ขอนำบทความจากการเขียนรีวิวใน Note ของเฟสบุคมาลงนะครับ อาจยาวนิดหนึ่ง แต่ตั้งใจเต็มที่ครับ
ขอบคุณทีมงานฮอร์โมนทุกท่านที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ให้เราได้ชมกัน
ตั้งใจไว้ว่า หลังจากจบ Hormones SS2 จะมาทบทวนสิ่งที่ได้จาก SS นี้ในโน้ตของตัวเอง (เป็น Note ที่ใช้เวลานานที่สุด เนื่องจากต้องรวบรวมสติและความจำทบทวนเนื้อเรื่องทั้ง 13 ตอน และหารูปประกอบมาตัดแปะด้วยความพยายามให้เห็นภาพประกอบได้ชัดเจนขึ้น) แม้ว่าจะอดใจ อยากเขียนกลางทางหลายครั้ง เนื่องจากใน SS นี้ประเด็นการนำเสนอโดนใจหลายตอน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการคุกคามทางเพศของบุคลากรทางการศึกษา การก้าวข้ามจุดเปลี่ยนของชีวิตของหลาย ๆ ตัวละคร การตีแผ่ประเด็นยาเสพติด ประเด็นเพศทางเลือก ประเด็นการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนเพื่อแสดงออกถึงความรัก การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา หรือแม้กระทั่งภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ แม้ว่าใน SS นี้อาจไม่โดนใจใครหลายคน (จากการตามกระทู้ตามเวบต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ) แต่สำหรับผู้เขียนพบว่า เป็นบทเรียนชั้นยอดที่สามารถตีแผ่ปัญหาสังคมโดยยกระดับความรุนแรงของภัยใกล้ตัวได้อย่างกลมกล่อม (ต่อไปนี้มีการสปอยล์ชัวร์)
เมื่อเห็นการเผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ของหลาย ๆ ตัวละครในช่วงแรกของการนำเสนอ พบว่าหลายคนอาจมโนไปแล้วว่า เนื้อเรื่องน่าจะเป็นไปตามที่ทีมงานนำมาโปรยในภาพดังกล่าว แต่...ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีมงาน GTH จะพบว่า มีการหักมุมจากของที่ปล่อยออกมาเสมอ (ตอนแรกก็เดาทางไม่ถูก แต่มาเดาทางได้ตอนเห็นตัวอย่างตอนต่อไปของหลาย ๆ ตอน พบว่าบางตอนตัดมาแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของเนื้อเรื่องทั้งหมดเท่านั้น และบางตอนก็ตัดต่อจนกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน) ไม่ว่าจะเป็นการลงเอยแบบต่าง ๆ เช่น ลงเอยด้วยการเริ่มต้นใหม่ ลงเอยด้วยความเกลียดชัง ลงเอยด้วยความสนิทสนม ... จะอะไรก็แล้วแต่ ผู้เขียนพบว่าเป็นการสร้างสีสันให้ซีรีส์ได้ดีพอสมควร เนื่องจากเราจะได้ซึมซับกับจินตนาการของแฟนซีรีส์หลาย ๆ ท่านที่มาแสดงความคิดเห็นกันก่อนที่ตอนนั้น ๆ จะออกอากาศ (ไม่แน่ทีมงานอาจค้นพบผู้เขียนบทคนใหม่ในโลกไซเบอร์โดยไม่ต้องประกาศรับสมัครก็เป็นได้)
หากจะให้หาประเด็นแต่ละตอนมาร่ายใน Note อาจมีความยาวมากกว่าหนังสือบางเล่ม เลยขอสรุปประเด็นที่โดนใจมายำรวม ๆ กันหลาย ๆ ตอนในหนึ่งประเด็นตามนี้
1. ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว
ยังคงเป็นแก่นของเนื้อหาภาพรวม ในหลาย ๆ ตอนสะท้อนถึงปัญหาครอบครัวซึ่งมีบทบาทต่อการเติบโตของตัวละคร
เริ่มจากการตอบโจทย์การกระทำของแม่ดาวที่ดูแล้วขัดใจตั้งแต่ SS1 จนกระทั่งถึงจุดแตกหักและบทสรุปใน SS2 ทีมงานเลือกที่จะถ่ายทอดประเด็นให้ผู้ปกครองหลายท่านรับสารว่า จง "ฟังให้มากขึ้น" เพราะบางทีเสียงเล็ก ๆ ของวัยว้าวุ่นอาจมีพลังหรือน้ำหนักไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน แต่บริบทในสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้ปกครองควรหันมาใส่ใจและรับฟังความรู้สึกของเยาวชนบ้าง เมื่อเกิดการรับฟังก็จะเกิดความเข้าใจตามมา
จากนั้น ปัญหาครอบครัวยังถูกตีแผ่ในตอน "วิน" ซึ่งดูไปดูมา เหมือนตอนพิเศษของ SS นี้ เนื่องจากเนื้อหาในตอนไม่ค่อยเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับตอนอื่น ๆ เท่าไรนัก แต่เป็นการลงลึกสำรวจถึงแก่นของ "เด็กมีปัญหา" ว่าบางส่วนเกิดจากครอบครัว การไม่ได้รับความอบอุ่นหรือการเอาใจใส่ เป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา (และก็ลุ้นกันว่า ตกลงวินจะดำดิ่งถึงจุดตกต่ำได้ถึงเพียงใด จะตายหรือไม่ หรือจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวเหมือนบทสรุปใน SS1)
ในตอนแรก "รักกรุ้มกริ่ม" ยังมีการเหน็บแนมและจิกกัดผู้เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่สื่ออย่างลงตัว และเป็นปัญหาระดับครอบครัวที่ผู้ปกครองต้องมานั่งประชุมเพื่อหาทางออกว่า จะทำอย่างไรกับสื่อที่สุ่มเสี่ยงต่อพฤติกรรมนอกลู่นอกทางของเยาวชน
นอกจากนี้ ประเด็นครอบครัวยังถูกแฝงในตอน "ออย" ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ออยสร้างตัวตนเสมือนสวมรอยเป็นคนอื่น คือ ครอบครัว (จะเห็นได้จากครอบครัวของออยไม่ค่อยสนใจลูกเท่าไรนัก ทั้งออยและน้องหรือพี่ชาย การเรียกร้องความสนใจของออยในการแกล้งสำลักข้าว ซึ่งจากการวิเคราะห์ของผู้เขียน พบว่าปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ออยกลายเป็น "คนไร้ตัวตน" ของซีรีส์ (ครูจำชื่อไม่ได้ เพื่อนไม่ค่อยสนใจ ใคร ๆ ก็รู้สึกว่าเธอเป็นตัวประกอบ) คือ ครอบครัว
กล่าวโดยสรุป ประเด็นครอบครัวยังคงเป็นแก่นของเนื้อหาหลักใน SS นี้ (ใน SS1 พบว่า เป็นแก่นหลักและได้อยู่ในบทสรุปที่ผู้เขียนเคยวิเคราะห์ไปแล้วว่า ทีมงานต้องการจะสื่อว่า ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของวัยว้าวุ่น)
2. ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภัยในโรงเรียน
ผู้ปกครองหลายท่านคิดว่า โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชน เนื่องจากมีรั้วรอบขอบชิด มีบุคลากรทางการศึกษาที่คอยสอดส่องพฤติกรรม แต่จริง ๆ แล้วทุกที่ย่อมมีภัยแฝงอยู่ ใน SS2 นี้ ทีมงานก็ได้นำประเด็นภัยในโรงเรียนมาตีแผ่ให้ได้เห็นกันจะจะ ไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดทางเพศของบุคลากรทางการศึกษา (ซึ่งมีข่าวให้พบเห็นอยู่เป็นประจำ) ในตอนของ "เต้ย"
การใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาในส่วนของดิว (เล่นได้น่าหมั่นไส้มาก) ซึ่งปะทะกับดาวในประเด็นการเปิดเผยความลับเรื่องคู่รักเพศเดียวกัน หรือจะเป็นขนมปัง (คิดแล้วแค้นและเซ็งแทนเต้ย) ซึ่งใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาในตอนจบ เป็นต้น แต่ต้องขอชมเชยทีมงานในการปิดฉากตอน "ออย" ด้วยการไม่เลือกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา (สไปรท์เลือกที่จะใช้วิธ๊คุยให้เคลียร์ กระตุ้นให้ผู้ผิดสำนึก และสั่งสอนในฐานะรุ่นพี่มากกว่าการใช้ความรุนแรงจากผลพวงที่ออยได้สวมรอยเป็นเธอ
3. ประเด็นเพศทางเลือก
ประเด็นดังกล่าวถูกนำเสนอตั้งแต่ SS1 แต่เริ่มมีความหลากหลายของเนื้อหามากขึ้นใน SS2 จากตอน "ดาว+ก้อย" และ "ธีร์" ซึ่งพบว่าทุกคู่ไม่สมหวังในความรัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้ธีร์ได้เติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง (เจ็บแล้วเจ็บเล่า จากภูและนน) ความรักในเพศเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นความรักเชิงชู้สาว (ซึ่ง SS นี้เหมือนจะนำเสนอให้เห็นประเด็นทางเลือกว่า ความรักในวัยเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักของเพศทางเลือกอาจจะยั่งยืน ความเป็นเพื่อน มิตรภาพ พี่น้อง ต่างหากที่คงทนและสานต่อความสัมพันธ์ได้อย่างดี) เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ปกครองควรเข้าใจถึงประเด็นดังกล่าว (ชอบตอนจบของ SS นี้มาก ที่แม่ของดาวเปิดใจและรับได้ว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความรัก) ซึ่งในตอนจบอาจไม่ถูกใจสาวกหรือติ่งแนว Y แต่ผู้เขียนพบว่าทีมงานสามารถสรุปความสัมพันธ์ได้อย่างลงตัว (ส่วนดาว ก้อย คงต้องไปลุ้นกันต่อใน SS หน้า คิดว่าน่าจะมีอะไรมากกว่าสิ่งที่เห็นในตอนจบ)
(มีต่อด้านล่างครับ)
[CR] Hormones SS2 ... บทบาทของคนข้าง ๆ ในการก้าวผ่านวัยว้าวุ่น (มีสปอยล์นะครับ)
ขอบคุณทีมงานฮอร์โมนทุกท่านที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ให้เราได้ชมกัน
ตั้งใจไว้ว่า หลังจากจบ Hormones SS2 จะมาทบทวนสิ่งที่ได้จาก SS นี้ในโน้ตของตัวเอง (เป็น Note ที่ใช้เวลานานที่สุด เนื่องจากต้องรวบรวมสติและความจำทบทวนเนื้อเรื่องทั้ง 13 ตอน และหารูปประกอบมาตัดแปะด้วยความพยายามให้เห็นภาพประกอบได้ชัดเจนขึ้น) แม้ว่าจะอดใจ อยากเขียนกลางทางหลายครั้ง เนื่องจากใน SS นี้ประเด็นการนำเสนอโดนใจหลายตอน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการคุกคามทางเพศของบุคลากรทางการศึกษา การก้าวข้ามจุดเปลี่ยนของชีวิตของหลาย ๆ ตัวละคร การตีแผ่ประเด็นยาเสพติด ประเด็นเพศทางเลือก ประเด็นการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนเพื่อแสดงออกถึงความรัก การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา หรือแม้กระทั่งภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ แม้ว่าใน SS นี้อาจไม่โดนใจใครหลายคน (จากการตามกระทู้ตามเวบต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ) แต่สำหรับผู้เขียนพบว่า เป็นบทเรียนชั้นยอดที่สามารถตีแผ่ปัญหาสังคมโดยยกระดับความรุนแรงของภัยใกล้ตัวได้อย่างกลมกล่อม (ต่อไปนี้มีการสปอยล์ชัวร์)
เมื่อเห็นการเผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ของหลาย ๆ ตัวละครในช่วงแรกของการนำเสนอ พบว่าหลายคนอาจมโนไปแล้วว่า เนื้อเรื่องน่าจะเป็นไปตามที่ทีมงานนำมาโปรยในภาพดังกล่าว แต่...ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีมงาน GTH จะพบว่า มีการหักมุมจากของที่ปล่อยออกมาเสมอ (ตอนแรกก็เดาทางไม่ถูก แต่มาเดาทางได้ตอนเห็นตัวอย่างตอนต่อไปของหลาย ๆ ตอน พบว่าบางตอนตัดมาแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของเนื้อเรื่องทั้งหมดเท่านั้น และบางตอนก็ตัดต่อจนกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน) ไม่ว่าจะเป็นการลงเอยแบบต่าง ๆ เช่น ลงเอยด้วยการเริ่มต้นใหม่ ลงเอยด้วยความเกลียดชัง ลงเอยด้วยความสนิทสนม ... จะอะไรก็แล้วแต่ ผู้เขียนพบว่าเป็นการสร้างสีสันให้ซีรีส์ได้ดีพอสมควร เนื่องจากเราจะได้ซึมซับกับจินตนาการของแฟนซีรีส์หลาย ๆ ท่านที่มาแสดงความคิดเห็นกันก่อนที่ตอนนั้น ๆ จะออกอากาศ (ไม่แน่ทีมงานอาจค้นพบผู้เขียนบทคนใหม่ในโลกไซเบอร์โดยไม่ต้องประกาศรับสมัครก็เป็นได้)
หากจะให้หาประเด็นแต่ละตอนมาร่ายใน Note อาจมีความยาวมากกว่าหนังสือบางเล่ม เลยขอสรุปประเด็นที่โดนใจมายำรวม ๆ กันหลาย ๆ ตอนในหนึ่งประเด็นตามนี้
1. ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว
ยังคงเป็นแก่นของเนื้อหาภาพรวม ในหลาย ๆ ตอนสะท้อนถึงปัญหาครอบครัวซึ่งมีบทบาทต่อการเติบโตของตัวละคร
เริ่มจากการตอบโจทย์การกระทำของแม่ดาวที่ดูแล้วขัดใจตั้งแต่ SS1 จนกระทั่งถึงจุดแตกหักและบทสรุปใน SS2 ทีมงานเลือกที่จะถ่ายทอดประเด็นให้ผู้ปกครองหลายท่านรับสารว่า จง "ฟังให้มากขึ้น" เพราะบางทีเสียงเล็ก ๆ ของวัยว้าวุ่นอาจมีพลังหรือน้ำหนักไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน แต่บริบทในสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้ปกครองควรหันมาใส่ใจและรับฟังความรู้สึกของเยาวชนบ้าง เมื่อเกิดการรับฟังก็จะเกิดความเข้าใจตามมา
จากนั้น ปัญหาครอบครัวยังถูกตีแผ่ในตอน "วิน" ซึ่งดูไปดูมา เหมือนตอนพิเศษของ SS นี้ เนื่องจากเนื้อหาในตอนไม่ค่อยเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับตอนอื่น ๆ เท่าไรนัก แต่เป็นการลงลึกสำรวจถึงแก่นของ "เด็กมีปัญหา" ว่าบางส่วนเกิดจากครอบครัว การไม่ได้รับความอบอุ่นหรือการเอาใจใส่ เป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา (และก็ลุ้นกันว่า ตกลงวินจะดำดิ่งถึงจุดตกต่ำได้ถึงเพียงใด จะตายหรือไม่ หรือจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวเหมือนบทสรุปใน SS1)
ในตอนแรก "รักกรุ้มกริ่ม" ยังมีการเหน็บแนมและจิกกัดผู้เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่สื่ออย่างลงตัว และเป็นปัญหาระดับครอบครัวที่ผู้ปกครองต้องมานั่งประชุมเพื่อหาทางออกว่า จะทำอย่างไรกับสื่อที่สุ่มเสี่ยงต่อพฤติกรรมนอกลู่นอกทางของเยาวชน
นอกจากนี้ ประเด็นครอบครัวยังถูกแฝงในตอน "ออย" ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ออยสร้างตัวตนเสมือนสวมรอยเป็นคนอื่น คือ ครอบครัว (จะเห็นได้จากครอบครัวของออยไม่ค่อยสนใจลูกเท่าไรนัก ทั้งออยและน้องหรือพี่ชาย การเรียกร้องความสนใจของออยในการแกล้งสำลักข้าว ซึ่งจากการวิเคราะห์ของผู้เขียน พบว่าปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ออยกลายเป็น "คนไร้ตัวตน" ของซีรีส์ (ครูจำชื่อไม่ได้ เพื่อนไม่ค่อยสนใจ ใคร ๆ ก็รู้สึกว่าเธอเป็นตัวประกอบ) คือ ครอบครัว
กล่าวโดยสรุป ประเด็นครอบครัวยังคงเป็นแก่นของเนื้อหาหลักใน SS นี้ (ใน SS1 พบว่า เป็นแก่นหลักและได้อยู่ในบทสรุปที่ผู้เขียนเคยวิเคราะห์ไปแล้วว่า ทีมงานต้องการจะสื่อว่า ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของวัยว้าวุ่น)
2. ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภัยในโรงเรียน
ผู้ปกครองหลายท่านคิดว่า โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชน เนื่องจากมีรั้วรอบขอบชิด มีบุคลากรทางการศึกษาที่คอยสอดส่องพฤติกรรม แต่จริง ๆ แล้วทุกที่ย่อมมีภัยแฝงอยู่ ใน SS2 นี้ ทีมงานก็ได้นำประเด็นภัยในโรงเรียนมาตีแผ่ให้ได้เห็นกันจะจะ ไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดทางเพศของบุคลากรทางการศึกษา (ซึ่งมีข่าวให้พบเห็นอยู่เป็นประจำ) ในตอนของ "เต้ย"
การใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาในส่วนของดิว (เล่นได้น่าหมั่นไส้มาก) ซึ่งปะทะกับดาวในประเด็นการเปิดเผยความลับเรื่องคู่รักเพศเดียวกัน หรือจะเป็นขนมปัง (คิดแล้วแค้นและเซ็งแทนเต้ย) ซึ่งใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาในตอนจบ เป็นต้น แต่ต้องขอชมเชยทีมงานในการปิดฉากตอน "ออย" ด้วยการไม่เลือกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา (สไปรท์เลือกที่จะใช้วิธ๊คุยให้เคลียร์ กระตุ้นให้ผู้ผิดสำนึก และสั่งสอนในฐานะรุ่นพี่มากกว่าการใช้ความรุนแรงจากผลพวงที่ออยได้สวมรอยเป็นเธอ
3. ประเด็นเพศทางเลือก
ประเด็นดังกล่าวถูกนำเสนอตั้งแต่ SS1 แต่เริ่มมีความหลากหลายของเนื้อหามากขึ้นใน SS2 จากตอน "ดาว+ก้อย" และ "ธีร์" ซึ่งพบว่าทุกคู่ไม่สมหวังในความรัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้ธีร์ได้เติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง (เจ็บแล้วเจ็บเล่า จากภูและนน) ความรักในเพศเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นความรักเชิงชู้สาว (ซึ่ง SS นี้เหมือนจะนำเสนอให้เห็นประเด็นทางเลือกว่า ความรักในวัยเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักของเพศทางเลือกอาจจะยั่งยืน ความเป็นเพื่อน มิตรภาพ พี่น้อง ต่างหากที่คงทนและสานต่อความสัมพันธ์ได้อย่างดี) เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ปกครองควรเข้าใจถึงประเด็นดังกล่าว (ชอบตอนจบของ SS นี้มาก ที่แม่ของดาวเปิดใจและรับได้ว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความรัก) ซึ่งในตอนจบอาจไม่ถูกใจสาวกหรือติ่งแนว Y แต่ผู้เขียนพบว่าทีมงานสามารถสรุปความสัมพันธ์ได้อย่างลงตัว (ส่วนดาว ก้อย คงต้องไปลุ้นกันต่อใน SS หน้า คิดว่าน่าจะมีอะไรมากกว่าสิ่งที่เห็นในตอนจบ)
(มีต่อด้านล่างครับ)