ซีรี่ส์ระบบการเงินโลก จาก FB thanong fanclub 7เดือนมาแล้ว QEฺ จาก ECฺB ใกล้เป็นจริงแล้ว
10. ECBเตรียมทำQE เหมือนUS Federal Reserve, Bank of England, Bank of Japan
European Central Bank หรือ ECBกำลังพิจรณามาตรการQEหรือการพิมพ์เงินยูโรเข้าไปในระบบการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องผ่านการซื้อสินทรัพย์เข้ามาในงบดุลของECB
ECBมีการลดดอกเบี้ยลงมาเหลือ0.25%เท่ากับUS Federal Reserveแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากจะคิดทำQEแล้ว ECBยังคิดที่จะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบสำหรับธนาคารที่เอาเงินยูโรมาฝากกับECB เพื่อที่จะบังคับไปในตัวให้ธนาคารพมนิชน์เพิ่มการปล่อยเงินกู้ แทนที่จะเอาเงินมาฝากแช่เย็นเฉยๆ
ที่น่าแปลกใจคือทางJens Weidmann ผู้ว่าการBundesbankของเยอรมัน และหนึ่งในเสียงของสายเหยี่ยวหลักของECBมีทีท่าที่อ่อนลงไปกับนโยบายการทำQE เขาบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่ECBที่จะทำQE ด้วยการดูเครื่องมือทางการเงินต่างๆเช่นซื้อพนัธบัตรรัฐบาลยุโรป หรือซื้อทรัพย์สินที่มีค่าจากพวกเอกชน ก่อนหน้านี้ Weidmannแสดงความเห็นโดยตลอดว่าการซื้อสินทรัพย์ของECBจะเพิ่มความเสี่ยงของเงินเฟ้อ และที่ทำคัญจะเป็นการไฟแนนซ์การคลังของรัฐบาลทางอ้อม ทำให้รัฐบาลไม่มีวินัยทางด้านการเงิน
ในเมื่อECBซึ่งกำลังจะมีการประชุมกันอาทิตย์หน้ากำลังพิจรณาที่ทำQEแสดงว่าเศรษฐกิจยุโรปที่ออกข่าวว่ามีการฟื้นตัวเป็นระยะๆ หรือผ่านจุดที่ต่ำสุดแล้วเป็นข่าวที่เล่นกับจิตวิทยานักลงทุน เพราะว่ายุโรปกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด โดยที่เงินเฟ้อสูงไม่ถึง1% และอัตราการว่างงานยังสูงและเรื้อรัง ยุโรปเจอภาวะวิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ปี2009 โดยได้รับผลกระทบโดยตรงจากการพังของระบบการเงินWall Streetของสหรัฐฯ
ถ้าECBตัดสินใจจริง จะได้เห็นแก๊งพิมพ์เงินของโลกทำงานประสานกันเหมือนวงQuartet หรือวงดนตรีที่มีผู้เล่น4คน คือมีECB, Bank of England, Bank of Japan และ US Federal Reserve ระบบการเงินโลกอยู่ในมือของธนาคารกลาง4แห่งนี้ ที่ดำเนินนโยบายประสานกัน หรือไปในทิศทางที่เอื้อกัน
๊US Federal ReserveทำQEก่อนเพื่อนหลังวิกฤติการเงินของWall Street ด้วยการพิมพ์เงินซื้อสินทรัพย์mortgage backed securities และUS Treasuries มีผลให้งบดุลจากก่อนวิกฤติที่$800,000ล้าน $4ล้านล้านกว่า ตอนนี้เฟดลดการทำQEเหลือเดือนละ $55,000ล้าน กดดอกเบี้ยที่0.25%
Bank of EnglandทำQEแล้ว 375,000ล้านปอนด์ช่วงวิกฤติการเงินที่ผ่านมา และได้หยุดนิ่งๆที่ระดับนี้ โดยรักษาดอกเบี้ยเอาไว้ที่0.50%
Bank of JapanทำQEมาหลายรอบแล้วหลังเสณาฐกิจฟองสบู่พังเมื่อปี1990-1991 Abenomicsสั่งให้ทำเพิ่มรอบใหม่อีก$1.4ล้านล้าน ดอกเบี้ยกดเอาไว้ที่0.10%
ยังไม่มีใครทราบว่าECBจะทำQEในปริมาณเท่าใดอย่างแน่ชัด แต่มีการคาดการว่าอาจจะพิมพ์เงินเพื่อซื้อทรัพย์สินประมาณ300,000-500,000 ล้านยูโร หรือ$415,000 -$690,000ล้าน ในระยะแรก
วงQuartetวงนี้ เวลาใครโซโล่ หรือสลับเล่นเดี่ยวจะสร้างความกระเพื่อมให้ระบบการเงินโลก เป็นการสร้างสงครามการเงิน พิมพ์เงินกระดาษfiat moneyที่ไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุน เพราะอิงกันไปอิงกันมาเหมือนปราสาทสำรับไพ่House of Cards การพิมพ์เงินในลักษณะนี้จะหยุดไม่ได้ เพราะว่ารายได้จากการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจ ไม่พอกับการจ่ายภาระหนี้เพราะว่าหนี้โลกโดยรวมอยู่ที่$100ล้านล้าน สูงขึ้นจาก$70ล้านล้านเพื่อปี2007 ในขณะที่จีดีพีโลกอยู่ที่$75ล้านล้าน
ทำให้ระบบการเงินจบลงอย่างน่าเกลียด เมื่อQEไปต่อไม่ได้ เพราะเมื่อดอกเบี้ยขึ้น ภาระการจ่ายหนี้จะพุ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเพิ่มการทำQEไปเรื่อยๆจนค่าเงินเสื่อมค่า ทำให้เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง กลุ่มประเทศBRICSได้เตรียมการที่จะปลดแอกจากแก๊งค์พิมพ์เงินนี้ ถ้าปลดแอกไม่ได้ จะพากันลงเหวกันไปหมด
thanong
28/3/2014
http://www.cnbc.com/id/101527175
******ฤา ทางออก ของวิกฤตยุโรปจะหมดหนทาง เรื่อง ECB จะทำ QE ใกล้เป็นจริงไม่ช้าเกินรอ ****
10. ECBเตรียมทำQE เหมือนUS Federal Reserve, Bank of England, Bank of Japan
European Central Bank หรือ ECBกำลังพิจรณามาตรการQEหรือการพิมพ์เงินยูโรเข้าไปในระบบการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องผ่านการซื้อสินทรัพย์เข้ามาในงบดุลของECB
ECBมีการลดดอกเบี้ยลงมาเหลือ0.25%เท่ากับUS Federal Reserveแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากจะคิดทำQEแล้ว ECBยังคิดที่จะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบสำหรับธนาคารที่เอาเงินยูโรมาฝากกับECB เพื่อที่จะบังคับไปในตัวให้ธนาคารพมนิชน์เพิ่มการปล่อยเงินกู้ แทนที่จะเอาเงินมาฝากแช่เย็นเฉยๆ
ที่น่าแปลกใจคือทางJens Weidmann ผู้ว่าการBundesbankของเยอรมัน และหนึ่งในเสียงของสายเหยี่ยวหลักของECBมีทีท่าที่อ่อนลงไปกับนโยบายการทำQE เขาบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่ECBที่จะทำQE ด้วยการดูเครื่องมือทางการเงินต่างๆเช่นซื้อพนัธบัตรรัฐบาลยุโรป หรือซื้อทรัพย์สินที่มีค่าจากพวกเอกชน ก่อนหน้านี้ Weidmannแสดงความเห็นโดยตลอดว่าการซื้อสินทรัพย์ของECBจะเพิ่มความเสี่ยงของเงินเฟ้อ และที่ทำคัญจะเป็นการไฟแนนซ์การคลังของรัฐบาลทางอ้อม ทำให้รัฐบาลไม่มีวินัยทางด้านการเงิน
ในเมื่อECBซึ่งกำลังจะมีการประชุมกันอาทิตย์หน้ากำลังพิจรณาที่ทำQEแสดงว่าเศรษฐกิจยุโรปที่ออกข่าวว่ามีการฟื้นตัวเป็นระยะๆ หรือผ่านจุดที่ต่ำสุดแล้วเป็นข่าวที่เล่นกับจิตวิทยานักลงทุน เพราะว่ายุโรปกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด โดยที่เงินเฟ้อสูงไม่ถึง1% และอัตราการว่างงานยังสูงและเรื้อรัง ยุโรปเจอภาวะวิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ปี2009 โดยได้รับผลกระทบโดยตรงจากการพังของระบบการเงินWall Streetของสหรัฐฯ
ถ้าECBตัดสินใจจริง จะได้เห็นแก๊งพิมพ์เงินของโลกทำงานประสานกันเหมือนวงQuartet หรือวงดนตรีที่มีผู้เล่น4คน คือมีECB, Bank of England, Bank of Japan และ US Federal Reserve ระบบการเงินโลกอยู่ในมือของธนาคารกลาง4แห่งนี้ ที่ดำเนินนโยบายประสานกัน หรือไปในทิศทางที่เอื้อกัน
๊US Federal ReserveทำQEก่อนเพื่อนหลังวิกฤติการเงินของWall Street ด้วยการพิมพ์เงินซื้อสินทรัพย์mortgage backed securities และUS Treasuries มีผลให้งบดุลจากก่อนวิกฤติที่$800,000ล้าน $4ล้านล้านกว่า ตอนนี้เฟดลดการทำQEเหลือเดือนละ $55,000ล้าน กดดอกเบี้ยที่0.25%
Bank of EnglandทำQEแล้ว 375,000ล้านปอนด์ช่วงวิกฤติการเงินที่ผ่านมา และได้หยุดนิ่งๆที่ระดับนี้ โดยรักษาดอกเบี้ยเอาไว้ที่0.50%
Bank of JapanทำQEมาหลายรอบแล้วหลังเสณาฐกิจฟองสบู่พังเมื่อปี1990-1991 Abenomicsสั่งให้ทำเพิ่มรอบใหม่อีก$1.4ล้านล้าน ดอกเบี้ยกดเอาไว้ที่0.10%
ยังไม่มีใครทราบว่าECBจะทำQEในปริมาณเท่าใดอย่างแน่ชัด แต่มีการคาดการว่าอาจจะพิมพ์เงินเพื่อซื้อทรัพย์สินประมาณ300,000-500,000 ล้านยูโร หรือ$415,000 -$690,000ล้าน ในระยะแรก
วงQuartetวงนี้ เวลาใครโซโล่ หรือสลับเล่นเดี่ยวจะสร้างความกระเพื่อมให้ระบบการเงินโลก เป็นการสร้างสงครามการเงิน พิมพ์เงินกระดาษfiat moneyที่ไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุน เพราะอิงกันไปอิงกันมาเหมือนปราสาทสำรับไพ่House of Cards การพิมพ์เงินในลักษณะนี้จะหยุดไม่ได้ เพราะว่ารายได้จากการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจ ไม่พอกับการจ่ายภาระหนี้เพราะว่าหนี้โลกโดยรวมอยู่ที่$100ล้านล้าน สูงขึ้นจาก$70ล้านล้านเพื่อปี2007 ในขณะที่จีดีพีโลกอยู่ที่$75ล้านล้าน
ทำให้ระบบการเงินจบลงอย่างน่าเกลียด เมื่อQEไปต่อไม่ได้ เพราะเมื่อดอกเบี้ยขึ้น ภาระการจ่ายหนี้จะพุ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเพิ่มการทำQEไปเรื่อยๆจนค่าเงินเสื่อมค่า ทำให้เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง กลุ่มประเทศBRICSได้เตรียมการที่จะปลดแอกจากแก๊งค์พิมพ์เงินนี้ ถ้าปลดแอกไม่ได้ จะพากันลงเหวกันไปหมด
thanong
28/3/2014
http://www.cnbc.com/id/101527175