สวัสดีค่ะ เราคิดอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาดีไหม เพราะเราเคยเล่าเรื่องนี้ลงทวิตเตอร์ไปเมื่อสองปีที่ผ่านมาแล้วค่ะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเล่ากับแอคไหน
แต่เป็นแอคเกี่ยวกับเรื่องสยองขวัญี่แหละค่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 27-29 ตุลาคม 2555 เราและเพื่อนอีก 3 คน รวมกันเป็น 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ได้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์โดยรถไฟค่ะ และลงที่สถานีหัวหิน เราจองโรงแรมไว้ล่วงหน้าแล้วก่อนหน้านี้ โรงแรมไม่ใหญ่มากค่ะ ขนาดพอดีๆ ราคาสบายกระเป๋า เราเจอร.รจากจากเสิธหาในกูเกิ้ลค่ะ เพื่อนเป็นคนหา เราเห็นว่าไม่ไกลจากหาดมาก และราคาโอเคดีเลยตกลงจองไว้ 2ห้อง เป็นเวลา 2 คืน เราเดินทางไปถึงหัวหินตอนบ่ายโมงกว่าๆ และเข้าเช็คอินที่ร.ร ร.รอยู่สุดซอยเลยค่ะ ตอนไปถึงก็ตกใจนิดหน่อย แบบไหนบอกติดหาดทราย? แล้วคือข้างหลังร.ร เป็นซอยตันด้วยค่ะ แถมอีก ข้างๆร.ร เป็นตึกร้าง คล้ายกับตึกสำนักงานสูงๆ มีหลายชั้นมากค่ะ แต่มันร้างไปแล้ว ด้านข้างร.รอีกฝั่งก็มีอาคารพาณิชย์ที่เงียบมาก แบบเงียบสงบมากจริงๆ แต่ในซอยนั้นก็มีร.รอีกร.รอยู่ด้านหน้านะคะ ก็พยายามไม่คิดอะไร...
ตอนเช็คอินห้อง มีเหตุการณ์ที่ทำให้ได้ห้องที่ไม่ติดกัน สรุปเพื่อนอีกคู่ต้องอยู่อีกห้องที่ชั้นถัดไป เราและเพื่อนอีกคนเลือกห้องด้านล่าง ก็ยังไม่คิดอะไรอีก เพราะนัดกันไว้นั่งเล่นห้องเราอยู่แล้ว ก็เข้าห้องค่ะ เป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง เราจองเตียงชิดกำแพงห้อง อีกเตียงอยู่ฝั่งระเบียง นอกระเบียงมองออกไปจะเจอกับอาคารพาณิชย์เงียบๆนั่นค่ะ แบบระเบียงร.ร พอดีกับระเบียงอาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามเลย แต่ไม่ได้ใกล้กันนะคะ ห่างๆหน่อย..บอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนกลัว และหวาดระแวงกับการนอนร.รมากๆ แต่ไม่เคยเจออะไรไม่ดีนะคะ แค่กลัวเฉยๆ แต่ก็ใจกล้า เราก็เดินดูรอบๆห้องของเรา จัดของ จัดอะไรไปปกติ แล้วก็ชวนเพื่อนออกไปหาอะไรกินที่หาดหิวหินค่ะ โดยการเช่ารถขับกันไป
เราและเพื่อนกลับเข้าร.รอีกครั้งคือค่ำเลย ประมานสองทุ่มน่าจะได้ ก็หอบหิ้วของกิน พวกขนม และก็เหล้าค่ะ กะนั่งดริ้งกัน4สาวเอาให้เมาปลิ้นไปเลย ฮา เพราะแต่ล่ะคนมาทะเลด้วยความรู้สึกเหมือนชะนีอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน นี่ตุ๊ดเมินกันจริงๆนะคะ พูดแล้วจี๊ด 555555555 ก็นั่งร่ำสุราตามประสาสาวโสด เราอภิสิทธิ์กว่าใคร ตรงไม่ยอมนั่งบนพื้นกับเพื่อนอีกสามคน แต่นั่งดื่มบนเตียงของตัวเองค่ะ ก็นั่งดื่ม นั่งเม้าท์กันยาวไปจนจะเที่ยงคืน ระเบียงห้องก็เปิดผ้าม่านเอาไว้ ระเบียงห้องเป็นผ้าม่านยาวๆน่ะค่ะก็เปิดไว้ ทั้งๆที่วิวไม่มีอะไรให้ดูเล้ยยยยยย คือยังไม่มีใครเมาเลยนะ แต่มีเพื่อนคนนึงนางดื่มหนักกว่าใคร แล้วนั่งอยู่บนพื้นนางนั่งหลังอิงกับเตียงของเพื่อนที่นอนกับเราที่อยู่ตรงระเบียงน่ะค่ะ นางเริ่มตาหวานแระ เราก็นั่งขำ เพื่อนเจ้าของเตียงที่นั่งอยู่ปลายเตียงเรา นางก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปเพื่อนคนที่เริ่มเมา
้เราก็รีบก้มไปคว้ามือถือมาจากเพื่อนขึ้นมาทันที แต่บอกตรงๆค่ะ ตอนที่จะดูรูปนี่กะขำกร๊ากเต็มที่เลย แต่ไม่เลยค่ะ ตามันมองอีกอย่างที่ปรากฏในรูปมากกว่า ในภาพที่มีเพื่อนเรานั่งเมาอยู่ เรามองเห็นเงาของผู้หญิงที่อยู่เหนือร่างเพื่อนเราค่ะ เป็นเงาดำของผู้หญิง ที่รู้ว่าเป็นผู้หญิงเพราะผมยาวมาก พิมพ์ถึงตอนนี้ขนเราลุกไม่หยุดเลยค่ะ ㅠㅠ ในรูปเราเห็นแค่ช่วงบนค่ะ แต่เงานั้นสูงมาก เลยหัวเราที่นั่งอยู่บนเตียงเสียอีก แว่บแรกก็คิดว่า 'เฮ้ย! เราเองแหละแบบสะท้อนกระจกระเบียงงี้' เราก็มองไปที่ระเบียงอย่างไวเลย แล้วก็รีบหันกลับมามองกำแพงที่เรานั่งพิงอยู่ มันจะมีรูปติดอยู่ที่พนังค่ะ แล้วเงาในรูปหัวสูงกว่ากรอบสูงที่ติดไว้อีก.... 'ไม่ใช่หัวกรุแระแบบนี้ เพราะหัวกรุต่ำกว่ากรอบรูปมาก' ร้องห้ายยยยยยยยยยยยยย
แล้วดันปากไวพูดโพลงออกไปเลยค่ะ "นี่เงาใครว่ะ?" ด้วยความมึนด้วยแหละ พูดออกไปแล้วอยากตบปากตัวเองชะมัดเลย ㅠㅠ เพื่อนเจ้าของมือถือรีบหยิบมือถือของนางไป แล้วดู เราถาม "ใช่ป่ะ?" คือถามด้วยความรู้สึกที่แบบมองตากันก็เข้าใจ นางไม่ตอบค่ะ แต่กดลบรูปไปเลย ตอนนั้นเราแบบ น้ำตาจะไหลแล้วจริงๆ เหมือนจะหายมึนไปเลย เพื่อนอีกสองคนก็แบบอะไรของมันสองคนนี้ อยากดูบ้าง จะเข้ามาดู แต่เพื่อนกดลบไปแล้ว นางก็บอกไม่พูดๆ แล้วนางก็เดินไปปิดผ้าม่านที่ระเบียงค่ะ แต่ในใจเรานี่แบบท่องอะไรไม่รู้มั่วไปหมดแล้วจริงๆ ถ้าเราจะมึนคนเดียว ตาฝากคนเดียว เราจะไม่อะไรเลย แต่เพื่อนอีกคนก็เห็นเหมือนกัน แล้วคือต้องนอนที่นี่อีกคืนนะเฟ้ย!!! นี่แค่คืนแรกเอง!! ไม่เอาดิ ไม่งามเลยค่ะ
หลังจากนั้น โทษนะคะ แดรกเหล้ากันให้เมาและหลับๆไปเลยค่ะ กระดกกันลืมหลอนเลย......สรุปนอนหลับกันสบายไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย คืนที่สองหนักกว่าคืนแรกค่ะ ไม่ใช่สิ่งที่มองไม่เห็นนะคะ แต่เป็นพวกเรานี่แหละค่ะ เมาหนักกว่าคืนแรกอี้ก กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ก่อนนอนในทุกๆคืน หรือในทุกๆที่ เราจะสวดมนต์ตลอดค่ะ เมาแค่ไหนก็สวด ขอขมาเจ้าที่เจ้าทางเพื่อความสบายใจ เราเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เคยเจออะไร แต่การไปเที่ยวหิวหินครั้งนั้น เราคิดว่าเราเจอมากที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ
หลังจากกลับจากหัวหินแล้ว เราคุยเรื่องนี้กับเพื่อนทันทีเลยค่ะ สรุปได้ใจความว่าเห็นเหมือนกันจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นคือใคร ประเด็นหนักกว่านั้นคือ อยู่นอกห้อง หรือในห้อง......เพื่อนเจ้าของมือถือถึงกับตั้งชื่อเรื่องไว้ว่า "ทริปหัวหินระทึก"
เรื่องผ่านมาสองปีแล้ว เราอาจจำรายละเอียดได้ไม่หมด เล่าไม่สนุกต้องขอโทษด้วยนะคะ แหะๆ สุดท้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หัวหินซอย 23
ทริปหัวหินระทึก
แต่เป็นแอคเกี่ยวกับเรื่องสยองขวัญี่แหละค่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 27-29 ตุลาคม 2555 เราและเพื่อนอีก 3 คน รวมกันเป็น 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ได้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์โดยรถไฟค่ะ และลงที่สถานีหัวหิน เราจองโรงแรมไว้ล่วงหน้าแล้วก่อนหน้านี้ โรงแรมไม่ใหญ่มากค่ะ ขนาดพอดีๆ ราคาสบายกระเป๋า เราเจอร.รจากจากเสิธหาในกูเกิ้ลค่ะ เพื่อนเป็นคนหา เราเห็นว่าไม่ไกลจากหาดมาก และราคาโอเคดีเลยตกลงจองไว้ 2ห้อง เป็นเวลา 2 คืน เราเดินทางไปถึงหัวหินตอนบ่ายโมงกว่าๆ และเข้าเช็คอินที่ร.ร ร.รอยู่สุดซอยเลยค่ะ ตอนไปถึงก็ตกใจนิดหน่อย แบบไหนบอกติดหาดทราย? แล้วคือข้างหลังร.ร เป็นซอยตันด้วยค่ะ แถมอีก ข้างๆร.ร เป็นตึกร้าง คล้ายกับตึกสำนักงานสูงๆ มีหลายชั้นมากค่ะ แต่มันร้างไปแล้ว ด้านข้างร.รอีกฝั่งก็มีอาคารพาณิชย์ที่เงียบมาก แบบเงียบสงบมากจริงๆ แต่ในซอยนั้นก็มีร.รอีกร.รอยู่ด้านหน้านะคะ ก็พยายามไม่คิดอะไร...
ตอนเช็คอินห้อง มีเหตุการณ์ที่ทำให้ได้ห้องที่ไม่ติดกัน สรุปเพื่อนอีกคู่ต้องอยู่อีกห้องที่ชั้นถัดไป เราและเพื่อนอีกคนเลือกห้องด้านล่าง ก็ยังไม่คิดอะไรอีก เพราะนัดกันไว้นั่งเล่นห้องเราอยู่แล้ว ก็เข้าห้องค่ะ เป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง เราจองเตียงชิดกำแพงห้อง อีกเตียงอยู่ฝั่งระเบียง นอกระเบียงมองออกไปจะเจอกับอาคารพาณิชย์เงียบๆนั่นค่ะ แบบระเบียงร.ร พอดีกับระเบียงอาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามเลย แต่ไม่ได้ใกล้กันนะคะ ห่างๆหน่อย..บอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนกลัว และหวาดระแวงกับการนอนร.รมากๆ แต่ไม่เคยเจออะไรไม่ดีนะคะ แค่กลัวเฉยๆ แต่ก็ใจกล้า เราก็เดินดูรอบๆห้องของเรา จัดของ จัดอะไรไปปกติ แล้วก็ชวนเพื่อนออกไปหาอะไรกินที่หาดหิวหินค่ะ โดยการเช่ารถขับกันไป
เราและเพื่อนกลับเข้าร.รอีกครั้งคือค่ำเลย ประมานสองทุ่มน่าจะได้ ก็หอบหิ้วของกิน พวกขนม และก็เหล้าค่ะ กะนั่งดริ้งกัน4สาวเอาให้เมาปลิ้นไปเลย ฮา เพราะแต่ล่ะคนมาทะเลด้วยความรู้สึกเหมือนชะนีอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน นี่ตุ๊ดเมินกันจริงๆนะคะ พูดแล้วจี๊ด 555555555 ก็นั่งร่ำสุราตามประสาสาวโสด เราอภิสิทธิ์กว่าใคร ตรงไม่ยอมนั่งบนพื้นกับเพื่อนอีกสามคน แต่นั่งดื่มบนเตียงของตัวเองค่ะ ก็นั่งดื่ม นั่งเม้าท์กันยาวไปจนจะเที่ยงคืน ระเบียงห้องก็เปิดผ้าม่านเอาไว้ ระเบียงห้องเป็นผ้าม่านยาวๆน่ะค่ะก็เปิดไว้ ทั้งๆที่วิวไม่มีอะไรให้ดูเล้ยยยยยย คือยังไม่มีใครเมาเลยนะ แต่มีเพื่อนคนนึงนางดื่มหนักกว่าใคร แล้วนั่งอยู่บนพื้นนางนั่งหลังอิงกับเตียงของเพื่อนที่นอนกับเราที่อยู่ตรงระเบียงน่ะค่ะ นางเริ่มตาหวานแระ เราก็นั่งขำ เพื่อนเจ้าของเตียงที่นั่งอยู่ปลายเตียงเรา นางก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปเพื่อนคนที่เริ่มเมา
้เราก็รีบก้มไปคว้ามือถือมาจากเพื่อนขึ้นมาทันที แต่บอกตรงๆค่ะ ตอนที่จะดูรูปนี่กะขำกร๊ากเต็มที่เลย แต่ไม่เลยค่ะ ตามันมองอีกอย่างที่ปรากฏในรูปมากกว่า ในภาพที่มีเพื่อนเรานั่งเมาอยู่ เรามองเห็นเงาของผู้หญิงที่อยู่เหนือร่างเพื่อนเราค่ะ เป็นเงาดำของผู้หญิง ที่รู้ว่าเป็นผู้หญิงเพราะผมยาวมาก พิมพ์ถึงตอนนี้ขนเราลุกไม่หยุดเลยค่ะ ㅠㅠ ในรูปเราเห็นแค่ช่วงบนค่ะ แต่เงานั้นสูงมาก เลยหัวเราที่นั่งอยู่บนเตียงเสียอีก แว่บแรกก็คิดว่า 'เฮ้ย! เราเองแหละแบบสะท้อนกระจกระเบียงงี้' เราก็มองไปที่ระเบียงอย่างไวเลย แล้วก็รีบหันกลับมามองกำแพงที่เรานั่งพิงอยู่ มันจะมีรูปติดอยู่ที่พนังค่ะ แล้วเงาในรูปหัวสูงกว่ากรอบสูงที่ติดไว้อีก.... 'ไม่ใช่หัวกรุแระแบบนี้ เพราะหัวกรุต่ำกว่ากรอบรูปมาก' ร้องห้ายยยยยยยยยยยยยย
แล้วดันปากไวพูดโพลงออกไปเลยค่ะ "นี่เงาใครว่ะ?" ด้วยความมึนด้วยแหละ พูดออกไปแล้วอยากตบปากตัวเองชะมัดเลย ㅠㅠ เพื่อนเจ้าของมือถือรีบหยิบมือถือของนางไป แล้วดู เราถาม "ใช่ป่ะ?" คือถามด้วยความรู้สึกที่แบบมองตากันก็เข้าใจ นางไม่ตอบค่ะ แต่กดลบรูปไปเลย ตอนนั้นเราแบบ น้ำตาจะไหลแล้วจริงๆ เหมือนจะหายมึนไปเลย เพื่อนอีกสองคนก็แบบอะไรของมันสองคนนี้ อยากดูบ้าง จะเข้ามาดู แต่เพื่อนกดลบไปแล้ว นางก็บอกไม่พูดๆ แล้วนางก็เดินไปปิดผ้าม่านที่ระเบียงค่ะ แต่ในใจเรานี่แบบท่องอะไรไม่รู้มั่วไปหมดแล้วจริงๆ ถ้าเราจะมึนคนเดียว ตาฝากคนเดียว เราจะไม่อะไรเลย แต่เพื่อนอีกคนก็เห็นเหมือนกัน แล้วคือต้องนอนที่นี่อีกคืนนะเฟ้ย!!! นี่แค่คืนแรกเอง!! ไม่เอาดิ ไม่งามเลยค่ะ
หลังจากนั้น โทษนะคะ แดรกเหล้ากันให้เมาและหลับๆไปเลยค่ะ กระดกกันลืมหลอนเลย......สรุปนอนหลับกันสบายไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย คืนที่สองหนักกว่าคืนแรกค่ะ ไม่ใช่สิ่งที่มองไม่เห็นนะคะ แต่เป็นพวกเรานี่แหละค่ะ เมาหนักกว่าคืนแรกอี้ก กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ก่อนนอนในทุกๆคืน หรือในทุกๆที่ เราจะสวดมนต์ตลอดค่ะ เมาแค่ไหนก็สวด ขอขมาเจ้าที่เจ้าทางเพื่อความสบายใจ เราเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เคยเจออะไร แต่การไปเที่ยวหิวหินครั้งนั้น เราคิดว่าเราเจอมากที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ
หลังจากกลับจากหัวหินแล้ว เราคุยเรื่องนี้กับเพื่อนทันทีเลยค่ะ สรุปได้ใจความว่าเห็นเหมือนกันจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นคือใคร ประเด็นหนักกว่านั้นคือ อยู่นอกห้อง หรือในห้อง......เพื่อนเจ้าของมือถือถึงกับตั้งชื่อเรื่องไว้ว่า "ทริปหัวหินระทึก"
เรื่องผ่านมาสองปีแล้ว เราอาจจำรายละเอียดได้ไม่หมด เล่าไม่สนุกต้องขอโทษด้วยนะคะ แหะๆ สุดท้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้