เที่ยวเกาหลี กับกรุ๊ปทัวร์ ก็สนุกไปอีกแบบ เนอะ part2

ขอตั้งเป็นกระทู้ใหม่นะครับ ภาคแรก เที่ยวก่อน2วัน http://pantip.com/topic/32707975 เข้าไปดูกันก่อน สำหรับกระทู้อันนี้ ผมจะพยายามใช้คำพูด และ ลงรูปภาพให้เหมาะสมที่สุดครับ ซึ่งเจตนาของผมในการตั้งกระทู้ อันนี้ เพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ จรึงๆๆ อยากให้ทุกคน เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นได้ เสนอแนะได้ เพราะบางที่สิ่งที่ผมรู้ และเจอมา อาจไม่ถูกเสมอ ไป

  การตั้งกระทู้ภาค1และภาค2  มีสาเหตุจากกระทู้นี้ครับ http://pantip.com/topic/32658038 ขอแท็ก ศาลาประชาคมด้วยนะ เพราะ ถ้าไม่มีกระทู้นั้น ก็จะไม่มีกระทู้นี้ครับ และ ที่สำคัญ เพื่อเธอคนนั้นได้มาเห็นกระทู้ อันนี้ จะได้รู้สึกอะไรบ้าง

        เริ่มกันเลยดีกว่านะ ต่อจาก กระทู้ที่แล้ว

      วันที่ 9 ต.ค. เที่ยวในโซล วันแรก (วันจ่ายตังค์)
การเที่ยว วันนี้ผม ใช้คำว่าวันจ่าย นะครับ เพราะ ตามโปรแกรม ทัวร์เนี่ย วันนี้คือซื้อของเกือบทั้งวัน เพราะ 2 วันที่ผ่านมา ในเกาหลี เนี่ย ถือว่าใช้เงินน้อยมากเพราะ กิจกรรมหลักๆเน้นไปเที่ยว มีซื้อของบ้างเล็กน้อย  ส่วนตัวผมเนี่ยแลกเงิน เกาหลี มาได้ประมาณ เกือบ 600,000 วอล มาถึงวันนี้ ยังใช้ไม่ถึง 100,000 วอล เลย  โดยผมก็แลกเงิน ตามที่แลกเงิน ในเมืองไทยแหละครับ ตอนนั้นได้ เรทประมาณ 1,000 วอล = 32 บาท แต่เกาหลีใต้เนี่ย สามารรถใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต บ้านเราได้นะครับพวก วีซ่า /มาสเตอร์ แต่ก็ต้องระวังหายกันด้วยนะ เพราะที่เกาหลีเนี่ย เขาไม่ตรวจลายเซ็นหลังบัตร จะเซ็นต์ยังไงก็ได้ ขอแค่คุณ มีเงินในบัตรเพียงพอ รูดซื้อของได้หมด ไม่มีค่าธรรมเนียม ไกด์ยังบอกว่า ขนาดเข้าเซเว่น ซื้อโค้กกิน 1 กระป๋อง ยังใช้บัตรได้เลย  เพราะงั้น รูปที่ไปช็อปปิ้ง สำหรับผมอาจไม่เยอะมาก นะครับ เน้นที่เที่ยวดีกว่า

           ศูนย์โสม , ศูนย์สมุนไพร ฮอคเกนามู , พิพิธภัณฑ์สามมิติ , ศูนย์เวชสำอาง  
    โปรแกรมเช้านี้สำหรับผม เพื่อ สุขภาพครับ คือ เขาห้ามถ่ายรูป ภายในอยู่แล้ว เลยไม่ได้รูปมา ก็ขอเล่าแล้วกันนะ คือ เขาจะพาเราเข้าไปในห้องโชว์สินค้า[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็มีคนไทย คอยแนะนำสรรพคุณของโสม ครับว่า ดีต่อร่างกายยังไง พูดเก่งมาก จนสุดท้ายสรุปราคา แบ่งเป็นชุดๆเริมต้นที่ 30,000 บาท จนถึง แสนกว่าครับ สำหรับศูนย์โสม จบลง ต่อไปก็ ศูนย์ฮอคเกนามู ที่ตั้งศูนยฺนะครับจะนั่งรถ จากศูนย์โสม ไม่ถึง 5 นาที ครับ ฮอคเกนามู  ก็เป็นสมุนไพร ตัวหนึงครับที่เน้น เรืองการทำงานของตับ ให้ดี ขึ้น  ซึ่งไกด์คนไทยเนี่ย เคยซื้อทีเป็นแบบ ขวด กินแล้วแก้แฮ้งค์ มีขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปให้ผมกินแล้ว ผมว่าก็ใช้ได้นะ ก็เลยค่อนข้างสนใจ ยาตัวนี้ แต่พอทางศูนย์เปิดราคา เริมต้นที่ ประมาณ 20,000 ผมก็ ตัดสินใจ ไม่ฟังต่อดีกวา หลังจาก นั้น ทางทัวร์ ก็พาเราไป  พิพิธภัณฑ์สามมิติ ซึ่งมันอยู่ใกล้กับมหาลัย อะไร ซักอย่างแหละครับ ซึ่งอย่าว่าผมงั้นงี้เลยนะครับ คือบ้านเราก็มีอะนะ ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูป อะไรมามาก มาย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่มันก็มีโซนใหม่นะ ครับเป็น ice gallery ประมาณว่า ห้องเย็น ที่มีการแกะสลัก น้ำแข็ง ไว้ให้เราถ่ายรูป มีสไลเดอร์ น้ำแข็ง เล็ก ให้เราลองเล่นด้วย แต่ก็ นะครับ ผมถ่ายภาพที่ไม่ค่อยให้เกียรติสถานที่ เท่าไหร่ คือ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้วก็ไปกินข้าว เที่ยงครับ มื้อนี้เรียกว่า ไก่อบซี่อิ้ววุ้นเส้น รสชาติใช้ได้ครับ ถูกปาก กิน อิ่ม ปุ๊บ ก็ไปช็อปต่อครับ ต่อไปก็ ศูนย์เวชสำอางครับ ก็คล้ายๆกับ2ศูนย์แรกครับ คือมีพนักงาน คนไทยเข้ามาแนะนำสินค้า สินค้า หลักๆก็จะเป็น พวกครีมหอยทาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ครีมน้ำแตก[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ CC ครีม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บรรยากาศตอนเช้าหน้าโรงแรมครับ อากาศดีมาก อุณหภูมิตอนเช้า ประมาณ20 องศานะครับ สดชื่นครับ

ป้ายบอกราคาน้ำมันนะครับ คือผมก็ไม่รู้ว่า ดีเซล เบนซิน ของเขาคืออันไหน แต่ราคาแพงกว่าบ้านเราแน่นอน

ตึกศูนย์โสม ครับ ข้างในห้ามถ่ายรูป ไกด์บอกว่ามันเกี่ยวกับลิขสิทธิ์

มื้อนี้ มีรูปมาฝากครับ " ไก่อบวุ้นเส้นซิ้ว" วุ้นเส้นที่เนี่ย ทำมาจากมันฝรั่ง ตัวเส้นจะใหญ่ๆหน่อยคล้ายเส้นจันทร์  ที่ร้านมีวุ้นเส้นขายด้วยนะครับ ถ้าจำราคาไม่ผิด อยู่ที่ 5000 วอล/ถุง จานข้างไก่อบ เป็นยำปลาดุกฟูนะครับ ไกด์เอาไป

      พระราชวังโซซอม,ชมโชว์ sachoom dance , ตลาดเมียงดง
    หลังจากซื้อ เวชสำอาง เสร็จเรียบร้อย ก็เกือบ บ่าย2 ครับ สภาพอากาศวันนั้น น่าจะอยู่ที่ 22-25 องศา ครับ คืออากาศสบายมากๆๆ ไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาวกันก็ได้ ก็ไปพระราชวังโซซอม ระหว่างทางไปรถค่อนข้างติด เพราะ วันที่ 9 ต.ค.นั้น เกาหลีเขาเป็นวันภาษาเกาหลี ใกล้ๆพระราชวังมีการจัดงานด้วยครับแต่ไม่ได้แวะเข้าไปดูนะ ซึ่งประเทศเกาหลีในวันนี้เป็นวันหยุด ของเขา ทำให้คนค่อนข้างเยอะ ใช้เวลา กับพระราชวัง ประมาณ 1 ชั่วโมง ครับ ก็ต้องรีบออกมาดูโชว์  sachoom dance ทางผมได้ดูรอบ สี่โมงเย็น ครับ โชว์นี้ ผมว่าก็คือการแสดงละคร ที่ไม่ต้องใช้คำพูด ใช้การเต้น การเคลื่อนไหวร่างกาย ให้เข้ากับจังหวะดนตรี โดยเนื้อหา จะแสดงถึง ความรัก ตั้งแต่ คุณยังไม่เกิด จนคุณโต สนุกดีครับ เวลาในการแสดง ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้น ก็ไปกินข้าวที่ตลาดใกล้ๆโรงละครครับ เหมือนเดิมครับผมจำชื่อตลาดไม่ได้ แต่สามารถเดินจากโรงละครไปตลาดได้เลยนะครับ ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีเองมั้ง แล้วก็ปิดท้ายที่ ตลาดเมียงดง ครับ อารมณ์สยามแสคว์บ้านเรา เลยครับ แต่กว้าง และร้านค้าเยอะกว่ามาก ผมก็ได้ มีซื้อ พวก ครีม ที่ร้าน skin food กับ etude ที่ซื้อได้ เพราะเขาจดมาให้ซื้อ พร้อมรูปถ่าย นะครับ ว่า เอาแบบไหน เอากี่อัน การซื้อง่ายครับ จดเป็นภาษาอังกฤษ ให้คนขายไปจัดให้เราได้เลย ถ้าคนขาย ยัง งง เอารูปสินค้าที่เขาฝากซื้อให้เขาดูครับ ง่ายมาก ทางทัวร์ ให้เวลากับตลาด เมียงดง ตั้งแต่ 2 ทุ่ม-4ทุ่ม ครับ เอาให้หน่ำใจ ผมใช้เวลากับพวกครีมทั้ง2 ร้าน ประมาณ ครึ่ง ชั่วโมงครับ แล้วก็ไปดูรองเท้า NB ครับราคา ผมว่า บ้านเราถูก กว่าครับ ซึ่ง ผม มารู้ที่หลังว่า ที่บ้านเราถูกกว่า เพราะ made in china ครับ แต่ที่ นี่น่าจะมาจาก ญี่ปุ่น หรือ อเมริกา แหละครับ เพราะ ค่อนข้างแพง  แล้วก็ เข้าร้านกางเกงยีนส์ evisu  อยากเห็นครับ ว่ากางเกงตัวละ 6,000 บาทเป็นไง เพราะ ไกด์ แนะนำว่า ที่เนี่ย 6,000 บาท บ้านเรา เป็นหมื่น นะ
หลังจากนั้น ผมก็ว่าง อีก 1 ชั่วโมง ครับ ก็เลยขอ แยกตัวมองหาที่นั่ง เพื่อสั่งขนม หรือ กาแฟมานั่งรอ โดยเน้นตรงจุดใกล้ๆนัดเจอกัน  ก็มาเจอร้านขนมร้านหนึ่ง มี ป้ายเขียนว่า korea dessert อยู่บนชั้น2 ของตึก อยู่ใกล้ กับตึกที่ขาย ZARA ครับ เสียดายมาก กล้องแบตหมด โทรศัพท์แบตก็หมดไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่บรรบากาศดี  เป็นร้านขาย น้ำชา กาแฟ น้ำแข็งใส ของเกาหลี ในร้าน มีแต่คนเกาหลีครับ ทางขึ้น ชั้น2 ที่นี่ ก็ลึกลับหน่อย แต่บรรยากาศดีครับ ได้ลอง ใช้วิธีการสั่งอาหาร ด้วยการชี้ ที่รูปเพราะแปลไม่ออก พอสั่งได้แล้ว จ่ายเงิน ไม่ได้ของเลยนะครับ เขาจะให้ เครื่อง รอคิวมาครับ คือเมื่อของที่สั่งเสร็จ มันจะสั่น ให้เราไปเอาที่ เค้าเตอร์ ก็สนุกดีครับ อร่อยดีด้วย  แล้ววันนั้น ก็จบลง กลับโรงแรมเดิมครับ golgen seoul ถึงโรงแรม ประมาณ เที่ยงคืน

ทางเข้าพระราชวังครับ เป็นประตูที่อยู่ใกล้กับที่จอดรถ เดินมาสักหน่อย ได้ยินเสียงเหมือนเขาจะโชว์ การซ้อมรบครับ เลยได้ถ่ายรูปเก็บไว้

ทางเข้าประตูใหญ่ครับ คนค่อนข้างเยอะจรึงๆ

น้องเกาหลี ค่อนข้างได้รับความสนใจจากทุกคนครับเพราะใส่ชุดประจำชาติมางานวันภาษาเกาหลี มีคนขอถ่ายรูปกับเธอเยอะมาก น่ารักดีด้วย

ตัวพระราชวังครับ ถ้าอยากทราบรายละเอียด ผมว่าหาในกูเกิลได้เลยครับ ซึ่ง อันที่จรึงก็มีไกด์อธิบายนะครับเรื่องประวัติความเป็นมา แต่อย่างว่าครับผมไม่ได้ฟังเลย ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ

อันนี้ผมเรียกว่า ท้องพระโรงครับ

อันนี้ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นตึกของมเหสี นะครับไม่แน่ใจ แต่ได้ถ่ายรูแเก็บไว้เพราะ มีที่นั่งร่ม ลมพัดสบายๆสายลมที่พัดทำให้ใบไม้ไหว คือ บรรยากาศดีมาก ผมสามารถนั่งตรงนี้ได้นานมาก จรึง อุณหภูมิช่วงกลางวัน ตอนนั้นน่าจะอยู่ที่ 26-28 องศานะครับ คือเดินมาดูเนี่ยเหงื่อออก เลย แต่พอมีร่ม ลมพัด ชิวครับ

ไกด์บอกว่ากำลังโชว์เปลี่ยนเวร ตรงทางเข้าประตูใหญ่ครับ ดูได้แปบเดียวเองต้องรีบไปดู อย่างอื่นต่อ

งานกิจกรรม วันภาษาเกาหลีครับ ไม่ได้ไปดูนะ แล้วก็ผมถ่ายบนรถนะครับ เลยไม่ชัด

เป็นโชว์ sachoom dance ถ่ายรูป ตอนแสดงได้นะครับ ห้ามใช้แฟลชแค่นั้น แล้วก็ โชว์เนี่ย มีคำบรรยายเป็นภาษาไทยด้วย แต่ใช้กูเกิลแปลนะครับอ่านงง หน่อย โชว์จบสามารถลงไปถ่ายรูปกับนักแสดงได้

หลังโชว์จบ ลงมาถ่ายรูปกับนักแสดงครับ ผู้ชายเสื้อขาวเป็นตัวโจ๊กในเรื่องครับผมว่าหล่อกว่าพระเอกนะ ผู้หญิงเป็นตัวเอกครับสวย สวยมาก ครับ จัดมาเต็มทั้งหน้าเลย  คนกลาง เออ....... ช่างเถอะ

ส่วนรูปนี้ ผู้ชายเสื้อขาวเป็นเพื่อนและเป็นคู่แข่ง พระเอกครับ ส่วนผู้หญิงเป็นตัวรองครับ ผมว่าเธอน่ารักมาก จัดไม่เต็มเท่านางเอก แต่น่ารัก คนกลาง เพื่อให้เกียรติเขาใส่หน้าตาให้ด้วย  

อยู่บนชั้น2ของร้านกาแฟครับ กลางตลาด ผมจำชื่อตลาดไม่ได้จรึงๆครับ แต่เดินมาจากโรงละครไม่เกิน5นาทีถึง

ภาพในร้านครับมีแต่คนเกาหลีมานั่งครับ เพราะผมว่าหาทางขึ้นมาลำบากครับ

เป็นกาแฟแก้วแรก ที่สั่งเองคนเดียวครับ เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ผมใช้เวลาอยู่ร้านนี้เกือบ 30 นาทีครับ แบบว่ามันชิวมาก เห็นวิวมองลงมาคือความวุ้นวาย แต่ แค่คุณก้าวขึ้นมา ก็จะเจอความสงบ อากาศดี กาแฟอร่อย คือ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากจรึงๆครับ


พักหน่อยนะครับ จะ10000 ตัวอักษรแล้ว เด๋วมาต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่