ผมขอพูดถึงจากปัจจุบันก่อนนะครับ!!! ปัจจุบันเป็นพนักงานรัฐวิสหกิจ แห่งหนึ่ง อายุ 20กลางๆ เงินเดือน 17-20K (แต่เหลือจริงๆ 3K 555+) ทำงานมาแล้วประมาณ 4-5 ปี ตั้งแต่เด็กจนโต อยู่แต่ต่างจังหวัดทั้งทำงานและเรียน
ทำไหมยิ่งทำงานยิ่ง จน ถึงขั้นหมดตัว ???? นี้แหละครับคือเรื่องเล่าที่จะเป็นข้อคิดหรือแนวคิดให้กับคนที่จบใหม่พึ่งทำงานหรือคนที่ล้มจนหมดตัว
ขอเริ่มเป็นภาคๆ ภาคนี้ภาคคนจนๆ (เอาแบบหนังเลย ไตรภาค

)
ช่วงเด็กๆผมเป็นคนหนึ่งที่มีฐานะปานกลาง(มั้ง)แต่ผมโตมากับโรงเรียนวัดและโรงเรียนรัฐบาล ก็ใช้ชีวิตแบบธรรมดา ติดเกม เริ่มเล่นตั้งแต่ ช.ม. ละ 30 บาท อยู่มันตั้งแต่ 8 โมง ยัน 2 ทุ่ม(นั่งดูเค้าเล่น สอนเค้าก็ยอมฟะ ไม่ได้เล่นชั่งมัน แต่รู้สึกคนที่เราไปดูไปสอน มันรำคาญเรามากๆ ยิ่งมาโดนกับตัวเองสมัยนี้นิ อยากกระโดด 2 ขาคู่ 555+) ได้ไปโรงเรียนวันประมาณละ 50 บาท นะครับ
ช่วงเข้าวัยรุ่น ปวช ผมก็คงเหมือนวัยรุ่นทั่วไปครับ กิน-เที่ยว-จีบหญิง ไม่ขัดสนอันใด แต่!!! เงินได้รับน้อยลงเหลือ 200 บาทต่อสัปดาห์ เติมน้ำมันเอง กินเอง แต่ก็ทำงานพิเศษนิดๆหน่อยครับช่วงเสาร์อาทิตย์ รถแม่ผ่อนให้สบายหน่อย มีหลายคนชอบบอกว่าขาดพ่อหรือขาดแม่จะเป็นเด็กมีปัญหา ผมว่าไม่จริงนะครับ ผมขาดพ่อก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ที่เห็นมีปัญหาจริงๆเท่าที่เห็นกับเป็นลูกคนมีฐานะดีๆหรือลูกครู มักจะเกเร
เท่าที่เห็น ย้ำนะครับย้ำ
เรื่องความรักก็อกหักปางตาย 1 ครั้ง 555+ จำได้จนวันนี้ เจอกันครั้งแรก 18 พฤศจิกายน 2548 เวลาประมาณ 19.00น. เลิกกันก็ 24 กันยายน 2551 เวลา 16.53 น. เหตุผลก็ของเค้าคือ เค้าอยากมีแฟน ร.ร. เดียวกัน (Puppy love เนอะ) ((แต่ผมเจอคำถามแฟนเก่าถามว่า 18+
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทำยังไงแฟนใหม่จะทำให้เสร็จ ทำไม่เสร็จไม่มันเลย ไม่เก่งเหมือนเรา ช่วยบอกเทคนิคหน่อย ต้องบิ้วยังไงแบบไหน บอกตรงๆเจอคำถามนี้
))
ช่วง ปวส. นี้คือเริ่มเป็นจุดเปลี่ยนแม่ป่วยทำงานไม่ค่อยได้ จาก 250 บาทต่อสัปดาห์ เหลือ เดือนละ 500 บาท!!!! รถผ่อนหมดแล้ว (ดีอย่างน้ำมันถูก ไม่งั้นนั่งน้อง 2 แถว น้อง 3 สี ไปจริงๆ 555+) ช่วงนี้ต้องทำงานพิเศษช่วงเย็น ทำงานนู่นนี้นั้นหาเงิน แต่!!!!! ก็ยังคงติดเที่ยวติดเพื่อนตามภาษาวัยรุ่น สรุปตารางประจำวันแบบนี้ 08.30-16.30 เรียน 17.00-22.00 ทำงานพิเศษ 23.00 - 03.00 เที่ยว (เสาร์อาทิตย์ ก็เปลี่ยนจาก เรียน ไปทำงานพิเศษไม่งั้นก็ Relex หาไหว้พระ อะไรทำนองนี้) ผลการเรียนอยู่ระดับ 3.00+ ตลอดครับ
หลังจากจบก็ทำงานเป็นโฟร์แมนประจำไซร์งานก่อสร้าง ผมเจอกับตัวมาแล้วผมรู้สึกไม่ดีเลย เราเป็นโฟร์แมนก็ต้องอยู่กับลูกน้อง แต่ลูกน้องแต่ละคนไม่ค่อยมีการศึกษาพูดกันไม่ค่อยเข้าใจ ที่พักไซร์งานมันค่อนข้างแย่ลูกใครเมียใครซัมติ้งกันมั่วซั่วไปหมด แต่ผมเจอแค่ไซร์เดียวนะครับ ไซร์งานอื่นๆอาจไม่ได้เป็นแบบนี้ ผมทำงานได้ประมาณ 2 เดือนเลยตัดสินใจลาออก แล้วก็มาสอบเข้ารัฐวิสาหกิจและสอบติดด้วยอายุ 20 ปี (ผมจบวิทยาลัยที่ไม่ดังและไม่ค่อยมีชื่อเสียง โดนชื่อเสียซะเยอะด้วยซ้ำ แต่ผมเชื่อว่าการศึกษาที่ไหนก็ให้ความรู้ใกล้เคียงกันถ้าผู้เรียนเค้าสามารถรับความรู้นั้นได้)
งานพิเศษที่เคยทำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กรรมกร,แคดดี้,เด็กเสริฟร้านอาหาร,เด็กเสริฟผับ,เก็บของเก่าขาย,ทำงานร้านเนื้อย่างทุกหน้าที่,รับทำวิทยานิพนธ์(ถามว่า ปวส.ทำไมทำได้ คือผมดูรูปแบบของ มหาลัยนั้นแล้วนำรูปแบบนั้นมาเป็นแนวทางในการเขียน แต่ที่ให้เขียนนี้ต้องมีหัวเรื่องมาแล้วนะครับ),ขายของตลาดนัด,สอนพิเศษ,ดูแลร้านคอม ซ่อม ประกอบ ติดตั้งระบบ Lan และอื่นๆที่จำไม่ได้อีกนิดหน่อย
ถ้าถามเรื่องผู้หญิง ว่ามีเข้ามาบ้างไหม จนๆเนี้ย

!!!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บอกตรงๆครับว่ามี แล้วหน้าตาผมละดีไหม ห่วยแตกมากหน้าตาผมอะ ดำด้วย
ถามว่าจีบสาวยังไง สำหรับผมนะ ผมไม่หล่อไม่รวย แต่ผมมี 5 อย่างครับ 1.จริงใจ 2.ดูแล 3.เข้าใจ 4.พูดจาดี 5.ไม่ทำตัวเป็นคนหื่น
แต่แปลกอยู่อย่างเวลามีแฟน นิสัยแฟนจะตรงข้ามกับเราเกือบทุกอย่าง เออเนอะชีวิต!!!
คติประจำใจครับ
1.กลับบ้านก่อนตะวันขึ้น(อันนี้ผมว่าหลายคยคงแปลกใจ แต่ที่ผมตั้งกฏข้อนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องไปค้างบ้านใครครับ ที่บ้านจะได้ไม่ห่วงมาก เช้ามายังเห็นว่า ไอนี้มันยังมีชีวิตอยู่

)
2.เที่ยวได้แต่เรียนต้องรอด ทำเรื่องโง่ๆได้แต่อย่าให้ตัวเองและเพื่อนๆเป็นอันตราย (คตินี้เพื่อนสนิทผมใช้กันทุกคน ถึงไม่เคยมีเรื่องมีแต่เพื่อนเพิ่มขึ้น)
3.ไม่ซัมติ้งมั่วซั่ว จะซัมติ้งกับคนที่ชื่อว่าแฟนเท่านั้น(เคยมีหลายเหตุการครับ ผู้หญิงนอนแก้ผ้าข้างๆผมก็ไม่ซัมติ้ง มีผู้หญิงชวนไปนอนด้วยก็ เชย์โนครับ เพื่อนชอบพูดกันว่า ...เป็นเกย์หลอฟะ)
4.เวลาพูดจากับใครให้น้อบน้อมพูดให้ไพเราะ เน้นเป็นผู้ฟังที่ดี (ผมถือข้อนี้เป็นกฏระเบียบของชีวิตเลยครับ)
5.เพื่อนมีปัญหาต้องช่วย อย่าทิ้งกันยามเราทุกข์เพื่อนยังช่วย ยามเพื่อนทุกข์เราก็ต้องช่วย(เฉพาะเพื่อนสนิทนะครับ ส่วนเพื่อนไม่สนิทก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ไม่เอาตัวเองไปแปลือง เพราะพวกเพื่อนไม่สนิทชอบหาเรื่องเอย ติดยาเอย)
เอาไว้ต่อภาคชีวิตที่รุ่งที่ดีสุดๆ ชีวิตช่วงจนๆผ่านมาแหละ เอาไว้ไม่ค่ำๆก็วันพรุ่งนี้ครับมาต่อ
เรื่องจริงของคนจนๆ สู่คนที่ประสบความสำเร็จ แต่สุดท้ายชีวิตดิ่งลงเหวถึงขั้นหมดตัว!!!
ทำไหมยิ่งทำงานยิ่ง จน ถึงขั้นหมดตัว ???? นี้แหละครับคือเรื่องเล่าที่จะเป็นข้อคิดหรือแนวคิดให้กับคนที่จบใหม่พึ่งทำงานหรือคนที่ล้มจนหมดตัว
ขอเริ่มเป็นภาคๆ ภาคนี้ภาคคนจนๆ (เอาแบบหนังเลย ไตรภาค
ช่วงเด็กๆผมเป็นคนหนึ่งที่มีฐานะปานกลาง(มั้ง)แต่ผมโตมากับโรงเรียนวัดและโรงเรียนรัฐบาล ก็ใช้ชีวิตแบบธรรมดา ติดเกม เริ่มเล่นตั้งแต่ ช.ม. ละ 30 บาท อยู่มันตั้งแต่ 8 โมง ยัน 2 ทุ่ม(นั่งดูเค้าเล่น สอนเค้าก็ยอมฟะ ไม่ได้เล่นชั่งมัน แต่รู้สึกคนที่เราไปดูไปสอน มันรำคาญเรามากๆ ยิ่งมาโดนกับตัวเองสมัยนี้นิ อยากกระโดด 2 ขาคู่ 555+) ได้ไปโรงเรียนวันประมาณละ 50 บาท นะครับ
ช่วงเข้าวัยรุ่น ปวช ผมก็คงเหมือนวัยรุ่นทั่วไปครับ กิน-เที่ยว-จีบหญิง ไม่ขัดสนอันใด แต่!!! เงินได้รับน้อยลงเหลือ 200 บาทต่อสัปดาห์ เติมน้ำมันเอง กินเอง แต่ก็ทำงานพิเศษนิดๆหน่อยครับช่วงเสาร์อาทิตย์ รถแม่ผ่อนให้สบายหน่อย มีหลายคนชอบบอกว่าขาดพ่อหรือขาดแม่จะเป็นเด็กมีปัญหา ผมว่าไม่จริงนะครับ ผมขาดพ่อก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ที่เห็นมีปัญหาจริงๆเท่าที่เห็นกับเป็นลูกคนมีฐานะดีๆหรือลูกครู มักจะเกเร เท่าที่เห็น ย้ำนะครับย้ำ
เรื่องความรักก็อกหักปางตาย 1 ครั้ง 555+ จำได้จนวันนี้ เจอกันครั้งแรก 18 พฤศจิกายน 2548 เวลาประมาณ 19.00น. เลิกกันก็ 24 กันยายน 2551 เวลา 16.53 น. เหตุผลก็ของเค้าคือ เค้าอยากมีแฟน ร.ร. เดียวกัน (Puppy love เนอะ) ((แต่ผมเจอคำถามแฟนเก่าถามว่า 18+ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ))
ช่วง ปวส. นี้คือเริ่มเป็นจุดเปลี่ยนแม่ป่วยทำงานไม่ค่อยได้ จาก 250 บาทต่อสัปดาห์ เหลือ เดือนละ 500 บาท!!!! รถผ่อนหมดแล้ว (ดีอย่างน้ำมันถูก ไม่งั้นนั่งน้อง 2 แถว น้อง 3 สี ไปจริงๆ 555+) ช่วงนี้ต้องทำงานพิเศษช่วงเย็น ทำงานนู่นนี้นั้นหาเงิน แต่!!!!! ก็ยังคงติดเที่ยวติดเพื่อนตามภาษาวัยรุ่น สรุปตารางประจำวันแบบนี้ 08.30-16.30 เรียน 17.00-22.00 ทำงานพิเศษ 23.00 - 03.00 เที่ยว (เสาร์อาทิตย์ ก็เปลี่ยนจาก เรียน ไปทำงานพิเศษไม่งั้นก็ Relex หาไหว้พระ อะไรทำนองนี้) ผลการเรียนอยู่ระดับ 3.00+ ตลอดครับ
หลังจากจบก็ทำงานเป็นโฟร์แมนประจำไซร์งานก่อสร้าง ผมเจอกับตัวมาแล้วผมรู้สึกไม่ดีเลย เราเป็นโฟร์แมนก็ต้องอยู่กับลูกน้อง แต่ลูกน้องแต่ละคนไม่ค่อยมีการศึกษาพูดกันไม่ค่อยเข้าใจ ที่พักไซร์งานมันค่อนข้างแย่ลูกใครเมียใครซัมติ้งกันมั่วซั่วไปหมด แต่ผมเจอแค่ไซร์เดียวนะครับ ไซร์งานอื่นๆอาจไม่ได้เป็นแบบนี้ ผมทำงานได้ประมาณ 2 เดือนเลยตัดสินใจลาออก แล้วก็มาสอบเข้ารัฐวิสาหกิจและสอบติดด้วยอายุ 20 ปี (ผมจบวิทยาลัยที่ไม่ดังและไม่ค่อยมีชื่อเสียง โดนชื่อเสียซะเยอะด้วยซ้ำ แต่ผมเชื่อว่าการศึกษาที่ไหนก็ให้ความรู้ใกล้เคียงกันถ้าผู้เรียนเค้าสามารถรับความรู้นั้นได้)
งานพิเศษที่เคยทำ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าถามเรื่องผู้หญิง ว่ามีเข้ามาบ้างไหม จนๆเนี้ย
คติประจำใจครับ
1.กลับบ้านก่อนตะวันขึ้น(อันนี้ผมว่าหลายคยคงแปลกใจ แต่ที่ผมตั้งกฏข้อนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องไปค้างบ้านใครครับ ที่บ้านจะได้ไม่ห่วงมาก เช้ามายังเห็นว่า ไอนี้มันยังมีชีวิตอยู่
2.เที่ยวได้แต่เรียนต้องรอด ทำเรื่องโง่ๆได้แต่อย่าให้ตัวเองและเพื่อนๆเป็นอันตราย (คตินี้เพื่อนสนิทผมใช้กันทุกคน ถึงไม่เคยมีเรื่องมีแต่เพื่อนเพิ่มขึ้น)
3.ไม่ซัมติ้งมั่วซั่ว จะซัมติ้งกับคนที่ชื่อว่าแฟนเท่านั้น(เคยมีหลายเหตุการครับ ผู้หญิงนอนแก้ผ้าข้างๆผมก็ไม่ซัมติ้ง มีผู้หญิงชวนไปนอนด้วยก็ เชย์โนครับ เพื่อนชอบพูดกันว่า ...เป็นเกย์หลอฟะ)
4.เวลาพูดจากับใครให้น้อบน้อมพูดให้ไพเราะ เน้นเป็นผู้ฟังที่ดี (ผมถือข้อนี้เป็นกฏระเบียบของชีวิตเลยครับ)
5.เพื่อนมีปัญหาต้องช่วย อย่าทิ้งกันยามเราทุกข์เพื่อนยังช่วย ยามเพื่อนทุกข์เราก็ต้องช่วย(เฉพาะเพื่อนสนิทนะครับ ส่วนเพื่อนไม่สนิทก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ไม่เอาตัวเองไปแปลือง เพราะพวกเพื่อนไม่สนิทชอบหาเรื่องเอย ติดยาเอย)
เอาไว้ต่อภาคชีวิตที่รุ่งที่ดีสุดๆ ชีวิตช่วงจนๆผ่านมาแหละ เอาไว้ไม่ค่ำๆก็วันพรุ่งนี้ครับมาต่อ