัวผมมาทำธุระ จากวันนั้นมาเราก็ไม่มีไรเท่าไหร่จนเปิดเทอมสอง ซึ่งปีนั้นกรุงเทพน้ำท่วมหนักจนโรงเรียนที่กรุงเทพได้ปิดยาวเลย เราเลยเปิดไม่ตรงกันเท่าไหร่ เราก็คุยกันในเฟสเหมือนเดิมโหมดเดิมออนไม่ตรงกันนานๆคุยทีนะ แต่ยังไม่ได้คิดไรกันเลยนะ จนมาถึงวันลอยกระทง(เดือนพฤศจิกายน)ซียังอยู่บ้านนะ เพราะโรงเรียนยังไม่เปิด เวลาประมาณสองทุ่มผมก็ไปลอยกระทงกับเพื่อนๆ ผมกำลังจะปล่อยกระทงพอดี ก็มีเสียงข้อความเข้าในโทรศัพท์ผม ผมเลยยังไม่ได้ลอย ผมเลยหยิบโทรศัพท์มาเปิดอ่าน ผมก็งงๆเพราะมันขึ้นว่าซีส่งมา  เพราะผมไม่ได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์เลยตั้งแต่ได้เบอร์มา พออ่านเสร็จก็เป็นข้อความเกี่ยวกับอวยพรธรรมดา อ่านเสร็จผมก็ไปลอยให้เสร็จ แล้วค่อยกลับมาตอบ ผมก็ส่งข้อความอวยพรกลับไป จุดความรักผมเหมือนจะเริ่มขึ้นจากตรงนี้  หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยมีไร จนโรงเรียนซีเปิดประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน พอมาเดือนธันวาคมผมได้ไปแข่งขันมหกรรมวิชาการและชนะ ปีนั้นจัดที่จังหวัดของซีด้วยผมเลยไปพักบ้านซี เพราะผมสนิทกับพี่บีและพ่อแม่เขาด้วย แต่พ่อแม่พี่บีไม่รู้นะว่าผมกับซีคุยกัน เพราะเรายังไม่ได้คิดไรกันและไม่ค่อยได้คุยกัน จนมาเดือนมกราคมก็ได้คุยกันมากขึ้น ประมาณปลายเดือนมกราคม ผมได้มีโอกาสไปรับรางวัลเหรียญทองที่กรุงเทพ(รางวัลระดับประเทศนะ) ผมก็ได้บอกว่าผมจะมาประมาณ3วัน จนวันนั้นมาถึงงานจัดที่สยามพารากอนงานเริ่มประมาณ18.00-20.00ทุ่ม ผมก็โทรหาตอนเย็นหลังเลิกเรียนเพื่อนัดเจอกันแบบเพื่อนนะยังไม่ได้คิดเกินเลย ก็บอกว่าไปดูหนังกันไหมหลังงานเลิก แต่เรามาเจอกันก่อนพบกันเป็นครั้งที่สอง พอซีกลับหอไปรอจนงานเลิก เราก็ได้ไปดูหนังกันพอดูจบ(หนังเลิกประมาณ23.00) เราก็ได้ลากัน เพราะวันต่อมาผมก็กลับแล้ว จากนั้นเราก็ได้คุยกันเรื่อยมาจนปิดเทอมใหญ่ปลายเดือนกุมภาพันธ์  ผมก็ได้ไปเรียนพิเศษที่ต่างจังหวัดกับเพื่อนผม3คน เพราะขึ้นม.6เตรียมจะหาที่เรียนต่อแล้ว ผมก็ได้มีเวลาอิสระมากขึ้นส่วนซีก็เรียนพิเศษเหมือนกันแต่เรียนที่กรุงเทพ เรามีเวลาคุยกันมากขึ้นคุยกันแบบไม่มีคนอื่นรู้นะเป็นความลับ จนประมาณกลางเดือนมีนาคม พี่บีชวนผมไปงานเลี้ยงและบรรยายเกี่ยวกับบริษัทของพี่บีที่ต่างจังหวัดประมาณ3วัน แต่ก็ไม่ไกลกันจากที่ผมอยู่มาก ผมก็ตกลงไปแต่ผมไปคนเดียวนะ ผมก็ซื้อของมาฝากพ่อแม่พี่บีซีก็มาจากกรุงเทพด้วย ผมได้ไปพักบ้านซีเป็นครั้งที่สองและเจอซีเป็นครั้งที่สาม ครั้งก่อนที่เราเจอกันนั้นไม่มีใครรู้นะเราทั้งสองเก็บเป็นความรัก...เฮ้ยลับ....พอวันรุ่งขึ้นเราก็ออกเดินทางไปงานที่ต่างจังหวัดงานก็สนุกมาก ซีจะเป็นพี่เลี้ยงผมตลอดค่อยบอกโน้นนี้นั้น เพราะงานนี้จัดทุกปีและมีการรับน้องใหม่ด้วย ซีก็ยอมเป็นน้องใหม่เพื่อพาผมทำโน้นนี้ วันนั้นเหมือนเราอยู่ด้วยกันทั้งวัน เพราะพ่อแม่พี่บีก็ไปทำกิจกรรมคนละที่กัน จนตกเย็นก็กลับที่พักก็นอนพอวันรุ่งขึ้นก็สรุปปิดงานตอนเช้า ตอนบ่ายก็แยกย้ายกลับซีก็ได้ขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพเลยส่วนผมพี่บีขับรถมาส่งที่พักผมเลย ผมกับซีก็ถึงพร้อมๆกัน จากนั้นเราก็สนิทกันมากขึ้น เหมือนผมจะรักเขา(ซี)สะแล้วแบบจริงจัง พอปลายเดือนก็เป็นวันเกิดซีด้วย ผมก็อวยพรและคิดคำนวณว่าเราเจอกันรู้จักกันมากี่เดือนวันชั่วโมงนาทีเลยแหละ สงสัยความรักมันทำให้ผมเป็นแบบนี้แน่ และไม่นานจากวันนั้นผมก็บอกว่าผมคิดอะไรกับซีแต่ก็อ้อมโลกนานเหมือนกันและซีก็ตกลงด้วย จากนั้นเราก็คุยกันเหมือนแฟน ซีบอกผมว่าจะไม่มีคำว่าขอเลิกจากปากซีเลยนี้เป็นคำสัญญาที่ซีบอกผม แต่ผมกับซีไม่ได้หวานกันมากนะ และผมบอกรักซีไม่กี่ครั้งตั้งแต่คบกันตอนเรียกกันก็แค่ใช่คำเรียกว่า เธอแค่นั้น ทุกครั้งที่คุยกันตอนกลางคืนผมจะเป็นคนโทรไปนะ เพราะผมบอกเองว่าเดี๋ยวจะเป็นคนโทรเองเพราะผมเป็นผู้ชาย และต้นเดือนพฤษภาคมก็เป็นวันเกิดผม ซีก็บอกรักผมและอวยพรและเป็นการบอกรักครั้งเดียวของซี  จนเปิดเทอมประมาณกลางเดือนพฤษาคมขึ้นม.6 ซีได้ย้ายหอมาอยู่กับพี่บีจึงทำให้ซีไม่สะดวกที่จะคุยตอนกลางคืนเราเลยไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ผมจะส่งข้อความอวยพรฝันทุกวันนะ  และผมก็จดบันทึกเรื่องของเราทุกวันตั้งแต่เปิดเทอมมา อาทิตย์หนึ่งเราจะได้คุยกันสัก 3วัน ครั้งละ10นาทีประมาณนี้ได้ เราทำแบบนี้เป็นเวลา 2 เดือนพอเดือนสิงหาคม ผมได้มีโอกาสไปกรุงเทพอีก เนื่องจากผมไปสอบโควตาเกี่ยวกับวิศวกรรมที่กรุงเทพ ผมไปกับเพื่อน3คนและผมก็บอกซีว่าจะไปกรุงเทพ ซีก็ทราบและเหมือนไม่ตื่นเต้นอะไรที่ผมจะมา เราเริ่มห่างกัน เพราะไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนแต่ก่อน แต่ผมก็ส่งข้อความทุกวันนะ ผมลาโรงเรียนประมาณ5วัน เพื่อที่จะไปสอบครั้งนี้ คณะที่ผมไปสอบ สอบวันจันทร์หน้าผมไปวันศุกร์กับเพื่อน พอวันเสาร์ผมและเพื่อนก็ได้ไปที่มหาลัยเพื่อดูสถานที่สอบ แล้วก็มาเตรียมตัวกันที่หอรุ่นพี่ ผมโทรหาซีว่าวันอาทิตย์ว่างไหมเดี๋ยวผมจะชวนซีไปเที่ยววัดพระแก้ว ซีก็บอกว่าให้ผมไปกับเพื่อนเถอะ เหมือนไม่ค่อยอยากคุยเท่าไหร่ ซึ่งผมก็น้อยใจนิดๆ เพราะผมมากรุงเทพกับเพื่อนนี้ไม่ได้ใกล้ๆ ระยะทางก็ 700-800 กิโลเลย แต่ผมเป็นคนมองโลกไหนแง่ดี ซีอาจไม่ว่าง พอผมสอบเสร็จวันต่อมาผมก็กลับเราเลยไม่ได้เจอกัน และต้นเดือนกันยายนมหาลัยก็ประกาศผล ผมและเพื่อนติดกันทุกคนติดเป็นคนแรกของโรงเรียนเลย  ถัดมาอีกอาทิตย์หนึ่งผมได้มีโอกาสไปกรุงเทพอีกเกี่ยวกับไปนำเสนอนวัตกรรม ซึ่งครั้งนี้ผมไปกับครูและเพื่อนอีกคน ผมก็บอกแค่ว่าจะมากรุงเทพ3วัน ซีก็ทราบแล้วก็เฉยๆ ผมก็รู้ว่ามากับครูคงไม่สะดวกเจอซีแน่ก็เลยบอกแค่มาไม่ได้โทรหาเลย พอมาถึงวันแรกก็จัดสถานที่นำเสนอแล้วก็เข้าพักที่โรงแรมที่เขาเตรียมให้ (ระดับประเทศ)นะงาน วันรุ่งขึ้นก็ไปฟังบรรยายและบ่ายก็มานำเสนอที่บูทใครบูทมัน นำเสนอเสร็จประมาณปลาย3โมง ครูก็ชวนผมไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กินเสร็จก็ประมาณ4โมงก็กลับ ระหว่างทางเดินกลับซึ่งมันจะเป็นทางเดินไปBTSแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิคนเยอะแน่ตอนเย็น ผมเจอซีแบบไม่ได้บอกกล่าวกันเลยบนทางเดินผมไม่รู้ด้วยว่าซีพักที่ไหนแล้วไม่รู้ด้วยว่าซีเลิกเรียนตอนไหน เพราะไม่ได้โทรหากันเลยตั้งแต่มา คือผมดีใจแบบอึ้งไปเลยว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้เลยหรอถึงให้เรามาเจอกันเป็นการเจอกันครั้งที่สี่และเป็นครั้งสุดท้าย ผมคุยกับซีประมาณ2-3นาที แนะนำให้ครูรู้จักว่าเป็นเพื่อนกัน และเราก็ลากัน จากนั้นผมก็อมยิ้มทั้งวันเลย วันรุ่งขึ้นผมก็ไปฟังประกาศผลได้เหรียญเงินระดับประเทศ แล้วเย็นเราก็เดินทางกลับ ผมส่งข้อความทุกวันนะ หลังจากนั้นเราก็ห่างกัน ประมาณกลางเดือนกันยายน ซีก็ได้โพสต์เฟสบุ๊คเป็นเพลงผิดสัญญาของวง instinct และเปลี่ยนรูปพื้นหลังเป็นคำว่า I’AM SORRY ผมคิดในใจและเผื่อใจแล้ว เพราะซีเปลี่ยนไปมาก แต่การพูดจายังเหมือนเดิมนะเราไม่เคยทะเลาะกันเลย พอปิดเทอมแรก เดือนตุลาคมก็สอบ GAT-PAT  ผมก็โทรให้กำลังใจซีเราสอบพร้อมกันนะทั่วประเทศ ตั้งแต่คุยกันมาซีเคยโทรหาผม4ครั้งผมจำได้ทุกรายละเอียดนะแต่ผมไม่เป็นคนจู้จี้นะ เพราะนี้คือรักแรกและผมไม่เคยรักใครผมเลยให้ความสำคัญมากและให้อิสระมาก เราคบกันมา 6เดือนกว่า หลังจากสอบเสร็จคือเราแทบไม่ได้คุยกันเลยไง เพราะกลางคืนคุยไม่ได้ซีจะส่งข้อความบอกว่าอยู่กับพี่ตลอด คือเป็นแบบนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-จนถึงเดือนตุลาคมซีไม่เคยโทรหาผมนะ แต่จะได้คุยกันนิดหน่อยต่ออาทิตย์หนึ่ง พอปลายเดือนตุลาคมผมปิดเทอมอยู่ ผมก็เตรียมใจไว้ส่วนหนึ่งแล้วคืนนั้นก็มาถึง ผมโทรหาซีและขอซีคุย5นาทีแล้วถามซีว่านี้ “เรายังรักกันอยู่ไหม” ซีก็ออกมาคุยนอกห้องและบอกผมว่ารักแต่รักแบบเพื่อนผมเสียใจมากน้ำตาตกในเลยแหละ ซีบอกผมว่าซีรู้ว่าผมคงรู้อยู่นานแล้วแต่ซีไม่อยากจะปฏิวัติเลยให้มันค่อยเป็นค่อยไป คุยกันนานจากที่แต่ก่อนผมชวนคุย ผมไม่พูดเลยเสียใจมากครับฟังอย่างเดียว คุยกันนานประมาณชั่วโมง
และซีก็ส่งข้อความขอโทษ ผมก็อ่านแล้วก็ไม่ตอบกลับ ผมก็ซึมไปเลยกินอะไรแทบไม่ได้เป็นเดือนๆ ผมไม่ตอบเฟสซีที่ทักมา ได้แต่ปิดหูปิดตาอ่านหนังสือเรียนและก็นอนให้เวลาหมดไป ผมไม่อยากทำอะไรเลยจนผ่านไป3เดือนที่เราไม่ได้คุยกันผมก็ เปิดใจยอมตอบและคุยกันปกติ จากวันนั้นถึงวันนี้ผมยังรักและคิดถึงเขาเสมอ ในใจลึกๆก็รอเขาอยู่ พอถึงวันสำคัญที่ครบรอบวันต่างๆที่ทำร่วมกันผมก็คิดถึงและก็เศร้า แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไร แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้วแหละ ที่เขาจะกลับมา จนปัจจุบันนี้ตอนนี้ ผมก็ได้แต่ให้เขามีแฟนไวๆ เพื่อจะได้ปลดปล่อยผมจากเขาสักที ...............เรื่องนี้ผมย่อมาแล้วนะครับและ99%เป็นเรื่องจริงมีเพียงไม่กี่อย่างที่เปลี่ยนไปเพื่อจะได้ไม่เป็นการพาดพิงเขา...ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบและขอโทษด้วยถ้าเล่าหรือเขียนผิด เพราะผมไม่เคยเขียนเล่าเรื่องเลย
....ผมควรรอเขาต่อไปไหมหรือควรทำอะไรต่อไปดี??
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่