เรื่องราวความรักเมื่อเริ่มต้นแล้วอย่างน้อยมันก็สวยงามเสมอ.... (เหมือนใครได้กล่าวไว้จำไม่ได้)
แต่วันนี้ผมจะมาเล่าถึงอีกมุมหนึ่งของความรักที่ถูกคนรักทำให้เจ็บปวดครับ
ก่อนอื่นนี่ไม่ใช่กระทู้แรกที่ผมเขียนถึงผู้หญิงคนนี้ครับ กระทู้ก่อนมันค่อนข้างจะยาว กระทู้นี้เลยจะแบ่งออกเป็นเหตุการณ์ๆนะครับ พร้อมจะแนบภาพให้อ่านด้วยครับ
ก่อนจะเล่าขอบอกก่อนนะครับหลับไม่เต็มตื่นนอนไม่เต็มตามาหลายคืนแล้ว กลางวันทำงาน กลางคืนคิดมาก....
เอาล่ะครับเข้าประเด็น เรื่องมีอยู่ว่า...
...ช่วงประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาผมกับแฟนทะเลาะกันหลายๆเรื่องแต่มันก็เป็นเรื่องทั่วไปที่คนเป็นแฟนทะเลาะกัน(น้อยใจว่าเราไม่เอาใจใส่ บลาๆๆ) แล้วผมก็..บังเอิญไปเห็นรูปคู่แฟนตัวเองอยู่บนหน้าเฟสคนอื่น(รูปคู่ที่คนในรูปไม่ใช่เรา) หลังจากนั้นก็เกิดประเด็นใหม่ให้ทะเลาะกับแฟน พอถามจนรู้เรื่องราวก็ได้ใจความว่าเค้าชวนกันไปดูหนังแต่แฟนผมไม่คิดจะบอกให้ผมรับรู้อยู่แล้วจนผมมาเห็นเอง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นผมบอกให้เขาเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้น เขาก็ตอบมาว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้คิดอะไรกัน(ยังไงก็ไม่เลิก) เท่านั้นยังไม่พอยังให้ผู้ชายคนนั้นมาคุยกับผม ในใจเขาคงอยากจะเคลียให้ผมเข้าใจ แต่เนื้อความที่ผู้ชายคนนั้นส่งมามันไม่ใช่ครับ ความเป็นจริงมันยิ่งซ้ำเติมแก้วที่มีรอยร้าวให้แตกละเอียดมากขึ้น ซึ่งข้อความทั้งหมดที่คุยกับผู้ชายคนนั้นมันยังอยู่ครับ จับประเด็นตามไปเรื่อยๆนะครับ ผมจะค่อยๆอธิบายสิ่งที่ผมคิดให้อ่านกัน
เริ่มต้นครับ เขาส่งข้อความมาอย่างที่เห็นในภาพ ผมเห็นแต่ผมยังไม่อยากจะตอบกลับ(กำลังโมโหในใจเล็กๆ นี่ไปดูหนังไม่พอยังจะมาซ้ำเติมกรุอีกหรอ)... เขาต้องการให้ผมรับแอด ซึ่งผมไม่รับครับ(ในใจผมคิดว่ามีอะไรก็เขียนมาสิส่งข้อความมาได้ทำไมจะคุยไม่ได้ ต้องรับแอดก่อนหรอถึงคุยกันได้?) อีกอย่าง ดูที่เขาเขียนสิครับ ผมไม่รับแอดเฟสกับยังไม่ตอบแค่นี้ผมไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว (ในใจก็คิดว่า ก็เมิงมีอะไรทำไมไม่เขียนมาล่ะ ฮ่วย!!)
ต่อด้วยประโยคนี้ครับ จับใจความดีๆนะครับ
1.ไม่ได้เป็นอะไรกับ...(แฟนผม)
2.เป็นแค่เพื่อน
แล้วก็มาปิดท้ายประโยคว่าผมไม่กล้าคุย ในตอนนั้นไม่ไหวแล้วครับก็เลยตอบไปตามในภาพจนต่อด้วย
เขาถามผมว่าเขาทำอะไร (ในใจคิดว่า อ้าวนี่คุยมาตั้งนานเมิงยังไม่รู้อีกหรอว่าทำอะไรผิด) ผมก็เลยตอบเขาไปแบบนั้นครับ เขาบอกเขาไม่ได้แย่งมา(ในใจผมก็คิดว่า อ้อ แฟนกรุสมัครใจเองสินะ) แล้วเค้าก็ย้ำว่าแฟนเราไม่ได้เป็นอะไรกับเค้า ผมเลยตอบกลับไปว่า...

ทีนี้ชี้ชัดความผิดไปเลยครับ ลากให้เข้าประเด็นไปเลยจะได้รู้ตัวสักทีแล้วดูที่เขาตอบนะครับ จับใจความต่อ
3.เขาเป็นเกย์
ผมเลยย้อนตอบเขาไปว่าผมต้องรับรู้มั๊ย(ในใจคิดว่า เออดีแฮะชวนแฟนคนอื่นไปดูหนังไปทำอะไรกันแฟนมันจับได้เราก็อ้างว่าเป็นเกย์เป็นเก้งเป็นกวางไปโทษเพศที่สามเพราะว่าเป็นแบบนั้นแล้วไม่ผิด เหอะๆ) ประโยคที่ทิ้งท้ายนั่นเท่าที่อ่านผมก็รับรู้ละครับว่าแฟนผมเองเป็นคนถาม(ในใจก็คิดนะว่าตอนนี้เขาอยู่ด้วยกันหรือเปล่าแต่ก็พยายามคิดในแง่ดี เรื่องข้อความแค่นี้ส่งบอกกันในแชทเฟสให้ถามก็ได้มั้ง)
มาจบที่ภาพนี้ครับ
เพราะใจความที่อ่านได้มันเริ่มออกนอกประเด็น(แฟนผมเขาคิดเอาเองว่าถ้าผมไปคุยกับใครคนนั้นคนนี้ผมต้องเลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกัน แอบน้อยใจเล็กๆว่านี่ปกติกรุทำตัว

ขนาดนั้นเลยหรอ ซึ่งมาย้อนคิดเราก็ไม่ได้ทำแบบนั้น เคยมีคนที่คุยด้วยแล้วพอเค้ารู้เค้าไม่พอใจเราประชุมสายให้เคลียแล้วก็ตัดขาด จบจากกัน แต่ดูที่เขาทำ..) ผมจบประโยคสนทนาไว้เท่านั้นโดยที่ผมไม่ต่อประเด็นเพราะผมคิดว่าสิ่งที่ผมพูดมันชัดเจนแล้ว คนเราถ้าคิดได้ว่ากำลังทำให้รักคนอื่นมีรอยร้าวก็ควรเดินออกห่าง แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ... ไว้มาต่อนะครับ เหตุการณ์ยังอีกยาว
ปล.ของดเว้นการแสดงความเห็นที่ไม่สุภาพนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะประจารใคร แค่อยากจะมาเล่าสู่กันฟังครับ
ปล.2 Edit แก้ไขขนาดภาพครับ
ตัวไกลใจห่าง เมื่อความรักมีรอยร้าว และมือที่สามที่เข้ามา (เรื่องเล่าพร้อมภาพประกอบ)
แต่วันนี้ผมจะมาเล่าถึงอีกมุมหนึ่งของความรักที่ถูกคนรักทำให้เจ็บปวดครับ
ก่อนอื่นนี่ไม่ใช่กระทู้แรกที่ผมเขียนถึงผู้หญิงคนนี้ครับ กระทู้ก่อนมันค่อนข้างจะยาว กระทู้นี้เลยจะแบ่งออกเป็นเหตุการณ์ๆนะครับ พร้อมจะแนบภาพให้อ่านด้วยครับ
ก่อนจะเล่าขอบอกก่อนนะครับหลับไม่เต็มตื่นนอนไม่เต็มตามาหลายคืนแล้ว กลางวันทำงาน กลางคืนคิดมาก....
เอาล่ะครับเข้าประเด็น เรื่องมีอยู่ว่า...
...ช่วงประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาผมกับแฟนทะเลาะกันหลายๆเรื่องแต่มันก็เป็นเรื่องทั่วไปที่คนเป็นแฟนทะเลาะกัน(น้อยใจว่าเราไม่เอาใจใส่ บลาๆๆ) แล้วผมก็..บังเอิญไปเห็นรูปคู่แฟนตัวเองอยู่บนหน้าเฟสคนอื่น(รูปคู่ที่คนในรูปไม่ใช่เรา) หลังจากนั้นก็เกิดประเด็นใหม่ให้ทะเลาะกับแฟน พอถามจนรู้เรื่องราวก็ได้ใจความว่าเค้าชวนกันไปดูหนังแต่แฟนผมไม่คิดจะบอกให้ผมรับรู้อยู่แล้วจนผมมาเห็นเอง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นผมบอกให้เขาเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้น เขาก็ตอบมาว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้คิดอะไรกัน(ยังไงก็ไม่เลิก) เท่านั้นยังไม่พอยังให้ผู้ชายคนนั้นมาคุยกับผม ในใจเขาคงอยากจะเคลียให้ผมเข้าใจ แต่เนื้อความที่ผู้ชายคนนั้นส่งมามันไม่ใช่ครับ ความเป็นจริงมันยิ่งซ้ำเติมแก้วที่มีรอยร้าวให้แตกละเอียดมากขึ้น ซึ่งข้อความทั้งหมดที่คุยกับผู้ชายคนนั้นมันยังอยู่ครับ จับประเด็นตามไปเรื่อยๆนะครับ ผมจะค่อยๆอธิบายสิ่งที่ผมคิดให้อ่านกัน
เริ่มต้นครับ เขาส่งข้อความมาอย่างที่เห็นในภาพ ผมเห็นแต่ผมยังไม่อยากจะตอบกลับ(กำลังโมโหในใจเล็กๆ นี่ไปดูหนังไม่พอยังจะมาซ้ำเติมกรุอีกหรอ)... เขาต้องการให้ผมรับแอด ซึ่งผมไม่รับครับ(ในใจผมคิดว่ามีอะไรก็เขียนมาสิส่งข้อความมาได้ทำไมจะคุยไม่ได้ ต้องรับแอดก่อนหรอถึงคุยกันได้?) อีกอย่าง ดูที่เขาเขียนสิครับ ผมไม่รับแอดเฟสกับยังไม่ตอบแค่นี้ผมไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว (ในใจก็คิดว่า ก็เมิงมีอะไรทำไมไม่เขียนมาล่ะ ฮ่วย!!)
ต่อด้วยประโยคนี้ครับ จับใจความดีๆนะครับ
1.ไม่ได้เป็นอะไรกับ...(แฟนผม)
2.เป็นแค่เพื่อน
แล้วก็มาปิดท้ายประโยคว่าผมไม่กล้าคุย ในตอนนั้นไม่ไหวแล้วครับก็เลยตอบไปตามในภาพจนต่อด้วย
เขาถามผมว่าเขาทำอะไร (ในใจคิดว่า อ้าวนี่คุยมาตั้งนานเมิงยังไม่รู้อีกหรอว่าทำอะไรผิด) ผมก็เลยตอบเขาไปแบบนั้นครับ เขาบอกเขาไม่ได้แย่งมา(ในใจผมก็คิดว่า อ้อ แฟนกรุสมัครใจเองสินะ) แล้วเค้าก็ย้ำว่าแฟนเราไม่ได้เป็นอะไรกับเค้า ผมเลยตอบกลับไปว่า...
ทีนี้ชี้ชัดความผิดไปเลยครับ ลากให้เข้าประเด็นไปเลยจะได้รู้ตัวสักทีแล้วดูที่เขาตอบนะครับ จับใจความต่อ
3.เขาเป็นเกย์
ผมเลยย้อนตอบเขาไปว่าผมต้องรับรู้มั๊ย(ในใจคิดว่า เออดีแฮะชวนแฟนคนอื่นไปดูหนังไปทำอะไรกันแฟนมันจับได้เราก็อ้างว่าเป็นเกย์เป็นเก้งเป็นกวางไปโทษเพศที่สามเพราะว่าเป็นแบบนั้นแล้วไม่ผิด เหอะๆ) ประโยคที่ทิ้งท้ายนั่นเท่าที่อ่านผมก็รับรู้ละครับว่าแฟนผมเองเป็นคนถาม(ในใจก็คิดนะว่าตอนนี้เขาอยู่ด้วยกันหรือเปล่าแต่ก็พยายามคิดในแง่ดี เรื่องข้อความแค่นี้ส่งบอกกันในแชทเฟสให้ถามก็ได้มั้ง)
มาจบที่ภาพนี้ครับ
เพราะใจความที่อ่านได้มันเริ่มออกนอกประเด็น(แฟนผมเขาคิดเอาเองว่าถ้าผมไปคุยกับใครคนนั้นคนนี้ผมต้องเลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกัน แอบน้อยใจเล็กๆว่านี่ปกติกรุทำตัว
ปล.ของดเว้นการแสดงความเห็นที่ไม่สุภาพนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะประจารใคร แค่อยากจะมาเล่าสู่กันฟังครับ
ปล.2 Edit แก้ไขขนาดภาพครับ