สวัสดีค่ะ พึ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก เพราะอยากระบายสิ่งที่อัดอั้น เรื่องของเรามันยิ่งกว่านิยายน้ำเน่า ทุกวันนี่ไม่มีความสุขเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ...ตอนนี้เราอายุ21ปี กำลังเรียนอยู่ปี4 ย้อนไปประมาณเดือนพฤษภาคมของปีนี้ เราทำงานพาร์ทไทม์ช่วงปิดเทอม ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งในภูเก็ต เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ที่ปิดประมาณตี1 มีทั้งลูดค้าชาวต่างชาติ และคนไทย ซึ่งในช่วงนั้นเราก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่มีปัญหาระหองระแหงกันอยู่ คบกันมาได้เกือบปี ในทุกๆวันที่เราทำงานที่ร้านนี้ จะมีลูกค้าผู้ชายที่แซวและจีบเป็นปกติ เพราะเราเป็นเด็กเสิร์ฟที่มีความยิ้มแย้ม เป็นกันเอง ลูกค้ามักจะชมว่าเรายิ้มเก่ง ถ้าลูกค้าชวนคุย เราก็คุยด้วยอย่างเป็นมิตร เพราะไม่มีอะไรเสียหาย และทำให้ได้ทิปเยอะด้วย
และวันหนึ่งขณะที่เราทำงานตามปกติ ก็มีลูกค้าผู้ชายกลุ่มหนึ่งเข้ามา4-5คน เป็นคนญี่ปุ่น เราก็เข้าไปต้อนรับตามปกติ และบริการอย่างเต็มที่ด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม แต่เราก็สะดุดตากับลูกค้าญี่ปุ่นคนหนึ่งในกลุ่มนี้ เค้าเป็นคนดูดีมาก เหมือนมีอะไรดึงดูดให้สนใจ เราแอบปลื้มในใจนิดนึง และเราได้ไปพูดกับเพื่อนร่วมงานว่า หล่อมาก แต่เราสังเกตเห็นว่าเค้ามองมาที่เราหลายครั้งในระหว่างที่เราคอยเติมเบียร์ให้ แต่เราคิดว่าคงมองเฉยๆเป็นปกติ สักพักพวกเค้ากินข้าวกันเสร็จก็กลับโรงแรมไป ซึ่งโรงแรมอยู่ใกล้ร้านอาหารที่เราทำงานแค่นิดเดียว ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เค้าคนนั้นที่เราแอบปลื้ม เข้ามาในร้านอีกครั้งและมาเพียงคนเดียว เราเอาเมนูไปให้เค้า เค้าบอกว่าให้เราช่วยแนะนำคอกเทลอะไรก็ได้ให้เค้าหน่อย ตอนนั้นเรารู้สึกใจสั่นตอนอยู่ใกล้เค้า และมือมันสั่นๆแปลกๆ เรานึกอะไรไม่ออกเราบอกไปว่า กามิกาเซ่ok?อ้อเราลืมบอกไปว่าเค้าพูดไทยไม่ได้เลย แต่เพื่อนๆเค้าพอพูดได้ เค้าก็บอกโอเค เอากามิกาเซ่ เราก็เอามาเสิร์ฟตามปกติ เค้ามองเราแบบอมยิ้ม หน้าแดงๆ เหมือนคิดอะไรอยู่ พอตอนเราไปเช็คบิลเค้ายื่นทิปให้เรา300 เราก็ขอบคุณเค้า แล้วตอนนั้นเอง เค้าเริ่มชวนเราคุย เค้าถามว่าร้านปิดกี่โมง เราก็คิดว่าเค้าคงอยากรู้เผื่อวันหลังจะมาอีก แล้วเค้าก็ถามว่าเรากลับบ้านตอนไหน เราก็เริ่มแปลกใจ แต่ก็บอกไปว่าประมาณตี1.30 เค้าชวนเราไปหาที่ดื่มต่อ เค้าจะรอ แต่ในตอนนั้นเหมือนเราตอบตกลงไปโดยไม่ทันคิดไรด้วยซ้ำ ปรากฏว่าเค้านั่งรอจริงๆ นั่งรอจนร้านปิด เราเลยไปถามเค้าว่าพาเพื่อนไปด้วยได้ไหม เพราะเรายังไม่ค่อยไว้ใจ เค้าก็บอกว่าไม่มีปัญหา วันนั้นเราไม่ได้เิอารถมา เพราะแฟนมาส่ง เราเลยเดินไปผับกับเค้าเพราะมันอยู่ไม่ไกล และเพื่อนขับรถนำไปก่อน เพราะถ้าซ้อน3 มันแปลกๆ
เมื่อไปถึงผับ เราก็เข้าไปดื่มไปแดนซ์ตามปกติ เค้าจับมือเราเต้น คอยกันคนให้เราเมื่อมีคนจะมาชนเรา ชวนเราคุย โน่น นี่ นั่น โดยใช้วิธีการเขียนใส่กระดาษ(เค้าพกกระดาษกับดินสอมาด้วย) เรามีความสุขมากตอนนั้น เรารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก อยุ่กันจนผับปิด เราก็เดินไปส่งเค้าที่โรงแรม เค้าโบกมือลาเรา และเราให้เพื่อนขับรถมาส่งที่หอ ในตอนนั้นเราก็คิดว่าทุกอย่างคงจบแค่นี้ แค่เค้าคงอยากมีเพื่อนไปเที่ยวด้วยเฉยๆ
วันต่อมาเรามาทำงานตามปกติ มองไปที่โรงแรมด้วยสายตาแบบมีความหวังว่าเค้าจะมาอีกครั้ง เจออีกสักครั้งก็ยังดี สักพี่ที่เป็นบาร์เทรนเดอร์ เอาจดหมายมาให้เรา บอกว่ามีคนเขียนให้เรา เอามาเสียบไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนั้นเราคิดว่าต้องใช่เค้าแน่ๆ เรารีบเปิดอ่าน เนื้อหาในจดหมายบอกว่า "ขอบคุณสำหรับเมื่อคืน ผมมีความสุขมาก ไม่รู้คุณมีความสุขรึเปล่า ผมชอบรอยยิ้มของคุณ มันทำให้ผมมีความสุข คุณน่ารักมาก ผมอยากเจอคุณอีก แต่ผมต้องเดินทางไปที่อื่นแล้ว กรุณาติดต่อกลับมาที่อีเมล์นี้........."
ตอนนั้นเราหัวใจพองตัว รู้สึกดีรีบเก็บจดหมายใส่กระเป๋า รอเวลาเลิกงานเพื่อไปคุยเมล์กับเค้า
เมื่อเลิกงาน เราทักเค้าไป เค้าดีใจมาก ชวนคุยใหญ่ เราคุยกับเค้าทุกวันในตอนนั้นเค้าอยู่กรุงเทพ เค้าทำงานเป็นวิศวกรYamaha อยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ต้องเดินทางมากรุงเทพและภูเก็ตบ่อยๆ เราคุยกับเค้าทุกวัน วันนั้นเค้าชวนเราไปเที่ยวเกาะพีพี เรายังไม่กล้าไป เพราะยังไม่รูจักดี เค้าบอกไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย เค้าออกให้หมด แต่เราก็ปฏิเสธไป ดูเหมือนเค้าจะน้อยใจนิดๆ หลังจากนั้นเราก็คุยกันทุกวัน รู้จักกันมากขึ้น มีอะไรเค้าก็บอกเราทุกเรื่อง วันนั้นเค้ามาภูเก็ตอีกครั้ง เค้าชวนเรามาคุยกับเค้าที่โรงแรมได้ไหม และเค้าบอกเราว่าจะไม่ทำอะไรที่เราไม่ต้องการ เค้าจะนอนบนโซฟา ให้เรานอนบนเตียง เราก็โอเค. เพราะเรากิอยากเจอเค้า ตอนแรกเราบอกว่าไปคุยแล้วกลับตอนดึกๆ แต่เค้าบอกว่าอยากใช้เวลายุ่กับเรานานๆ ขอให้เรามานอนที่โรงแรม วันนั้นพอเราเลิกงาน เค้ามารับเราโดยที่เค้าไปเช่ามอเตอร์ไซด์มาเพื่อรับเราโดยเฉพาะ พอไปถึงโรงแรม เค้ามีความเป็นสุภาพบุรุษมาก นั่งห่างๆ ไม่ถูกเนื้อต้องตัวเรา เค้าชวนเราคุยกันพักใหญ่ ถามเรื่องทั่วไปทุกอย่าง และก็กินเบียร์กันไป พอสักพักเค้าบอกให้เราไปนอนในห้อง เดี๋ยวเค้านอนที่โซฟาเอง เราก็เลยเข้าไปนอนในห้อง แต่ตอนนั้นเรารู้สึกสงสารเค้ามาก เลยบอกเค้าว่ามานอนบนเตียงด้วยกัน เค้าปฏิเสธอยู่พักใหญ่ แล้วก็เข้ามานอนด้วยกัน คืนนั้นผ่านไปโดยไม่มีไรเกิดขึ้น แค่กอดกันเฉยๆ รุ่งเช้าตื่นขึ้นมา เค้าน่ารักมากเตรียมอาหารเช้าให้เรากินเป็นพวกซีเรียลที่เค้าซื้อมา เราอกจากโรงแรมในตอนเที่ยง เค้าไปส่งเราที่หอ ก่อนไปเค้าขอกอดเราอีกครั้ง แต่ตรงนั้นมันที่สาธารณะ เราบอกว่าไม่ได้ เค้าก็แบบงอนๆ เราบอกลากัน แล้วเค้าก็ขับรถไปตระเวนทั่วภูเก็ต
หลังจากนั้นเค้ากลับญี่ปุ่น เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิม แต่พอตอนเย็นเราต้องไปทำงานเลิกอีกทีก็ดึก เค้าบอกว่าอยากรู้จักเรามากขึ้น อยากคุยกับเราเยอะๆ เดี๋ยวเค้าจะส่งเงินให้ใช้ ให้เราออกจากงานนะ เราก็โอเค เพราะใกล้เปิดเทอมแล้วด้วย แล้วช่วงนั้นเราทั้งสังเกตการสอน (เราเรียนครู)และทั้งทำงาน ได้นอนวันนึงไม่กี่ชั่วโมง เงินก้อนแรกเค้าส่งมาให้เรา20,000 เราก็แบบตกใจ เพราะมันก็ถือว่ามากสำหรับเรา ระยะเวลาที่คุยกันเค้าดีกับเราทุกอย่าง แต่ตอนนั้นเรายังไม่เลิกกับแฟน
เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร..คุณจากฉันไปแล้ว...แต่ฉันยังไม่สามารถยอมรับความจริง
และวันหนึ่งขณะที่เราทำงานตามปกติ ก็มีลูกค้าผู้ชายกลุ่มหนึ่งเข้ามา4-5คน เป็นคนญี่ปุ่น เราก็เข้าไปต้อนรับตามปกติ และบริการอย่างเต็มที่ด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม แต่เราก็สะดุดตากับลูกค้าญี่ปุ่นคนหนึ่งในกลุ่มนี้ เค้าเป็นคนดูดีมาก เหมือนมีอะไรดึงดูดให้สนใจ เราแอบปลื้มในใจนิดนึง และเราได้ไปพูดกับเพื่อนร่วมงานว่า หล่อมาก แต่เราสังเกตเห็นว่าเค้ามองมาที่เราหลายครั้งในระหว่างที่เราคอยเติมเบียร์ให้ แต่เราคิดว่าคงมองเฉยๆเป็นปกติ สักพักพวกเค้ากินข้าวกันเสร็จก็กลับโรงแรมไป ซึ่งโรงแรมอยู่ใกล้ร้านอาหารที่เราทำงานแค่นิดเดียว ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เค้าคนนั้นที่เราแอบปลื้ม เข้ามาในร้านอีกครั้งและมาเพียงคนเดียว เราเอาเมนูไปให้เค้า เค้าบอกว่าให้เราช่วยแนะนำคอกเทลอะไรก็ได้ให้เค้าหน่อย ตอนนั้นเรารู้สึกใจสั่นตอนอยู่ใกล้เค้า และมือมันสั่นๆแปลกๆ เรานึกอะไรไม่ออกเราบอกไปว่า กามิกาเซ่ok?อ้อเราลืมบอกไปว่าเค้าพูดไทยไม่ได้เลย แต่เพื่อนๆเค้าพอพูดได้ เค้าก็บอกโอเค เอากามิกาเซ่ เราก็เอามาเสิร์ฟตามปกติ เค้ามองเราแบบอมยิ้ม หน้าแดงๆ เหมือนคิดอะไรอยู่ พอตอนเราไปเช็คบิลเค้ายื่นทิปให้เรา300 เราก็ขอบคุณเค้า แล้วตอนนั้นเอง เค้าเริ่มชวนเราคุย เค้าถามว่าร้านปิดกี่โมง เราก็คิดว่าเค้าคงอยากรู้เผื่อวันหลังจะมาอีก แล้วเค้าก็ถามว่าเรากลับบ้านตอนไหน เราก็เริ่มแปลกใจ แต่ก็บอกไปว่าประมาณตี1.30 เค้าชวนเราไปหาที่ดื่มต่อ เค้าจะรอ แต่ในตอนนั้นเหมือนเราตอบตกลงไปโดยไม่ทันคิดไรด้วยซ้ำ ปรากฏว่าเค้านั่งรอจริงๆ นั่งรอจนร้านปิด เราเลยไปถามเค้าว่าพาเพื่อนไปด้วยได้ไหม เพราะเรายังไม่ค่อยไว้ใจ เค้าก็บอกว่าไม่มีปัญหา วันนั้นเราไม่ได้เิอารถมา เพราะแฟนมาส่ง เราเลยเดินไปผับกับเค้าเพราะมันอยู่ไม่ไกล และเพื่อนขับรถนำไปก่อน เพราะถ้าซ้อน3 มันแปลกๆ
เมื่อไปถึงผับ เราก็เข้าไปดื่มไปแดนซ์ตามปกติ เค้าจับมือเราเต้น คอยกันคนให้เราเมื่อมีคนจะมาชนเรา ชวนเราคุย โน่น นี่ นั่น โดยใช้วิธีการเขียนใส่กระดาษ(เค้าพกกระดาษกับดินสอมาด้วย) เรามีความสุขมากตอนนั้น เรารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก อยุ่กันจนผับปิด เราก็เดินไปส่งเค้าที่โรงแรม เค้าโบกมือลาเรา และเราให้เพื่อนขับรถมาส่งที่หอ ในตอนนั้นเราก็คิดว่าทุกอย่างคงจบแค่นี้ แค่เค้าคงอยากมีเพื่อนไปเที่ยวด้วยเฉยๆ
วันต่อมาเรามาทำงานตามปกติ มองไปที่โรงแรมด้วยสายตาแบบมีความหวังว่าเค้าจะมาอีกครั้ง เจออีกสักครั้งก็ยังดี สักพี่ที่เป็นบาร์เทรนเดอร์ เอาจดหมายมาให้เรา บอกว่ามีคนเขียนให้เรา เอามาเสียบไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนั้นเราคิดว่าต้องใช่เค้าแน่ๆ เรารีบเปิดอ่าน เนื้อหาในจดหมายบอกว่า "ขอบคุณสำหรับเมื่อคืน ผมมีความสุขมาก ไม่รู้คุณมีความสุขรึเปล่า ผมชอบรอยยิ้มของคุณ มันทำให้ผมมีความสุข คุณน่ารักมาก ผมอยากเจอคุณอีก แต่ผมต้องเดินทางไปที่อื่นแล้ว กรุณาติดต่อกลับมาที่อีเมล์นี้........."
ตอนนั้นเราหัวใจพองตัว รู้สึกดีรีบเก็บจดหมายใส่กระเป๋า รอเวลาเลิกงานเพื่อไปคุยเมล์กับเค้า
เมื่อเลิกงาน เราทักเค้าไป เค้าดีใจมาก ชวนคุยใหญ่ เราคุยกับเค้าทุกวันในตอนนั้นเค้าอยู่กรุงเทพ เค้าทำงานเป็นวิศวกรYamaha อยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ต้องเดินทางมากรุงเทพและภูเก็ตบ่อยๆ เราคุยกับเค้าทุกวัน วันนั้นเค้าชวนเราไปเที่ยวเกาะพีพี เรายังไม่กล้าไป เพราะยังไม่รูจักดี เค้าบอกไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย เค้าออกให้หมด แต่เราก็ปฏิเสธไป ดูเหมือนเค้าจะน้อยใจนิดๆ หลังจากนั้นเราก็คุยกันทุกวัน รู้จักกันมากขึ้น มีอะไรเค้าก็บอกเราทุกเรื่อง วันนั้นเค้ามาภูเก็ตอีกครั้ง เค้าชวนเรามาคุยกับเค้าที่โรงแรมได้ไหม และเค้าบอกเราว่าจะไม่ทำอะไรที่เราไม่ต้องการ เค้าจะนอนบนโซฟา ให้เรานอนบนเตียง เราก็โอเค. เพราะเรากิอยากเจอเค้า ตอนแรกเราบอกว่าไปคุยแล้วกลับตอนดึกๆ แต่เค้าบอกว่าอยากใช้เวลายุ่กับเรานานๆ ขอให้เรามานอนที่โรงแรม วันนั้นพอเราเลิกงาน เค้ามารับเราโดยที่เค้าไปเช่ามอเตอร์ไซด์มาเพื่อรับเราโดยเฉพาะ พอไปถึงโรงแรม เค้ามีความเป็นสุภาพบุรุษมาก นั่งห่างๆ ไม่ถูกเนื้อต้องตัวเรา เค้าชวนเราคุยกันพักใหญ่ ถามเรื่องทั่วไปทุกอย่าง และก็กินเบียร์กันไป พอสักพักเค้าบอกให้เราไปนอนในห้อง เดี๋ยวเค้านอนที่โซฟาเอง เราก็เลยเข้าไปนอนในห้อง แต่ตอนนั้นเรารู้สึกสงสารเค้ามาก เลยบอกเค้าว่ามานอนบนเตียงด้วยกัน เค้าปฏิเสธอยู่พักใหญ่ แล้วก็เข้ามานอนด้วยกัน คืนนั้นผ่านไปโดยไม่มีไรเกิดขึ้น แค่กอดกันเฉยๆ รุ่งเช้าตื่นขึ้นมา เค้าน่ารักมากเตรียมอาหารเช้าให้เรากินเป็นพวกซีเรียลที่เค้าซื้อมา เราอกจากโรงแรมในตอนเที่ยง เค้าไปส่งเราที่หอ ก่อนไปเค้าขอกอดเราอีกครั้ง แต่ตรงนั้นมันที่สาธารณะ เราบอกว่าไม่ได้ เค้าก็แบบงอนๆ เราบอกลากัน แล้วเค้าก็ขับรถไปตระเวนทั่วภูเก็ต
หลังจากนั้นเค้ากลับญี่ปุ่น เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิม แต่พอตอนเย็นเราต้องไปทำงานเลิกอีกทีก็ดึก เค้าบอกว่าอยากรู้จักเรามากขึ้น อยากคุยกับเราเยอะๆ เดี๋ยวเค้าจะส่งเงินให้ใช้ ให้เราออกจากงานนะ เราก็โอเค เพราะใกล้เปิดเทอมแล้วด้วย แล้วช่วงนั้นเราทั้งสังเกตการสอน (เราเรียนครู)และทั้งทำงาน ได้นอนวันนึงไม่กี่ชั่วโมง เงินก้อนแรกเค้าส่งมาให้เรา20,000 เราก็แบบตกใจ เพราะมันก็ถือว่ามากสำหรับเรา ระยะเวลาที่คุยกันเค้าดีกับเราทุกอย่าง แต่ตอนนั้นเรายังไม่เลิกกับแฟน