สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมว่าเรื่องนี้นำเสนอความเป็นจริงของการแต่งงานได้ดีนะ
เพราะมันไม่ใช่ทุกคู่หรอกที่แต่งแล้วจะราบรื่นหรือเป็นโลกที่สวยงามไปตลอด บางคนแต่งกันแล้ว เบื่อหน่ายแทบตาย แต่ก็ทนอยู่เพราะลูก บางคนทนอยู่ไปเรื่อยๆกลัวคำครหาถ้าต้องเลิกกัน บางคนอยู่ไปเรื่อยๆเพราะอายุเยอะแล้ว คงหาใครไม่ได้อีก กลัวไม่มั่นคง กลัวแก่ตัวไม่มีคนดูแล กลัวไม่ก้าวหน้าในการงาน กลัวขัดแย้งกับญาติพี่น้องอีกฝั่ง ฯลฯ เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากยอมรับในจุดนี้นักหรอก
ผมชอบช่วงท้ายตอนจบมากเลยนะ ที่พระเอกระเบิดอารมณ์ใส่เอมี่ว่ามันมีความสุขยังไง คนสองคนทนอยู่ด้วยกัน คอยควบคุมกันละกัน เจ้ากี้เจ้าการให้อีกฝ่ายทำตามความต้องการของตัวเอง
แล้วเอมี่ก็ตอบว่า การแต่งงานมันก็คือเรื่องแบบนั้นแหล่ะ
คือมันเป็นอะไรที่จริงมากๆในมุมมองผมนะ เพียงแต่หนังนำเสนอประเด็นนี้ออกมาในระดับฮาร์ดคอร์มากๆเท่านั้นเอง
เพราะมันไม่ใช่ทุกคู่หรอกที่แต่งแล้วจะราบรื่นหรือเป็นโลกที่สวยงามไปตลอด บางคนแต่งกันแล้ว เบื่อหน่ายแทบตาย แต่ก็ทนอยู่เพราะลูก บางคนทนอยู่ไปเรื่อยๆกลัวคำครหาถ้าต้องเลิกกัน บางคนอยู่ไปเรื่อยๆเพราะอายุเยอะแล้ว คงหาใครไม่ได้อีก กลัวไม่มั่นคง กลัวแก่ตัวไม่มีคนดูแล กลัวไม่ก้าวหน้าในการงาน กลัวขัดแย้งกับญาติพี่น้องอีกฝั่ง ฯลฯ เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากยอมรับในจุดนี้นักหรอก
ผมชอบช่วงท้ายตอนจบมากเลยนะ ที่พระเอกระเบิดอารมณ์ใส่เอมี่ว่ามันมีความสุขยังไง คนสองคนทนอยู่ด้วยกัน คอยควบคุมกันละกัน เจ้ากี้เจ้าการให้อีกฝ่ายทำตามความต้องการของตัวเอง
แล้วเอมี่ก็ตอบว่า การแต่งงานมันก็คือเรื่องแบบนั้นแหล่ะ
คือมันเป็นอะไรที่จริงมากๆในมุมมองผมนะ เพียงแต่หนังนำเสนอประเด็นนี้ออกมาในระดับฮาร์ดคอร์มากๆเท่านั้นเอง
ความคิดเห็นที่ 6
นี้แหละที่ทำให้นิยายเรื่องนี้ดัง เพราะมันจบแบบกระทืบความรู้สึกคนดู
ชีวิตจริงมันไม่ได้มีอะไรเห็นเป็นรูปธรรมแบบละครหรอกครับ "ใครทำอะไรไว้ ต้องได้รับผลกรรม"
ตอนจบตัวร้ายเป็นบ้า ถูกจับเข้าคุก หรือตาย
แต่ถึงกระนั้น ผลกรรมที่ตัวละครได้รับในเรื่องก็คือ ความรู้สึกไม่ไว้วางใจต่อกัน การที่ต้องทนอยู่กันไป ทั้งๆที่หมดเยื่อใยกันแล้ว มันก็เหมือนการตกนรกทั้งเป็นนั้นแหละ หรือถ้าจะพูดแบบซึ้งๆก็คือ การที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกันกับใคร มันไม่ใช่แค่ว่าเรารักเขาแค่ไหน แต่เราทนรับข้อเสียเขาได้มากแค่ไหนต่างหาก
หรืออย่างน้อย มันก็คงต้องหาผลประโยชน์บางอย่างรวมกัน เพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้ไปรอด
ชีวิตจริงมันไม่ได้มีอะไรเห็นเป็นรูปธรรมแบบละครหรอกครับ "ใครทำอะไรไว้ ต้องได้รับผลกรรม"
ตอนจบตัวร้ายเป็นบ้า ถูกจับเข้าคุก หรือตาย
แต่ถึงกระนั้น ผลกรรมที่ตัวละครได้รับในเรื่องก็คือ ความรู้สึกไม่ไว้วางใจต่อกัน การที่ต้องทนอยู่กันไป ทั้งๆที่หมดเยื่อใยกันแล้ว มันก็เหมือนการตกนรกทั้งเป็นนั้นแหละ หรือถ้าจะพูดแบบซึ้งๆก็คือ การที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกันกับใคร มันไม่ใช่แค่ว่าเรารักเขาแค่ไหน แต่เราทนรับข้อเสียเขาได้มากแค่ไหนต่างหาก
หรืออย่างน้อย มันก็คงต้องหาผลประโยชน์บางอย่างรวมกัน เพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้ไปรอด
ความคิดเห็นที่ 16
ตอนจบผมไม่ได้คาใจอะไรเลยนะ ไม่ได้อุทานว่า เฮ้ย จบแบบนี้เลยเหรอ
คือ ตอนจบของเรื่อง ก็เป็นผลกรรมของ นิค ที่ต้องรับอยู่แล้ว เพราะดันไปมีชู้ ทั้งที่ เอมี่ ก็ไม่ได้นอกใจ
เลยโดน วางแผนฆาตกรรมเมีย เกือบเป็นคดีให้ต้องโดนโทษประหาร
สุดท้าย เอมี่ก็กลับมาอยู่ด้วย เนื่องจากถูกใจที่สามีพูดออกสื่อว่ารักเธอ ต้องการให้เธอกลับมา
คือผู้ชายทั้งเจ้าชู้ ขี้เกียจ กวนประสาท และชอบใช้อารมณ์ เจอเมียโรคจิต ผมว่าก็สมกันดีแล้วล่ะ
คนเลวไปไหนไม่รอด เจอเมียแบบนี้ก็สมควรแล้ว
คือ ตอนจบของเรื่อง ก็เป็นผลกรรมของ นิค ที่ต้องรับอยู่แล้ว เพราะดันไปมีชู้ ทั้งที่ เอมี่ ก็ไม่ได้นอกใจ
เลยโดน วางแผนฆาตกรรมเมีย เกือบเป็นคดีให้ต้องโดนโทษประหาร
สุดท้าย เอมี่ก็กลับมาอยู่ด้วย เนื่องจากถูกใจที่สามีพูดออกสื่อว่ารักเธอ ต้องการให้เธอกลับมา
คือผู้ชายทั้งเจ้าชู้ ขี้เกียจ กวนประสาท และชอบใช้อารมณ์ เจอเมียโรคจิต ผมว่าก็สมกันดีแล้วล่ะ
คนเลวไปไหนไม่รอด เจอเมียแบบนี้ก็สมควรแล้ว
แสดงความคิดเห็น
[สปอยล์ล้านเปอร์เซ็นต์] ข้องใจในตอนจบ Gone Girl มากครับ