ย้อนหลัง บทที่ 15
http://pantip.com/topic/32208368
บทที่ 16
http://pantip.com/topic/32221726
ความเดิมตอนที่แล้ว
“งานนี้เพื่อนฉันบริสุทธิ์” หญิงสาวพูด ยิ้มออกมาได้อย่างสบายใจขึ้นที่เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย
เหลือแต่เรื่องของเขากับเธอนี่แหละ ที่ยังไม่คลี่คลาย! เมื่อรู้ตัวว่านั่งอยู่ใกล้กัน ชลนาก็ขยับออกห่าง ไม่ได้ทำเพราะนึกรังเกียจเขาเลย หญิงสาวมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแน่ แต่มันเป็นความรู้สึกที่เธอก็พูดมันออกมาไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่า..ใจของเธอก็อยากนั่งอยู่ที่เดิมเมื่อสักครู่ แต่กายมันขยับออกห่างเอง
ได้เว้นระยะไว้สักนิดหนึ่งก็รู้สึกเบาใจขึ้นและสามารถเงยหน้ายิ้มให้เขาอย่างที่ใจอยากทำได้!
แต่เมื่อรู้ตัวอีกที เขาก็เข้ามานั่งชิดดูละครไปกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้!!!
วันต่อมาชลนาไปทำงานแต่เช้า และไปก่อนเวลาไว้ก่อนเพราะเป็นวันทำงานวันที่สองของเธอเท่านั้น หญิงสาวไม่ต้องการจะไปสาย หรือว่ากระหืดกระหอบไปทำงานให้เจ้านายไม่ชอบใจ ถึงแม้ว่าดูจากสถานการณ์วันแรกแล้ว เขาดูเหมือนจะไม่สนใจเธอแม้แต่น้อยก็ตามที
เมื่อเห็นแล้วว่าตนมาก่อนเวลาราวๆหนึ่งชั่วโมงได้ เธอจึงเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่โต๊ะทำงานของตนอย่างไม่รีบร้อน เมื่อเดินไปถึง ชลนาก็ทิ้งตัวลงนั่ง ทำใจให้สบายและเตรียมพร้อมสำหรับวันทำงาน เมื่อคืนทั้งคืน เธอคิดมาอย่างดีแล้วว่า ถ้าวันนี้นาวินยังไม่สั่งงานหรือแม้แต่จะพูดกับเธอ เธอจะเป็นคนเข้าไปของานของเขาทำเองไปเลย เป็นไงเป็นกัน!
ขณะที่กำลังคิดหาหนทางรับมือกับนาวินด้วยหลายร้อยวิธีในสมองพลางจดลงบนกระดาษอย่างเมามันส์ เสียงเปิดปิดกระตู ก็ทำให้ชลนาหันหน้าไปมองขวับ ก่อนที่ปากกาที่ถืออยู่จะหลุดจากมือโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวกระพริบตาปริบสองทีเพื่อดูให้แน่ชัดว่าใช่เจ้านายของเธอหรือเปล่าเพราะเห็นว่าเขาชายตามามองเธอเล็กน้อย แต่เย็นชามาก ก่อนจะเดินผ่านเธอไปแบบไม่คิดจะพูดอะไรสักคำ
“สวัสดีค่ะบอส มานานแล้วหรือคะ…”
ในเมื่อเขาไม่ทักเธอ เธอทักเขาก่อนก็ได้!
ชลนาค่อยๆคว่ำกระดาษที่มีลายมือของเธอเขียนเต็มไปหมดลงกับโต๊ะราวกับกลัวว่าเขาจะเห็นถ้อยคำที่เขียนระบายลงไป แถมบางคำยังไม่สามารถออกสื่อให้เจ้านายเห็นได้! แล้วส่งยิ้มชนิดที่ว่าปั้นกันสุดฤทธิ์เผื่อเจ้านายจะเอ็นดูเธอมากขึ้น และดูเหมือนจะได้ผล เพราะเขาหยุดเดินแล้วค่อยๆ หันมาทางเธอ..
“ฉันต้องรายงานเธอด้วยเหรอ” นาวินขมวดคิ้ว ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเขา แต่ลูกน้องสาวที่กำลังส่งยิ้ม ต้องรีบหุบยิ้มทันที เพราะการแปลความหมายผิดของเจ้านายซึ่งคนฉลาดอย่างเขาไม่น่าจะแปรคำถามของเธอเป็นอื่นได้
“เปล่าค่ะ มันเป็นแค่การทักทาย เพราะบอสไม่ยอมพูดกับชลน่ะค่ะ” ชลนาพูดแล้วส่งยิ้มใหม่ แต่ความจริงน่าจะดูเป็นการแยกเขี้ยวมากกว่า คิดว่าจะต่อกรกับเจ้านายหนุ่มคนนี้ดูสักที!
นาวินมองลูกน้องใหม่ แล้วไม่พูดอะไรต่อเพราะเขาไม่อยากจะพูด ชายหนุ่มหันหลังกลับ แต่ก้าวไปได้ครึ่งเท้า เสียงของชลนาก็ดังขึ้นอีก
“บอสจะไปไหนหรือคะ..เอ่อ ต้องการอะไร เรียกใช้ชลได้เลยค่ะ” ชลนาภูมิใจนำเสนอตัวเองอย่างยิ่ง แล้วก็ได้ผลอีกครา เมื่อนาวินหันกลับมาอีกครั้ง แล้วเดินย้อนกลับมาทางเดิมอย่างรวดเร็ว
“ฉันอยากได้กาแฟสักแก้ว” นาวินพูดโดยไม่มองหน้าหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าห้องเขาเลยสักนิด ชายหนุ่มพูดพร้อมกับก้าวเดินกลับเข้าห้องไปราวกับลมปล่อยให้ชลนามองตามอย่างอึ้งๆแต่แล้วก็รีบกระตือรือร้นไปชงกาแฟอย่างพิถีพิถันให้กับเจ้านาย!
แต่กระตือรือร้นได้ไม่นานก็ต้องกลับมานั่งหงอยตามเดิม เพราะการทำงานกับนาวินตลอดทั้งวันก็ยังว่างตามเคย ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทไม่ใหญ่มากและเพิ่งก่อตั้งได้ไม่เกินสองปี พนักงานก็มีไม่มาก แต่ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะยังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นและมีงานให้ทำกันตลอด ยกเว้นเธอ..นาวินเองก็ยังนั่งทำงานอยู่ในห้องได้ตลอดทั้งวัน เขาเป็นเจ้านายที่มนุษย์สัมพันธ์ยอดแย่ เพราะจากที่มีรุ่นพี่เข้ามาทักทายเธอบ้าง แต่ละคนไม่ค่อยจะชอบเขานัก..และนอกจากสั่งงานแล้ว เขาไม่เคยคุยเรื่องอื่นกับพนักงานเลย
เจ้านายในฝันของเธอสลายไปนานแล้ว ตอนนี้เอง หลังจากนั่งมาได้ครึ่งค่อนวัน หญิงสาวจึงเยื้องย่างไปใกล้ประตูศักดิ์สิทธิ์ ณ ห้องทำงานของเจ้านายแล้วจัดการเคาะสามทีให้เป็นพิธี รออยู่อึดใจ ถึงได้ยินเสียงราบเรียบของเจ้านายส่งคำอนุญาตกลับมา
“ชลต้องการทำงานค่ะ” หญิงสาวไม่สนใจว่าเขาจะรับรู้การมีอยู่ของเธอหรือไม่ คาดว่ามีแค่สองทางคือได้งานทำกับโดนไล่ออกเท่านั้นเอง แล้วถ้าเขาไม่ต้องการใช้งานเธออยู่แล้ว ออกเสียยังดีกว่าเพราะอยู่ไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น เธอไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย
ชลนาจ้องนาวินเขม็ง จนเขาคงจะทนไม่ได้ ถึงได้ละจากงานแล้วมองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่เธอเดาไม่ออก
“ฉันไม่ได้มีสิทธิสั่งงานเธอหรอกนะ” เสียงทุ้มเย็นชาถูกส่งมา และความหมายของมันก็ยิ่งทำให้หญิงสาวแปลกใจเข้าไปใหญ่ เขาบอกว่าไม่ได้มีสิทธิสั่งงานเธอหมายความว่าอย่างไรกัน ในเมื่อเขาคนนี้เป็นเจ้านายของเธอไม่ใช่หรือ
“บอสหมายความว่ายังไงคะ”
“ฉันไม่ใช่คนรับเธอเข้ามา แล้วก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินเดือนเธอด้วย”
“ชลไม่เข้าใจ” หญิงสาวขมวดคิ้วเข้าหากัน
นาวินมองผู้หญิงตรงหน้าตรงๆ ชลนา ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง มันจึงไม่แปลกเลยที่ญาติผู้น้องของเขาจะหลงกับรูปลักษณ์ภายนอกถึงขนาดขอให้เลขาคนก่อนของเขาซึ่งสนิทกันอยู่จัดการให้ แต่แม่เลขาตัวแสบของเขาจัดการรับเข้ามาเป็นเลขาแทนตัวเสียอย่างนั้น …ซองขาวของเลขาคนสนิทยังอยู่ที่ลิ้นชักโต๊ะเขายังไม่ได้แกะ แล้วก็ยังไม่ได้ถือว่าหล่อนลาออกไปแล้วเพราะเขาก็ไม่เคยคิดจะให้ใครมาแทนที่
“เดี๋ยวเธอก็จะเข้าใจ”นาวินก้มลงไปทำงานต่อหลังพูดเพียงแค่นั้น แต่ชลนาเริ่มเดือดกับท่าทางของเขา ด้วยพื้นฐานไม่ใช่คนใจเย็น แม้ว่าจะเย็นลงไปบ้างหลังจากมาอยู่บ้านเดียวกับสิงห์ แต่แค่เย็นและยังไม่ได้ดับมอด ตอนนี้มันจึงคุขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอเหมือนไม่มีตัวตน!
"ฉันบอกว่าไม่เข้าใจ” ชลนาพูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง ตั้งใจว่าเป็นไงเป็นกัน อยากให้เรื่องราวมันชัดเจนเสียทีสรรพนามแทนตัวตนก็เปลี่ยนไปด้วยเพราะเริ่มมีน้ำโห
“งั้นฉันไล่เธอออก ออกไปจากบริษัทของฉันไปได้แล้ว” นาวินพูดรอดไรฟัน รู้สึกเคืองที่หญิงสาวกล้ามาต่อกรด้วย ทั้งๆที่เป็นเพียงเด็กจบใหม่และเป็นเด็กเส้นของอนนท์ เขาพูดไล่เธอออกได้ไม่ยาก ในเมื่อเขาก็กำลังหาสาเหตุไล่เด็กสาวคนนี้ออกอยู่แล้วไม่วันนี้ก็วันพรุ่ง และอย่างไรเสียถึงแม้ว่าเธอจะมีตำแหน่งเลขาปลอมๆของเขา เขาก็คงจะไม่ได้ใช้งานเธออยู่ดี เสียเวลาเปล่าๆ
“ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่ออก! คุณไม่ใช่เจ้านายของฉัน ไม่มีสิทธิไล่ฉันออก”
ความตั้งใจในทีแรกที่ว่าหากเธอโดนไล่ออกก็จะออก แต่หญิงสาวเปลี่ยนความตั้งใจทันทีที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ความสามารถในสายตาของนาวินเหลือเกิน เธอต้องการเอาชนะเขาให้ได้!
นาวินมองหน้าชลนานิ่งเมื่อเห็นภาพของเลขาคนก่อนของเขาซ้อนขึ้นมาทับภาพเอาจริงของชลนาเมื่อครู่ แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นเพียงการเอาแต่ใจและดื้อดึงของชลนาเท่านั้น
“คุณจะเอายังไง จะให้ฉันทำงานไหม มีอะไรก็สั่งมาได้เลยฉันทำหมด งานเล็กงานน้อยฉันก็ทำ” มือสองข้างเผลอยันโต๊ะยืนค้ำเจ้านายอย่างเสียมารยาท
ตาสองคู่จ้องกันอย่างคนไม่ถูกชะตา และไม่มีแววของเจ้านายลูกน้องเอาเสียเลย นาทีนั้นถูกปล่อยให้เงียบลงแม้ว่าต่างคนจะก่นด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจก็ตาม
“ไม่มี”
ในที่สุดผู้ที่รับบทเป็นเจ้านายก็ยอมตัดฉากพูดเองเสียเลย เพราะไม่ชอบนัยน์ตาวาวราวแม่เสือของ ‘ผู้หญิง’ ตรงหน้า นี่เป็นอีกสิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุด ผู้หญิงที่ชอบใช้อารมณ์เป็นใหญ่อย่างไรเล่า…
… ทีจะไล่ออกก็โดนหญิงสาวบอกว่าเขาไม่ใช่เจ้านายอีก พอไม่ไล่ออกก็มาของานเขาทำ ตกลงว่าเธอคิดว่าเขาเป็นเจ้านายของเธอหรือไม่กันแน่
“เฮ้อ ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันจัดการหางานให้เธอเอง”
สุดท้ายนาวินก็เป็นฝ่ายตัดบทอย่างรำคาญนิดๆ เมื่อต้องเจอผู้หญิงแบบจิดาเข้ามาอีกคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาเอาเรื่องนั้น…ก็น่าสนใจดี นึกว่าจะเป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออยากนั่งรับเงินเดือนสบายๆเสียอีก…
สุดท้ายเธอก็ได้งานทำ แม้จะเป็นงานเล็กงานน้อย อย่างการชงกาแฟกับรับข้าวมาส่ง ก็ตาม หญิงสาวถือว่ามันเป็นการเริ่มต้นในการทำงานของเธอ และหวังว่าจะมีงานให้เธอทำจริงๆจังๆต่อจากนี้บ้างเสียที
ขณะที่ชลนากำลังคอตก เคร่งเครียดกับการว่างงานของตนอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะของเธอทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ เพราะยังติดอารมณ์เฉื่อยจากการนั่งอยู่เฉยๆนานเกินไป ก่อนจะพบกับคนที่มีหน้าตาราวกับเทพบุตรกรีกอย่างไรอย่างนั้น และจากทรงผมหยิกที่ถูกมัดตึงไว้ข้างหลัง กับการแต่งตัวสไตล์เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์สบายๆ ทว่าราคาแพงหูฉี่นั้น ก็เป็นอันบ่งบอกได้อย่างดีว่า เขาผู้นี้ก็คือ…อนนท์!
“นี่…งานมันน่าเบื่อถึงขนาดที่ชลต้องนั่งหลับเลยเหรอ”
พี่นนท์มาได้ยังไงเนี่ย! ชลนามองคนตรงหน้าอย่างงงๆ แค่แปลกใจในทีแรก แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องบางอย่างระหว่างเขากับเธอหญิงสาวก็ทำตัวไม่ถูก รู้สึกอึดอัดใจเล็กๆ จึงยิ้มแหยนำทางไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
“พี่นนท์ มาได้ยังไงคะ แล้วรู้ได้ไงว่าชลทำงานที่นี่”
“ก็เห็นชลว่าจะมาสมัครงานที่ที่ไม่ใช่เหรอ”
อนนท์ขยับริมฝีปากสวยของตัวเองอย่างขันๆสีหน้าตื่นของชลนา ก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงบนโต๊ะทำงานของหญิงสาว พลางจ้องมองหน้าสวยๆของรุ่นน้องนิ่ง ทว่าการมาโดยไม่ทันตั้งตัวของอนนท์ แล้วเขายังมานั่งจ้องเธอในระยะใกล้เช่นนี้ แถมยังไม่พูดไม่จาอีก ก็ทำให้ชลนาอดรู้สึกลำบากใจไม่น้อย เพราะมันไม่ใช่การมองธรรมดา แต่ในสายตาของอนนท์ เหมือนจะมีเรื่องราวมากมายอยู่ในนั้น
“พี่นนท์มีอะไรกับชลหรือเปล่า ทำไมจ้องชลแบบนี้ล่ะ”
ชลนาพยายามส่งยิ้มที่ไม่เหมือนยิ้มไปให้คนที่เธอนับถือเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง แม้ว่าสายตาของเธอจะไม่ได้ยิ้มตามด้วยก็ตาม แล้วเธอก็ไม่ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมาด้วย อนนท์ยังคงมองหน้าเธอนิ่งเหมือนเดิม
อนนท์จับบรรยากาศได้ทันทีว่ามีอะไรระหว่างเขากับชลนาที่ไม่เหมือนเดิม แววตาของชลนาไม่ได้มีความดีใจเช่นทุกครั้งที่ได้เจอเขา แต่สายตานั้นมันช่างดูเหินห่าง คงจะเป็นเขาที่ทำให้เธอต้องลำบากใจ เขาคงจะต้องทำอะไรบางอย่าง…ชายหนุ่มตั้งท่าจะพูดอะไรสักอย่างออกไป แต่เสียงเย็นๆของคนที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“จะจ้องหน้ากันอีกนานไหม”
ด้วยความคุ้นเคยกับโทนเสียงของลูกพี่ลูกน้อง ไม่ทำให้อนนท์ตกใจเท่าไหร่ เขาเพียงแต่หันไปหานาวิน โดยไม่รู้ว่าชลนาเผลอสะดุ้งกับการมาดั่งสายลมของเจ้านาย และหน้าตาที่เคร่งขรึมนั้นยิ่งตอกย้ำความรู้สึกขนลุกให้กับหญิงสาวจนอดรู้สึกว่าเขาน่าจะมีพลังงานบางอย่างที่สามารถทำให้คนกลัวได้
มันก็ไม่เชิงน่าเกรงขามเหมือนที่พนักงานคนอื่นว่ากัน แต่ชลนาคิดว่ามันเหมือนกับผีมากกว่า แถมเป็นผีไม่ยิ้มด้วย ...
เล่ห์รัก 17
บทที่ 16 http://pantip.com/topic/32221726
ความเดิมตอนที่แล้ว
“งานนี้เพื่อนฉันบริสุทธิ์” หญิงสาวพูด ยิ้มออกมาได้อย่างสบายใจขึ้นที่เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย
เหลือแต่เรื่องของเขากับเธอนี่แหละ ที่ยังไม่คลี่คลาย! เมื่อรู้ตัวว่านั่งอยู่ใกล้กัน ชลนาก็ขยับออกห่าง ไม่ได้ทำเพราะนึกรังเกียจเขาเลย หญิงสาวมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแน่ แต่มันเป็นความรู้สึกที่เธอก็พูดมันออกมาไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่า..ใจของเธอก็อยากนั่งอยู่ที่เดิมเมื่อสักครู่ แต่กายมันขยับออกห่างเอง
ได้เว้นระยะไว้สักนิดหนึ่งก็รู้สึกเบาใจขึ้นและสามารถเงยหน้ายิ้มให้เขาอย่างที่ใจอยากทำได้!
แต่เมื่อรู้ตัวอีกที เขาก็เข้ามานั่งชิดดูละครไปกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้!!!
วันต่อมาชลนาไปทำงานแต่เช้า และไปก่อนเวลาไว้ก่อนเพราะเป็นวันทำงานวันที่สองของเธอเท่านั้น หญิงสาวไม่ต้องการจะไปสาย หรือว่ากระหืดกระหอบไปทำงานให้เจ้านายไม่ชอบใจ ถึงแม้ว่าดูจากสถานการณ์วันแรกแล้ว เขาดูเหมือนจะไม่สนใจเธอแม้แต่น้อยก็ตามที
เมื่อเห็นแล้วว่าตนมาก่อนเวลาราวๆหนึ่งชั่วโมงได้ เธอจึงเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่โต๊ะทำงานของตนอย่างไม่รีบร้อน เมื่อเดินไปถึง ชลนาก็ทิ้งตัวลงนั่ง ทำใจให้สบายและเตรียมพร้อมสำหรับวันทำงาน เมื่อคืนทั้งคืน เธอคิดมาอย่างดีแล้วว่า ถ้าวันนี้นาวินยังไม่สั่งงานหรือแม้แต่จะพูดกับเธอ เธอจะเป็นคนเข้าไปของานของเขาทำเองไปเลย เป็นไงเป็นกัน!
ขณะที่กำลังคิดหาหนทางรับมือกับนาวินด้วยหลายร้อยวิธีในสมองพลางจดลงบนกระดาษอย่างเมามันส์ เสียงเปิดปิดกระตู ก็ทำให้ชลนาหันหน้าไปมองขวับ ก่อนที่ปากกาที่ถืออยู่จะหลุดจากมือโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวกระพริบตาปริบสองทีเพื่อดูให้แน่ชัดว่าใช่เจ้านายของเธอหรือเปล่าเพราะเห็นว่าเขาชายตามามองเธอเล็กน้อย แต่เย็นชามาก ก่อนจะเดินผ่านเธอไปแบบไม่คิดจะพูดอะไรสักคำ
“สวัสดีค่ะบอส มานานแล้วหรือคะ…”
ในเมื่อเขาไม่ทักเธอ เธอทักเขาก่อนก็ได้!
ชลนาค่อยๆคว่ำกระดาษที่มีลายมือของเธอเขียนเต็มไปหมดลงกับโต๊ะราวกับกลัวว่าเขาจะเห็นถ้อยคำที่เขียนระบายลงไป แถมบางคำยังไม่สามารถออกสื่อให้เจ้านายเห็นได้! แล้วส่งยิ้มชนิดที่ว่าปั้นกันสุดฤทธิ์เผื่อเจ้านายจะเอ็นดูเธอมากขึ้น และดูเหมือนจะได้ผล เพราะเขาหยุดเดินแล้วค่อยๆ หันมาทางเธอ..
“ฉันต้องรายงานเธอด้วยเหรอ” นาวินขมวดคิ้ว ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเขา แต่ลูกน้องสาวที่กำลังส่งยิ้ม ต้องรีบหุบยิ้มทันที เพราะการแปลความหมายผิดของเจ้านายซึ่งคนฉลาดอย่างเขาไม่น่าจะแปรคำถามของเธอเป็นอื่นได้
“เปล่าค่ะ มันเป็นแค่การทักทาย เพราะบอสไม่ยอมพูดกับชลน่ะค่ะ” ชลนาพูดแล้วส่งยิ้มใหม่ แต่ความจริงน่าจะดูเป็นการแยกเขี้ยวมากกว่า คิดว่าจะต่อกรกับเจ้านายหนุ่มคนนี้ดูสักที!
นาวินมองลูกน้องใหม่ แล้วไม่พูดอะไรต่อเพราะเขาไม่อยากจะพูด ชายหนุ่มหันหลังกลับ แต่ก้าวไปได้ครึ่งเท้า เสียงของชลนาก็ดังขึ้นอีก
“บอสจะไปไหนหรือคะ..เอ่อ ต้องการอะไร เรียกใช้ชลได้เลยค่ะ” ชลนาภูมิใจนำเสนอตัวเองอย่างยิ่ง แล้วก็ได้ผลอีกครา เมื่อนาวินหันกลับมาอีกครั้ง แล้วเดินย้อนกลับมาทางเดิมอย่างรวดเร็ว
“ฉันอยากได้กาแฟสักแก้ว” นาวินพูดโดยไม่มองหน้าหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าห้องเขาเลยสักนิด ชายหนุ่มพูดพร้อมกับก้าวเดินกลับเข้าห้องไปราวกับลมปล่อยให้ชลนามองตามอย่างอึ้งๆแต่แล้วก็รีบกระตือรือร้นไปชงกาแฟอย่างพิถีพิถันให้กับเจ้านาย!
แต่กระตือรือร้นได้ไม่นานก็ต้องกลับมานั่งหงอยตามเดิม เพราะการทำงานกับนาวินตลอดทั้งวันก็ยังว่างตามเคย ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทไม่ใหญ่มากและเพิ่งก่อตั้งได้ไม่เกินสองปี พนักงานก็มีไม่มาก แต่ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะยังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นและมีงานให้ทำกันตลอด ยกเว้นเธอ..นาวินเองก็ยังนั่งทำงานอยู่ในห้องได้ตลอดทั้งวัน เขาเป็นเจ้านายที่มนุษย์สัมพันธ์ยอดแย่ เพราะจากที่มีรุ่นพี่เข้ามาทักทายเธอบ้าง แต่ละคนไม่ค่อยจะชอบเขานัก..และนอกจากสั่งงานแล้ว เขาไม่เคยคุยเรื่องอื่นกับพนักงานเลย
เจ้านายในฝันของเธอสลายไปนานแล้ว ตอนนี้เอง หลังจากนั่งมาได้ครึ่งค่อนวัน หญิงสาวจึงเยื้องย่างไปใกล้ประตูศักดิ์สิทธิ์ ณ ห้องทำงานของเจ้านายแล้วจัดการเคาะสามทีให้เป็นพิธี รออยู่อึดใจ ถึงได้ยินเสียงราบเรียบของเจ้านายส่งคำอนุญาตกลับมา
“ชลต้องการทำงานค่ะ” หญิงสาวไม่สนใจว่าเขาจะรับรู้การมีอยู่ของเธอหรือไม่ คาดว่ามีแค่สองทางคือได้งานทำกับโดนไล่ออกเท่านั้นเอง แล้วถ้าเขาไม่ต้องการใช้งานเธออยู่แล้ว ออกเสียยังดีกว่าเพราะอยู่ไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น เธอไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย
ชลนาจ้องนาวินเขม็ง จนเขาคงจะทนไม่ได้ ถึงได้ละจากงานแล้วมองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่เธอเดาไม่ออก
“ฉันไม่ได้มีสิทธิสั่งงานเธอหรอกนะ” เสียงทุ้มเย็นชาถูกส่งมา และความหมายของมันก็ยิ่งทำให้หญิงสาวแปลกใจเข้าไปใหญ่ เขาบอกว่าไม่ได้มีสิทธิสั่งงานเธอหมายความว่าอย่างไรกัน ในเมื่อเขาคนนี้เป็นเจ้านายของเธอไม่ใช่หรือ
“บอสหมายความว่ายังไงคะ”
“ฉันไม่ใช่คนรับเธอเข้ามา แล้วก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินเดือนเธอด้วย”
“ชลไม่เข้าใจ” หญิงสาวขมวดคิ้วเข้าหากัน
นาวินมองผู้หญิงตรงหน้าตรงๆ ชลนา ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง มันจึงไม่แปลกเลยที่ญาติผู้น้องของเขาจะหลงกับรูปลักษณ์ภายนอกถึงขนาดขอให้เลขาคนก่อนของเขาซึ่งสนิทกันอยู่จัดการให้ แต่แม่เลขาตัวแสบของเขาจัดการรับเข้ามาเป็นเลขาแทนตัวเสียอย่างนั้น …ซองขาวของเลขาคนสนิทยังอยู่ที่ลิ้นชักโต๊ะเขายังไม่ได้แกะ แล้วก็ยังไม่ได้ถือว่าหล่อนลาออกไปแล้วเพราะเขาก็ไม่เคยคิดจะให้ใครมาแทนที่
“เดี๋ยวเธอก็จะเข้าใจ”นาวินก้มลงไปทำงานต่อหลังพูดเพียงแค่นั้น แต่ชลนาเริ่มเดือดกับท่าทางของเขา ด้วยพื้นฐานไม่ใช่คนใจเย็น แม้ว่าจะเย็นลงไปบ้างหลังจากมาอยู่บ้านเดียวกับสิงห์ แต่แค่เย็นและยังไม่ได้ดับมอด ตอนนี้มันจึงคุขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอเหมือนไม่มีตัวตน!
"ฉันบอกว่าไม่เข้าใจ” ชลนาพูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง ตั้งใจว่าเป็นไงเป็นกัน อยากให้เรื่องราวมันชัดเจนเสียทีสรรพนามแทนตัวตนก็เปลี่ยนไปด้วยเพราะเริ่มมีน้ำโห
“งั้นฉันไล่เธอออก ออกไปจากบริษัทของฉันไปได้แล้ว” นาวินพูดรอดไรฟัน รู้สึกเคืองที่หญิงสาวกล้ามาต่อกรด้วย ทั้งๆที่เป็นเพียงเด็กจบใหม่และเป็นเด็กเส้นของอนนท์ เขาพูดไล่เธอออกได้ไม่ยาก ในเมื่อเขาก็กำลังหาสาเหตุไล่เด็กสาวคนนี้ออกอยู่แล้วไม่วันนี้ก็วันพรุ่ง และอย่างไรเสียถึงแม้ว่าเธอจะมีตำแหน่งเลขาปลอมๆของเขา เขาก็คงจะไม่ได้ใช้งานเธออยู่ดี เสียเวลาเปล่าๆ
“ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่ออก! คุณไม่ใช่เจ้านายของฉัน ไม่มีสิทธิไล่ฉันออก”
ความตั้งใจในทีแรกที่ว่าหากเธอโดนไล่ออกก็จะออก แต่หญิงสาวเปลี่ยนความตั้งใจทันทีที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ความสามารถในสายตาของนาวินเหลือเกิน เธอต้องการเอาชนะเขาให้ได้!
นาวินมองหน้าชลนานิ่งเมื่อเห็นภาพของเลขาคนก่อนของเขาซ้อนขึ้นมาทับภาพเอาจริงของชลนาเมื่อครู่ แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นเพียงการเอาแต่ใจและดื้อดึงของชลนาเท่านั้น
“คุณจะเอายังไง จะให้ฉันทำงานไหม มีอะไรก็สั่งมาได้เลยฉันทำหมด งานเล็กงานน้อยฉันก็ทำ” มือสองข้างเผลอยันโต๊ะยืนค้ำเจ้านายอย่างเสียมารยาท
ตาสองคู่จ้องกันอย่างคนไม่ถูกชะตา และไม่มีแววของเจ้านายลูกน้องเอาเสียเลย นาทีนั้นถูกปล่อยให้เงียบลงแม้ว่าต่างคนจะก่นด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจก็ตาม
“ไม่มี”
ในที่สุดผู้ที่รับบทเป็นเจ้านายก็ยอมตัดฉากพูดเองเสียเลย เพราะไม่ชอบนัยน์ตาวาวราวแม่เสือของ ‘ผู้หญิง’ ตรงหน้า นี่เป็นอีกสิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุด ผู้หญิงที่ชอบใช้อารมณ์เป็นใหญ่อย่างไรเล่า…
… ทีจะไล่ออกก็โดนหญิงสาวบอกว่าเขาไม่ใช่เจ้านายอีก พอไม่ไล่ออกก็มาของานเขาทำ ตกลงว่าเธอคิดว่าเขาเป็นเจ้านายของเธอหรือไม่กันแน่
“เฮ้อ ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันจัดการหางานให้เธอเอง”
สุดท้ายนาวินก็เป็นฝ่ายตัดบทอย่างรำคาญนิดๆ เมื่อต้องเจอผู้หญิงแบบจิดาเข้ามาอีกคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาเอาเรื่องนั้น…ก็น่าสนใจดี นึกว่าจะเป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออยากนั่งรับเงินเดือนสบายๆเสียอีก…
สุดท้ายเธอก็ได้งานทำ แม้จะเป็นงานเล็กงานน้อย อย่างการชงกาแฟกับรับข้าวมาส่ง ก็ตาม หญิงสาวถือว่ามันเป็นการเริ่มต้นในการทำงานของเธอ และหวังว่าจะมีงานให้เธอทำจริงๆจังๆต่อจากนี้บ้างเสียที
ขณะที่ชลนากำลังคอตก เคร่งเครียดกับการว่างงานของตนอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะของเธอทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ เพราะยังติดอารมณ์เฉื่อยจากการนั่งอยู่เฉยๆนานเกินไป ก่อนจะพบกับคนที่มีหน้าตาราวกับเทพบุตรกรีกอย่างไรอย่างนั้น และจากทรงผมหยิกที่ถูกมัดตึงไว้ข้างหลัง กับการแต่งตัวสไตล์เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์สบายๆ ทว่าราคาแพงหูฉี่นั้น ก็เป็นอันบ่งบอกได้อย่างดีว่า เขาผู้นี้ก็คือ…อนนท์!
“นี่…งานมันน่าเบื่อถึงขนาดที่ชลต้องนั่งหลับเลยเหรอ”
พี่นนท์มาได้ยังไงเนี่ย! ชลนามองคนตรงหน้าอย่างงงๆ แค่แปลกใจในทีแรก แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องบางอย่างระหว่างเขากับเธอหญิงสาวก็ทำตัวไม่ถูก รู้สึกอึดอัดใจเล็กๆ จึงยิ้มแหยนำทางไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
“พี่นนท์ มาได้ยังไงคะ แล้วรู้ได้ไงว่าชลทำงานที่นี่”
“ก็เห็นชลว่าจะมาสมัครงานที่ที่ไม่ใช่เหรอ”
อนนท์ขยับริมฝีปากสวยของตัวเองอย่างขันๆสีหน้าตื่นของชลนา ก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงบนโต๊ะทำงานของหญิงสาว พลางจ้องมองหน้าสวยๆของรุ่นน้องนิ่ง ทว่าการมาโดยไม่ทันตั้งตัวของอนนท์ แล้วเขายังมานั่งจ้องเธอในระยะใกล้เช่นนี้ แถมยังไม่พูดไม่จาอีก ก็ทำให้ชลนาอดรู้สึกลำบากใจไม่น้อย เพราะมันไม่ใช่การมองธรรมดา แต่ในสายตาของอนนท์ เหมือนจะมีเรื่องราวมากมายอยู่ในนั้น
“พี่นนท์มีอะไรกับชลหรือเปล่า ทำไมจ้องชลแบบนี้ล่ะ”
ชลนาพยายามส่งยิ้มที่ไม่เหมือนยิ้มไปให้คนที่เธอนับถือเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง แม้ว่าสายตาของเธอจะไม่ได้ยิ้มตามด้วยก็ตาม แล้วเธอก็ไม่ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมาด้วย อนนท์ยังคงมองหน้าเธอนิ่งเหมือนเดิม
อนนท์จับบรรยากาศได้ทันทีว่ามีอะไรระหว่างเขากับชลนาที่ไม่เหมือนเดิม แววตาของชลนาไม่ได้มีความดีใจเช่นทุกครั้งที่ได้เจอเขา แต่สายตานั้นมันช่างดูเหินห่าง คงจะเป็นเขาที่ทำให้เธอต้องลำบากใจ เขาคงจะต้องทำอะไรบางอย่าง…ชายหนุ่มตั้งท่าจะพูดอะไรสักอย่างออกไป แต่เสียงเย็นๆของคนที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“จะจ้องหน้ากันอีกนานไหม”
ด้วยความคุ้นเคยกับโทนเสียงของลูกพี่ลูกน้อง ไม่ทำให้อนนท์ตกใจเท่าไหร่ เขาเพียงแต่หันไปหานาวิน โดยไม่รู้ว่าชลนาเผลอสะดุ้งกับการมาดั่งสายลมของเจ้านาย และหน้าตาที่เคร่งขรึมนั้นยิ่งตอกย้ำความรู้สึกขนลุกให้กับหญิงสาวจนอดรู้สึกว่าเขาน่าจะมีพลังงานบางอย่างที่สามารถทำให้คนกลัวได้
มันก็ไม่เชิงน่าเกรงขามเหมือนที่พนักงานคนอื่นว่ากัน แต่ชลนาคิดว่ามันเหมือนกับผีมากกว่า แถมเป็นผีไม่ยิ้มด้วย ...