บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ สมัยยังเด็กมากจะอยู่กับพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายาย อยู่รวมกันอย่างอบอุ่น น้าเรามีลูกชาย1คน เด็กกว่าเรา1ปี ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง (ต่อไปนี้เราจะเรียกน้องคนนี้แทนชื่อว่า เอ็ม นะ)
เราสนิทกับเอ็มมาก เล่นด้วยกันมา นอนด้วยกัน กินข้าวพร้อมกัน เวลาใครมาแกล้งเราจะไปช่วยจัดการ555(นักเลงตัวแม่นะจ้า) เวลาไปโรงเรียน ขึ้นรถตู้รับส่ง เอ็มมักจะชอบนั่งริมหน้าต่างแล้วหัวจะโขกกระจกทุกวัน
เราเห็นเอ็มหลับ เราก็หัวเราะแต่ก็สงสาร เราก็มักจับหัวน้องมาพิงที่ไหล่เรา ทุกวันจนเลิกนอนบนรถไปเอง นั่นเป็นโมเม้นที่เรารู้สึกผูกพันธ์และรักน้องชายคนนี้มาก (อาจเป็นเพราะเรามีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แต่กับเอ็มไม่เหมือนเรา พ่อเอ็มตายตอนเอ็มเกิดได้2เดือน น้าเราไปทำงานอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เอ็ม1ขวบ ยายเราเลยเลี้ยงเอ็มมาตลอด)
มีอยู่วันหนึ่ง เราไปเดินเล่นกับเอ็ม ไปเล่นตรงลานกว้างๆ ตรงนั้นจะเป็นพงหญ้าหย่อมๆ ตอนนั้นเราประมาณ4ขวบ น้องเรา3ขวบ
เราเล่นปลูกบ้านกัน เอาไม้มาขีดๆเป็นรูปบ้าน แล้วก็ให้น้องเอ็มจอง พอเอ็มกระโดดจองก่อน เราก็บอกเสียบ้านแล้ว ว้า น้องเอ็มก็หัวเราะ มีความสุข เราชอบเล่นแบบนี้กับน้อง คือเราเป็นพี่สุดในบรรดาลูกพี่ลูกน้อง บ้านเราจะสอนเสมอว่า เป็นพี่คนโตต้องดูแลน้อง ยอมน้อง แบ่งปันกัน
และอยู่ๆ เรารู้สึกประหลาดๆ คือ อยู่ดีๆใจมันเรามันโหวงเหวง หวิวๆมา ไงไม่รู้ คือมีอาการเสียใจอยู่ในใจ แต่ยังยิ้มเล่นอยู่นะ จะร้องไห้กระอักกระอ่วนข้างใน เป็นความรู้สึกโหวงๆ ในอกแต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดไปด้วย
เราก็เลยบอกพอเถอะ เลิกเล่นแล้ว พี่ไม่อยากเล่นแล้ว
อยู่ๆน้องเอ็มก็พูดขึ้นมา หนูอยากอยู่บ้านหลังนี้ หลังที่พี่(เรา)อยู่ หนูอยากอยู่ตลอดไปเลย ไม่อยากไปไหนแล้ว
เราบอกหลังนี้พี่จองแล้วนะ น้องเอ็มก็บอก ไม่หนูจะอยู่ตรงนี้ตลอดไป หนูจะไม่ไปไหน ร้องไห้งอแง จนเราต้องรีบอุ้มเข้าบ้าน
***เรารู้สึกต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับน้องเราสักอย่างในอนาคตแน่ๆ ความรู้สึกมันบอก และมันแวบเข้ามาว่า ต้องเกี่ยวกับเราด้วย
เวลาผ่านไป จนมาเราตอน5ขวบ น้าสาวอีกคนที่เพิ่งแต่งงานไปเขายังไม่มีน้อง เชาจะชอบเด็กผู้หญิงมาก เขาเลยมารับเราไปเล่นด้วยบ่อยๆ มีวันนึง เขาพาเราไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเราว่ายน้ำไม่เป็น ทุกทีแม่จะไปด้วย แต่ครั้งนี้แม่ไม่ไปด้วยซะงั้น บอกอยากอยู่บ้าน เราก็เลยไปเล่น แล้วความที่อยากรู้อยากลอง เราตัวสูง สระเล็กมันก็เลยไม่ค่อยสนุก น้ำมันแค่อกเราเอง เราก็เลยค่อยๆกระดึบๆ และปีนของสระข้ามไปสระใหญ่
ความที่เราไม่รู้ว่ามันลึกแค่ไหน เราจะจมน้ำเราร้องไม่ออก น้ำมันเข้าจมูก ขึ้นสมอง เราดิ้นอยู่กว่าครึ่งนาที ก็มีคนวิ่งกันมาอุ้มเราขึ้นจากสระ (อันนี้น้าเราเล่าให้เราฟังนะหลังเราจมน้ำแล้วนะเพราะเราไม่ได้สติแล้ว) ตอนนั้นหูเรามันได้ยินแว่วๆได้ยินเสียคนกรี๊ด เสียงเท้าคนวิ่งไปวิ่งมา และสักพักก็ไมรู้ตัวไปเลย มารู้ตัวอีกทีตอนที่ปวดหัวเหมือนเรากินน้ำเย็นจัดแล้วมันขึ้นสมอง เราสำลักน้ำมาเยอะ และเห็นคนมุงเต็ม น้าเราร้องไห้ตกใจมาก กอดเราตัวสั่น คือ น้าบอกว่า ตอนปั้มหัวใจ ไลฟ์การ์ด เจ้าของสระ มาช่วยกัน เขาบอกเราหายใจแผ่วมาก หน้าเขียว ถ้าช้าไปอีกสักครึ่งนาที คือ ไม่น่ารอด เพราะตัวเขียว มือเท้าเขียวแล้วอ่า แต่อยู่ดีๆก็สำลักออกมาัลยปลอดภัย
แล้วถามว่ามันเกี่ยวกับน้องเอ็มยังไง...
ก็น้าเรานี่แหละ...//เป็นเหตุการณ์ที่เราจดจำไปตลอดชีวิต
หลังจากเหตุการณ์เราจมน้ำวันนั้น ผ่านไป 6 ปี
----เอ็มตกน้ำตายตอนอายุ10ขวบ!!----
**โดยที่น้าเราเป็นคนพาไปเที่ยว
แปลกไหมหล่ะ เป็นที่เป็นน้า(อีกแล้ว)พาเราไปว่ายน้ำ!!?)
น้าพาเอ็มไปเล่นน้ำตกแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
น้ำตกตรงที่น้องโดดลงมา มันดูดน้องเราลงไปตรงแอ่งน้ำวน แล้วหายไปเลย กู้ภัยงมอยู่3ชม.ก็ยังไม่เจอ??
//จนยายไปรับศพ ยายร้องไห้แทบขาดใจ แล้วก็จุดธูปไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางให้เจอศพ สัก15นาที ศพน้องก็ลอยขี้นมาให้ติดโขดหินให้เห็นเลย โดยที่แปลกมากตรงที่กู้ภัยหากันแทบตายแต่ก็ไม่เจอ//
ก่อนหน้าวันที่จะเกิดเหตุ 2-3 วัน เรานั่งเหม่อ จนแม่เรียกเราไม่ได้ยิน ใจมันหวิวหนักกว่าเดิมคือ จำได้ว่า "ตอนนั้นนั่งทำการบ้าน แล้วอยู่ดีๆหงุเหงิดเรื่องใจหวิวๆนี่แหละ จนแม่เรียกเราตะโกนและฉุนเฉียวเลย" ทั้งๆที่เราเกิดมาไม่เคยเถียงแม่ ไม่เคยดุ แต่ตอนนั้นมันรำคาญใจยังไงบอกไม่ถูก ตกกลางคืนก็นอนไม่หลับ (ทั้งที่เรายังเด็กอยู่เลย ปกติจะขี้เซามากๆ) พยายามคิดว่าตัวเองเป็นอะไร??!! ก็ไม่ได้คำตอบ
สุดท้าย....
คือเราใช่ไหม ที่ทำน้องตาย!!
เราไม่เตือนใครเลย
เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เราช็อกมากนะตอนที่แม่รับสายแล้วน้าบอกว่าน้องเสียแล้ว!!
เรารู้เลย >>> เป็นเพราะเรา <<<
เราไม่ได้อยากโทษใครหรอก
ไม่อยากโทษน้าด้วย ..
ถึงแม้เหตุการณ์มันเกิดซ้ำ อาจจะด้วยความประมาท หรืออะไรก็ตาม
เพราะเราคิดว่า "ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้"
และเราก็ไม่อยากจะคิดว่าน้าเกือบทำเราตายมาครั้งหนึ่งแล้วด้วย...
แต่จะไม่คิดเลย... มันก็อดไม่ได้
น้องเราต้องมาเสียชีวิตทางน้ำ!! เหตุการณ์ทำให้ย้อนนึกถึงชีวิตความเป็นความตายตอนที่เราจมน้ำ มันหายใจไม่ออก น้ำเข้าจมูก เข้าปาก ปวดร้าวมันขึ้นสมองผ่านร่างกาย แต่เรากลับรอดมา แต่น้องต้องตาย จากคนที่พาไปในสถานที่ และเหตุการณ์คล้ายๆกัน รวมทั้งคนพาไปก็คนๆเดียวกัน!
ไม่รู้เราคิดมากไปไหม หรือมีใครคิดเหมือนเรารึเปล่า แต่ เรารู้สึกว่าเรารอดมาได้ แต่ต้องมีคนมาตายแทนเรา อาจจะฟังดูเหมือนหนังเหมือนละคร
แต่นี่คือชีวิตจริง
ภาพเราติดตามาตลอดT_T
หลับตาลงก็เห็นภาพเหตุการณ์ว่า น้องไม่อยากไปไหน วันที่เล่นสร้างบ้านด้วยกัน น้องเอ็มมาพูด ขออยู่บ้านหลังนี้แทนเรา?!!
ตอนเราอุ้มเขา กอดเขา เอานมขวดในตู้เย็นให้เขากิน วันที่โดนเอ็มปารถแข่งของเล่นมาหัวเจาะเลือดออก แต่ไม่เคยว่าน้อง เราอภัยให้ได้เสมอ
หลังจากนั้นมา
มันต้องมีเหตุการณ์เตือนเราเสมอ ก่อนจะมีใครตาย!!
เริ่มจากยาย ปกติไม่เคยทำดีกับเราเลย ยายไม่ชอบหลานผู้หญิง และไม่ค่อยชอบพ่อเรา แต่ก่อนยายจะไป เราหวิวๆอีกแล้ว ยายให้ตังไปเที่ยวงานวันเด็ก100บาท จำได้แม่น เรามองหน้าเขา แล้วจ้องอยู่ประมาณ1นาที คือในใจคิดว่า มันแปลกๆอีกแล้ว ขออย่ามีเรื่องร้ายๆอะไรเลยเทอด ภาวนาในใจตลอดหงุดหงิด ใจโหวงเหวงอีกแล้ว แล้วไม่ถึงเดือน ยายก็เสียด้วยโรคประจำตัวคนแก่ เรารู้สึกว่า ทำไมมีเราคนเดียวที่รู้สึก แต่คนในบ้านกับไม่รู้สึกอะไรเลยสักคน
เราเดินไปปรึกษาแม่นะ บอกเขาว่า"แม่หนูใจไม่ดีอีกแล้ว มันรู้สึกสูญเสีย รู้สึกสิ้นหวัง ในใจเหมือนร้องไห้ แต่มันร้องไม่ออก ภายนอกหนูดูปกติมาก ทำไมหนูถึงเป็นแบบนี้ ทำไมต้องมาเกิดกับตัวหนู" แต่เราก็ไม่ได้พูด บอกเล่าว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึง
_เหตุการณ์เมื่อ 6 ปีที่แล้วที่น้องชายเราตาย_
นี่ยังไม่รวม น้าชายคนเล็ก กับพ่อที่เสียไล่เลี่ยกัน ทุกคนที่ก่อนตาย จะมาทำดีกับเรา (ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราเฉยๆกับพวกเขามาก)
**ความรู้สึกของเรา คือใจหวิวทุกที กังวลทั้งวัน จิตใจแปลกๆ นอนไม่หลับ ยังมีทั้งเดจาวูบ้าง ตอนเด็กคือบ่อยมาก จนบอกเพื่อนแล้วกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย แต่เรารู้เลยว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น หลังๆเราเลยไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวพวกเขาไม่เชื่อ
ทุกวันนี้นานๆจะมีสักที แต่จะเป็นอุบัติเหตุมากกว่า แล้วส่วนใหญ่จะย้อนกลับมาเป็นที่เรา (เพราะพอโตแล้วอารมณ์เราเปลี่ยน มันไม่อยากรับรู้และเก็บไว้คนเดียว เราจะพูดดังๆออกมาว่า ไม่น่า ไม่สิไม่เป็นหรอก ;เหมือนคนบ้าไหม แต่เราพูดจริงๆเหมือนกับต่อสู้ในจิตใจอยู่ หรือเรียกว่าฝืนความคิดนั่นแหละ) หรือไม่ก็พูดให้ใครก็ได้ ฟัง อาจจะเป็นแม่ หรือเพื่อน แต่แม่เราๆฟังเรานะ แล้วเขาบอกไม่ต้องพูดออกมาหรือไปทักใครเขานะ "แบบ เฮ้ย!! เรารู้สึกไม่ดีกับเธอเลยว่ะ" อะไรแบบเนี้ย เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเข้าตัว
คือเราก็รู้สึกอึดอัด ถ้าไม่พูดไม่ทักออกไป แต่พอทักออกไปแล้ว กลายเป็นตัวเองที่รับเคราะห์แทน ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ล้ม 5 ครั้ง ผ่าตัดซีส1ครั้ง และมีอีกหลายๆอย่าง เรียกว่าผ่านความตายมาแล้วทั้งนั้น ล่าสุดที่หมากัด เราก็รู้สึกก่อน จ้องหมาแล้วพูดว่า ไม่ใช่อยู่ดีๆมากัดแม่นะ แล้วก็โดนจริงๆ (พูดจริงๆเลยคือ เกลียดความรู้สึกแบบนี้มากกกกก...
ไม่อยากให้มีมาเตือน ไม่อยากรับรู้
ไม่อยากเจออะไรอีกแล้ว
ถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ตาม เพราะเราไม่อยากมานั่งกังวลใจ
ทุกครั้งจะหายใจไม่ออก เหงื่อออก ใจหวิวนี่ใช่เลย มันทรมานนะ!!
เราทำใจไม่ได้จริงๆ หากจะต้องมีความรู้สึกล่วงหน้าว่าจะต้องเจอเรื่องร้ายๆ
อีกแล้ว มันทุกข์ใจและเครียดมาก)
ทุกคนอ่านจบแล้วอาจจะรู้สึกเหมือนนิยายเรื่องสั้น เรื่องแต่งรึเปล่า แต่ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก ว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน นี้ขนาดแค่รู้สึกนะ ถ้าถึงขั้นเห็นผี สงสัยต้องไปเดินสายอย่างคุณเจนญาณทิพย์ ประกบกับคุณริว 2คน เดินส่องไฟฉายทั้งคืนละมั้ง 555 (ซีเรียสอยู่ค่ะแต่ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องหดหู่ เดี๋ยวเพื่อนๆจะวิตกมาสัมผัสได้บ้าง เราซวยเลย อิอิ^^)
คำถามคือ
...
มันคืออะไร?
เป็นความเชื่อทางศาสนา จิตวิญญาณ ธรรมะ หรือวิทยาศาสตร์คะ?
แล้วถ้าเป็นบ่อยๆมันจะกระทบกับสุขภาพจิตเราไหมคะ?
มันเกิดจากอะไร?
แล้วทำไมถึงมาเกิดกับเรา?
ใครเคยเป็นอยากเราหรือพอมีวิธีบ้างไหมคะ?
ปล.เรื่องอาจจะยาวไปหน่อยต้องขออภัยด้วยค่ะ แต่ที่เล่ามาเป็นเรื่องจริงทุกประการ และเราอยากหาวิธีแก้ไขจริงๆ และต้องขออภัยอีกครั้งหากเราแท็กไปผิดห้อง ขอคำแนะนำด้วยค่ะ เครียดมากจริงๆ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ_/|\_
หรือว่า ที่น้องตาย เป็นเพราะเรา!!
เราสนิทกับเอ็มมาก เล่นด้วยกันมา นอนด้วยกัน กินข้าวพร้อมกัน เวลาใครมาแกล้งเราจะไปช่วยจัดการ555(นักเลงตัวแม่นะจ้า) เวลาไปโรงเรียน ขึ้นรถตู้รับส่ง เอ็มมักจะชอบนั่งริมหน้าต่างแล้วหัวจะโขกกระจกทุกวัน
เราเห็นเอ็มหลับ เราก็หัวเราะแต่ก็สงสาร เราก็มักจับหัวน้องมาพิงที่ไหล่เรา ทุกวันจนเลิกนอนบนรถไปเอง นั่นเป็นโมเม้นที่เรารู้สึกผูกพันธ์และรักน้องชายคนนี้มาก (อาจเป็นเพราะเรามีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แต่กับเอ็มไม่เหมือนเรา พ่อเอ็มตายตอนเอ็มเกิดได้2เดือน น้าเราไปทำงานอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เอ็ม1ขวบ ยายเราเลยเลี้ยงเอ็มมาตลอด)
มีอยู่วันหนึ่ง เราไปเดินเล่นกับเอ็ม ไปเล่นตรงลานกว้างๆ ตรงนั้นจะเป็นพงหญ้าหย่อมๆ ตอนนั้นเราประมาณ4ขวบ น้องเรา3ขวบ
เราเล่นปลูกบ้านกัน เอาไม้มาขีดๆเป็นรูปบ้าน แล้วก็ให้น้องเอ็มจอง พอเอ็มกระโดดจองก่อน เราก็บอกเสียบ้านแล้ว ว้า น้องเอ็มก็หัวเราะ มีความสุข เราชอบเล่นแบบนี้กับน้อง คือเราเป็นพี่สุดในบรรดาลูกพี่ลูกน้อง บ้านเราจะสอนเสมอว่า เป็นพี่คนโตต้องดูแลน้อง ยอมน้อง แบ่งปันกัน
และอยู่ๆ เรารู้สึกประหลาดๆ คือ อยู่ดีๆใจมันเรามันโหวงเหวง หวิวๆมา ไงไม่รู้ คือมีอาการเสียใจอยู่ในใจ แต่ยังยิ้มเล่นอยู่นะ จะร้องไห้กระอักกระอ่วนข้างใน เป็นความรู้สึกโหวงๆ ในอกแต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดไปด้วย
เราก็เลยบอกพอเถอะ เลิกเล่นแล้ว พี่ไม่อยากเล่นแล้ว
อยู่ๆน้องเอ็มก็พูดขึ้นมา หนูอยากอยู่บ้านหลังนี้ หลังที่พี่(เรา)อยู่ หนูอยากอยู่ตลอดไปเลย ไม่อยากไปไหนแล้ว
เราบอกหลังนี้พี่จองแล้วนะ น้องเอ็มก็บอก ไม่หนูจะอยู่ตรงนี้ตลอดไป หนูจะไม่ไปไหน ร้องไห้งอแง จนเราต้องรีบอุ้มเข้าบ้าน
***เรารู้สึกต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับน้องเราสักอย่างในอนาคตแน่ๆ ความรู้สึกมันบอก และมันแวบเข้ามาว่า ต้องเกี่ยวกับเราด้วย
เวลาผ่านไป จนมาเราตอน5ขวบ น้าสาวอีกคนที่เพิ่งแต่งงานไปเขายังไม่มีน้อง เชาจะชอบเด็กผู้หญิงมาก เขาเลยมารับเราไปเล่นด้วยบ่อยๆ มีวันนึง เขาพาเราไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำ ซึ่งเราว่ายน้ำไม่เป็น ทุกทีแม่จะไปด้วย แต่ครั้งนี้แม่ไม่ไปด้วยซะงั้น บอกอยากอยู่บ้าน เราก็เลยไปเล่น แล้วความที่อยากรู้อยากลอง เราตัวสูง สระเล็กมันก็เลยไม่ค่อยสนุก น้ำมันแค่อกเราเอง เราก็เลยค่อยๆกระดึบๆ และปีนของสระข้ามไปสระใหญ่
ความที่เราไม่รู้ว่ามันลึกแค่ไหน เราจะจมน้ำเราร้องไม่ออก น้ำมันเข้าจมูก ขึ้นสมอง เราดิ้นอยู่กว่าครึ่งนาที ก็มีคนวิ่งกันมาอุ้มเราขึ้นจากสระ (อันนี้น้าเราเล่าให้เราฟังนะหลังเราจมน้ำแล้วนะเพราะเราไม่ได้สติแล้ว) ตอนนั้นหูเรามันได้ยินแว่วๆได้ยินเสียคนกรี๊ด เสียงเท้าคนวิ่งไปวิ่งมา และสักพักก็ไมรู้ตัวไปเลย มารู้ตัวอีกทีตอนที่ปวดหัวเหมือนเรากินน้ำเย็นจัดแล้วมันขึ้นสมอง เราสำลักน้ำมาเยอะ และเห็นคนมุงเต็ม น้าเราร้องไห้ตกใจมาก กอดเราตัวสั่น คือ น้าบอกว่า ตอนปั้มหัวใจ ไลฟ์การ์ด เจ้าของสระ มาช่วยกัน เขาบอกเราหายใจแผ่วมาก หน้าเขียว ถ้าช้าไปอีกสักครึ่งนาที คือ ไม่น่ารอด เพราะตัวเขียว มือเท้าเขียวแล้วอ่า แต่อยู่ดีๆก็สำลักออกมาัลยปลอดภัย
แล้วถามว่ามันเกี่ยวกับน้องเอ็มยังไง...
ก็น้าเรานี่แหละ...//เป็นเหตุการณ์ที่เราจดจำไปตลอดชีวิต
หลังจากเหตุการณ์เราจมน้ำวันนั้น ผ่านไป 6 ปี
----เอ็มตกน้ำตายตอนอายุ10ขวบ!!----
**โดยที่น้าเราเป็นคนพาไปเที่ยว
แปลกไหมหล่ะ เป็นที่เป็นน้า(อีกแล้ว)พาเราไปว่ายน้ำ!!?)
น้าพาเอ็มไปเล่นน้ำตกแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
น้ำตกตรงที่น้องโดดลงมา มันดูดน้องเราลงไปตรงแอ่งน้ำวน แล้วหายไปเลย กู้ภัยงมอยู่3ชม.ก็ยังไม่เจอ??
//จนยายไปรับศพ ยายร้องไห้แทบขาดใจ แล้วก็จุดธูปไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางให้เจอศพ สัก15นาที ศพน้องก็ลอยขี้นมาให้ติดโขดหินให้เห็นเลย โดยที่แปลกมากตรงที่กู้ภัยหากันแทบตายแต่ก็ไม่เจอ//
ก่อนหน้าวันที่จะเกิดเหตุ 2-3 วัน เรานั่งเหม่อ จนแม่เรียกเราไม่ได้ยิน ใจมันหวิวหนักกว่าเดิมคือ จำได้ว่า "ตอนนั้นนั่งทำการบ้าน แล้วอยู่ดีๆหงุเหงิดเรื่องใจหวิวๆนี่แหละ จนแม่เรียกเราตะโกนและฉุนเฉียวเลย" ทั้งๆที่เราเกิดมาไม่เคยเถียงแม่ ไม่เคยดุ แต่ตอนนั้นมันรำคาญใจยังไงบอกไม่ถูก ตกกลางคืนก็นอนไม่หลับ (ทั้งที่เรายังเด็กอยู่เลย ปกติจะขี้เซามากๆ) พยายามคิดว่าตัวเองเป็นอะไร??!! ก็ไม่ได้คำตอบ
สุดท้าย....
คือเราใช่ไหม ที่ทำน้องตาย!!
เราไม่เตือนใครเลย
เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เราช็อกมากนะตอนที่แม่รับสายแล้วน้าบอกว่าน้องเสียแล้ว!!
เรารู้เลย >>> เป็นเพราะเรา <<<
เราไม่ได้อยากโทษใครหรอก
ไม่อยากโทษน้าด้วย ..
ถึงแม้เหตุการณ์มันเกิดซ้ำ อาจจะด้วยความประมาท หรืออะไรก็ตาม
เพราะเราคิดว่า "ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้"
และเราก็ไม่อยากจะคิดว่าน้าเกือบทำเราตายมาครั้งหนึ่งแล้วด้วย...
แต่จะไม่คิดเลย... มันก็อดไม่ได้
น้องเราต้องมาเสียชีวิตทางน้ำ!! เหตุการณ์ทำให้ย้อนนึกถึงชีวิตความเป็นความตายตอนที่เราจมน้ำ มันหายใจไม่ออก น้ำเข้าจมูก เข้าปาก ปวดร้าวมันขึ้นสมองผ่านร่างกาย แต่เรากลับรอดมา แต่น้องต้องตาย จากคนที่พาไปในสถานที่ และเหตุการณ์คล้ายๆกัน รวมทั้งคนพาไปก็คนๆเดียวกัน!
ไม่รู้เราคิดมากไปไหม หรือมีใครคิดเหมือนเรารึเปล่า แต่ เรารู้สึกว่าเรารอดมาได้ แต่ต้องมีคนมาตายแทนเรา อาจจะฟังดูเหมือนหนังเหมือนละคร
แต่นี่คือชีวิตจริง
ภาพเราติดตามาตลอดT_T
หลับตาลงก็เห็นภาพเหตุการณ์ว่า น้องไม่อยากไปไหน วันที่เล่นสร้างบ้านด้วยกัน น้องเอ็มมาพูด ขออยู่บ้านหลังนี้แทนเรา?!!
ตอนเราอุ้มเขา กอดเขา เอานมขวดในตู้เย็นให้เขากิน วันที่โดนเอ็มปารถแข่งของเล่นมาหัวเจาะเลือดออก แต่ไม่เคยว่าน้อง เราอภัยให้ได้เสมอ
หลังจากนั้นมา
มันต้องมีเหตุการณ์เตือนเราเสมอ ก่อนจะมีใครตาย!!
เริ่มจากยาย ปกติไม่เคยทำดีกับเราเลย ยายไม่ชอบหลานผู้หญิง และไม่ค่อยชอบพ่อเรา แต่ก่อนยายจะไป เราหวิวๆอีกแล้ว ยายให้ตังไปเที่ยวงานวันเด็ก100บาท จำได้แม่น เรามองหน้าเขา แล้วจ้องอยู่ประมาณ1นาที คือในใจคิดว่า มันแปลกๆอีกแล้ว ขออย่ามีเรื่องร้ายๆอะไรเลยเทอด ภาวนาในใจตลอดหงุดหงิด ใจโหวงเหวงอีกแล้ว แล้วไม่ถึงเดือน ยายก็เสียด้วยโรคประจำตัวคนแก่ เรารู้สึกว่า ทำไมมีเราคนเดียวที่รู้สึก แต่คนในบ้านกับไม่รู้สึกอะไรเลยสักคน
เราเดินไปปรึกษาแม่นะ บอกเขาว่า"แม่หนูใจไม่ดีอีกแล้ว มันรู้สึกสูญเสีย รู้สึกสิ้นหวัง ในใจเหมือนร้องไห้ แต่มันร้องไม่ออก ภายนอกหนูดูปกติมาก ทำไมหนูถึงเป็นแบบนี้ ทำไมต้องมาเกิดกับตัวหนู" แต่เราก็ไม่ได้พูด บอกเล่าว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วครั้งนึง
_เหตุการณ์เมื่อ 6 ปีที่แล้วที่น้องชายเราตาย_
นี่ยังไม่รวม น้าชายคนเล็ก กับพ่อที่เสียไล่เลี่ยกัน ทุกคนที่ก่อนตาย จะมาทำดีกับเรา (ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราเฉยๆกับพวกเขามาก)
**ความรู้สึกของเรา คือใจหวิวทุกที กังวลทั้งวัน จิตใจแปลกๆ นอนไม่หลับ ยังมีทั้งเดจาวูบ้าง ตอนเด็กคือบ่อยมาก จนบอกเพื่อนแล้วกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย แต่เรารู้เลยว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น หลังๆเราเลยไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวพวกเขาไม่เชื่อ
ทุกวันนี้นานๆจะมีสักที แต่จะเป็นอุบัติเหตุมากกว่า แล้วส่วนใหญ่จะย้อนกลับมาเป็นที่เรา (เพราะพอโตแล้วอารมณ์เราเปลี่ยน มันไม่อยากรับรู้และเก็บไว้คนเดียว เราจะพูดดังๆออกมาว่า ไม่น่า ไม่สิไม่เป็นหรอก ;เหมือนคนบ้าไหม แต่เราพูดจริงๆเหมือนกับต่อสู้ในจิตใจอยู่ หรือเรียกว่าฝืนความคิดนั่นแหละ) หรือไม่ก็พูดให้ใครก็ได้ ฟัง อาจจะเป็นแม่ หรือเพื่อน แต่แม่เราๆฟังเรานะ แล้วเขาบอกไม่ต้องพูดออกมาหรือไปทักใครเขานะ "แบบ เฮ้ย!! เรารู้สึกไม่ดีกับเธอเลยว่ะ" อะไรแบบเนี้ย เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเข้าตัว
คือเราก็รู้สึกอึดอัด ถ้าไม่พูดไม่ทักออกไป แต่พอทักออกไปแล้ว กลายเป็นตัวเองที่รับเคราะห์แทน ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ล้ม 5 ครั้ง ผ่าตัดซีส1ครั้ง และมีอีกหลายๆอย่าง เรียกว่าผ่านความตายมาแล้วทั้งนั้น ล่าสุดที่หมากัด เราก็รู้สึกก่อน จ้องหมาแล้วพูดว่า ไม่ใช่อยู่ดีๆมากัดแม่นะ แล้วก็โดนจริงๆ (พูดจริงๆเลยคือ เกลียดความรู้สึกแบบนี้มากกกกก...
ไม่อยากให้มีมาเตือน ไม่อยากรับรู้
ไม่อยากเจออะไรอีกแล้ว
ถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ตาม เพราะเราไม่อยากมานั่งกังวลใจ
ทุกครั้งจะหายใจไม่ออก เหงื่อออก ใจหวิวนี่ใช่เลย มันทรมานนะ!!
เราทำใจไม่ได้จริงๆ หากจะต้องมีความรู้สึกล่วงหน้าว่าจะต้องเจอเรื่องร้ายๆ
อีกแล้ว มันทุกข์ใจและเครียดมาก)
ทุกคนอ่านจบแล้วอาจจะรู้สึกเหมือนนิยายเรื่องสั้น เรื่องแต่งรึเปล่า แต่ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก ว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน นี้ขนาดแค่รู้สึกนะ ถ้าถึงขั้นเห็นผี สงสัยต้องไปเดินสายอย่างคุณเจนญาณทิพย์ ประกบกับคุณริว 2คน เดินส่องไฟฉายทั้งคืนละมั้ง 555 (ซีเรียสอยู่ค่ะแต่ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องหดหู่ เดี๋ยวเพื่อนๆจะวิตกมาสัมผัสได้บ้าง เราซวยเลย อิอิ^^)
คำถามคือ
...
มันคืออะไร?
เป็นความเชื่อทางศาสนา จิตวิญญาณ ธรรมะ หรือวิทยาศาสตร์คะ?
แล้วถ้าเป็นบ่อยๆมันจะกระทบกับสุขภาพจิตเราไหมคะ?
มันเกิดจากอะไร?
แล้วทำไมถึงมาเกิดกับเรา?
ใครเคยเป็นอยากเราหรือพอมีวิธีบ้างไหมคะ?
ปล.เรื่องอาจจะยาวไปหน่อยต้องขออภัยด้วยค่ะ แต่ที่เล่ามาเป็นเรื่องจริงทุกประการ และเราอยากหาวิธีแก้ไขจริงๆ และต้องขออภัยอีกครั้งหากเราแท็กไปผิดห้อง ขอคำแนะนำด้วยค่ะ เครียดมากจริงๆ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ_/|\_