ลาออกมาเล่นหุ้น

กระทู้ข่าว
สำหรับคนหนุ่มสาวรุ่นเจนวาย การได้ทำงานอิสระเป็นเจ้านายของตัวเองนับได้ว่า เป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของเจนวาย สมัยปัจจุบันจะเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่จำนวนมากเปิดกิจการของตนเองอย่างร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่หรือธุรกิจของตนเองแทนที่จะไปสมัครงานเป็นลูกจ้างบริษัทใหญ่ๆ ที่มั่นคงเหมือนกับรุ่นพ่อแม่ ยิ่งใครสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน หรือเรียกกันตามสมัยนิยมว่ามี "อิสรภาพทางการเงิน" ตั้งแต่อายุยังน้อยถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐเลิศล้ำเลยทีเดียว

          ส่วนคนรุ่นใหม่ที่ยังทำงานอยู่มักได้รับการติเตียนจากคนรุ่นเก่าๆ ว่าไม่มีความอดทน อยากรวยเร็วๆ มากกว่าที่จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อความก้าวหน้าในองค์กร คำถามหนึ่งที่ได้ยินกันมากของวัยรุ่น คนหนุ่มสาวยุคปัจจุบันคือ "อยากลาออกมาเล่นหุ้น" หลายคนเห็นนักลงทุนจำนวนมากร่ำรวยจากตลาดหุ้น และคิดว่าถ้ามีเวลามากๆ ในการลงทุนคงจะทำเงินจากตลาดหุ้นได้มาก ถ้ายังทำงานประจำอยู่จะไม่มีเวลามากพอที่จะลงทุน หรือซื้อขายหุ้น ยิ่งเป็นการซื้อขายหุ้นแบบเทรดหุ้น ยิ่งต้องใช้เวลาในการเฝ้าดูหน้าจออยู่แทบตลอดเวลา บางครั้งติดประชุมหรือพูดคุยกับลูกค้าอยู่อาจทำให้ขาดทุนจากการซื้อขายหุ้นในวันนั้นได้

          ถ้าลาออกมาเป็น "เทรดเดอร์" เต็มตัวนั้น ความจำเป็นในการเฝ้าหน้าจอตามติดตลาดหุ้นเป็นเรื่องสำคัญ การทำงานไป และเทรดหุ้นไปด้วยในตัวนั้น อาจทำให้เสียหายทั้งสองทาง นั่นคือขาดทุนหุ้นและงานประจำที่ทำอยู่ก็เสียไปด้วยเพราะจิตใจมัวแต่พะวงกับหุ้นที่ซื้อขายอยู่

          แต่ถ้าเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้ว การลาออกมา "เล่นหุ้น" แทบจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเลย การลงทุนระยะยาวอย่างการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือวีไอนั้นไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้าหน้ากระดานหุ้น ยิ่งอยู่ใกล้ตลาดหุ้นมาก เท่าไหร่ โอกาสที่จะทำให้จิตใจไขว้เขวอาจจะมีมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ การลงทุนแบบวีไอคือ การลงทุนในกิจการที่มีผลการดำเนินงานที่ดีในระยะยาว  ดังนั้น แทนที่จะสนใจในราคาหุ้น

          นักลงทุนควรสนใจในผลประกอบการ และกิจการของบริษัทในระยะยาวมากกว่า การติดตามผลการ ดำเนินงานของบริษัทนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เวลาตลอดวัน การเยี่ยมชมกิจการในวันหยุดสุดสัปดาห์ ตามห้างร้านต่างๆ อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ตรวจสอบผลประกอบการรายไตรมาส หรือรายปี ก็เพียงพอสำหรับการติดตามบริษัทที่ลงทุน  นักลงทุนบางท่านไม่สนใจผลประกอบการรายไตรมาสเสียด้วยซ้ำเพราะถือว่าสั้นเกินไป การดำเนินธุรกิจระยาวควรดูกันเป็นปีๆ มากกว่า

          ส่วนการค้นหาบริษัทที่น่าสนใจลงทุนนั้น การใช้เวลาหลังเลิกงานหรือวันหยุดสุดสัปดาห์นั่งอ่านสมุดรายงายประจำปี และวิเคราะห์ธุรกิจสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้เวลาในการทำงานประจำแต่อย่างใด การทำงานประจำนั้นเป็นสิ่งที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับผู้ที่เริ่มต้นลงทุน หลังจากที่ได้เงินเดือนมาแล้วต้องกันส่วนหนึ่งเป็นเงินเก็บ จากนั้นนำเงินที่เก็บไว้มาลงทุนในการซื้อหุ้นที่มีผลการดำเนินงานที่ดีในระยะยาวในราคาที่ไม่สูงเกินไป ถ้าสามารถลงทุนในหุ้นบริษัทหนึ่งได้ยาวหลายปี ถ้าตลาดหุ้นจะปิดไปสักสองสามปีก็คงไม่เดือดร้อนอะไรนัก เงินเดือนที่ได้ยังสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายโดยที่ไม่ต้องนำเงินปันผลหรือกำไรจากหุ้นมาใช้และนำมาลงทุนต่อเพื่อให้พอร์ตเติบโตขึ้นอีกด้วย

          ท่านดร.นิเวศน์ ตำนานแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของเมืองไทย ในช่วงแรกที่ลงทุนแบบวีไอท่านก็ทำงานประจำไปด้วย และลงทุนไปด้วยในเวลาเดียวกัน จนเวลาผ่านไปกว่าสิบปี เงินลงทุนของท่านงอกเงยขึ้นมาก และได้รับเงินปันผลต่อปีเป็นจำนวนมากพอ และนอกเหนือจากนั้นท่านรู้สึกว่าการทำงานประจำเต็มไปด้วยความเครียด และต้องทำงานเพื่อเป้าหมาย ของบริษัทตลอดเวลาทำให้ท่านตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และรับหน้าที่พิธีกรของรายการมันนี่ทอร์คและเป็นวิทยากรตามงานสัมมนาต่างๆ จะเห็นว่าสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่งคงด้วยตนเองโดยไม่ได้มีมรดกตกทอดนั้น การทำงานประจำ เก็บเงิน และนำเงินเก็บมาลงทุนแบบเน้นคุณค่าในระยะยาวในเวลาเดียวกันนั้นเป็นหนทางในการสร้างความมั่งคั่งได้อย่างแน่นอน

          ดังนั้นคำถามที่ว่าอยากลาออกมาเล่นหุ้นนั้นน่าจะเป็นทำงานไปลงทุนไปจะสบายใจ และมีความสุขมากกว่า--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  คอลัมน์ Value Way
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่