ตอนนี้มีคู่รักมากมายเลยที่วางแผนเอาไว้ว่าอยากจะย้ายมาอยู่บ้านหรือคอนโดร่วมกันก่อนแต่งงาน
ซึ่งถ้าหากมันเป็นแผนที่คุณกับคนรักคิดจะทำด้วยเช่นกัน
ก็ควรจะนำคำถามเหล่านี้ถามตัวเองและหาคำตอบกับตัวเองให้ได้เสียก่อน
เพื่อให้การย้ายไปอยู่กับคนรักสร้างความสุขให้กับพวกคุณมากกว่า และอยู่ด้วยกันนาน ๆ
ไปจนกระทั่งถึงวันที่พวกคุณตกลงจะแต่งงานกัน
1. ทำไมต้องย้ายไปอยู่ด้วยกัน
คุณควรจะหาคำตอบที่ชัดเจนให้ได้ก่อนที่จะเริ่มสู่การวางแผนย้ายที่อยู่ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับคนรักแบบเต็มตัว เพราะบางครั้งอีกฝ่ายแค่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องความเป็นอยู่ หรืออยากได้คนไปช่วยทำความสะอาดที่อยู่ให้เท่านั้นเอง ตรงกันข้ามกับฝ่ายหญิงที่มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์ก่อน โดยเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับคนรักมากขึ้น
2. อยากจะสร้างครอบครัวหรือไม่
หลังจากที่คุณย้ายไปอยู่กับคนรักก็คงจะหลีกเลี่ยงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ได้ยาก และมีผู้หญิงที่ตัดสินใจอยู่ก่อนแต่งถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกันที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ปีแรกที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่พวกคุณวางแผนรับมือเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่จะเกิดมาก็เก็บแผนนี้เอาไว้พิจารณาทีหลังดีกว่า
3. จะรับมือกับปัญหาเรื่องการเงินอย่างไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า "เงิน" เป็นหนึ่งในสามปัญหาสำคัญที่ทำให้หลายคู่รักมีปากมีเสียงกัน ฉะนั้นก่อนที่จะย้ายไปอยู่ด้วยกันควรจะวางแผนและเตรียมวิธีรับมือเอาไว้ล่วงหน้าก่อนเกิดความขัดแย้งในเรื่องนี้ด้วย พร้อมทั้งคุยกันให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นคนจัดการหรือใช้จ่ายเรื่องใดบ้าง เพื่อความสบายใจของพวกคุณเอง อีกทั้งลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นไปด้วยในตัว
4. จะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของใคร
ทั้งนี้คงจะดีกว่าหากย้ายไปอยู่ด้วยกันในบ้านหรือคอนโดหลังใหม่ที่สะดวกกับการใช้ชีวิตของพวกคุณทั้ง 2 คน หรือหากเป็นบ้านของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ควรเป็นบ้านที่ไม่สร้างความลำบากให้กับอีกฝ่ายมากจนเกินไปนัก นอกจากนี้ควรพิจารณาด้วยว่าพื้นที่ภายในบ้านเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ หากจะมีอีกคนย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
5. ควรทบทวนความสัมพันธ์กันอีกรอบหรือไม่
หลายครั้งที่พบว่าคู่รักย้ายมาอยู่ด้วยกันแต่สุดท้ายต่างคนก็ต่างไป เพราะไม่เข้าใจกันหรือศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีเสียก่อน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่ควรจะทบทวนความสัมพันธ์กันอีกครั้งว่ามีความจริงจังกับความรักในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน หากคิดจะแต่งงานด้วยกันอยู่แล้วก็คงเป็นปัญหาน้อยกว่าคนที่คบกันไปแต่ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคต
6. จะจัดการอย่างไรหากต้องเลิกกัน
ก่อนจะย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันก็ควรคิดเผื่อเอาไว้ด้วยว่า จะการชีวิตกันอย่างไรหากในอนาคตไปด้วยกันไม่รอด โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินต่าง ๆ ที่จะพกติดตัวไปด้วย ทั้งนี้จะดีกว่ามากหากจดลิสต์สิ่งของเหล่านี้เอาไว้ตั้งแต่แรก จะได้ไม่กลายเป็นปัญหาเรื่องแบ่งสิ่งของกันภายหลัง ในกรณีที่เลิกราหรือไม่ได้แต่งงานกันอีกทั้งเป็นการปกป้องทรัพย์สินไปด้วย ในขณะที่คุณใช้อารมณ์ตัดสินใจเดินทางตามความต้องการของตัวเองในวันนี้
เนื่องจาก 48 เปอร์เซ็นต์ ของผู้หญิงที่อยู่กับคนรักก่อนแต่งงาน
(มีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่กลายมาเป็นสามีภรรยากันในอนาคต)
ซึ่งถ้าหากไม่อยากเป็นอยู่ในกลุ่มของผู้หญิงส่วนน้อยก็ควรศึกษา ข้อดี-ข้อเสีย
และเช็กความพร้อมของตัวเองให้ดี โดยการถามตอบตัวเองด้วย 6 คำถามข้างต้นนี้
ให้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกับคนรัก
Love Love
Cr.kapook.com
เช็ก 6 คำถามสำคัญของคู่รัก ที่คิดจะอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน
ซึ่งถ้าหากมันเป็นแผนที่คุณกับคนรักคิดจะทำด้วยเช่นกัน
ก็ควรจะนำคำถามเหล่านี้ถามตัวเองและหาคำตอบกับตัวเองให้ได้เสียก่อน
เพื่อให้การย้ายไปอยู่กับคนรักสร้างความสุขให้กับพวกคุณมากกว่า และอยู่ด้วยกันนาน ๆ
ไปจนกระทั่งถึงวันที่พวกคุณตกลงจะแต่งงานกัน
1. ทำไมต้องย้ายไปอยู่ด้วยกัน
คุณควรจะหาคำตอบที่ชัดเจนให้ได้ก่อนที่จะเริ่มสู่การวางแผนย้ายที่อยู่ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับคนรักแบบเต็มตัว เพราะบางครั้งอีกฝ่ายแค่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องความเป็นอยู่ หรืออยากได้คนไปช่วยทำความสะอาดที่อยู่ให้เท่านั้นเอง ตรงกันข้ามกับฝ่ายหญิงที่มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์ก่อน โดยเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับคนรักมากขึ้น
2. อยากจะสร้างครอบครัวหรือไม่
หลังจากที่คุณย้ายไปอยู่กับคนรักก็คงจะหลีกเลี่ยงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ได้ยาก และมีผู้หญิงที่ตัดสินใจอยู่ก่อนแต่งถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกันที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ปีแรกที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่พวกคุณวางแผนรับมือเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่จะเกิดมาก็เก็บแผนนี้เอาไว้พิจารณาทีหลังดีกว่า
3. จะรับมือกับปัญหาเรื่องการเงินอย่างไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า "เงิน" เป็นหนึ่งในสามปัญหาสำคัญที่ทำให้หลายคู่รักมีปากมีเสียงกัน ฉะนั้นก่อนที่จะย้ายไปอยู่ด้วยกันควรจะวางแผนและเตรียมวิธีรับมือเอาไว้ล่วงหน้าก่อนเกิดความขัดแย้งในเรื่องนี้ด้วย พร้อมทั้งคุยกันให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นคนจัดการหรือใช้จ่ายเรื่องใดบ้าง เพื่อความสบายใจของพวกคุณเอง อีกทั้งลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นไปด้วยในตัว
4. จะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของใคร
ทั้งนี้คงจะดีกว่าหากย้ายไปอยู่ด้วยกันในบ้านหรือคอนโดหลังใหม่ที่สะดวกกับการใช้ชีวิตของพวกคุณทั้ง 2 คน หรือหากเป็นบ้านของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ควรเป็นบ้านที่ไม่สร้างความลำบากให้กับอีกฝ่ายมากจนเกินไปนัก นอกจากนี้ควรพิจารณาด้วยว่าพื้นที่ภายในบ้านเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ หากจะมีอีกคนย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
5. ควรทบทวนความสัมพันธ์กันอีกรอบหรือไม่
หลายครั้งที่พบว่าคู่รักย้ายมาอยู่ด้วยกันแต่สุดท้ายต่างคนก็ต่างไป เพราะไม่เข้าใจกันหรือศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีเสียก่อน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่ควรจะทบทวนความสัมพันธ์กันอีกครั้งว่ามีความจริงจังกับความรักในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน หากคิดจะแต่งงานด้วยกันอยู่แล้วก็คงเป็นปัญหาน้อยกว่าคนที่คบกันไปแต่ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคต
6. จะจัดการอย่างไรหากต้องเลิกกัน
ก่อนจะย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันก็ควรคิดเผื่อเอาไว้ด้วยว่า จะการชีวิตกันอย่างไรหากในอนาคตไปด้วยกันไม่รอด โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินต่าง ๆ ที่จะพกติดตัวไปด้วย ทั้งนี้จะดีกว่ามากหากจดลิสต์สิ่งของเหล่านี้เอาไว้ตั้งแต่แรก จะได้ไม่กลายเป็นปัญหาเรื่องแบ่งสิ่งของกันภายหลัง ในกรณีที่เลิกราหรือไม่ได้แต่งงานกันอีกทั้งเป็นการปกป้องทรัพย์สินไปด้วย ในขณะที่คุณใช้อารมณ์ตัดสินใจเดินทางตามความต้องการของตัวเองในวันนี้
(มีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่กลายมาเป็นสามีภรรยากันในอนาคต)
ซึ่งถ้าหากไม่อยากเป็นอยู่ในกลุ่มของผู้หญิงส่วนน้อยก็ควรศึกษา ข้อดี-ข้อเสีย
และเช็กความพร้อมของตัวเองให้ดี โดยการถามตอบตัวเองด้วย 6 คำถามข้างต้นนี้
ให้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกับคนรัก
Cr.kapook.com