[ ประสบการณ์จริง ] บันทึกรักฉบับที่ 1 : ความรัก...ที่ทำได้แค่ "แอบรัก"

ด้วยตอนพิมพ์กระทู้นี้ ฝนตกหนักมาทั้งวัน อากาศก็หนาวๆ เลยทำให้นึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของตัวเอง คิดอยู่นานมาหลายวันว่าจะเขียนดีมั๊ย อาจเป็นเพราะอารมณ์อินดี้ของตัวเองจากบรรยากาศฝนตกมาหลายวัน อาจเป็นเพราะได้อ่านหลายๆกระทู้ที่เกี่ยวกับความรักมาพอสมควร อาจเป็นเพราะอยากลองเขียนดูบ้าง อย่างน้อยก็เป็นไดอารี่ของตัวเองที่จะยังคงอยู่ไปอีกนานเลย จึงเป็นที่มาของการเขียนบันทึกรักของตัวเอง ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่คนที่เขียนบรรยายอะไรได้ดี อาจวกไปวนมา ก็ขอโทษไว้ก่อนเลยนะคะ
คุณคิดว่า ในชีวิตของคนเรา สามารถ "แอบรัก" ใครได้ซักกี่คนกัน? ... บางคนแอบรัก แต่ก็สมหวังเมื่อสารภาพ แต่บางคนสารภาพ ก็ยังผิดหวัง ลองมาดูกันว่า "แอบรัก" ของเราจะอยู่ในโหมดไหน

ย้อนกลับไปในวันวาน ตอนที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา เป็นช่วงชีวิตของวัยรุ่นที่หัวเลี้ยวหัวต่อพอสมควร หากแต่มีกัลยาณมิตรที่ดี สังคมที่ดี ทุกอย่างประกอบกันก็จะทำให้คนๆนั้นดีไปด้วย อีกทั้งช่วงชีวิตตอนนี้เป็นช่วงที่หากใครมีความรัก ก็เป็น "รักวัยใส" หรือบางคนก็เกิด "ป๊อปปี้เลิฟ"... เราก็เป็นหนึ่งคนที่มีความรักในช่วงวัยนี้ หากแต่มันเป็นได้แค่เพียง "การแอบรัก"

ตอนเรียนอยู่ชั้นม.4 เราแอบรักรุ่นพี่คนหนึ่ง อักษรย่อ R เขาเป็นนักร้องประจำโรงเรียน ตี๋ ขาว ไม่สูง แต่เป็นนักบาสของโรงเรียนด้วย ซึ่งตอนที่เราเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ตอนม.ต้น เราก็แค่เริ่มปลื้ม แต่พอวันเวลาผ่านไป ได้เห็นเขาบ้าง ได้เจอบ้าง ได้เห็นมุมอื่นๆของเขาตลอดระยะเวลา 4 ปี จนตอนเราขค้นม.4 ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนจากปลื้มเป็นรักไปแล้ว ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้า คือ เรากับเพื่อนอีกหนึ่งคนเดินเอกสารไปให้อาจารย์ที่สอนอยู่ชั้น 4 ซึ่งพี่ R และเพื่อนๆห้องเดียวกับเขาก็นั่งรออยู่หน้าห้องนั้น เพื่อรอเวลาเปลี่ยนคาบและเข้าห้อง เรากับเพื่อนเดินผ่านพี่เขา แล้วเพื่อนพี่เขาก็เรียกเราและพูดขึ้นมาว่า " น้องๆคนนี้ชอบอ่ะ" พร้อมกับชี้ไปที่พี่ R พอได้ยินแบบนั้นพี่เขารีบปฏิเสธทันทีเลย "เฮ้ย! ไม่ใช่ๆน้อง" ... ตอนนั้นถามว่าคิดว่าพูดจริงมั๊ย บอกเลยว่า ไม่มีทางเป็นความจริง เพราะ 1. เพื่อนเขาคงแกล้งกันเล่นเท่านั้น และ 2. หรือถึงจริง มันก็แค่เอาสนุกๆ หน้าตาเราตอนนั้นขี้เหร่แแบบสุด อัปลักษณ์เลยล่ะ เพราะหน้าเต็มไปด้วยสิวเม็ดเป้งๆ สิวหัวช้าง สิวอักเสบ ใครจะมาชอบกัน

หลังจากวันนั้นก็จะเห็นพี่เขาขค้นเวทีตามงานสำคัญของโรงเรียน เล่นกีฬาของงานกีฬาสี ความรู้สึกก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนเด่นชัดก็อย่างที่บอกไป... เด่นชัดยังไงน่ะเหรอ ก็เราเขียนไดอารี่ถึงพี่เขาทุกวันๆ ในไดอารี่สีครีม มีกุญแจล็อค เขียนตลอด 1 ปีเต็ม ไม่ว่าจะตอนเรียน ตอนเปิดเทอม ตอนปิดเทอม ก็เขียนถึงพี่เขา บางวันก็แต่งกลอนให้เขา ด้วยตั้งใจว่าจะมอบให้พี่เขาในวันที่พี่เขาจบการศึกษาในปีนั้นพอดี เราบันทึกเรื่องราวทุกอย่าง ทุกฉากทุกตอน เวลาที่ได้เจอได้เห็นพี่เขา เช่น จะมีวันหนึ่งที่ทางโรงเรียนกำหนดให้มีการขายของของนักเรียน ซึ่งพี่เขาตั้งร้านขายลูกชิ้นทอดกับเพื่อน เราเดินกลับมาจากโรงอาหาร เห็นพี่เขากำลังขายของอยู่เลย แต่ผ้ากันเปื้อนที่ใส่หวานแหววมาก เราก็เอามาวาดรูปลงในไดอารี่พร้อมบรรยาย, วันใดที่ไม่เห็นเขาเลย ก็จะเกิดอาการเป็นห่วงว่า เขาเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า แต่แค่เพียงเดินออกมาจากโรงอาหารแล้วเห็นเขาเดินมากับเพื่อนๆ ในชุดรด. ก็ทำให้เราโล่งใจ สบายใจมากมาย, หรือแม้แต่มีเรื่องลือกันถึงแฟนสาวที่เขาคบอยู่ตอนนั้น เราก็กังวลเป็นห่วงว่าเขาจะรู้สึกยังไงบ้าง ถ้ารู้เรื่องลือนี้ ที่บ้างก็ว่าจริง บ้างก็ว่าไม่จริง แต่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากเขียนลงในไดอารี่ เพราะมันเป็นเรื่องของเขาสองคน

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆคนคงจะคิดว่าเราบ้า เราคลั่ง หรือว่าเราโรคจิตก็ได้มั้งนะ แต่สำหรับเรา เรารู้ดีว่าเรารู้สึกยังไงกันแน่ มันเรียกได้ว่า "ความรัก" แต่เพียงว่ามันเป็นความรักที่ตัวเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของหัวใจเขา เป็นความรักที่ไม่ได้มีความคิดที่จะแก่งแย่งเขามา โดยใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือสร้างความร้าวฉานให้กับเขาและแฟนจากเรื่องลือเสียหาย ... มันเป็นความรักที่แม้ไม่ได้ครอบครอง แต่เราก็มีความสุข เมื่อเห็นคนที่เรารักมีความสุข เป็นเพียงความรักที่ได้แอบรักเพียงเท่านั้น โดยตอนจบของการแอบรักครั้งแรกของชีวิตเรา ไม่ได้จบด้วยคำว่า Happy Ending แต่ก็ไม่ใช่ว่าจบด้วยความเสียใจ ทุกข์ใจเช่นกัน เพราะไดอารี่ที่เราเขียนถึงพี่เขาตลอด 1 ปีเต็ม กลับไม่ได้อยู่ในมือของรุ่นพี่คนนั้น ด้วยเพราะคำว่า "ไม่กล้า" ( แม้ตอนนั้นจะเริ่มรักษาสิวแล้วก็ตามที )
ไดอารี่เล่มสีครีมหวาน กลับยังอยู่ที่คนเขียนเช่นเรา ที่เขียนมันทุกวันด้วยความใส่ใจ ด้วยความรัก ถ่ายทอดความอบอุ่น ความรู้สึกลงในทุกตัวอักษร มันไม่ได้มีความเสียใจเลยว่าไม่ได้อยู่ที่เขาคนนั้น หากแต่มันกลับเป็นสิ่งล้ำค่าของชีวิตเรา ที่กลับมาอ่านทีไรก็ทำให้เรายิ้ม ร้องไห้ และรู้สึกอบอุ่นได้เสมอ เพราะมันเป็นเรื่องราวที่เรามีให้เขาที่ถูกบันทึกไว้ ซึ่งมันจะไม่มีวันลบเลือนไปจากหัวใจและความทรงจำได้เลย
.
.
.
.
.
/// ดึกแล้ว ไว้มาเขียนต่อพรุ่งนี้นะคะ กับการแอบรักครั้งที่ 2

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่