คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
มาละ ....
space wagon มี 2 รหัสตัวถัง
1. N31 ... จะเป็นพวก 1.8 รหัสเครื่อง 4G93 SOHC ถ้าจำไม่ผิด 115 แรงม้า จุดสังเกตคือ
-- ไม่มีราวแร็คที่หลังคา
-- ไฟเบรค เวลาเบรค ติดทั้งชิ้นด้านนอก และ ชิ้นที่ฝาท้าย
-- ไม่มีม่านบังตาที่ท้ายรถ
-- มือเปิดประตูโครเมี่ยม
-- ไม่มีที่ท้าวแขนคอนโซลกลาง
2. N33 ... ตัว 2.0 รหัสเครื่อง 4G63 ตัวเดียวกับ Ultima 2.0 มีม้า 135 ตัว (DIN)
รถผม เป็น Model ปี 1994 เกียร์ A/T แต่ออกรถ 19 มิถุนายน 1995 เป็นรุ่นโมโนโทน คือ สีเดียว แต่เอาไปพ่นชายให้เป็นทูโทนเอง ราคาตอนนั้นคือ 1,035,000 บาท มีส่วนลด 50,000 บาทครับ
อัตราเร่ง
-- ถ้าในสมัยนั้น วิ่งได้ไม่อายรถเก๋ง วิ่งกว่าหลายคันด้วยซ้ำ คันเร่งเบา ไม่มีหน่วง แตะปุ๊บ พุ่งปั๊บ แต่ข้อเสียก็คือ ขับทางไกล ต้องคอยเกร็งเท้า เพื่อรักษาความเร็ว
-- เคยจับ 0 - 100 กม./ช.ม. ทำได้แถวๆ 12 วิ
-- ความเร็วสูงสุด ตามหน้าปัทม์คือ 180 กม./ช.ม.
ช่วงล่าง
-- เดิมๆเซ็ทมานุ่มค่อนข้างย้วยครับ รถผมใส่โช้คอัพ KYB Excel -G ของนอก เข้าไป ก็กระด้างขึ้น เข้าโค้งได้แรงขึ้น อาการเอียงตัวอันนี้ต้องทำใจ รถมันสูง เลยเอียงค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าชินกับมันก็ไม่มีอะไรนะ
-- การทรงตัว ถ้าหลังเปลี่ยนโช้คอัพแล้ว ไม่มีปัญหาครับ แต่ก่อนยืนพื้นที่ 140 ตลอดครับ แก้ง่วงก็160 กม./ช.ม.ครับ
เบรค
-- หน้าดิสค์ หลังดรัม ลองสังเกตจานหน้าเค้า จานใหญ่กว่าตัวอื่นครับ หม้อลมเบรคเป็นแบบ 2 ชั้น ... รถผมเปลี่ยนหม้อลมใหม่ ให้ใหญ่ขึ้น (จำไม่ได้ละว่า เอาของใครมาใส่)
-- เบรคเดิมๆค่อนข้างลื่น ผ้าเบรคศูนย์เอาไม่ค่อยอยู่ แต่ถ้าได้ผ้าเบรคหน้าดีๆ ผ้าเบรคหลังดีๆ ปรับตั้งเบรคหลังให้เหมาะ จะบอกว่า เบรคมันดีกว่า Civic FD เสียอีก ระยะสั้น ล้อแทบไม่ล็อคเลย
ภายใน
-- ผมชอบเบาะคู่หน้า ... เหมือนจะตัวเล็ก แต่นั่งแล้วพอดีตัว มีดุนหลัง เบาะเค้านั่งสบายนะ เห็นหน้าตาโบราณแบบนั้น แต่ขับยาวๆร่วมพันกม. เมื่อยน้อยกว่ารถสมัยนี้บางคันเยอะเลยล่ะ
-- เบาะตอนสาม ผู้ใหญ่นั่งได้ครับ พาไปเชียงใหม่ เชียงราย มาแล้ว ไม่มีใครบ่นครับ
-- การเก็บเสียงทำใจครับ ดังทุกอย่าง ดังไปหมด
จุดอ่อน
1. มอเตอร์เดินเบาพัง ... ตัวละ 7 พันบาท ชุดซ่อมไม่ทนครับ ใช้ได้ไม่นานพังอีก แต่ถ้าเสีย 7 พันบาท ก็อยู่ยาวๆเกือบๆ 7 ปี แล้วจึงมาเจอหน้ากันอีก
2. ยางแท่นเครื่อง ... ใช้มา 13 ปี เปลี่ยนไป 4 ชุด เดี๋ยวๆก็สั่น ยกชุดราวๆ 1.3 หมื่นบาทครับ
3. เกียร์พัง ... ผมพังตอนเกือบ 2 แสนกม. ส่งเข้า O/H ที่ สนญ.รังสิต แล้วตามเข้าไปดูที่รังสิตด้วย ช่างที่ O/H บอกว่า ผมใช้ทนมาก ปกติ คันอื่นไม่มีใครเค้าถึงหรอก หุหุ
-- ปัญหาของเกียร์มิตซู คือ ระบบระบายความร้อนไม่เหมาะสมครับ ใช้งานหนักๆ ความร้อนจะทำให้พวกแผ่นคลัชท์ไหม้ครับ
-- แก้ง่ายๆ ด้วยการติดออยล์คูลเลอร์เกียร์แยกครับ จะหาของ Ultima มือสอง พันกว่าบาท หรือ ของใหม่ราวๆ 3,500 บาท ก็ได้ครับ ทำแล้วจบเลย
4. โช้คอัพ ... ของศูนย์ 4 ตัว ไม่รวมยางเบ้าต่างๆ 16,000 บาท นะ ถ้าของ กาเบรียล 10,600 บาท แต่ไม่ทน หรือ KYB Excel-G ก็หมื่นนิดๆ แต่ ตอนนี้ไม่มีของละ
เรื่องอะไหล่
-- เข้าใจว่า จขกท. หาข้อมูลมา เกินครึ่งที่เจอ น่าจะเป็นข้อมูลผม ... ออกตัวก่อนว่า ผมซื้อป้ายแดง หลักในการดูแลรถของผมก็คือ สภาพมันต้องเหมือนป้ายแดงเช่นกันครับ บ้านผมไม่นิยมมือสอง ของเก่าครับ ดังนั้น เบิกใหม่ เบิกแท้ ทุกชิ้นครับ ราคาก็เลยโหด เอาเท่าที่จำได้นะ
1. มอเตอร์กระจกไฟฟ้าหน้าซ้าย 5,500 บาท
2. ชุดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ 15,000 บาท (เคยถามแต่ไม่ได้เปลี่ยน มันไม่ค่อยดึงกลับ)
3. เสาอากาศแบบมือดึงบนหลังคา 3,500 บาท (พ่อทำหัก เลยเบิกใหม่ใส่เลย)
4. ช่องแอร์ตรงกลาง 3,500 บาท (แม่เอาน้ำหอมไปเกี่ยว บอกแล้วไม่ฟัง เบิกใหม่ เก็บตังค์แม่)
5. กระจกมองหลังในรถ 3,500 บาท (ตามอายุ มันชอบตก)
6. คอมเพรสเซอร์แอร์ 25,000 บาท
7. ตู้แอร์ 9,000 บาท (เบิกแท้นะ ถ้าใช้ของเทียม UCM ไม่ทน 9 เดือนรั่ว แถมไม่เย็นอีกต่างหาก)
8. หม้อน้ำ 30,000 บาท (ของแท้ เป็นอลูมิเนี่ยม + พลาสติค แพง แต่ทนมาก 11 ปีไม่เป็นไรเลย ถ้าคิดว่าแพง มีของ Ultima ประกอบใน เป็นทองเหลือ 7,000 บาท)
9. ผ้าเบรคหน้า 3,500 บาท (หาข้างนอก ถูกกว่าเยอะ เทียบใช้กับ Ultima)
10. กระจกหน้าบานละ 9,000 บาท
11. ไฟหน้าข้างละ 4,000 บาท
12. กันชนหน้า - หลัง ชิ้นละ 15,000 บาท (เมื่อตอนออกมาใหม่ๆ โดนชน ต้องเปลี่ยน)
นึกออกแค่นี้ มีอะไรถามมาได้ครับ



space wagon มี 2 รหัสตัวถัง
1. N31 ... จะเป็นพวก 1.8 รหัสเครื่อง 4G93 SOHC ถ้าจำไม่ผิด 115 แรงม้า จุดสังเกตคือ
-- ไม่มีราวแร็คที่หลังคา
-- ไฟเบรค เวลาเบรค ติดทั้งชิ้นด้านนอก และ ชิ้นที่ฝาท้าย
-- ไม่มีม่านบังตาที่ท้ายรถ
-- มือเปิดประตูโครเมี่ยม
-- ไม่มีที่ท้าวแขนคอนโซลกลาง
2. N33 ... ตัว 2.0 รหัสเครื่อง 4G63 ตัวเดียวกับ Ultima 2.0 มีม้า 135 ตัว (DIN)
รถผม เป็น Model ปี 1994 เกียร์ A/T แต่ออกรถ 19 มิถุนายน 1995 เป็นรุ่นโมโนโทน คือ สีเดียว แต่เอาไปพ่นชายให้เป็นทูโทนเอง ราคาตอนนั้นคือ 1,035,000 บาท มีส่วนลด 50,000 บาทครับ
อัตราเร่ง
-- ถ้าในสมัยนั้น วิ่งได้ไม่อายรถเก๋ง วิ่งกว่าหลายคันด้วยซ้ำ คันเร่งเบา ไม่มีหน่วง แตะปุ๊บ พุ่งปั๊บ แต่ข้อเสียก็คือ ขับทางไกล ต้องคอยเกร็งเท้า เพื่อรักษาความเร็ว
-- เคยจับ 0 - 100 กม./ช.ม. ทำได้แถวๆ 12 วิ
-- ความเร็วสูงสุด ตามหน้าปัทม์คือ 180 กม./ช.ม.
ช่วงล่าง
-- เดิมๆเซ็ทมานุ่มค่อนข้างย้วยครับ รถผมใส่โช้คอัพ KYB Excel -G ของนอก เข้าไป ก็กระด้างขึ้น เข้าโค้งได้แรงขึ้น อาการเอียงตัวอันนี้ต้องทำใจ รถมันสูง เลยเอียงค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าชินกับมันก็ไม่มีอะไรนะ
-- การทรงตัว ถ้าหลังเปลี่ยนโช้คอัพแล้ว ไม่มีปัญหาครับ แต่ก่อนยืนพื้นที่ 140 ตลอดครับ แก้ง่วงก็160 กม./ช.ม.ครับ
เบรค
-- หน้าดิสค์ หลังดรัม ลองสังเกตจานหน้าเค้า จานใหญ่กว่าตัวอื่นครับ หม้อลมเบรคเป็นแบบ 2 ชั้น ... รถผมเปลี่ยนหม้อลมใหม่ ให้ใหญ่ขึ้น (จำไม่ได้ละว่า เอาของใครมาใส่)
-- เบรคเดิมๆค่อนข้างลื่น ผ้าเบรคศูนย์เอาไม่ค่อยอยู่ แต่ถ้าได้ผ้าเบรคหน้าดีๆ ผ้าเบรคหลังดีๆ ปรับตั้งเบรคหลังให้เหมาะ จะบอกว่า เบรคมันดีกว่า Civic FD เสียอีก ระยะสั้น ล้อแทบไม่ล็อคเลย
ภายใน
-- ผมชอบเบาะคู่หน้า ... เหมือนจะตัวเล็ก แต่นั่งแล้วพอดีตัว มีดุนหลัง เบาะเค้านั่งสบายนะ เห็นหน้าตาโบราณแบบนั้น แต่ขับยาวๆร่วมพันกม. เมื่อยน้อยกว่ารถสมัยนี้บางคันเยอะเลยล่ะ
-- เบาะตอนสาม ผู้ใหญ่นั่งได้ครับ พาไปเชียงใหม่ เชียงราย มาแล้ว ไม่มีใครบ่นครับ
-- การเก็บเสียงทำใจครับ ดังทุกอย่าง ดังไปหมด
จุดอ่อน
1. มอเตอร์เดินเบาพัง ... ตัวละ 7 พันบาท ชุดซ่อมไม่ทนครับ ใช้ได้ไม่นานพังอีก แต่ถ้าเสีย 7 พันบาท ก็อยู่ยาวๆเกือบๆ 7 ปี แล้วจึงมาเจอหน้ากันอีก
2. ยางแท่นเครื่อง ... ใช้มา 13 ปี เปลี่ยนไป 4 ชุด เดี๋ยวๆก็สั่น ยกชุดราวๆ 1.3 หมื่นบาทครับ
3. เกียร์พัง ... ผมพังตอนเกือบ 2 แสนกม. ส่งเข้า O/H ที่ สนญ.รังสิต แล้วตามเข้าไปดูที่รังสิตด้วย ช่างที่ O/H บอกว่า ผมใช้ทนมาก ปกติ คันอื่นไม่มีใครเค้าถึงหรอก หุหุ
-- ปัญหาของเกียร์มิตซู คือ ระบบระบายความร้อนไม่เหมาะสมครับ ใช้งานหนักๆ ความร้อนจะทำให้พวกแผ่นคลัชท์ไหม้ครับ
-- แก้ง่ายๆ ด้วยการติดออยล์คูลเลอร์เกียร์แยกครับ จะหาของ Ultima มือสอง พันกว่าบาท หรือ ของใหม่ราวๆ 3,500 บาท ก็ได้ครับ ทำแล้วจบเลย
4. โช้คอัพ ... ของศูนย์ 4 ตัว ไม่รวมยางเบ้าต่างๆ 16,000 บาท นะ ถ้าของ กาเบรียล 10,600 บาท แต่ไม่ทน หรือ KYB Excel-G ก็หมื่นนิดๆ แต่ ตอนนี้ไม่มีของละ
เรื่องอะไหล่
-- เข้าใจว่า จขกท. หาข้อมูลมา เกินครึ่งที่เจอ น่าจะเป็นข้อมูลผม ... ออกตัวก่อนว่า ผมซื้อป้ายแดง หลักในการดูแลรถของผมก็คือ สภาพมันต้องเหมือนป้ายแดงเช่นกันครับ บ้านผมไม่นิยมมือสอง ของเก่าครับ ดังนั้น เบิกใหม่ เบิกแท้ ทุกชิ้นครับ ราคาก็เลยโหด เอาเท่าที่จำได้นะ
1. มอเตอร์กระจกไฟฟ้าหน้าซ้าย 5,500 บาท
2. ชุดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ 15,000 บาท (เคยถามแต่ไม่ได้เปลี่ยน มันไม่ค่อยดึงกลับ)
3. เสาอากาศแบบมือดึงบนหลังคา 3,500 บาท (พ่อทำหัก เลยเบิกใหม่ใส่เลย)
4. ช่องแอร์ตรงกลาง 3,500 บาท (แม่เอาน้ำหอมไปเกี่ยว บอกแล้วไม่ฟัง เบิกใหม่ เก็บตังค์แม่)
5. กระจกมองหลังในรถ 3,500 บาท (ตามอายุ มันชอบตก)
6. คอมเพรสเซอร์แอร์ 25,000 บาท
7. ตู้แอร์ 9,000 บาท (เบิกแท้นะ ถ้าใช้ของเทียม UCM ไม่ทน 9 เดือนรั่ว แถมไม่เย็นอีกต่างหาก)
8. หม้อน้ำ 30,000 บาท (ของแท้ เป็นอลูมิเนี่ยม + พลาสติค แพง แต่ทนมาก 11 ปีไม่เป็นไรเลย ถ้าคิดว่าแพง มีของ Ultima ประกอบใน เป็นทองเหลือ 7,000 บาท)
9. ผ้าเบรคหน้า 3,500 บาท (หาข้างนอก ถูกกว่าเยอะ เทียบใช้กับ Ultima)
10. กระจกหน้าบานละ 9,000 บาท
11. ไฟหน้าข้างละ 4,000 บาท
12. กันชนหน้า - หลัง ชิ้นละ 15,000 บาท (เมื่อตอนออกมาใหม่ๆ โดนชน ต้องเปลี่ยน)
นึกออกแค่นี้ มีอะไรถามมาได้ครับ




แสดงความคิดเห็น
MITSUBISHI SPACE WAGON 2.0 GLXi ปี92
1 อะไหล่แพงไหม
2 กินน้ำมันมากไหม
3 มิตซู ติดแก๊สมีปัญหาไหม
คือจะซื้อให้แฟนบรรทุกของไปขาย ระยะทางประมาณ 1 กิโล จึงอยากได้คันใหญ่หน่อย และครอบครัวผมมี 5 คน นานๆ ครั้งกลับบ้านต่างจังหวัดที คนขายรับประกันว่ารถยังเยี่ยม แต่กลัวขับไปซ่อมไปสู้ค่าอะไหล่ไม่ไหว เพราะรถตั้ง 22 ปี คนขายบอกว่าเป็นรถครอบครัวไม่ช้ำอยู่แล้ว พอจะเล่นได้ไหมครับ