การออกแบบ Presentation ที่ดี อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เนื่องจากศิลปะของการออกแบบ Presentation นั้น ต้องใช้ทั้ง สี ตัวหนังสือ รูปภาพ สัญลักษณ์ และพื้นหลัง โดยทำให้สิ่งเหล่านี้สัมพันธ์กัน เหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ แต่! ทุกคนอย่าเพิ่งคิดว่าจะยากเกินความสามารถ เพราะวันนี้เรามีเคล็ดลับ “Less is more” ที่จะช่วยให้คุณออกแบบ Presentation ออกมาได้ดีที่สุด
.
.
.
การใช้ภาพพื้นหลัง (Background Image)
หลีกเลี่ยง : การใช้พื้นหลังสีทึบหลายๆสี และพื้นหลังที่มีลวดลาย เพราะเมื่อใส่ตัวหนังสือลงไป จะทำให้อ่านยาก
และยิ่งทำให้ผู้ชมไม่สนใจในสิ่งที่คุณนำเสนออยู่เลย
ควรทำ : วิธีแก้คือหากจำเป็นต้องใช้พื้นหลังที่มีลวดลาย ควรเลือกพื้นหลังที่มีสีอ่อนๆ เพราะจะช่วยทำให้ตัวหนังสืออ่านง่ายขึ้น
หรือถ้าจำเป็นจะต้องใช้พื้นหลังที่มีสีทึบจริงๆ ก็อาจจะวาดกรอบสี่เหลี่ยมครอบตัวหนังสือไว้ เพื่อแยกตัวหนังสือกับพื้นหลังให้อ่านได้ง่ายมากขึ้น
.
.
การจัดวางตัวหนังสือ (Text Alignment)
หลีกเลี่ยง : การวางพื้นหลังและตัวหนังสือไว้ตรงกลางแล้วพื้นหลังเป็นภาพเยอะๆจะยิ่งทำให้ตัวหนังสืออ่านยากขึ้น
และเกิดความสับสนได้ง่าย
ควรทำ : แทนที่จะจัดวางตัวหนังสือไว้ตรงกลาง คุณอาจจะลองจัดไว้ด้านใดด้านหนึ่งไม่ซ้ายก็ขวา
เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างพื้นหลังและตัวหนังสือ
.
.
การเลือกขนาดตัวหนังสือ (Font Size)
หลีกเลี่ยง : การใช้ตัวหนังสือขนาดเดียวกันทั้งหมด เพราะจะทำให้ผู้ชมไม่รู้ว่าจุดไหนที่คุณต้องการจะนำเสนอ
ควรทำ : ถ้า Slide ของคุณจำเป็นที่จะต้องมีตัวหนังสือเยอะๆ ให้เพิ่มขนาดตัวหนังสือที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุดให้ดูเด่นขึ้นมา
จะทำให้ผู้ชมเข้าใจสิ่งที่จะนำเสนอมากขึ้น
.
.
การใช้แสงเงา (Shadowing)
หลีกเลี่ยง : การใส่ Drop Shadow ให้กับตัวหนังสือ เพราะยิ่งเป็นตัวหนังสือที่บางและเป็นสีทึบๆ
ยิ่งจะทำให้ตัวหนังสือนั้นยิ่งดูเบลอ และดูไม่น่าอ่าน
ควรทำ : ถ้าคุณจำเป็นที่จะต้องใช้ Drop Shadow จริงๆ ให้ใช้มันกับหัวข้อเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้กับตัวเนื้อหา
หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ใช้พื้นหลังสีเข้ม เพื่อตัดกับตัวหนังสือสีอ่อน เช่น สีขาว ก็จะทำให้ตัวหนังสือเด่นขึ้นมาได้โดยไม่ต้องใช้ Drop Shadow
.
.
การเลือกรูปภาพ (Photo & Image)
หลีกเลี่ยง : ภาพที่มีความละเอียดต่ำจะยิ่งทำให้ Presentation ที่เราทำดูไม่เรียบร้อย และดูขาดความใส่ใจ
ควรทำ : ควรใช้ภาพที่มีขนาดไม่ต่ำกว่า 1000 Pixels ในการทำ Presentation ซึ่งเราอาจจะหาภาพเหล่านี้ได้ฟรีๆ
จากเว็บ deviantart.com หรือ sxc.hu หรือภาพแบบที่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บ istockphoto.com หรือ flickr.com
.
.
การเลือกรูปแบบตัวอักษร (Typeface)
หลีกเลี่ยง : ถ้าคุณใช้ Font ที่ดูประหลาด หรือมีลวดลายเกินไปเพื่อต้องการให้ Presentation ดูสนุกนั่นเป็นสิ่งที่คุณคิดผิด
เพราะมันยิ่งทำให้ Presentation ของคุณอ่านยากและหมดสนุกไปเลย
ควรทำ : เวลาที่คุณจะเลือกใช้ Font ให้คุณเลือกตัวหนังสือที่มีความหนักเบาไม่เท่ากัน
เช่นเวลาเลือกตัวหนังสือ ก็ควรเลือกแบบที่มีทั้ง ตัวหนา ตัวบาง และแบบปกติ เพื่อให้ Presentation เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
.
.
การออกแบบ Presentation ที่ดีควรจะประกอบไปด้วย 3 Keyword นั่นก็คือ อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน และเพลิดเพลิน ลองนำเอาเทคนิคที่เรานำมาฝาก
ไปประยุกต์ใช้กับการออกแบบ Presentation ของคุณ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณสามารถออกแบบ Presentation ได้อย่างสวยงามและยอดเยี่ยมที่สุด
.
.
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ใครหลายๆคนได้ความรู้ในการทำ Presentation กันไปไม่มากก็น้อยนะคะ ^^
ใครอยากติดตามความรู้ในการทำ Presentation และเรื่องราวอื่นๆ ติดตามที่เพจนี้เลยนะคะ
https://www.facebook.com/presentationx
เคล็ดลับ 6 ข้อ ที่ “ควรทำ” และ “ไม่ควรทำ” ในการออกแบบ Presentation!
การออกแบบ Presentation ที่ดี อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เนื่องจากศิลปะของการออกแบบ Presentation นั้น ต้องใช้ทั้ง สี ตัวหนังสือ รูปภาพ สัญลักษณ์ และพื้นหลัง โดยทำให้สิ่งเหล่านี้สัมพันธ์กัน เหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ แต่! ทุกคนอย่าเพิ่งคิดว่าจะยากเกินความสามารถ เพราะวันนี้เรามีเคล็ดลับ “Less is more” ที่จะช่วยให้คุณออกแบบ Presentation ออกมาได้ดีที่สุด
.
.
.
การใช้ภาพพื้นหลัง (Background Image)
หลีกเลี่ยง : การใช้พื้นหลังสีทึบหลายๆสี และพื้นหลังที่มีลวดลาย เพราะเมื่อใส่ตัวหนังสือลงไป จะทำให้อ่านยาก
และยิ่งทำให้ผู้ชมไม่สนใจในสิ่งที่คุณนำเสนออยู่เลย
ควรทำ : วิธีแก้คือหากจำเป็นต้องใช้พื้นหลังที่มีลวดลาย ควรเลือกพื้นหลังที่มีสีอ่อนๆ เพราะจะช่วยทำให้ตัวหนังสืออ่านง่ายขึ้น
หรือถ้าจำเป็นจะต้องใช้พื้นหลังที่มีสีทึบจริงๆ ก็อาจจะวาดกรอบสี่เหลี่ยมครอบตัวหนังสือไว้ เพื่อแยกตัวหนังสือกับพื้นหลังให้อ่านได้ง่ายมากขึ้น
.
.
การจัดวางตัวหนังสือ (Text Alignment)
หลีกเลี่ยง : การวางพื้นหลังและตัวหนังสือไว้ตรงกลางแล้วพื้นหลังเป็นภาพเยอะๆจะยิ่งทำให้ตัวหนังสืออ่านยากขึ้น
และเกิดความสับสนได้ง่าย
ควรทำ : แทนที่จะจัดวางตัวหนังสือไว้ตรงกลาง คุณอาจจะลองจัดไว้ด้านใดด้านหนึ่งไม่ซ้ายก็ขวา
เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างพื้นหลังและตัวหนังสือ
.
.
การเลือกขนาดตัวหนังสือ (Font Size)
หลีกเลี่ยง : การใช้ตัวหนังสือขนาดเดียวกันทั้งหมด เพราะจะทำให้ผู้ชมไม่รู้ว่าจุดไหนที่คุณต้องการจะนำเสนอ
ควรทำ : ถ้า Slide ของคุณจำเป็นที่จะต้องมีตัวหนังสือเยอะๆ ให้เพิ่มขนาดตัวหนังสือที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุดให้ดูเด่นขึ้นมา
จะทำให้ผู้ชมเข้าใจสิ่งที่จะนำเสนอมากขึ้น
.
.
การใช้แสงเงา (Shadowing)
หลีกเลี่ยง : การใส่ Drop Shadow ให้กับตัวหนังสือ เพราะยิ่งเป็นตัวหนังสือที่บางและเป็นสีทึบๆ
ยิ่งจะทำให้ตัวหนังสือนั้นยิ่งดูเบลอ และดูไม่น่าอ่าน
ควรทำ : ถ้าคุณจำเป็นที่จะต้องใช้ Drop Shadow จริงๆ ให้ใช้มันกับหัวข้อเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้กับตัวเนื้อหา
หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ใช้พื้นหลังสีเข้ม เพื่อตัดกับตัวหนังสือสีอ่อน เช่น สีขาว ก็จะทำให้ตัวหนังสือเด่นขึ้นมาได้โดยไม่ต้องใช้ Drop Shadow
.
.
การเลือกรูปภาพ (Photo & Image)
หลีกเลี่ยง : ภาพที่มีความละเอียดต่ำจะยิ่งทำให้ Presentation ที่เราทำดูไม่เรียบร้อย และดูขาดความใส่ใจ
ควรทำ : ควรใช้ภาพที่มีขนาดไม่ต่ำกว่า 1000 Pixels ในการทำ Presentation ซึ่งเราอาจจะหาภาพเหล่านี้ได้ฟรีๆ
จากเว็บ deviantart.com หรือ sxc.hu หรือภาพแบบที่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บ istockphoto.com หรือ flickr.com
.
.
การเลือกรูปแบบตัวอักษร (Typeface)
หลีกเลี่ยง : ถ้าคุณใช้ Font ที่ดูประหลาด หรือมีลวดลายเกินไปเพื่อต้องการให้ Presentation ดูสนุกนั่นเป็นสิ่งที่คุณคิดผิด
เพราะมันยิ่งทำให้ Presentation ของคุณอ่านยากและหมดสนุกไปเลย
ควรทำ : เวลาที่คุณจะเลือกใช้ Font ให้คุณเลือกตัวหนังสือที่มีความหนักเบาไม่เท่ากัน
เช่นเวลาเลือกตัวหนังสือ ก็ควรเลือกแบบที่มีทั้ง ตัวหนา ตัวบาง และแบบปกติ เพื่อให้ Presentation เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
.
.
การออกแบบ Presentation ที่ดีควรจะประกอบไปด้วย 3 Keyword นั่นก็คือ อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน และเพลิดเพลิน ลองนำเอาเทคนิคที่เรานำมาฝาก
ไปประยุกต์ใช้กับการออกแบบ Presentation ของคุณ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณสามารถออกแบบ Presentation ได้อย่างสวยงามและยอดเยี่ยมที่สุด
.
.
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ใครหลายๆคนได้ความรู้ในการทำ Presentation กันไปไม่มากก็น้อยนะคะ ^^
ใครอยากติดตามความรู้ในการทำ Presentation และเรื่องราวอื่นๆ ติดตามที่เพจนี้เลยนะคะ
https://www.facebook.com/presentationx