Counter Attack Mankind บทที่ 4 ความขัดข้องของอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสามมิติ

กระทู้สนทนา
บทที่ 1ดวงตาที่มุ่งมั่น
http://pantip.com/topic/32646950
บทที่ 2 คำถามที่ไร้คำตอบ
http://pantip.com/topic/32656476
บทที่ 3 วันแรกของการฝึกกับหน่วยพิเศษ
http://pantip.com/topic/32703016

4
ความขัดข้องของอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสามมิติ
วันต่อมาเอเลนถูกรีไวปลุกให้ตื่นแต่เช้าเช่นเดียวกับเมื่อวาน หลังจากสั่งงานต่างๆรวมทั้งกำชับถึงเรื่องการฝึกที่จะเริ่มขึ้นในตอนสายแล้ว เขาก็ขี่ม้าเข้าไปในเมืองเพื่อเข้าประชุมแผนการสำรวจครั้งต่อไปกับเอลวินและฮันซี่  พอล้างหน้าล้างตาเสร็จ เด็กหนุ่มก็เดินเข้าไปในโรงครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้า แต่กลับต้องแปลกใจเมื่อเห็นเพตร้ากำลังก้มหน้าก้มตาเรียงฟืนลงไปในเตาเพื่อก่อไฟอย่างขะมักเขม้น

“คุณเพตร้า” เขาเรียกพลางเดินเข้าไปหาทหารรุ่นพี่ หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้

“อรุณสวัสดิ์จ้ะเอเลน เช้านี้อากาศดีจังเลยนะ”

ไม่พูดเปล่า เธอยังสูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มที่โดยลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่หน้าเตา จึงรับเอาควันไฟเข้าไปอย่างเต็มเปาจนสำลักพรวดออกมา

“แค่ก!!”

“คุณเพตร้า” เอเลนร้องด้วยน้ำเสียงตระหนกพลางดึงหญิงสาวให้ห่างจากกลุ่มควัน จากนั้นก็รีบนำผ้าไปชุดน้ำและยื่นส่งให้กับเธอ “เช็ดหน้าก่อนครับ”

“ขอบใจจ้ะ” เพตร้าพูดพลางรับผ้าจากเอเลนและไอไปด้วย “อุตส่าห์จะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นแท้ๆกลับเผลอทำอะไรเปิ่นๆไปได้ น่าอายจัง”  

พูดพร้อมกับส่งยิ้มแก้เก้อ เอเลนจึงลูบท้ายทอยตัวเอง

“แค่ได้เข้ามาอยู่ในหน่วยพิเศษกับพวกคุณ ผมก็รู้สึกดีมากแล้วครับ อีกอย่าง” เขาหลุบตาลงมองรอยช้ำที่เกิดจากการล่ามตรวน “ถึงจะต้องนอนให้ห้องใต้ดิน เตียงที่หัวหน้าเตรียมไว้ให้ก็ทำให้ผมหลับสบาย เงื่อนไขบางอย่างอาจทำให้รู้สึกอึดอัดบ้างนิดหน่อยแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรถึงขนาดนั้น”

คำพูดที่ดูเหมือนการถูกล่ามเป็นเรื่องปรกติสำหรับเขา ทำให้เพตร้าต้องมองด้วยความประหลาดใจ เพราะคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มอย่างเอเลนจะเข้าใจเรื่องต่างๆได้ง่ายขนาดนี้

“เธอไม่โกรธหัวหน้าเหรอ”

“เรื่องอะไรหรือครับ” เอเลนย้อนถามและส่งยิ้มให้กับหญิงสาวก่อนหมุนตัวหันไปหยิบฟืนหย่อนเข้าไปในเตา “ถ้าเป็นเรื่องการจำกัดพื้นที่ในห้องนอน ผมเข้าใจดีว่านั่นเป็นเงื่อนไขและเป็นสิ่งที่พวกคุณจำต้องปฏิบัติตาม”

เขาชะงักไปเล็กน้อยขณะนึกถึงสีหน้าของรีไวขณะสวมตรวนให้ในคืนที่ผ่านมา ถึงจะใช้กิริยาและคำพูดที่ฟังแล้วเหมือนเป็นการข่มขู่แต่เด็กหนุ่มกลับแน่ใจว่าเขาเห็นความสงสาร กับความอ่อนโยนทอแสงจางๆอยู่ในดวงตาสีเทาที่ดุดัน

“อีกอย่าง ผมคิดว่าหัวหน้ารีไว คงไม่อยากทำแบบนั้นจริงๆหรอกครับ”


คำพูดสุดท้ายเหมือนกำลังบอกกับตัวเองมากกว่า เพตร้าขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเพราะได้ยินไม่ค่อยถนัด

“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ”

“อ...เอ้อ ผมบอกว่าหัวหน้าจะกลับมาที่นี่ก่อนเที่ยง เราต้องรีบทำงานกันแล้วละครับ”

เอเลนรีบเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะถึงเพตร้าจะดูใจดีมากที่สุด เขาก็ไม่ควรพูดอะไรเกี่ยวกับหัวหน้ารีไวบุคคลที่ทุกคนให้ความเคารพมากจนเกินไป ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะพอได้ยินดังนั้น หญิงสาวคนเดียวของหน่วยก็ลุกพรวด เดินฉับๆไปคว้าหม้อ ตักน้ำใส่จนเกือบเต็ม จากนั้นก็นำไปวางไว้บนเตา

“เธอไปหยิบขนมปังมาวางไว้ที่โต๊ะ ฉันจะจัดการกับมันฝรั่งพวกนี้เอง”

มื้อเช้าเสร็จทันทุกคนตื่นพอดี เมื่อรับประทานอาหารจนอิ่มหนำ หน่วยพิเศษทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปปฏิบัติภารกิจประจำวัน โดยเอเลนแยกไปทำความสะอาดคอกม้า ดูแลเรื่องอาหารและตรวจอานรวมถึงอุปกรณ์ทุกชิ้นว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยดีหรือไม่ ส่วนเพตร้ารับผิดชอบดูแลเครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติ และเติมก๊าซจนเต็มทุกถัง เพราะแผนการฝึกในวันนี้คือการลาดตระเวนผ่านทุ่งหญ้าเข้าไปในป่าสนยักษ์เลยไปจนถึงเทือกเขาที่อยู่ห่างจากปราสาทไปราวครึ่งวัน

พอถึงช่วงสาย รีไวก็กลับเข้ามาในปราสาท เมื่อเห็นลูกน้องเตรียมตัวกันพร้อมหมดทุกคนแล้วเขาก็ควบม้านำหน้าออกไป โดยให้เอเลนอยู่ตรงกลาง ออรูโอ้และเพตร้าขนาบซ้ายขวา ส่วนเอลโด้และกุนเทอร์คอยระวังหลัง ทั้งหกบังคับม้าผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไปจนกระทั่งถึงป่าสนยักษ์ ป่าดึกดำบรรพ์ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ที่เรียกเช่นนี้เพราะสนทุกต้นมีขนาดใหญ่โต ลำต้นสูงกว่าสามสิบเมตร เหมาะสำหรับการใช้เครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติเพื่อโจมตีไททัน ยามที่หน่วยสำรวจออกปฏิบัติการนอกกำแพง

แน่นอนว่าทหารฝีกหัดทุกคนย่อมเคยฝึกการโจมตีไททันในป่าสนยักษ์แบบนี้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะรู้ถึงตำแหน่งของเป้าหมายที่ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้า แต่การฝึกกับหน่วยพิเศษของรีไวไม่ได้เป็นเช่นนั้น ความเป็นหน่วยที่มีหน้าที่พิฆาตพวกไททันโดยเฉพาะ พวกเขาจึงเน้นการต่อสู้ที่รวดเร็ว มีการตัดสินใจเฉียบขาด และร่วมมือกันเป็นทีม การเคลื่อนที่แต่ละครั้งจึงต้องสอดประสานกันเพื่อให้การทำลายได้ผลสูงที่สุด

ก้าวแรกของกีบอาชาที่ล่วงเข้าไปในป่า เอเลนยังไม่ตระหนักถึงการฝึกในครั้งนี้มากนัก จนเมื่อรีไวส่งสัญญาณให้ลูกน้องทั้งสี่ใช้เครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติ ลอยตัวขึ้นจากหลังม้า เลื่อนไหลไปในระหว่างต้นไม้อย่างรวดเร็ว การเคลื่อนตัวอันคล่องแคล่วของทุกคนทำให้เอเลนถึงกับอ้าปากค้าง และสำนึกได้ในเวลานั้นเองว่า ฝีมือของเขายังอยู่ห่างจากคนเหล่านี้มาก

“โฮ่ย มัวใจลอยอะไรอยู่ ทำไมไม่ตามพวกเขาไป”

เสียงทุ้มห้วนของรีไวดังขึ้น เอเลนสะดุ้งเฮือกและรีบกดไกยิงสลิงออกไปทันที ความรีบร้อนทำให้มันตรึงกับต้นไม้ในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เด็กหนุ่มสบถกับตัวเองเบาๆพร้อมกับยิงมันออกไปอีกครั้ง เมื่อขึ้นไปยืนบนกิ่งสนระดับสูง รีไวซึ่งตามมาทันจึงพูดด้วยน้ำเสียงดุ

“ถ้าเป็นการออกสำรวจจริงๆ ป่านนี้แกโดนไททันกินไปแล้ว” เขาจ้องเด็กหนุ่มเขม็ง “ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า ตั้งสติให้ดี อย่าใจลอยเป็นอันขาด เพราะความผิดพลาดพวกนั้นจะทำให้คนอื่นต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย”  

“ขอโทษครับ” เอเลนพูดสีหน้าที่แสดงความสำนึกผิดออกมาอย่างเห็นได้ชัด รีไวมองเขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงเบนสายตามองลูกน้องที่กำลังเคลื่อนหายเข้าไปในป่าทึบ

“นี่ไม่ใช่เวลามาทำเรื่องไร้สาระ รีบตามพวกเขาไปเร็ว”

“ครับ”
    
รับคำจบก็รีบยิงสลิงไปที่ต้นไม้อีกต้น เพื่อดึงตัวให้เลื่อนออกไปจากที่นั่น ถึงตอนเรียน เอเลนทำจะคะแนนได้ดีจากการใช้เครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติ แต่พอต้องตามทหารที่ได้ชื่อว่า สุดยอด ของหน่วยสำรวจแล้ว เด็กหนุ่มกลับรู้สึกราวกับว่า เขาเป็นเด็กเพิ่งหัดคลาน

    “บ้าจริง!”

    เอเลนพึมพำกับตัวเองด้วยความเจ็บใจพร้อมกับยิงสลิงให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะตามคนอื่นให้ทัน ช่วงแรกดูเหมือนจะได้ผลแต่เพราะความใจร้อนบวกกับอารามรีบเร่ง ทำให้ฉมวกดอกหนึ่งวิ่งพลาดเป้า ร่างที่กำลังลอยคว้างอยู่กลางอากาศจึงหล่นวูบลง เด็กหนุ่มจึงรีบกดสลิงอีกข้างโดยเล็งไปที่ต้นไม้ต้นเดิมแต่ต้องใจหายวาบเมื่อได้ยินเสียงดัง แชะ ดังออกมาจากเครื่องยิง

    “ไกค้าง !”

    เด็กหนุ่มอุทานและกดไกอีกครั้งซึ่งก็พบว่าเครื่องยิงที่ใช้ได้เมื่อครู่กลับขัดข้องเช่นเดียวกัน ร่างผอมบางจึงตกลงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

    “แย่แล้ว”

    เอเลนนึกพลางมองพื้นดินที่เลื่อนเข้ามาใกล้ด้วยความตระหนก เขาพยายามคิดหาทางรอดแต่ก็นึกออกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ แปลงร่างเป็นไททัน ปัญหาก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เพราะการกลายร่างแบบปุบปับ อาจทำให้หน่วยพิเศษของรีไวเข้าใจผิดและลงมือสังหารเขาได้

    นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมากังวลเรื่องนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของเอเลน เด็กหนุ่มมือเลื่อนไปที่ปากและคงจะกัดมันไปแล้ว หากอ้อมแขนของใครบางคนไม่โอบรอบร่างของเขาเอาไว้เสียก่อน

    “อย่าเชียวนะ” เสียงของรีไวดังข้างหู ตามด้วยเสียงของเครื่องยิงที่ปล่อยสลิงออกไปปักกับต้นไม้ที่อยู่ใกล้กันดึงร่างของทั้งคู่เหวี่ยงไปตามความยาวของสายจนกระทั่งถึงเบื้องล่าง พอเท้าสัมผัสพื้น หัวหน้าหน่วยพิเศษก็ปล่อยมือจากเด็กหนุ่มและถามเสียงห้วน

    “มัวทำบ้าอะไรอยู่”

    น้ำเสียงไม่ได้เกรี้ยวกราดอะไรนัก แต่สีหน้าจริงจังทำให้หัวใจของเอเลนแทบจะร่วงลงไปที่ตาตุ่ม เขาทำพลาดอีกแล้วสินะ เด็กหนุ่มคิดพร้อมกับก้มหน้าลง กระนั้นก็ยังคงตอบด้วยเสียงที่แหบแห้ง

    “อุปกรณ์ผมมีปัญหานิดหน่อยครับ”

    ดวงตาสีเทาจ้องเขม็งไปที่เด็กหนุ่มก่อนจะเลื่อนลงไปยังเครื่องยิงที่ยังถืออยู่ในมือ

    “เมื่อเช้าแกไม่ได้ตรวจสอบมันก่อนออกมาเหรอ”

    เอเลนเม้มปากน้อยๆ เพราะคนที่ตรวจเครื่องสามมิติคือเพตร้า และเขาแน่ใจว่าเธอจะต้องดูแลอุปกรณ์ทุกชิ้นอย่างรอบคอบ ที่มันเกิดขัดข้องขึ้นมาอาจจะเป็นเพราะความใจร้อนของเขาที่มุ่งแต่จะตามคนอื่นให้ทัน จึงกดไกยิงเต็มแรงแบบไม่ยั้ง แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ความผิดมันก็ต้องตกอยู่ที่คนตรวจอยู่ดี

    “ผมตรวจแล้วครับ แต่คงจะรีบไปหน่อยก็เลย”

    “ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัว” รีไวตัดบทด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิดอย่างเต็มที่พลางผลัก
เอเลนค่อนข้างแรงจนหลังกระแทกกับต้นไม้และใช้มือข้างหนึ่งกดไหล่เอาไว้ “ห้ามแกทำอะไรสะเพร่าแบบนี้อีกอย่างเด็ดขาด เข้าใจไหม”

“ค...ครับ” เอเลนรับคำเสียงสั่น หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อรีไวยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“เพื่อความไม่ประมาท นับจากนี้ก่อนการฝึก แกจะต้องเอาอุปกรณ์ทุกชิ้นไปให้ฉันตรวจอีกครั้ง”

“ครับ” เด็กหนุ่มรับคำเสียงแผ่ว คิ้วของรีไวขมวดเข้าหากัน

“ฉันไม่ได้ยิน”

“ครับผม ก่อนการฝึก ผมจะนำอุปกรณ์ไปให้หัวหน้าที่ห้องเพื่อทำการตรวจทุกครั้งครับ”

รีไวผงกศีรษะอย่างพอใจ “ดี” เขาพูดพลางขยับถอยออกห่าง “ถอดเครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติของแกออกมาเดี๋ยวนี้เอเลน”

“ค...คุณจะทำอะไรหรือครับ” เด็กหนุ่มเผลอหลุดปากถาม และยืนตัวแข็งเมื่อโดนอีกฝ่ายจ้องด้วยดวงตาลุกวาว

“เอามาทุบหัวโง่ๆของแกมั้ง” รีไวพูดเสียงขุ่น “อย่ามัวแต่พูดมาก รีบถอดมันออกมา”

เขาเว้นระยะเล็กน้อยก่อนพูดด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม

“เร็ว!”    

“ค...ครับ” เด็กหนุ่มรับคำอย่างลนลานและก้มลงปลดอุปกรณ์ของตัวเองเป็นพัลวัน อารามรีบร้อนประกอบกับมือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ พอจับสลักยึดมันก็ลื่นจนไม่สามารถแกะออกมาได้ หลังจากพยายามอยู่ครู่ใหญ่ รีไวซึ่งยืนกอดอกรอจึงโพล่งออกมาอย่างหงุดหงิด

“ไม่ต้องแล้ว” เขาเดินเข้าไปหาด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนอยากจะสับอีกฝ่ายให้เป็นชิ้น เอเลนรีบถอยหนีพร้อมกับถามอย่างหวาดกลัว

“จ...จะทำอะไรหรือครับหัวหน้ารีไว”

“ฉันจะซ่อมอุปกรณ์ให้แก” พูดพลางมองหน้าที่ซีดเผือดของเด็กหนุ่มและขมวดคิ้ว “เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที เห็นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า”

เอเลนพยายามกลืนน้ำลายที่แข็งเหมือนหินลงคออย่างยากลำบากก่อนหลุดปากถาม

“หน้ายังไงหรือครับ” เขาหยุดไว้แค่นั้นเมื่อนึกได้ว่า มันเป็นคำพูดที่ไม่เข้าท่าเลยสักนิด ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะรีไวคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อและยื่นหน้าเข้ามาจนเกือบชิด

“ก็ไอ้หน้าที่เหมือน กลัวว่าฉันจะเข้ามาปล้ำแกไง เห็นแล้วมันน่าขยะแขยง”

“ผ...ผมไม่ได้”

“เลิกพล่ามได้แล้ว” รีไวตัดบทก่อนคลายมือออกและคุกเข่าลง จากนั้นก็ไล่ตรวจเครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติของเอเลนไล่ไปทีละชิ้น เด็กหนุ่มมองการกระทำของคนเป็นหัวหน้าด้วยหัวใจที่เต้นตุ้มต่อมจนแทบไม่เป็นจังหวะพลางภาวนาขออย่าให้เอลโด้ กุนเทอร์ เพตร้าหรือออรูโอ้ ย้อนกลับมาในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นมีหวังได้เกิดเรื่องใหญ่

แน่ล่ะ ขืนพวกเขามาเห็นหัวหน้าหน่วยพิเศษคนสำคัญกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าทหารฝึกหัด เด็กหนุ่มคงไม่แคล้วโดนสับเป็นชิ้นโยนลงหม้อซุป  

“ขอดูไกยิงหน่อย” เสียงสั่งสั้นๆดึงความคิดทั้งหมดกลับคืนมา เด็กหนุ่มจึงยื่นส่งให้ รีไวรับมันไปพิจารณาอย่างละเอียด

“ก็ปรกติดี” พูดพร้อมกับส่งคืนให้และยื่นหน้าเข้าไปตรวจเครื่องยิงจนแทบจะชิด “อืม ที่ใช้สลิงไม่ได้เพราะมีเศษไม้เข้าไปขวางช่องอยู่นี่เอง”

เขาค่อยๆสอดนิ้วล้วงเข้าไปในช่องเพื่อดึงสิ่งที่พูดถึงออกมา ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่แถวสะโพกกับมือที่ขยับเคลื่อนไหวไปมาตรงช่วงเอว สร้างความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกว่าคืออะไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ใจก็คือ มันทำให้เอเลนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว

“เรียบร้อยแล้ว” รีไวพูดพร้อมกับลุกขึ้นและขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของเอเลน “เป็นอะไร”

“ป...เปล่าครับ” เด็กหนุ่มตอบและรีบก้มหน้าลงหลบ อีกฝ่ายจ้องนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดสั้นๆ

“ทดสอบดูสิว่าใช้ได้หรือยัง”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่