งามหน้าอีก>>> ทางการสหรัฐฯพุ่งเป้าไทย แหล่งผลิตแบงก์ดอลลาร์ปลอม หลังจับได้ล็อตใหญ่ได้ที่กัมพูชา มูลค่า7.16ล้านดอลลาร์



พุ่งเป้า'ไทย'แหล่งผลิต

หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐ ซึ่งสอบสวนคดีอาชญากรรมทางการเงินทั่วโลก และมีบทบาทในการอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่า การยึดธนบัตรปลอมครั้งใหญ่ในครั้งนี้ บ่งชี้ถึงขบวนการปลอมแปลงธนบัตรในไทย ซึ่งกำลังขยายตัวมากขึ้น หลังจากที่มีการยึด ธนบัตรดังกล่าวเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้
โดย หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐระบุว่า มีเงินสดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์หมุนเวียนอยู่ทั่วโลก โดย 75% อยู่นอกสหรัฐ ซึ่งการจัดการกับการปลอมแปลงธนบัตรนับเป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษาความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินระดับโลก
นายเจ. เควิน เทรย์เลอร์ เจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบราชการลับสหรัฐ ประจำสถานทูตสหรัฐในกรุงเทพ กล่าวว่า จำนวนเงินสดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่หมุนเวียนอยู่ทั่วโลก มีสัดส่วนไม่ถึง 0.25% หรือประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เป็นเงินปลอมในอเมริกาใต้ ซึ่งมีการลักลอบขนยาเสพติดและการปลอมแปลงธนบัตรบ่อยครั้งนั้น การยึดเงินปลอมครั้งใหญ่จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
โดยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐได้ช่วยตำรวจเปรูในการจับกุมผู้ปลอมแปลงเงิน 4.5 ล้านดอลลาร์ แต่การยึดเงินปลอมแทบไม่ค่อยเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่การจับกุมในกัมพูชาอาจบ่งชี้ว่ามีการปลอมแปลงเงินเพิ่มมากขึ้น และมีความร่วมมือที่ดีขึ้นระหว่างหน่วยสืบราชการลับสหรัฐและเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น
นายเทรย์เลอร์ ซึ่งเดินทางไปยังพระตะบองเพื่อตรวจสอบเงินปลอม 7.16 ล้านดอลลาร์ ในช่วงต้นเดือนต.ค. ระบุว่า มีการยึดเงินปลอม 1 ล้านดอลลาร์ในประเทศไทยด้วย โดยมีการจับกุมผู้ต้องหารายหนึ่ง
"มีการผลิตเงินปลอมจำนวนมากขึ้น และการสอบสวนของเราบ่งชี้ไปที่ไทย ในฐานะประเทศแหล่งกำเนิด ซึ่งเราจะยังคงดำเนินความพยายามเพื่อค้นหาโรงงานผลิต"นายเทรย์เลอร์กล่าว


เผยมีคนไทยเกี่ยวข้อง 3 คน ชี้เป็นการยึดแบงก์ดอลลาร์ปลอมที่ใหญ่สุดใน "อาเซียน" รอบเกือบ 10 ปี
เจ้าหน้าที่ของพลตรีซาร์ เต็ธ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจของพระตะบอง ได้สกัดจับชายไทย 3 คนในวันที่ 19 ก.ย. ขณะขับรถกระบะคันหนึ่งจากประเทศไทยผ่านจุดผ่านแดนเข้าไปในเขตพนมพรึกของกัมพูชา
พลตรีจัตวาซาร์ เต็ธ เปิดเผยว่า ภายในรถกระบะดังกล่าวพบกล่องกระดาษ 3 กล่อง บรรจุธนบัตร 100 ดอลลาร์ปลอมมูลค่า 7.16 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการยึดธนบัตรสหรัฐปลอมครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบเกือบ 10 ปี และเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในกัมพูชา
จนท.สหรัฐฯเชื่อทำเป็นขบวนการ

ด้านนายชิม ดารา ซึ่งเป็นทนายความชาวกัมพูชาของผู้ต้องหาทั้ง 2 เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า พวกเขาปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดใดๆ
นายเทรย์เลอร์กล่าวว่า กลุ่มอาชญากรที่ทำการผลิตเงินปลอมในไทยนั้น เป็นขบวนการที่มีการจัดตั้งอย่างดี และเชื่อมโยงกับกลุ่มอื่นๆ โดยการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ได้ช่วยสกัดกั้นการปลอมแปลงธนบัตร และกดดันให้กลุ่มอาชญากรเข้าสู่ตลาดกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดใหม่ มีการใช้ดอลลาร์อย่างกว้างขวางในกัมพูชา และมักนิยมใช้มากกว่าเงินเรียลของกัมพูชา สำหรับการทำธุรกรรมมูลค่าสูง อาทิ การจ่ายค่าเช่าและเงินเดือน

เผยปี56จับกุมได้67ครั้ง

ในปี 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐ ได้ทำการจับกุมดอลลาร์ปลอม 67 ครั้ง และยึดดอลลาร์ปลอมมูลค่า 3.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่รวมถึงการจับกุมในกัมพูชา

หมึกพิมพ์และกระดาษพิเศษที่กระทรวงการคลังสหรัฐใช้ในการพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์นั้น มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งได้ช่วยขจัดการปลอมแปลงธนบัตรแบบการพิมพ์ออฟเซ็ท ในสหรัฐ ซึ่งการปลอมแปลงใช้หลากหลายวิธีการ อาทิ การพิมพ์ด้วยอิงค์เจ็ต หรือการถ่ายสำเนาแบบสี แต่ยังคงมีการใช้วิธีพิมพ์แบบออฟเซ็ทนอกสหรัฐเพื่อผลิตเงินปลอมปริมาณมากขึ้น โดยกระบวนการนี้ต้องใช้หมึกราคาแพงและแท่นพิมพ์ รวมถึงช่างศิลป์ที่มีฝีมือ
"คุณต้องใช้คนที่มีความสามารถในการทำเรื่องนี้" นายเทรย์เลอร์กล่าว และเขาคาดว่าเงิน 7.16 ล้านดอลลาร์อาจใช้เวลาผลิตราว 2 เดือน
ผู้ต้องสงสัยชาวไทย 2 คนได้ถูกตั้งข้อหาในการครอบครองและขนส่งเงินปลอม และหากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะต้องโทษจำคุก 5-20 ปี ...

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20141014/610994/%C3%8A%C3%8B%C3%83%D1%B0%CF%BE%C3%98%C3%A8%C2%A7%C3%A0%C2%BB%C3%A9%C3%92%C3%A4%C2%B7%C3%82%C3%A1%C3%8B%C3%85%E8%A7%BC%C3%85%D4%B5%C2%B4%C3%8D%C3%85%C3%85%C3%92%C3%83%C3%AC%C2%BB%C3%85%C3%8D%C3%81.html

ปอลิง ..  ถึงว่า  ..  แต่ละคนรวยๆกันทั้งนั้น  ...  แล้ว3คนที่ถูกจับที่ " กัมพูชา "  นี่มันใครหว่า  ... มันผลิตเกินจากที่ลูกพี่สั่ง  รึ  ว่ามันอมเอาไปปล่อยเอง ...  เอิ๊ก  เอิ๊ก  เอิ๊ก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่