แม่โดนแจ้งข้อหาลักทรัพย์ โดยพ่อเลี้ยง

เรื่องมีอยู่ว่า แม่กับสามีใหม่ ได้มาร่วมกันซื้อที่ดินที่ยังไม่พ้นกำหนดห้ามโอน ที่ จังหวัด สก. โดยใช้ชื่อ สามีคนเดียวในใบสัญญาจะซื้อจะขาย และได้ปลูกบ้านบนที่ดินผืนนี้โดยแม่เป็นเจ้าบ้าน  และได้อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้าน ส่วนตัวสามีไม่ได้มีชื่อ ในทะเบียนบ้านที่ จังหวัด สก . ซึ่ง ตัวสามี เดิม มีบ้าน และ ที่ สวน ทำกิน ที่ จังหวัด รย. โดยจะเดินทางไปมา ระหว่าง 2 จังหวัด รวมทั้ง แม่ด้วย ที่บางครั้งจะไปอยู่บ้านสามี เพื่อช่วยทำสวน  ต่อมาช่วงต้นปี  สามีได้บอกแม่ใหไปว่าจ้างคนงานที่ จังหวัด สก.ไปช่วยทำสวน ได้ 4,5 วัน มีวันหนึ่งได้หยุดงาน เพื่อ จัดทำของเซ่นไหว้ เจ้าที่เจ้าทาง ในวันนั้น สามีได้ ดื่ม สุรา และเมา ได้มาหาเรื่อง ด่าท้อ คนงาน และ แม่ อย่างเสียๆหายๆและได้มีการทำร้ายร่างกายแม่ ได้รับบาดเจ็บโดยมีคนมาห้ามได้ทันก่อนที่จะบาดเจ็บไปมากกว่านี้คือ ลูกเขย สามี  ซึ่งมีพยานรู้เห็นหลายคน แม่หลังจากโดนทำร้ายร่างกาย คืนนั้นจึงไปนอนบ้านพี่สาวแม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านสามี รุ่งเช้าได้ให้คนเข้าไปเอากระเป๋าเสื้อผ้า และ พาคนงาน เดินทางกลับบ้านที่ สก. เพื่อรักษาบาดแผลที่หัวโดยมิได้มีการแจ้งความใดๆและได้นำโฉนดที่เก็บไว้ที่บ้าน ที่ สก. ไปให้เจ้าของที่เดิมไปทำการโอนที่ดินมาเป็นชื่อแม่ซึ่งพ้นกำหนดแล้ว ต่อสามีโทมาให้ขอกลับช่วยทำงานเหมือนแต่แม่ ไม่ไป  สามีแม่จึงไปแจ้งความ ว่า แม่ลักทรัพย์ในยามวิกาลและเอาไปซึ่งเอกสารโฉนด  โดยระบุวันและเวลา ซึ่ง วันเวลานั้นเป็นวันที่แม่โดนทำร้าย
ซึ่งตอนนี้ เรื่องอยู่ในชั้น ตำรวจที่กำลังจะส่งให้อัยการส่งฟ้องศาล
  
อยากขอคำแนะนำ จากผู้รู้กฏหมาย ว่ามี หนทาง จะสู้คดีได้ไหม กลุ้มใจมาก และ สงสาร แม่ มาก แม่อายุ 70 แล้ว อยู่กินกับสามรมา 5 ปี

ขอกำลังใจ จากทุกคนด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ