Hormones ตอนนี้เป็นตอนที่ดิฉันอินมากที่สุดค่ะ เพราะดูแล้วนึกถึงเพื่อนเก่าและชีวิตช่วงสมัยม.ปลาย
เป็นตอนที่กระแทกความรู้สึกดิฉันได้ดีที่สุดใน 13 ตอน เพราะชีวิตวัยรุ่นดิฉันจนถึงตอนนี้
ได้เรียนรู้แล้วว่าความรักไม่ใช่ที่สุดของชีวิตค่ะ แต่ที่ยังติดตามจนจบเพื่อดูว่าละครเรื่องนี้
จะมีพัฒนาการด้านเนื้อหาไปอย่างไร และก็พบว่ามันมีและปลื้มมากด้วยค่ะ
นั่นคือเนื้อหาเกี่ยวกับ
Gender Role และ
Sexual Orientation หรือ
บทบาททางเพศ(ผช.และผญต้องทำตัวยังไง) และ รสนิยมทางเพศ(ชอบพึ่งพอใจ)
ผ่านตัวละครสามคนอย่าง ภู ธีร์ และนน
ภู: ตัวละครที่ถูกบอกว่าเขาสับสนทางเพศบ้าง เป็นเสีอไบบ้าง แต่ในความคิดดิฉันนี่คือตัวละคร
ที่ก้าวไกลที่สุดของเรื่องนี้เพราะเป็นตัวละครที่ได้ทำลาย Gender Role และ Sexual Orientation
ในความคิดนึกคิดของสังคมนี้ลงไปอย่างสิ้นเชิง
ภูในละครมีบทที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขานั้นรู้สึกรักผู้ชายอย่างธีร์ และรักผู้หญิงอย่างเต้ย
ผ่านฉากสารภาพผิดกับธีร์ในร้านอาหาร ฉากนั่งคุยกับเต้ยที่หน้าบ้าน ภูล้วนยอมรับและชัดเจนในตัวเองเสมอ
ว่าเขารักใคร ซึ่งมันรู้สึกขัดแย้งกับความนึกคิดของคนทั่วไปที่ว่า ชายแท้ต้องรักหญิง เกย์ต้องรักผู้ชาย
เป็นไปไม่ได้ที่เกย์จะหันกลับมาชอบผู้หญิง เหมือนลูกศรที่ชี้ไปในทางเดียว แต่ไม่มีเส้นที่ย้อนกลับมา
รสนิยมทางเพศคือสิ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ภูก็ได้แสดงตนชัดเจนว่าเขาอยู่
เหนือพรมแดนแห่งเพศ
ซึ่งน่าแปลกใจที่เกย์กะเทยหลายคนที่พยายามพร่ำบอกกับสังคมว่า
ความรักไม่มีเพศนะ
แต่พวกเขากลับไม่เข้าใจว่า รสนิยมทางเพศมันก็
ลื่นไหลได้ด้วย
กลายเป็นว่า "ไม่มีเพศ" ของพวกเขานั้นจำกัดไว้แค่ ไม่มีเพศชายหญิง...
หลายคนจึงมองว่าการที่ภูเลือกคบเต้ยเป็นสิ่งที่ทำร้ายชาวเกย์ เป็นโครงสร้างสังคมที่กดทับรักเพศเดียวกัน
เบียดขับรักของชายชายให้ตกขอบ และหยิบยกรักชายหญิงขึ้นมาเชิดชูแทน
นี่เป็นความรักที่รันทดของชาวเกย์ นี่คือ
Sad Homosexual Love
ดิฉันก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วถามกลับว่า
จริงหรือคะ?
มีตอนไหนบ้างที่ภูไม่กล้ายอมรับว่าชอบผู้ชาย?
มีตอนไหนบ้างที่ความรักของภูธีร์โดนสังคมกีดกันลงโทษ?
มีตอนไหนบ้างที่ภูเลิกธีร์เพราะกลัวสังคมไม่ยอมรับ?
ดิฉันไม่เห็นสักตอนเลยค่ะ
ทั้งคู่เลิกกันเพราะภูมันปันใจไปให้คนอื่นต่างหาก ซึ่งเป็นปัญหาความรักที่พบได้คนทุกเพศไม่ใช่แค่เกย์
การที่ธีร์อกหักมันจึงไม่ใช่เพราะว่านี่เป็นความรักของเกย์หรือเป็นเพราะสังคมกีดกัน แต่มันคือปัญหาความรัก
ทั่วๆไป มันไม่ใช่ Sad Homosexual Love แต่คือ
Sad Ordinary Love นี่แหล่ะค่ะ
กลับกันธีร์เองก็ไม่เคยทำอะไรเพื่อยื้อความรักนี้เลยนะคะ ทั้งๆที่ความรักคือเรื่องของการจัดการความสัมพันธ์
ระหว่างคนสองคนที่จะต้องปรับและโน้มน้าวให้ชีวิตรักมันอยู่รอด...ธีร์ได้ทำอะไร
บ้างไหมคะ?
HM Season 1 ได้บอกเราแล้วว่า Sexual Orientation หรือรสนิยมทางเพศมันเป็นสิ่งที่ลื่นไหลได้
ต่อมาในฉากที่ภูกับธีร์มีอะไรกันในหอพักแล้วเต้ยมาเจอ หลายคนก็คงอึ้งกันเลยว่าใครเป็นรุกเป็นรับกันแน่
ซึ่งนี่ก็มาจากการติด Gender Role หรือบทบาททางเพศเดิมๆ ที่ใช้ความคิดแบบวัฒนธรรมชายหญิงมากำหนด
เมื่อมีคนหนึ่งหวานก็ต้องมีคนหนึ่งเข้ม มีคนหนึ่งทำหน้าที่ภรรยาก็ต้องมีคนหนึ่งทำหน้าที่สามี
เมื่อมีคนหนึ่งเป็นรับคนหนึ่งก็ต้องรุก เป็นบทบาททางเพศที่ในความนึกคิดหลายคนติดในหัว โดยลืมไปว่า
เรื่องนี้ก็เหมือนกับความรักนั่นแหล่ะค่ะ...
มันลื่นไหลได้
ซึ่งแต่แรกหลายคนก็่พยายามจินตนาการว่าภูเป็นรุก พอเจอฉากนั้นเข้าไปก็มึนกันเป็นแถบๆเลยสิคะ
อย่าไปยึดติดกับความเชื่ออะไรเดิมๆเลยค่ะ
ดังนั้นดิฉันจึงยกตัวละครภู เป็นตัวละครที่มีก้าวหน้ามากที่สุดในละครไทย ตัวละครที่ได้ทำลายความนึกคิดแบบเดิมๆ
เปิดมุมมองอีกด้านหนึ่งในเรื่องเพศให้กับผู้ชมค่ะ
ธีร์: ตัวละครที่ถูกทำให้น่าสงสารมาโดยตลอด จนโดนมองข้ามถึงความผิดพลาดที่ตัวเองกระทำลงไป
นั่นคือการที่ธีร์
ลักหลับนน รุ่นน้องที่ตัวเองเผลอคิดไปว่าเขามีใจให้ และถือวิสาสะไปหอมแก้มเขา
แม้มันจะดูเล็กน้อย แต่สำหรับดิฉันนี่คือเรื่องใหญ่สองข้อค่ะ
ข้อแรก...ความร้ายแรงที่ธีร์ทำมันเป็นการ
ละเมิดสิทธิในเรือนร่างของคนอื่น ไม่มีใครมีสิทธิทำแบบนี้กับใครทั้งสิ้นค่ะ ถ้าคนอื่นไม่ยอม
แม้มันจะแค่หอมแก้มแต่ก็คือการละเมิดสิทธิคนอื่นเหมือนกับการข่มขืนนั่นแหล่ะค่ะแค่ดูร้ายแรงน้อยกว่าเท่านั้น
ซึ่งน่าตกใจที่หลายคนแสดงความเห็นไปในทางตำหนินน สงสารธีร์ โดยมองข้ามไปว่าสิ่งที่ธีร์ทำมัน
ไม่ถูกต้องเลย
ข้อสอง...มันเป็นการ
ผลิตซ้ำและตอกย้ำให้กับสังคมว่าพวกเกย์ เป็นพวกบ้ากาม
ชอบแตะอั๊งผู้ชายและคิดเข้าข้างตัวเอง ซึ่งมันน่าด่ากว่าเรื่องที่ธีร์อกหักอีกค่ะ
ก็ขอฝากไปยังทีมงานให้ตระหนักเรื่องนี้ด้วยนะคะ
ดังนั้นสำหรับดิฉันตัวละครธีร์น่าตำหนิค่ะ แม้จะทำให้คนดูมองว่าน่าสงสารก็ตาม
นน: ตัวละครที่
ถูกยัดเยียดรสนิยมทางเพศโดยสังคม จากพฤติกรรมและท่าทางเมื่ออยู่กับธีร์
ดิฉันเข้าใจได้นะคะที่หลายคนตั้งข้อสงสัยและไม่เชื่อว่า นนไม่ได้เป็นเกย์หากแต่เป็นชายแท้
และดูเหมือนว่า
ทางผู้จัดคงจะจงใจให้นักแสดงทั้งสองแสดงออกมาเช่นนั้นเพื่อเรียกเรตติ้ง เพื่อการค้า
แต่อย่างไรดิฉันก็อยากให้สังคมมองค่ะว่า
เพศไม่ใช่ข้อจำกัดทั้งความรักและพฤติกรรม
ทำไมเราต้องคอยบอกว่า คนที่ทำตัวแบบนี้ต้องมีรสนิยมแบบนี้นะ คนที่ทำตัวแบบนั้นต้องมีรสนิยมแบบนั้นนะ
เหมือนคนที่ดูแข็งแรงก็ต้องเป็นผู้ชาย อ่อนหวานก็ต้องเป็นผู้หญิง ทั้งๆที่เพศไหนก็เป็นได้
นี่ก็คืออีกหนึ่ง Gender role ที่ฝังอยู่ในความนึกคิดของเราหลายคน และได้
นำมายัดเยียดให้กับนน
มันค่าคิดค่ะว่าเราเอาคำว่า
บทบาททางเพศ มากะเกณฑ์ชีวิตตัวเองทำไมคะ?
มนุษย์ทุกคนควรมี
อิสระที่จะแสดงออกยังไงก็ได้ไม่ใช่หรือ?
และการกะเกณฑ์ชีวิตด้วยบทบาททางเพศของสังคม มันก็ทำให้ใครหลายคนต้องคอยคิดว่า
ทำแบบนี้จะดูเป็นเกย์ไหมนะ ทำแบบนี้จะดูออกสาวไปไหม มันกลายเป็นส่วนหนึ่ง(จากหลายๆสาเหตุ)
ที่ทำให้ผู้ชายหลายคนตั้งแง่กับคำว่า "เกย์" และแม้แต่เกย์หลายคนก็ตั้งแง่กับคำว่า "ออกสาว" เช่นกัน
เพราะนัยหนึ่งของการใช้บทบาทางเพศมากะเกณฑ์คน ก็เพื่อบอกว่าคนนี้ปกติ คนนี้ไม่ปกติ...
และคน(ทุกเพศ)ควรตระหนักไว้ด้วย
Gender Role ไม่ได้บอกถึงรสนิยมทางเพศค่ะ
ดิฉันไม่รู้นะคะว่าซีซั่นต่อไป นน จะมีบทบาทอย่างไร แต่ในเมื่อถ้าเราเชื่อว่าความรักมันลื่นไหลได้
มันไม่ขึ้นกับเพศ แล้วเหตุใดเราจะปฏิเสธไม่ได้ล่ะคะ ว่าพฤติกรรมต่างๆก็ไม่ได้ขึ้นกับเพศเช่นกัน
ดิฉันจึงอยากให้ซีรีย์เรื่องนี้ได้จุดประกายในความคิดของเราค่ะว่า อย่าไปนึกคิดติดกรอบกับความเชื่อเดิมเรื่องเพศ
ลองมองให้เรื่องเพศเป็นสิ่งที่ลื่นไหล ไม่ตายตัว ไม่กะเกณฑ์ดีกว่าดีกว่าไหม
เคารพในสิ่งที่คนๆนั้นแสดงออกมา ตราบใดที่สิ่งนั้นไม่ได้ไปทำลายหรือละเมิดสิทธิใครก็พอแล้วค่ะ
การทำลายความนึกคิดเดิมๆเรื่องบทบาทและรสนิยมทางเพศของ HM คือสิ่งที่ดิฉันปลื้มที่สุดในการดูเรื่องนี้
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ซีรีย์ที่สุดที่ดิฉันชอบนะคะ เพราะดิฉันรู้สึกว่าเรื่องวนอยู่แต่ความรัก เดี๋ยวรัก เดี๋ยวคบคนผิด เดี๋ยวเลิก
มันไม่ใช่ซีรีย์ที่จะแทนชีวิตวัยรุ่นของใครหลายคนได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นไทยอีกมากที่ยังมีคุณภาพชีวิตไม่ถึงครึ่งของในซีรีย์
ความทุกข์จากความรักไม่ใช่ที่สุด ลองหิวโซเงินหมดดูก็จะรู้ว่าความรักมันน้อยนิดมากๆในชีวิต
ขอบคุณค่ะที่อ่านกระทู้กว่าหกพันอักษรจบ
ปล.ขอระบายเล็กน้อย ดิฉันนั่งพิมพ์นานมากจนจบ แต่เผลอกดโดนอะไรไม่รู้
รีเฟรสซหน้าใหม่ ข้อมูลหายเกลี้ยงเลย T-T ครั้นจะพิมพ์ใหม่ก็ไม่เหมือนเดิม
เพราะพิมพ์สดและความรู้สึก ณ ตอนนั้นล้วนๆ เลยจะขอพิมพ์เท่าที่คิดได้ค่ะ
ภูตัวละครที่ชอบ ธีร์ตัวละครที่น่าตำหนิ ซีรีย์ที่ให้แง่มุมที่ทำลายความนึกคิดเดิมๆบางอย่าง
เป็นตอนที่กระแทกความรู้สึกดิฉันได้ดีที่สุดใน 13 ตอน เพราะชีวิตวัยรุ่นดิฉันจนถึงตอนนี้
ได้เรียนรู้แล้วว่าความรักไม่ใช่ที่สุดของชีวิตค่ะ แต่ที่ยังติดตามจนจบเพื่อดูว่าละครเรื่องนี้
จะมีพัฒนาการด้านเนื้อหาไปอย่างไร และก็พบว่ามันมีและปลื้มมากด้วยค่ะ
นั่นคือเนื้อหาเกี่ยวกับ Gender Role และ Sexual Orientation หรือ
บทบาททางเพศ(ผช.และผญต้องทำตัวยังไง) และ รสนิยมทางเพศ(ชอบพึ่งพอใจ)
ผ่านตัวละครสามคนอย่าง ภู ธีร์ และนน
ภู: ตัวละครที่ถูกบอกว่าเขาสับสนทางเพศบ้าง เป็นเสีอไบบ้าง แต่ในความคิดดิฉันนี่คือตัวละคร
ที่ก้าวไกลที่สุดของเรื่องนี้เพราะเป็นตัวละครที่ได้ทำลาย Gender Role และ Sexual Orientation
ในความคิดนึกคิดของสังคมนี้ลงไปอย่างสิ้นเชิง
ภูในละครมีบทที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขานั้นรู้สึกรักผู้ชายอย่างธีร์ และรักผู้หญิงอย่างเต้ย
ผ่านฉากสารภาพผิดกับธีร์ในร้านอาหาร ฉากนั่งคุยกับเต้ยที่หน้าบ้าน ภูล้วนยอมรับและชัดเจนในตัวเองเสมอ
ว่าเขารักใคร ซึ่งมันรู้สึกขัดแย้งกับความนึกคิดของคนทั่วไปที่ว่า ชายแท้ต้องรักหญิง เกย์ต้องรักผู้ชาย
เป็นไปไม่ได้ที่เกย์จะหันกลับมาชอบผู้หญิง เหมือนลูกศรที่ชี้ไปในทางเดียว แต่ไม่มีเส้นที่ย้อนกลับมา
รสนิยมทางเพศคือสิ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ภูก็ได้แสดงตนชัดเจนว่าเขาอยู่เหนือพรมแดนแห่งเพศ
ซึ่งน่าแปลกใจที่เกย์กะเทยหลายคนที่พยายามพร่ำบอกกับสังคมว่า ความรักไม่มีเพศนะ
แต่พวกเขากลับไม่เข้าใจว่า รสนิยมทางเพศมันก็ลื่นไหลได้ด้วย
กลายเป็นว่า "ไม่มีเพศ" ของพวกเขานั้นจำกัดไว้แค่ ไม่มีเพศชายหญิง...
หลายคนจึงมองว่าการที่ภูเลือกคบเต้ยเป็นสิ่งที่ทำร้ายชาวเกย์ เป็นโครงสร้างสังคมที่กดทับรักเพศเดียวกัน
เบียดขับรักของชายชายให้ตกขอบ และหยิบยกรักชายหญิงขึ้นมาเชิดชูแทน
นี่เป็นความรักที่รันทดของชาวเกย์ นี่คือ Sad Homosexual Love
ดิฉันก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วถามกลับว่า จริงหรือคะ?
มีตอนไหนบ้างที่ภูไม่กล้ายอมรับว่าชอบผู้ชาย?
มีตอนไหนบ้างที่ความรักของภูธีร์โดนสังคมกีดกันลงโทษ?
มีตอนไหนบ้างที่ภูเลิกธีร์เพราะกลัวสังคมไม่ยอมรับ?
ดิฉันไม่เห็นสักตอนเลยค่ะ
ทั้งคู่เลิกกันเพราะภูมันปันใจไปให้คนอื่นต่างหาก ซึ่งเป็นปัญหาความรักที่พบได้คนทุกเพศไม่ใช่แค่เกย์
การที่ธีร์อกหักมันจึงไม่ใช่เพราะว่านี่เป็นความรักของเกย์หรือเป็นเพราะสังคมกีดกัน แต่มันคือปัญหาความรัก
ทั่วๆไป มันไม่ใช่ Sad Homosexual Love แต่คือ Sad Ordinary Love นี่แหล่ะค่ะ
กลับกันธีร์เองก็ไม่เคยทำอะไรเพื่อยื้อความรักนี้เลยนะคะ ทั้งๆที่ความรักคือเรื่องของการจัดการความสัมพันธ์
ระหว่างคนสองคนที่จะต้องปรับและโน้มน้าวให้ชีวิตรักมันอยู่รอด...ธีร์ได้ทำอะไรบ้างไหมคะ?
HM Season 1 ได้บอกเราแล้วว่า Sexual Orientation หรือรสนิยมทางเพศมันเป็นสิ่งที่ลื่นไหลได้
ต่อมาในฉากที่ภูกับธีร์มีอะไรกันในหอพักแล้วเต้ยมาเจอ หลายคนก็คงอึ้งกันเลยว่าใครเป็นรุกเป็นรับกันแน่
ซึ่งนี่ก็มาจากการติด Gender Role หรือบทบาททางเพศเดิมๆ ที่ใช้ความคิดแบบวัฒนธรรมชายหญิงมากำหนด
เมื่อมีคนหนึ่งหวานก็ต้องมีคนหนึ่งเข้ม มีคนหนึ่งทำหน้าที่ภรรยาก็ต้องมีคนหนึ่งทำหน้าที่สามี
เมื่อมีคนหนึ่งเป็นรับคนหนึ่งก็ต้องรุก เป็นบทบาททางเพศที่ในความนึกคิดหลายคนติดในหัว โดยลืมไปว่า
เรื่องนี้ก็เหมือนกับความรักนั่นแหล่ะค่ะ...มันลื่นไหลได้
ซึ่งแต่แรกหลายคนก็่พยายามจินตนาการว่าภูเป็นรุก พอเจอฉากนั้นเข้าไปก็มึนกันเป็นแถบๆเลยสิคะ
อย่าไปยึดติดกับความเชื่ออะไรเดิมๆเลยค่ะ
ดังนั้นดิฉันจึงยกตัวละครภู เป็นตัวละครที่มีก้าวหน้ามากที่สุดในละครไทย ตัวละครที่ได้ทำลายความนึกคิดแบบเดิมๆ
เปิดมุมมองอีกด้านหนึ่งในเรื่องเพศให้กับผู้ชมค่ะ
ธีร์: ตัวละครที่ถูกทำให้น่าสงสารมาโดยตลอด จนโดนมองข้ามถึงความผิดพลาดที่ตัวเองกระทำลงไป
นั่นคือการที่ธีร์ ลักหลับนน รุ่นน้องที่ตัวเองเผลอคิดไปว่าเขามีใจให้ และถือวิสาสะไปหอมแก้มเขา
แม้มันจะดูเล็กน้อย แต่สำหรับดิฉันนี่คือเรื่องใหญ่สองข้อค่ะ ข้อแรก...ความร้ายแรงที่ธีร์ทำมันเป็นการ
ละเมิดสิทธิในเรือนร่างของคนอื่น ไม่มีใครมีสิทธิทำแบบนี้กับใครทั้งสิ้นค่ะ ถ้าคนอื่นไม่ยอม
แม้มันจะแค่หอมแก้มแต่ก็คือการละเมิดสิทธิคนอื่นเหมือนกับการข่มขืนนั่นแหล่ะค่ะแค่ดูร้ายแรงน้อยกว่าเท่านั้น
ซึ่งน่าตกใจที่หลายคนแสดงความเห็นไปในทางตำหนินน สงสารธีร์ โดยมองข้ามไปว่าสิ่งที่ธีร์ทำมันไม่ถูกต้องเลย
ข้อสอง...มันเป็นการผลิตซ้ำและตอกย้ำให้กับสังคมว่าพวกเกย์ เป็นพวกบ้ากาม
ชอบแตะอั๊งผู้ชายและคิดเข้าข้างตัวเอง ซึ่งมันน่าด่ากว่าเรื่องที่ธีร์อกหักอีกค่ะ
ก็ขอฝากไปยังทีมงานให้ตระหนักเรื่องนี้ด้วยนะคะ
ดังนั้นสำหรับดิฉันตัวละครธีร์น่าตำหนิค่ะ แม้จะทำให้คนดูมองว่าน่าสงสารก็ตาม
นน: ตัวละครที่ถูกยัดเยียดรสนิยมทางเพศโดยสังคม จากพฤติกรรมและท่าทางเมื่ออยู่กับธีร์
ดิฉันเข้าใจได้นะคะที่หลายคนตั้งข้อสงสัยและไม่เชื่อว่า นนไม่ได้เป็นเกย์หากแต่เป็นชายแท้
และดูเหมือนว่า ทางผู้จัดคงจะจงใจให้นักแสดงทั้งสองแสดงออกมาเช่นนั้นเพื่อเรียกเรตติ้ง เพื่อการค้า
แต่อย่างไรดิฉันก็อยากให้สังคมมองค่ะว่า
เพศไม่ใช่ข้อจำกัดทั้งความรักและพฤติกรรม
ทำไมเราต้องคอยบอกว่า คนที่ทำตัวแบบนี้ต้องมีรสนิยมแบบนี้นะ คนที่ทำตัวแบบนั้นต้องมีรสนิยมแบบนั้นนะ
เหมือนคนที่ดูแข็งแรงก็ต้องเป็นผู้ชาย อ่อนหวานก็ต้องเป็นผู้หญิง ทั้งๆที่เพศไหนก็เป็นได้
นี่ก็คืออีกหนึ่ง Gender role ที่ฝังอยู่ในความนึกคิดของเราหลายคน และได้นำมายัดเยียดให้กับนน
มันค่าคิดค่ะว่าเราเอาคำว่า บทบาททางเพศ มากะเกณฑ์ชีวิตตัวเองทำไมคะ?
มนุษย์ทุกคนควรมีอิสระที่จะแสดงออกยังไงก็ได้ไม่ใช่หรือ?
และการกะเกณฑ์ชีวิตด้วยบทบาททางเพศของสังคม มันก็ทำให้ใครหลายคนต้องคอยคิดว่า
ทำแบบนี้จะดูเป็นเกย์ไหมนะ ทำแบบนี้จะดูออกสาวไปไหม มันกลายเป็นส่วนหนึ่ง(จากหลายๆสาเหตุ)
ที่ทำให้ผู้ชายหลายคนตั้งแง่กับคำว่า "เกย์" และแม้แต่เกย์หลายคนก็ตั้งแง่กับคำว่า "ออกสาว" เช่นกัน
เพราะนัยหนึ่งของการใช้บทบาทางเพศมากะเกณฑ์คน ก็เพื่อบอกว่าคนนี้ปกติ คนนี้ไม่ปกติ...
และคน(ทุกเพศ)ควรตระหนักไว้ด้วย Gender Role ไม่ได้บอกถึงรสนิยมทางเพศค่ะ
ดิฉันไม่รู้นะคะว่าซีซั่นต่อไป นน จะมีบทบาทอย่างไร แต่ในเมื่อถ้าเราเชื่อว่าความรักมันลื่นไหลได้
มันไม่ขึ้นกับเพศ แล้วเหตุใดเราจะปฏิเสธไม่ได้ล่ะคะ ว่าพฤติกรรมต่างๆก็ไม่ได้ขึ้นกับเพศเช่นกัน
ดิฉันจึงอยากให้ซีรีย์เรื่องนี้ได้จุดประกายในความคิดของเราค่ะว่า อย่าไปนึกคิดติดกรอบกับความเชื่อเดิมเรื่องเพศ
ลองมองให้เรื่องเพศเป็นสิ่งที่ลื่นไหล ไม่ตายตัว ไม่กะเกณฑ์ดีกว่าดีกว่าไหม
เคารพในสิ่งที่คนๆนั้นแสดงออกมา ตราบใดที่สิ่งนั้นไม่ได้ไปทำลายหรือละเมิดสิทธิใครก็พอแล้วค่ะ
การทำลายความนึกคิดเดิมๆเรื่องบทบาทและรสนิยมทางเพศของ HM คือสิ่งที่ดิฉันปลื้มที่สุดในการดูเรื่องนี้
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ซีรีย์ที่สุดที่ดิฉันชอบนะคะ เพราะดิฉันรู้สึกว่าเรื่องวนอยู่แต่ความรัก เดี๋ยวรัก เดี๋ยวคบคนผิด เดี๋ยวเลิก
มันไม่ใช่ซีรีย์ที่จะแทนชีวิตวัยรุ่นของใครหลายคนได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นไทยอีกมากที่ยังมีคุณภาพชีวิตไม่ถึงครึ่งของในซีรีย์
ความทุกข์จากความรักไม่ใช่ที่สุด ลองหิวโซเงินหมดดูก็จะรู้ว่าความรักมันน้อยนิดมากๆในชีวิต
ขอบคุณค่ะที่อ่านกระทู้กว่าหกพันอักษรจบ
ปล.ขอระบายเล็กน้อย ดิฉันนั่งพิมพ์นานมากจนจบ แต่เผลอกดโดนอะไรไม่รู้
รีเฟรสซหน้าใหม่ ข้อมูลหายเกลี้ยงเลย T-T ครั้นจะพิมพ์ใหม่ก็ไม่เหมือนเดิม
เพราะพิมพ์สดและความรู้สึก ณ ตอนนั้นล้วนๆ เลยจะขอพิมพ์เท่าที่คิดได้ค่ะ