ผมอยากจะลองมาเล่าประสบการณของผมบ้างนะครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่าแต่ก่อนผมได้คบกับแฟนเราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ผมรู้สึกดีเวลาอยู่ใกล้เขา มีความสุขเสมอ จนมาวันนึงที่เค้าไม่มีแฟนผมเลย
ได้ตัดสินใจขอคบกับเขา เรื่องมันเริ่มต่อจากนี้แหละครับ เราคบกันมาได้ประมาณยังไม่ถึง1อาทิตย์ผมก็ได้จับได้ว่าเค้ายังไม่เลิกคุยกับพวกแฟน
เก่าและบรรดากิ๊กเก่าทั้งหลายผมได้ขอร้องเขาจนถึงขั้นยกมือไหว้บอกให้เขาเลิกคุยกัน (แม้เวลาที่ผมคบมันจะดูน้อยนะครับแต่เราได้เป็นเพื่อน
กันมาก่อนหน้านั้นประมาณ5ปีได้แล้ว) หลังจากวันนั้นผมก็เชื่อใจเขาต่อเพราะคิดว่าเขาคงไม่มาโกหกกันอีกแล้ว ต่างคนต่างโตพอสมควรแล้ว
มั้ง แถมยังรู้จักกันมาก่อนหน้านั้นอีก แต่ในเวลาไม่นานผมก็จับเขาได้อีกรอบนับเป็รอบ2 ครั้งนี้เขาแอบคุยกันในไลซึ่งแฟนผมก็ยืนยันว่าไม่ได้คุย
อะไรมากกว่าเพื่อน แต่ด้วยอารมณ์หึงหวงของผมก็บอกไปว่าทำไมสัญญาแล้วหนิว่าจะไม่คุย แล้วจะคุยทำไมจะคุยแบบไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้น ซึ่ง
ผมก็ยกตัวอย่างว่าถ้าเป็นผมทำบ้างกับคนที่มาชอบจะยอมมั้ย คำตอบมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ ครั้งนี้ผมบอกให้เค้าสาบานเพราะผมชอบ
นับ3มันอาจจะดูไม่ดีแต่ผมคิดว่าการนับสามกับสิ่งที่ผิดเดิมๆมันก็แปลว่าเค้าไม่ได้รักเราจริงๆหรอกแต่แฟนไม่ยอมสาบานแต่จะให้สัญญาแทน
และให้คำพูดที่สวยหรูว่าเราให้ความสำคัญกับคำสัญญามากกว่าสาบาน ผมเลยยอมบ้างให้เขาบ้าง และก็นั้นแหละในเวลาต่อมาได้ไม่ถึง1-
2อาทิตย์ผมก็จับเขาได้อีกครั้งหลายๆคนที่อ่านนี่อาจจะว่าผมก็ได้ว่าจะไปหาเรื่องปวดหัวหรือเรื่องที่ทำให้ตัวเองเจ็บทำไม ผมขอบอกเลยว่าผม
ยอมเจ็บเจียนตายดีกว่าโง่เป็นควาย ผมจับได้ครั้งนี้คุณคิดว่าผมจะให้อภัยมั้ย ในเมื่อนี่มันครั้งที่3แล้ว สรุปให้อภัยครับ
เขาได้สัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้วและสาบานเพิ่มเพื่อสร้างความเชื่อใจ แหะๆๆ ต่อๆๆๆๆมาๆๆๆๆ ผมก็ยังคงเจออีกเช่นเคย นับเป็นครั้ง
ที่4 คราวนี้ผมเจอเค้าแอบคุยโทรskyeกันเลยทีนี้ มันจี้ดๆๆขึ้นสมองเลย เฮ้อๆ ผมเลยถามเหตุผลไปว่าทำไมทำอย่างนี้ โดยเจ้าตัวก็ตอบว่าผม
ไม่มีเวลาให้เขาบ้างเลยมัวแต่ติดเพื่อนติดเกมส์ ไม่มีคุยกันเท่าไร แต่ผู้ชายคนนั้นเขาสนใจเลยพยายามติดต่อกันตลอด ตอนแรกที่ผมฟังถึงขั้น
อึ้งเลย โหๆๆๆ ไรมันจะหาเหตุผลได้ขนาดนี้ ในครั้งนี้ผมได้ขอโทษแล้วจะปรับปรุงตัวเองใหม่ แต่ผมก็ยังคงติเรื่องคุยกันอีกเช่นเคย ต่างฝ่าย
ต่างขอโทษแล้วเริ่มต้นกันใหม่อีก ในเวลาต่อมาผมก็ได้ไปดูหนังกัน พอดูจบระหว่างแฟนเข้าห้องน้ำผมจึงหยิบโทรศัพท์แฟนขึ้นมาดู ลองค้นหา
ดูหลายๆที่ ซึ่งเขามีความเนียนเพิ่มขึ้นเยอะแต่ยังเก็บหลักฐานไม่หมดอยู่ดี ผมได้เจอในคราวนี้ผมเริ่มเอือมกับที่เธอทำไว้ไม่ถึงเดือนเจอ5ครั้ง
แล้ว คราวนี้ก็เช่นเคยผมให้อภัยอีกรอบแล้วสินับเป็นครั้งที่5 โดนครั้งนี้ผมอยากเลิกแล้วเพราะมันเกินลิมิตมาแล้ว แต่แฟนผมก็ขอร้อง(แฟนผม
ชอบประมาณว่าถ้าเลิกกันก็อยากเป็นเพื่อนกัน ผมเคยให้ไปแล้วก็ไม่เคยฟัง)ผมเลยยื่นคำไปว่าถ้าให้โอกาศอีก จับได้อีกครั้งผมจะไม่เป็นเพื่อน
เธออีกแล้วนะกับเลิกตอนนี้คือยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ไอ้ผมก็นึกว่าเธอจะรักผมมากจริงๆเธอกับตอบว่าขอโอกาสอีกผมนี่ งง เลย ตอนนั้นนึกว่าจะ
เลือกอีกแบบซะอีกๆๆๆๆๆ เช่นเคยในครั้งนี้กลับจับได้อีกว่าเค้ายังแอบคุยผ่านไลโดยการอันบล็อกแล้วคุยเส็จก็ลบออกที่คอล(คือตอนแรกผม
บล็อกได้แล้วตั้งแต่ครั้งที่2)ผมไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้กับตัวเองคือผมเป็คนตื่นยาก แล้วเช้าเค้าไปเรียนแต่พอเรียนเส็จกลับมาเห็นเขานั่งทำงานคุย
คอลไปเรื่อยๆก็นึกว่าเพื่อนเลยไม่สนใจอะไร แต่พอแฟนผมเริ่มคุยเสียงดังมากขึ้นผมก็เลยหงุดหงิดตื่นขึ้นมาแต่ไม่ได้ลืมตานะนอนฟังไปเรื่อยๆ
จนเริ่มมั่นใจแล้วว่ามันไม่ใช่เพื่อนแน่ๆเลยย่องไปดูว่าคุยกับใคร มันเป็นมันอีกแล้วๆ ครั้งนี้ผมคิดว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะผมขับรถออกจากหอ
อย่างเร็วเลยเพราะไม่อยากที่จะคุยไรกับเขาอีกแล้วแฟนผมก็โทรมาง้อจนกลับไปได้แต่พอถามเข้าก็ทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อน ทำหน้าไม่รู้สึกผิด
อะไรแล้วก็มาขอโทษแล้วก็อ้อนผมเป็นประเภทเจออ้อนไม่ค่อยได้ ก็เริ่มใจอ่อนผมเลยขอเวลาทำใจแต่เขากลับไม่ให้ ดึงดันต้องรีบได้ในทันที
ว่าจะคบต่อมั้ย โดยส่วนตัวตอนนั้นผมคิดว่ามันคงอยากไปหาคนที่มันคุยใจจะแก่แล้วมันทำตัวเป็นคนดีซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าไม่ดีกับเรื่องไม่เจ้าชู้ไม่ได้
สุดท้ายผมก็เลยกลับไปคบใหม่จากการโดนตื้ออยู่นานพอควรและสัญญาเพิ่มว่าจะไม่เป็นเพื่อนอย่างเด็ดขาดถ้าจับได้อีก นับเป็นครั้งที่ 6 ที่ให้
อภัย และแล้วในวันที่ 6 กันยายน ผมก็ได้ไปวัดกะเพื่อนและแฟนผมที่อยุธยาไปหลายวัดมากและก็สาบานไว้หลายวัดมากถ้าไปมีคนอื่นขอให้
หล่มจม(สาบาน2คนนะ)ไรงี้ ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่ได้เจอการนอกใจอีกเลย(ที่ผมนับนะ มันก็พอมีเล็กน้อยแต่ไม่ใส่ใจ)ผมทั้งมีความสุขและดีใจ
มาก สบายไปเยอะไม่ต้องมานั่งปวดหัว และแล้ววันเช็กบิลก็มาถึงจนได้ผมไปเจอไอดีไล(ปล. ผมนี่ลืมเขียนบอกอีกแล้วว่าผมลบไลคนๆนั้นออก
ในครั้งที่6) และอีเมลพร้อมพลาสเวิด ก็เลยคิดว่าเป็นเฟสบุ๊คในตอนนั้นก็พยายามคิดว่าคงไม่มีไรหรอกแต่ พอ login เข้าไปเท่านั้นแหละ สิ่งที่
ในใจคิดก็เป็นจริง

ช็อกดิครับคนที่ให้อภัยมาขนาดนี้ยังจะทำกับเรื่องเดิมๆอยู่ได้ ในนั้นแฟนผมก็ไปคุยกันตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนแล้วพึ่งมาเจอ
ตอนตุลาคม พอผมเริ่มทำใจให้นิ่งผมก็ลองไปหลอกถาม กับได้คำตอบพร้อมหน้าที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกผิดและก็ทำเป็นจำไม่ได้ว่าคุย
ตอนไหนและก็ประมาณวันที่ 6 ตั้งแต่ไปวัดแล้ว(หน้าซื่อมากตอนนั้น) แต่ที่ผมเห็นล่าสุดที่ในแชทมัน 25( คิดในใจ) ผมไปไม่ถูกเลยได้แต่
ทำใจปลงกับสิ่งที่เจอผมทิ้งเรื่องนี้ไว้อีก2-3วันในช่วงนั้นก็จะพยายามแหย่ พยายามให้เขารู้ว่าผมรู้แล้วและให้เขาสารภาพผมจะได้รู้สึกดีขึ้นผม
กับได้พวกคำตอบเดิมๆและน้ำเสียงร่าเริงเดิมๆ ผมเลยตัดสินใจพาเพื่อนผมไปเพื่อไปกันไว้ถ้าผมอารมณ์รุนแรง ผมเริ่มพูดในสิ่งที่ผมรู้ แต่สิ่งที่
ผมเห็นท่าทีของแฟนผมมีการหัวเราะเบาๆเหมือนเด็กโดนจับได้และพยายามมาใช้มุขเดิมๆคือการอ้อน แต่หน้าตาไม่รู้สึกผิดอะไรเลย พอผมเริ่ม
ไม่ยอมบ้างเขาก็งอน ต่างคนต่างไม่คุยกัน จริงๆตอนนั้นผมอยากง้อนะแต่ผมก็ไม่ได้ง้อไม่ใช่ว่าไม่รักหรือหยิ่งในศักดิ์ศรีมากกว่า
แต่สิ่งที่เขาทำมันมากเกินจะเยียวยาจนไม่มั่นใจว่าจะคิดได้อีกมั้ย แล้วครั้งนี้เขาก็ใช้มุขเดิมๆอีกนั้นแหละ อีกเช่นเคยคือจะไม่เป็น
เพื่อนจะไม่มาให้เห็นหน้า ให้ไปสัญญาต่อหน้าแม่(ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเขา จะให้ผมเชื่ออะไรได้อีก ผมได้แต่ งง ว่ามีด้วยหรอคนแบบนี้)มีการใช้เพิ่ม
นิดหน่อยตรงเขามาร้องเพลงรักเดียวของพี่ปู ผิดเพียงแปดถึงเก้าซะที่ไหน

(นั้นไงทำไมมาร้องอย่างนี้เธอพึ่งผิดไปเจ็ดเองนะจะมี8กะ9อีก
หรอ)แล้วเขาก็ขอเราอย่าไปเลย เขารักเรามากนะ มากที่สุดเลย ผมคิดไรไม่ออกตอนนั้นเลยขอเวลาคิดต่ออีก ในเวลาต่อมาเขาก็ได้โพสว่าถ้า
รักกันจริงต้องให้อภัยกันได้เสมอสิ โดยแท็กคนที่เป็นแฟนเก่าผม(เขาคงไปปรึกษากันมั้ง แต่คนนี้เขาแท็กไปคือคนที่เขาทิ้งผมไปหาคนอื่นๆๆ
และปัจจุบันก็กลับไปคบกับแฟนเก่าตอนมัธยม) พอประโยดนี้มามันทำให้ผมคิดในหลายๆอย่างเปลี่ยนไปมาก ผมกลับไปมองแฟนเก่าเจ้าของ
ความคิดนี้ นั่นสินะเธอรักเราหรือเธอรักตัวเธอเองมากกว่ากันแน่ ตอนที่คบเรา เราก็ไม่ได้ทำไรผิดหนิ หายไปแล้วค่อยมาบอกเลิก เฮ้อๆ คนเรานี่
เห็นแก่ตัวเนอะ พอความคิดนี้ออกมามันเลยคิดต่อไปว่าแล้วแฟนเราล่ะมันรักเราหรือมันรักตัวเอง
ป.ล.ผมควรทำอย่างไรบ้างช่วยออกความคิดเห็นหน่อยนะครับ
ป.ล.2จะด่าผมก็ได้นะ แล้วแต่เลย
ป.ล.3ช่วยออกความคิดเห็นได้นะครับ
ป.ล.4ที่จริงมันมีอีกมากแต่ผมขอเขียนแค่นี้แล้วกันเดี๋ยวเรื่องมันจะดูแย่กว่านี่
เมื่อคุณจับแฟนตัวเองได้ว่านอกใจจะทำอย่างไร ?
เรื่องมันมีอยู่ว่าแต่ก่อนผมได้คบกับแฟนเราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ผมรู้สึกดีเวลาอยู่ใกล้เขา มีความสุขเสมอ จนมาวันนึงที่เค้าไม่มีแฟนผมเลย
ได้ตัดสินใจขอคบกับเขา เรื่องมันเริ่มต่อจากนี้แหละครับ เราคบกันมาได้ประมาณยังไม่ถึง1อาทิตย์ผมก็ได้จับได้ว่าเค้ายังไม่เลิกคุยกับพวกแฟน
เก่าและบรรดากิ๊กเก่าทั้งหลายผมได้ขอร้องเขาจนถึงขั้นยกมือไหว้บอกให้เขาเลิกคุยกัน (แม้เวลาที่ผมคบมันจะดูน้อยนะครับแต่เราได้เป็นเพื่อน
กันมาก่อนหน้านั้นประมาณ5ปีได้แล้ว) หลังจากวันนั้นผมก็เชื่อใจเขาต่อเพราะคิดว่าเขาคงไม่มาโกหกกันอีกแล้ว ต่างคนต่างโตพอสมควรแล้ว
มั้ง แถมยังรู้จักกันมาก่อนหน้านั้นอีก แต่ในเวลาไม่นานผมก็จับเขาได้อีกรอบนับเป็รอบ2 ครั้งนี้เขาแอบคุยกันในไลซึ่งแฟนผมก็ยืนยันว่าไม่ได้คุย
อะไรมากกว่าเพื่อน แต่ด้วยอารมณ์หึงหวงของผมก็บอกไปว่าทำไมสัญญาแล้วหนิว่าจะไม่คุย แล้วจะคุยทำไมจะคุยแบบไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้น ซึ่ง
ผมก็ยกตัวอย่างว่าถ้าเป็นผมทำบ้างกับคนที่มาชอบจะยอมมั้ย คำตอบมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ ครั้งนี้ผมบอกให้เค้าสาบานเพราะผมชอบ
นับ3มันอาจจะดูไม่ดีแต่ผมคิดว่าการนับสามกับสิ่งที่ผิดเดิมๆมันก็แปลว่าเค้าไม่ได้รักเราจริงๆหรอกแต่แฟนไม่ยอมสาบานแต่จะให้สัญญาแทน
และให้คำพูดที่สวยหรูว่าเราให้ความสำคัญกับคำสัญญามากกว่าสาบาน ผมเลยยอมบ้างให้เขาบ้าง และก็นั้นแหละในเวลาต่อมาได้ไม่ถึง1-
2อาทิตย์ผมก็จับเขาได้อีกครั้งหลายๆคนที่อ่านนี่อาจจะว่าผมก็ได้ว่าจะไปหาเรื่องปวดหัวหรือเรื่องที่ทำให้ตัวเองเจ็บทำไม ผมขอบอกเลยว่าผม
ยอมเจ็บเจียนตายดีกว่าโง่เป็นควาย ผมจับได้ครั้งนี้คุณคิดว่าผมจะให้อภัยมั้ย ในเมื่อนี่มันครั้งที่3แล้ว สรุปให้อภัยครับ
เขาได้สัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้วและสาบานเพิ่มเพื่อสร้างความเชื่อใจ แหะๆๆ ต่อๆๆๆๆมาๆๆๆๆ ผมก็ยังคงเจออีกเช่นเคย นับเป็นครั้ง
ที่4 คราวนี้ผมเจอเค้าแอบคุยโทรskyeกันเลยทีนี้ มันจี้ดๆๆขึ้นสมองเลย เฮ้อๆ ผมเลยถามเหตุผลไปว่าทำไมทำอย่างนี้ โดยเจ้าตัวก็ตอบว่าผม
ไม่มีเวลาให้เขาบ้างเลยมัวแต่ติดเพื่อนติดเกมส์ ไม่มีคุยกันเท่าไร แต่ผู้ชายคนนั้นเขาสนใจเลยพยายามติดต่อกันตลอด ตอนแรกที่ผมฟังถึงขั้น
อึ้งเลย โหๆๆๆ ไรมันจะหาเหตุผลได้ขนาดนี้ ในครั้งนี้ผมได้ขอโทษแล้วจะปรับปรุงตัวเองใหม่ แต่ผมก็ยังคงติเรื่องคุยกันอีกเช่นเคย ต่างฝ่าย
ต่างขอโทษแล้วเริ่มต้นกันใหม่อีก ในเวลาต่อมาผมก็ได้ไปดูหนังกัน พอดูจบระหว่างแฟนเข้าห้องน้ำผมจึงหยิบโทรศัพท์แฟนขึ้นมาดู ลองค้นหา
ดูหลายๆที่ ซึ่งเขามีความเนียนเพิ่มขึ้นเยอะแต่ยังเก็บหลักฐานไม่หมดอยู่ดี ผมได้เจอในคราวนี้ผมเริ่มเอือมกับที่เธอทำไว้ไม่ถึงเดือนเจอ5ครั้ง
แล้ว คราวนี้ก็เช่นเคยผมให้อภัยอีกรอบแล้วสินับเป็นครั้งที่5 โดนครั้งนี้ผมอยากเลิกแล้วเพราะมันเกินลิมิตมาแล้ว แต่แฟนผมก็ขอร้อง(แฟนผม
ชอบประมาณว่าถ้าเลิกกันก็อยากเป็นเพื่อนกัน ผมเคยให้ไปแล้วก็ไม่เคยฟัง)ผมเลยยื่นคำไปว่าถ้าให้โอกาศอีก จับได้อีกครั้งผมจะไม่เป็นเพื่อน
เธออีกแล้วนะกับเลิกตอนนี้คือยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ไอ้ผมก็นึกว่าเธอจะรักผมมากจริงๆเธอกับตอบว่าขอโอกาสอีกผมนี่ งง เลย ตอนนั้นนึกว่าจะ
เลือกอีกแบบซะอีกๆๆๆๆๆ เช่นเคยในครั้งนี้กลับจับได้อีกว่าเค้ายังแอบคุยผ่านไลโดยการอันบล็อกแล้วคุยเส็จก็ลบออกที่คอล(คือตอนแรกผม
บล็อกได้แล้วตั้งแต่ครั้งที่2)ผมไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้กับตัวเองคือผมเป็คนตื่นยาก แล้วเช้าเค้าไปเรียนแต่พอเรียนเส็จกลับมาเห็นเขานั่งทำงานคุย
คอลไปเรื่อยๆก็นึกว่าเพื่อนเลยไม่สนใจอะไร แต่พอแฟนผมเริ่มคุยเสียงดังมากขึ้นผมก็เลยหงุดหงิดตื่นขึ้นมาแต่ไม่ได้ลืมตานะนอนฟังไปเรื่อยๆ
จนเริ่มมั่นใจแล้วว่ามันไม่ใช่เพื่อนแน่ๆเลยย่องไปดูว่าคุยกับใคร มันเป็นมันอีกแล้วๆ ครั้งนี้ผมคิดว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะผมขับรถออกจากหอ
อย่างเร็วเลยเพราะไม่อยากที่จะคุยไรกับเขาอีกแล้วแฟนผมก็โทรมาง้อจนกลับไปได้แต่พอถามเข้าก็ทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อน ทำหน้าไม่รู้สึกผิด
อะไรแล้วก็มาขอโทษแล้วก็อ้อนผมเป็นประเภทเจออ้อนไม่ค่อยได้ ก็เริ่มใจอ่อนผมเลยขอเวลาทำใจแต่เขากลับไม่ให้ ดึงดันต้องรีบได้ในทันที
ว่าจะคบต่อมั้ย โดยส่วนตัวตอนนั้นผมคิดว่ามันคงอยากไปหาคนที่มันคุยใจจะแก่แล้วมันทำตัวเป็นคนดีซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าไม่ดีกับเรื่องไม่เจ้าชู้ไม่ได้
สุดท้ายผมก็เลยกลับไปคบใหม่จากการโดนตื้ออยู่นานพอควรและสัญญาเพิ่มว่าจะไม่เป็นเพื่อนอย่างเด็ดขาดถ้าจับได้อีก นับเป็นครั้งที่ 6 ที่ให้
อภัย และแล้วในวันที่ 6 กันยายน ผมก็ได้ไปวัดกะเพื่อนและแฟนผมที่อยุธยาไปหลายวัดมากและก็สาบานไว้หลายวัดมากถ้าไปมีคนอื่นขอให้
หล่มจม(สาบาน2คนนะ)ไรงี้ ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่ได้เจอการนอกใจอีกเลย(ที่ผมนับนะ มันก็พอมีเล็กน้อยแต่ไม่ใส่ใจ)ผมทั้งมีความสุขและดีใจ
มาก สบายไปเยอะไม่ต้องมานั่งปวดหัว และแล้ววันเช็กบิลก็มาถึงจนได้ผมไปเจอไอดีไล(ปล. ผมนี่ลืมเขียนบอกอีกแล้วว่าผมลบไลคนๆนั้นออก
ในครั้งที่6) และอีเมลพร้อมพลาสเวิด ก็เลยคิดว่าเป็นเฟสบุ๊คในตอนนั้นก็พยายามคิดว่าคงไม่มีไรหรอกแต่ พอ login เข้าไปเท่านั้นแหละ สิ่งที่
ในใจคิดก็เป็นจริง
ตอนตุลาคม พอผมเริ่มทำใจให้นิ่งผมก็ลองไปหลอกถาม กับได้คำตอบพร้อมหน้าที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกผิดและก็ทำเป็นจำไม่ได้ว่าคุย
ตอนไหนและก็ประมาณวันที่ 6 ตั้งแต่ไปวัดแล้ว(หน้าซื่อมากตอนนั้น) แต่ที่ผมเห็นล่าสุดที่ในแชทมัน 25( คิดในใจ) ผมไปไม่ถูกเลยได้แต่
ทำใจปลงกับสิ่งที่เจอผมทิ้งเรื่องนี้ไว้อีก2-3วันในช่วงนั้นก็จะพยายามแหย่ พยายามให้เขารู้ว่าผมรู้แล้วและให้เขาสารภาพผมจะได้รู้สึกดีขึ้นผม
กับได้พวกคำตอบเดิมๆและน้ำเสียงร่าเริงเดิมๆ ผมเลยตัดสินใจพาเพื่อนผมไปเพื่อไปกันไว้ถ้าผมอารมณ์รุนแรง ผมเริ่มพูดในสิ่งที่ผมรู้ แต่สิ่งที่
ผมเห็นท่าทีของแฟนผมมีการหัวเราะเบาๆเหมือนเด็กโดนจับได้และพยายามมาใช้มุขเดิมๆคือการอ้อน แต่หน้าตาไม่รู้สึกผิดอะไรเลย พอผมเริ่ม
ไม่ยอมบ้างเขาก็งอน ต่างคนต่างไม่คุยกัน จริงๆตอนนั้นผมอยากง้อนะแต่ผมก็ไม่ได้ง้อไม่ใช่ว่าไม่รักหรือหยิ่งในศักดิ์ศรีมากกว่า
แต่สิ่งที่เขาทำมันมากเกินจะเยียวยาจนไม่มั่นใจว่าจะคิดได้อีกมั้ย แล้วครั้งนี้เขาก็ใช้มุขเดิมๆอีกนั้นแหละ อีกเช่นเคยคือจะไม่เป็น
เพื่อนจะไม่มาให้เห็นหน้า ให้ไปสัญญาต่อหน้าแม่(ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเขา จะให้ผมเชื่ออะไรได้อีก ผมได้แต่ งง ว่ามีด้วยหรอคนแบบนี้)มีการใช้เพิ่ม
นิดหน่อยตรงเขามาร้องเพลงรักเดียวของพี่ปู ผิดเพียงแปดถึงเก้าซะที่ไหน
หรอ)แล้วเขาก็ขอเราอย่าไปเลย เขารักเรามากนะ มากที่สุดเลย ผมคิดไรไม่ออกตอนนั้นเลยขอเวลาคิดต่ออีก ในเวลาต่อมาเขาก็ได้โพสว่าถ้า
รักกันจริงต้องให้อภัยกันได้เสมอสิ โดยแท็กคนที่เป็นแฟนเก่าผม(เขาคงไปปรึกษากันมั้ง แต่คนนี้เขาแท็กไปคือคนที่เขาทิ้งผมไปหาคนอื่นๆๆ
และปัจจุบันก็กลับไปคบกับแฟนเก่าตอนมัธยม) พอประโยดนี้มามันทำให้ผมคิดในหลายๆอย่างเปลี่ยนไปมาก ผมกลับไปมองแฟนเก่าเจ้าของ
ความคิดนี้ นั่นสินะเธอรักเราหรือเธอรักตัวเธอเองมากกว่ากันแน่ ตอนที่คบเรา เราก็ไม่ได้ทำไรผิดหนิ หายไปแล้วค่อยมาบอกเลิก เฮ้อๆ คนเรานี่
เห็นแก่ตัวเนอะ พอความคิดนี้ออกมามันเลยคิดต่อไปว่าแล้วแฟนเราล่ะมันรักเราหรือมันรักตัวเอง
ป.ล.ผมควรทำอย่างไรบ้างช่วยออกความคิดเห็นหน่อยนะครับ
ป.ล.2จะด่าผมก็ได้นะ แล้วแต่เลย
ป.ล.3ช่วยออกความคิดเห็นได้นะครับ
ป.ล.4ที่จริงมันมีอีกมากแต่ผมขอเขียนแค่นี้แล้วกันเดี๋ยวเรื่องมันจะดูแย่กว่านี่