ถ้าคุณเป็นผู้ชายวัยรุ่น และกำลังจะรู้ตัวช้า เอาผมเป็นตัวอย่างชีวิตก็ได้ครับ

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับทุกคน ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแถวรังสิต ปัจจุบันผมก็ปี 4 อายุ 21 เศษๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นมาได้ 3 ปีกว่าแล้วครับ ตั้งแต่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าใจงานเว็บพันทิป และนี่ก็เป็นกระทู้แรกของผมด้วย ยังไงผมจะพยายามให้ทุกคนเข้าใจนะครับ

เริ่มแรกย้อนไปปี 1 ก่อนหน้านั้นผมมีแแฟนอยู่แล้ว 1 คน ชื่อเบส คบกันมาได้เกือบ 1ปี ในช่วงเข้ามหาลัยใหม่ๆนั้นผมก็เจอเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งผมพยายามรวบรวมเอาไว้ให้เป็นกลุ่มก้อน หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงตัวเล้กน่ารักคนนึง ชื่อ บิว เรารู้จักกันตั้งแต่รู้ตัวว่าสอบตรงติดด้วยกัน แต่เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอด

ในช่วงปี1นั้น ผมกับเบสห่างกันมาก เพราะเธอติดกิจกรรมคณะ อีกทั้งเพื่อนฝูงใหม่ๆ ทำให้เวลาของผมกับเธอต่อวันลดลงมาก จนน่าใจหาย ผมไม่สามารถคุยกับเธอได้เกิน 5 นาที หนึ่งอาทิตย์ได้เจอกันแค่วันเดียว เพราะเราเรียนกันคนละมหาลัย ซึ่งในช่วงนี้ผมก็สนิทกับเพื่อนๆในกลุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผมตั้งชื่อกลุ่มว่า "ดอกไม้เหล็ก" โดยคนในกลุ่มมีทั้งหมด 9 คน แต่กับบิว ผมสนิทกับเธอมากที่สุด ไม่ว่ามีเรื่องอะไร ที่เธอไม่สบายใจผมจะรุ้เป้นคนแรก

ด้วยความที่ผมกับเบสเริ่มห่างกัน เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ ผมกับบิวก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็จะพูดถึงเบสให้บิวฟังบ่อยๆ เวลาใครถามอะไรเกี่ยวกับแฟน ผมก็จะบอกว่าเบสเป็นแฟนผมเสมอ และผมก็เล่าเรื่องเพื่อนสนิทของผมที่ชื่อบิวให้เบสฟังด้วย หวังว่าเราจะได้เป็นเพื่อนกัน

ของจริงเริ่มจากตรงนี้ครับ

หลังจากมหาลัยเปิดเทอมได้ประมาณ 6เดือนเศษๆ ทุกคนใน ดอกไม้เหล็ก ที่เริ่มโสด ก็เริ่มมีแฟนกันมากขึ้น โดยที่มีแค่บิว เท่านั้นที่ยังไม่มีแฟน (จริงๆมีแต่เหมือนไม่มี) ซึ่งผมเองก็ไม่รุ้จะไปไหนมาไหนกับใคร ก็ได้บิวเป็นเพื่อนคู่ใจ เดินทางไปด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะเรียนหรือกินข้าว ไปตลาดนัด
จนกระทั่งวันนึงผมแซวเธอแรงๆว่า "เมื่อไหร่จะมีแฟนแบบเพื่อนฝูงเขาบ้าง ไปหามาซักคนไป" ด้วยความที่ผมไม่เข้าใจเธอเลยว่าเธอรุ้สึกกับผมอย่างไร
เธอตัดสินใจที่จะหาคนคุยด้วยทันที  

ด้วยความซวยของผมเอง ผมก็ดันไปชวนผู้ชายคนนั้นมากินข้าวกับบิว กัน 3 คน ก็รู้สึกทำไมบรรยากาศมันแปลกๆ จนกระทั่งผมเห็นรูปที่เธอไปงานรับประกาศณียบัตรกับผู้ชายคนนั้น อีกไม่นาน ความรุ้สึกตอนนั้นจู่ๆ ผมก็โกรธบิวมาก โทรไปหาเธอทันทีเรียกให้เธอมาหา แล้วก็ถามบิวว่าทำไมทำแบบนี้ ทำไมมีอะไรไม่บอกกันเลย บิวก็บอกผมว่า ผมนั่นแหละที่ไล่เธอไปไม่ใช่รึไง วันนั้นจึงเป็นวันแรกที่ผมถามเธอว่า แล้วตลอดเวลาที่อยู่กับเราเธอไม่รู้สึกอะไรจริงเลยรึไง เธอก็ตอบว่าเธอรู้สึกอะไรไม่ได้เพราะผมมีแฟนแล้ว หลังจากประโยคนี้ผมก็ตอบเธอว่าแต่ผมเริ่มรักเธอแล้วนะ

หลังจากนั้นห้องก็เงียบ ผมก็เลยขอเธอว่า ไม่มีใครแล้วได้ไหม อย่าไปไหนได้ไหม อยู่กับผมเถอะ  นี่จึงเป็นวันแรกที่เธอกับผมตกลงคบกันแบบลับๆ โดยไม่ให้เพื่อนในกลุ่มและ แฟนของผมรู้

หลังจากนั้นเราก็ใช้ชีวิตในมหาลัยด้วยกันอย่างเปิดเผย ผมมีความสุขมากตลอดเวลาที่อยุ่กับเธอ ผมไปไหนมาไหนกับเธอได้ตลอดเพราะตอนนั้นยังไม่มีอะไรผิดสังเกตุด้วยความที่ เบสไม่ค่อยว่างอยู่แล้ว อีกอย่างเบสคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันไม่มีอะไรหรอก

จนกระทั่งปี 2 ผมกับเพื่อนๆในกลุ่มเริ่มแยกย้ายกันไปเพราะทะเลาะกันเองรุนแรง ทำให้จากที่ผมต้องคอยปิดบังทุกคน ทุกคนก็เหมือนจะค่อยๆรุ้ว่าผมกำลังคบกับบิว และด้วยความที่เรารักกันมากขึ้นทุกวันประกอบกับผมพักที่ หอนอก มหาลัย ผมจึงเริ่มชวนเธอมานอนที่ห้อง แล้วความสัมพันธ์ของเราหลักจากนั้นก็แนบแน่นขึ้น แล้วเธอก็ชวนผมไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆของเธอ ผมก็ตอบตกลงกับเธอไป โดยที่ยังไม่ได้เลิกกับแฟนปัจจุบัน แต่ก็โกหกเธอจนได้ไป

แล้วความจริงก็ปรากฎ เพราะรุปถ่ายที่เราถ่ายด้วยกัน เพื่อนๆเธอเอาไปลง facebook จนมีเพื่อนของเบสพบเห็นเขา แล้วนำเรื่องนี้ไปบอกกับเบส หลังจากนั้นเบสก็ขอความจริงกับผมไปในทุกเรื่องกับผมและบิว ผมก็บอกเธอทุกอย่าง เธอเลยขอที่จะห่างกับผมไปโดยที่ไม่เลิกกัน แต่ฉันใดก้ฉันนั้น ด้วยความที่เราห่างกันมากๆผมจึงแอบสุ่มรหัส facebook ของเบสไปและก็ บังเอิญว่าเข้าไปได้ และก็ไปเห็น chat ที่เธอคุยกับรุ่นพี่ในคณะ แม้จะไม่มีอะไรมากแต่ผมก็รุ้ได้ว่าความสัมพันธ์ของทั่งคู่ไม่ใช่พี่น้องกัน ผมเห็นแบบนั้นผมจึงขอเลิกกับเธอทันที  ซึ่งเธอก็บอกว่าไม่มีอะไร และเธอเองก็ไม่อยากเลิกกับผม แต่ผมก็ขอเลิกกับเธอให้ได้

ผมกับเบสเลิกกันวันนั้น และก็เปนวันแรกที่ผมเรียกบิวว่าแฟนได้เต็มปาก แต่ด้วยความที่ทุกอย่างมันรวดเร็วมาก วันนั้นเบสตัดสินใจมาหาผมที่ห้องโดยไมไ่ด้บอกกล่าว เพื่อมาง้อผม ผมจึงขอเวลาเธอไว้เพราะผมตัดสินใจทันทีไมไ่ด้ ผมเอาเรื่องนี้ไปคุยกับบิว ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดี
แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยความที่ผมไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผมเห็นความต้องการทางสังคม ดีกว่า คนที่รักผมมากๆคนนึง
วันที่บิวอยู่ที่ห้องกับผม ผมพุดเรื่องนี้ขึ้นมาว่า ผมเลือกบิวไม่ได้จริงๆ ผมต้องกลับไปคบกับเบส สรุปผมเป็นแฟนกับบิวได้ ประมาณ 2อาทิตย์

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ทั้งบิวและเบส ไม่เคยทิ้งผมไปเลย ยิ่งบิวเองด้วย แทนที่จะทิ้งผมที่ทำร้ายเขาขนาดนี้ เขากลับดีกับผมเสมอมา ไม่อิดออด ไม่มีคำถาม ไม่เคยเรียกร้องให้ผมกลับไปหาเค้า ระหว่างที่เราอยุ่ด้วยกัน เบสโทรมาหาผม เธอก็ทนฟัง คำที่ผมบอกรัก บอกคิดถึงเบส ตลอด

แต่ในระยะหลังจากที่เบสรุ้เรื่อง เธอก้ไม่ไว้ใจผมอีกเลย ทำให้ผมอยู่กับบิวน้อยลง เพราะเบสมาหาที่ห้องบ้าง เฟสทามมาขอดูรอบๆห้องบ้าง บางครั้งบิว มาที่ห้อง ก็ต้องเจอกับเบส เพราะเบสมาเซอร์ไฟรสืผมถึงที่ ผมก็แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ยืนกระต่ายขาเดียวตลอด กลับกลายเป็นบิวต้องเดินกลับหอคนเดียว เหมือนเป็นส่วนเกินในชีวิตผม

จากที่ผมเคยรู้สึกผิดกับเบส ผมก็รุ้สึกน้อยลงเรื่อยๆ ด้วยความที่ชิวิตส่วนตัวเรามันต่างกันด้วย อีกทั้งความคิดของเราก็เริ่มไปไม่ได้ ช่วงนึงที่ผมห่างๆจากบิวมา ผมก็ตัดสินใจที่จะเลิกกับเบสจริงๆจังๆ แต่แล้วพอผมบอกเลิกเธอ เธอก็เจ็บหน้าอกล้มลงไปกองกับพื้น ทำให้ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูก เลยสุดท้ายผมต้องมาคบกับเธอต่อ

หลังจากนั้นผมกับเบสเลิกกันหลายรอบ แต่ไม่เคยได้เลิกจริงๆเสียที เพราะอาการเจ็บป่วยของเบส จะมาเสมอ ทุกครั้งจนผมเริ่มไม่สบายใจ ว่าป่วยจริงๆหรือเปล่า ที่เข้าโรงพยาบาล ได้ไปมาจริงไหม จนได้ผลสรุปว่า เธอป่วยจริงๆ แต่บางครั้งก้ไม่ได้ป่วย

ตลอดระยะเวลาปี 3 ที่มหาลัย ผมกับบิวห่างกันมาก จนไม่คิดว่านี่มันเป็นเพื่อนกันมาก่อน เราเคยอยู่มหาลัยเดียวกันมาก่อน ผมจะได้คุยกับเธอ จริงๆก็แค่ช่วงสอบเท่านั้นไม่ถึง 2 เดือน แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรักผมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธผมเลย ช่วยเหลือผมตลอด จนผมคิดว่าผมกับเธอน่าจะอยู่กันได้แบบนี้ซึ่งเธอก้ยินดี เธอบอกแค่ว่า ขอแค่ผมยังรักเธอจริงๆ เธอก็จะอยุ่กับผมแบบนี้ไม่ไปไหน

รักสามเศร้าของผมกำลังจะจบแล้วครับ

ด้วยความที่ปิดเทอมปี 3 นี้ ปิด 6 เดือนตาม อาเซี่ยน ซึ่งปกติแล้วปิดแค่ 2 เดือนเศษๆ ผมกับบิวจึงห่างกันขึ้นไปอีก จากที่เคยได้คุยกันบ้าง ผมก็คุยไมได้เพราะเบสมาอยู่ด้วยที่บ้าน จากที่เคยได้เที่ยวด้วยกัน เบสก็ตามติดจนผมขยับไปไหนไม่ได้ แต่ถึงขนาดนั้น บิวก็ไม่เคยบ่นให้ผมรำคาญใจ แม้ขนาดในวันที่ผมต้องไปซ่อมตอนซัมเมอร์ เธอก้ออกมาหา มาส่งเข้าห้องสอบด้วยความเต็มใจ สอบ 4 วัน เธอมาทุกวัน  รอยยิ้มของเธอทุกวันมันมีค่ามากกว่าเงินทองเสียอีก แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความที่กระบืออย่างผมมันยังไม่รู้ตัว ก็ดันปล่อยให้เขาทนแบบนั้นเรื่อยมา

จนกระทั่งผมต้องเดินทางไปต่างจังหวัด แล้วเบสต้องไปด้วย ซึ่งผมอยากจะไปคนเดียว แต่ก็ขัดไม่ได้ บัญชามารดา ส่งมาด้วย ผมก็ไม่รุ้จะบอกกับบิวยังไง บิวจะทนได้ไหม ผมจึงตัดสินใจไปเจอเธอที่งานรับปริญญา ของรุ่นพี่ แล้วก้บอกความจริงกับเธอในขณะที่เรากำลังจะกลับ และนั่นคือฟางเส้นสุดท้ายของเธอที่ผมไม่รุ้เลย ว่ามันขาดลงด้วยตัวผมเอง

หลังจากวันนั้น เธอตัดสินใจที่จะลบผมออกจากชีวิต เธอลดความสำคัญของผมลง โดยที่ผมไม่รุ้ตัว เธอเปิดใจให้ชายอื่นเข้ามาแทนที่ผม
ซึ่ง ไอ้กระบืออย่างผมเนี่ยไม่รู้เรื่องหรอก คิดไม่ถึงไง 3ปีแล้ว เห็นแก่ตัวจนชิน เลวแบบหาที่เปรียบไมได้

จะจบแล้วครับ

ก่อนเปิดเทอมวันแรกเธอก็ยังมาหาผมปกติ ยังกอดกัน บอกรักกัน ผมขับรถป๊อปคู่ใจพาเธอ วนรอบมหาลัย คุยกันกระหนุงกระหนิง เหมือนทุกอย่างจะเหมือนเดิม แต่เปล่าเลย วันนี้คือวันสุดท้ายของผมที่ผมจะตัดสินใจเลือกใครซักคน ซึ่ง ตูจะรุ้ได้ไง ไม่มีคนบอก วันนั้นผมขอให้เธอกลับหอทันทีหลังจากที่เราอยู่ด้วยกันเสร็จ  แล้วหลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้เจอบิวคนเดิมอีกเลย

เธอไม่มาหาผมอีก หลบหน้าผมตลอด พยายามรับสายก็พูดได้ไม่เต็มเสียง ด้วยความที่ผมรับรุ้ได้ถึงความไม่ปกติ ผมจึงขอไปหาเธอกลางคืนวันนั้น ซึ่งประตูจะมีคีย์การ์ด คนนอกเข้าไม่ได้ ปรากฎว่า ประตูไมไ่ด้ล็อค ผมจึงขึ้นไปหาเธอแบบไมไ่ด้บอกล่วงหน้า ผมเคาะประตูห้องเธอ เธอก็เปิดมาพร้อมกับกำลังคุยโทรศัพท์กับใบหน้าที่ตกใจ ว่าผมขึ้นมาได้ยังไง ตอนนั้นเป็นเวลา ตี1กว่าๆ ผมก็เลยรุ้ตัวทันทีว่า ผมมาสายไปแล้ว เธอมีใครเข้ามาแทนที่ผมแล้ว

ผมจึงขอความจริงจากเธอคืนนั้น และก็สรุปว่าจริงๆครับ เธอไปไกลแล้ว และในวันรุ่งขึ้น ผมก็จึงเล่าความจริงทุกอย่าง เกี่ยวกับความคิดของผมให้เธอฟัง
แต่เหมือนว่าจะไม่ทันแม้ว่าเธอจะยินดีที่ผมรักเธอที่สุดเสมอมา แต่เธอก็ไม่สามารถทำร้ายอีกคนนึงได้ เพราะเธอคุยกับเขามาได้ เดือนกว่าๆแล้ว

เหมือนโลกแตก มันมืดแปดด้าน สมองไม่ทำงาน เหมือนร่างกาย มีหัวใจเป็นหลัก ผมไม่เป็นอันกิน ไม่เป็นอันนอน น้ำหนักลดจาก 75 เหลือ 68 ใน 2อาทิตย์ นอนได้ไม่เกินวันละ 4 ชั่วโมง เกมที่เคยเล่น ไม่เล่น คอมไม่เปิด กีตาร์ไม่จับ นั่งถามตัวเอง ทำไมเรารู้ตัวช้าแบบนี้วะ

ผมตัดสินใจขอเลิกกับเบสทันที ทั้งๆที่ไม่มีใครทำอะไรผิด ทั้งๆที่เบสมาหาผมเพราะอยากอยุ่เป็นเพื่อน ผมเรียนเสร็จกลับไปหาเธอที่ห้องและขอเลิกกับเธอทันที ไม่สนใจในทุกเหตุผล ไม่สนใจอาการเจ็บป่วยใดๆ อย่างเลว ขอบอกครับ เลวจนตัวเองบางที รับไมไ่ด้

แต่ถึงกระนั้นผมก็กลับมาไม่ทัน ความรุ้สึกที่เธอมีให้ผมตอนนี้ มันน้อยมากแล้ว ผมขอโอกาสเธอที่จะกลับไปคบกับเธอใหม่ เธอก็ยินดีครับแต่เธอทำร้ายอีกคนนึงไม่ได้ เธอหักดิบมาเลยไม่ได้ เธอขอให้ผมรออย่างอดทน

เป็นครั้งแรกของชีวิต ที่ต้องร้องไห้ให้แม่มารับกลับบ้านตอนตี 3 ให้แม่ปลอบประโลมจิตใจ ถึงได้นอนหลับ  จริงๆเรื่องมันยาวกว่านี้อีกนิด แต่ผมพิมมาจะ 8500+ ตัวอักษรแล้ว กลัวค้างคา  

สรุปว่าหลังจากเปิดเทอมได้ 2 เดือน ผมตามง้อ ตามขอคืนดีบิวตลอด แม้ว่าเธอจะมีอีกคนนึงก็ตาม ยังดีว่าผมได้คุณแม่ กับคุณป้าช่วยเป็นแม่สื่อให้ ทำให้ความรักของเธอที่มีให้ผมมันฟื้นฟูได้บ้างแล้ว เธอตกลงที่จะให้โอกาสผมอีกครั้ง เธอบอกว่าเธอเองก็ตั้งใจจะใช้อนาคตกับผมต่อ เธอเลือกผม แต่ เธอกลับมาตอนนี้ไม่ได้ เพราะเธอไม่อยากเป็นคนผิด ผมก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับมาตลอด    

ทุกวันนี้ผมโทรไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง  เพราะเธออยู่กับอีกคนนึง line ไป ก็ตอบเร็วบ้าง ช้าบ้าง ไม่ได้เที่ยวกับเธอเลย นานๆเธอจะแอบมาหาผมได้บ้าง 2เดือนที่ผ่านมา ผมได้เจอเที่ยวกับเธอ 3 ครั้ง นอกนั้นฝันไป  แต่ไม่ว่าอย่างไร เวลาที่ผมหมดกำลังใจเธอก็จะขอให้ผมเข้มแข็งและสุ้เพื่อเธอตลอด เธอบอกว่าเธอเลือกแล้ว ผมรอเธอได้ไหม เธอตัดสินใจแล้วจริงๆ แต่เธอออกมาตอนนี้ไมไ่ด้  เธอออกมาแบบเธอเป็นคนผิดไม่ได้ ผมก็ได้แต่รับความจริงไว้ก้มหน้า

อดทนครับแต่ยอมรับว่าจิตตกมาก หาเรื่องงี่เง่าตลอด ทะเลาะกันประจำ แต่อย่างนึงที่เธอไม่เคยเปลี่ยนเลย คือเธอด่าผมตลอด แต่เวลาใจเย็น เธอก็จะขอให้ผมเข้มแข็ง และรอเธอเหมือนเดิม เธอจะกลับมา  

ทนครับทนแบบไม่มีกำหนด แต่คงไม่มากขนาดที่เขาทนเพื่อผมมา 3 ปีเต็มๆ

สำหรับวัยรุ่นทุกๆท่านที่ไมไ่ด้คิดแค่จะคบใครเพียงเพื่อผ่าน หรือกำลังตัดสินใจไมไ่ด้ คุณรีบคิดเถอะครับในวันที่คุณยังคิดทัน แค่วันเดียวมันก็อาจจะสายเกินไป ผมยังโชคดีที่เธอยังให้โอกาส แต่ไม่รุ้ว่าทุกคนจะโชคดีแบบผมไหม ซึ่งด้วยความเลวแล้ว โอกาสนี้ไม่สมควรได้รับ

อย่ารู้ตัวช้านะครับทุกคน ถ้าคุณรักใครจริงๆอย่าให้เขาต้องเสียใจอีกเลย ถ้าใครกำลังเจอชีวิตแบบนี้ เอาผมเป็นตัวอย่างนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่