ถ้าจะบอกว่ากิจกรรมแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์ "PTT Science Challenge" หรือ "ประลองวิทย์ พิชิตจักรวาล" เป็นการโหมโรงให้กับการเปิดโรงเรียนกำเนิดวิทย์ กับสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คงไม่ผิดเท่าไรนัก
เพราะเมื่อปีที่แล้ว ปตท.ได้ประกาศว่าจะจัดตั้งโรงเรียนและสถาบันอุดมศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ บนพื้นที่ประมาณ 900 ไร่ ที่ ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง พร้อมกับตั้งเป้าหมายให้เป็นสถาบันการศึกษาที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง โดยจะเปิดภาคเรียนในปี 2558
จนมาถึงตอนนี้มี PTT Science Challenge อันสอดรับกับการหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างคนด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอย่างจริงจัง โดย "ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า บริษัทกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจจากการใช้ฐานทรัพยากรเป็นหลักมาเป็นองค์กรที่ใช้ฐานขององค์ความรู้ในทุกกระบวนการซึ่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นอีกตัวบ่งชี้ในการประสบความสำเร็จ ทำให้ ปตท.ต้องการพัฒนาด้านนี้ในทุกมิติ
จึงเป็นที่มาของกิจกรรมทดลองความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัว และคนไทยมีศักยภาพในการใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้
PTT Science Challenge เป็นเกมตอบคำถามโจทย์วิทยาศาสตร์ที่ท้าทาย ซึ่งจะมีทั้งการตอบปัญหา, ชมวีดิทัศน์แล้วตอบคำถาม รวมถึงแก้ไขโจทย์วิทยาศาสตร์ รูปแบบเกมพัฒนามาจากการระดมสมองของ 10 นักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย และนักวิจัยของกลุ่ม ปตท.
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ต้องการให้คนไทยทุกคนเข้าถึงวิทยาศาสตร์ คุณสมบัติผู้เข้าแข่งขันที่กำหนดไว้จึงค่อนข้างเปิดกว้าง คือ มีอายุ 15 - 55 ปี มีความสนใจ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ และมีสุขภาพดีเยี่ยม โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษา และสายงานอาชีพ
"ดร.ไพรินทร์" มองว่ากิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันแสดงความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ได้เต็มที่ ซึ่งนอกจากจะสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้ชมแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นการตั้งคำถามกลับมายังผู้ชมเองว่า หากตนเองต้องแก้โจทย์ด่านต่าง ๆ จะทำอย่างไร หรือทำไมคำตอบจึงเป็นเช่นนั้น
"ในรอบคัดเลือกไม่เพียงแต่จะมีการแข่งขันอย่างเดียว ยังมีการนำอุปกรณ์ และองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไปจัดแสดงให้กับผู้ชมได้เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไปในตัว ซึ่งเชื่อว่าคำถามของผู้ชมที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันจะเป็นพลังที่ทำให้คนก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อันเป็นเป้าหมายที่กลุ่ม ปตท.มุ่งหวังให้เกิดขึ้นในคนไทย เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่และสร้างนักวิจัยที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า"
ทั้งนั้นคณะกรรมการจะทำการคัดเลือกหาผู้ชนะของแต่ละภูมิภาค แล้วมาแข่งขันต่อในรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ส่วนคือ รอบคัดเลือกระดับภูมิภาคช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. 2557 และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 26 ต.ค. 2557
โดยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศ 3 รางวัล คือ ทริปชมศูนย์อวกาศเคนเนดี้ขององค์การนาซ่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมนี้ คาดว่า ปตท.จะมีโครงการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับวิทยาศาสตร์ออกมาอีก อันเป็นการตอกย้ำให้เห็นภาพของ ปตท.ในการเป็นองค์กรที่สนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์อย่างเต็มตัว และแน่นอนว่าย่อมเชื่อมโยงไปถึงการเปิดสถาบันการศึกษาของ ปตท.ด้วย
ใครน่อ จะได้เที่ยวชมศูนย์อวกาศเคนเนดี้ - PTT Science Challenge
เพราะเมื่อปีที่แล้ว ปตท.ได้ประกาศว่าจะจัดตั้งโรงเรียนและสถาบันอุดมศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ บนพื้นที่ประมาณ 900 ไร่ ที่ ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง พร้อมกับตั้งเป้าหมายให้เป็นสถาบันการศึกษาที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง โดยจะเปิดภาคเรียนในปี 2558
จนมาถึงตอนนี้มี PTT Science Challenge อันสอดรับกับการหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างคนด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอย่างจริงจัง โดย "ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า บริษัทกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจจากการใช้ฐานทรัพยากรเป็นหลักมาเป็นองค์กรที่ใช้ฐานขององค์ความรู้ในทุกกระบวนการซึ่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นอีกตัวบ่งชี้ในการประสบความสำเร็จ ทำให้ ปตท.ต้องการพัฒนาด้านนี้ในทุกมิติ
จึงเป็นที่มาของกิจกรรมทดลองความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัว และคนไทยมีศักยภาพในการใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้
PTT Science Challenge เป็นเกมตอบคำถามโจทย์วิทยาศาสตร์ที่ท้าทาย ซึ่งจะมีทั้งการตอบปัญหา, ชมวีดิทัศน์แล้วตอบคำถาม รวมถึงแก้ไขโจทย์วิทยาศาสตร์ รูปแบบเกมพัฒนามาจากการระดมสมองของ 10 นักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย และนักวิจัยของกลุ่ม ปตท.
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ต้องการให้คนไทยทุกคนเข้าถึงวิทยาศาสตร์ คุณสมบัติผู้เข้าแข่งขันที่กำหนดไว้จึงค่อนข้างเปิดกว้าง คือ มีอายุ 15 - 55 ปี มีความสนใจ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ และมีสุขภาพดีเยี่ยม โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษา และสายงานอาชีพ
"ดร.ไพรินทร์" มองว่ากิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันแสดงความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ได้เต็มที่ ซึ่งนอกจากจะสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้ชมแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นการตั้งคำถามกลับมายังผู้ชมเองว่า หากตนเองต้องแก้โจทย์ด่านต่าง ๆ จะทำอย่างไร หรือทำไมคำตอบจึงเป็นเช่นนั้น
"ในรอบคัดเลือกไม่เพียงแต่จะมีการแข่งขันอย่างเดียว ยังมีการนำอุปกรณ์ และองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไปจัดแสดงให้กับผู้ชมได้เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไปในตัว ซึ่งเชื่อว่าคำถามของผู้ชมที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันจะเป็นพลังที่ทำให้คนก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อันเป็นเป้าหมายที่กลุ่ม ปตท.มุ่งหวังให้เกิดขึ้นในคนไทย เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่และสร้างนักวิจัยที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า"
ทั้งนั้นคณะกรรมการจะทำการคัดเลือกหาผู้ชนะของแต่ละภูมิภาค แล้วมาแข่งขันต่อในรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ส่วนคือ รอบคัดเลือกระดับภูมิภาคช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. 2557 และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 26 ต.ค. 2557 โดยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศ 3 รางวัล คือ ทริปชมศูนย์อวกาศเคนเนดี้ขององค์การนาซ่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมนี้ คาดว่า ปตท.จะมีโครงการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับวิทยาศาสตร์ออกมาอีก อันเป็นการตอกย้ำให้เห็นภาพของ ปตท.ในการเป็นองค์กรที่สนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์อย่างเต็มตัว และแน่นอนว่าย่อมเชื่อมโยงไปถึงการเปิดสถาบันการศึกษาของ ปตท.ด้วย