[K-POP] ทำไม SM ถึงไม่มีความสามารถในการดึงเด็กให้อยู่ในค่ายได้ โดย เฉพาะเด็กต่างขาติ

ขอนับตั้งแต่ ฮันเกิง มาเลยก็ไม่เห็น SM จะปรับปรุงอะไรได้ บทเรียนมีเยอะแต่เด็กในค่าย
ก็ยังทยอยขอยกเลิกสัญญาออกไปเรื่อยๆ

การทำงานหนักเราว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะมีงานก็ดีกว่าไม่ดีแต่เราว่าเพราะค่าตอบแทนหรือ
เปล่าที่ค่ายเอาเปรียบมากเกินไปเพราะเท่าที่ฟังๆมา ไอดอล มีภาพพจน์ อาชีพที่สวยงาม
แต่เอาจริงๆรายได้น้อยมาก (จำจากที่ จอย ราเนีย เคยให้สัมไว้)

โดยเฉพาะตอนที่ยังไม่ดัง งานฟรี ทั้งนั้นบางทีต้องไปขอ ออกสื่อแบบไม่เอาเงิน
(แต่ไม่รู้ sm มีนโยบายฟรีมั้ยนะเพราะค่ายดังน่าจะเล่นตัวได้มากกว่า)

การแข่งขันสูงแต่รายได้สวนทางนี่หรือเปล่าที่ทำให้เด็กในค่ายเลือกไปที่อื่นที่รายได้ดีกว่า
เหนื่อยไม่เท่าแต่รับเต็มๆมันก็น่าคิดนะคะ

หรือ sm ควรทบทวนการรับเด็กต่างชาติมาดัน เพราะ ยังไงก็คนต่างชาติ ทัศนคติ อะไร
อาจจะไม่ตรงกันแถมมีอาการ คิดถึงบ้าน อีกบางที ท้อมากเหนื่อยมากก็จะถอดใจได้ง่าย
กว่า (อ้างจาก จอย ราเนีย อีกเหมือนกันที่พอป่วยก็หมดใจตามฝันต่อเลยอยากกลับบ้าน)

sm ควรใส่ใจเด็กต่างชาติมากกว่านี้นะคะไม่ใช่ เอะอะ ก็เล่นไม้แข๊งไม่ง้อไม่ยอม สุดท้าย
เด็ก ออกก็กระทบหลายอย่าง หุ้นตก fc หาย จะบอก sm จะอ้างว่ายอมแล้วได้ใจคนอื่น
จะเอาอย่างก้ไม่ได้เพราะ sm ก็ไม่ใช่จะไม่เคย ง้อ ใครเพราะอย่าง ซอลลี่ fx ก็ยอมทุก
อย่างให้นางสบายใจ  ถึงขั้นหยุดโปรโมตวงให้นางไปพัก

จะว่าไปก็แอบสงสาร sm นะคะเหมือนอยากดังอยากตามฝัน sm ก็ช่วยฝึกให้แต่พอดังแล้ว
ก็ขอ ออก ตอนนี้ก็เหลือแต่ Victoria fx ที่น่าเป็นห่วงเพราะถ้ากลับไป จีน นางไปรอดแน่ๆ
fc จีนรอรับเลย แต่ sm ดูจะรัก วิค นะคะให้งานดีๆตลอด วิค ก็ดูไม่มีแววจะออก

สรุปคือก็ยังสงสัยว่าทำไม sm ถึงแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ปีนี้ก็ 2 คนละที่มีปัญหาขอยกเลิก
สัญญา และใน อนาคต อีก (ไม่นับ เจส ที่สัญญายังอยู่)
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องงานหนัก ผมว่ามันเป็นปกติของการทำงานนะ คือคุณตกลงปลงใจมาเป็น
ไอด้อลแล้วคือคุณต้องยอมเหนื่อยและเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว

ซึ่งมันแลกมาด้วยชื่อเสียงที่แทบจะติดลมบนเลยครับ

กรณีแรกสุดของสมาชิกจีน อันนั้นมันสาหัสจริงผมเข้าใจและสงสาร
แต่กรณีชาวจีน เคสสองเมื่อต้นปีนี้ ผมว่า มันไม่สมเหตุสมผลอะ
คือเอสเอมง้อนะครับ ง้อมาก วงเต็มหายไปเกือบปีเพื่อรอคนๆเดียว

ระกำจริงๆ

ส่วนกรณีล่าสุดข่าวยังไม่ชัด แต่เห้นว่าเจ้าตัวอาการหนักนี่ครับ
ผมว่าถ้าทำต่อไม่ไหว น่าจะให้เขากลับไป

ผมว่าติ่งบางคนขาดสติ ด่าแต่เอสเอมจนไม่ดูถึงเหตุผลอะ
คนชอบบอกว่าเอสเอมเป็นค่ายเพลงธุรกิจ ถ้าเป็นงั้น
มันจะยอมเสียผลประโยชน์จริงๆ หรอครับ ;-;
ความคิดเห็นที่ 3
เราเป็นเอลฟ์นะ แต่ EXO เราก็ชอบ แต่ไม่ได้เป็นถึงขนาดอซอ. คือแค่ชอบอ่านฟิคชานแบคแล้วก็เมนอี้ชิงอะคะ

คือกรณีหานเกิงนั้น เค้าสาหัสจริง แต่ละรูป แต่ละเหตุการณ์ มันคือความจริง แล้วก็หนักมาก

แต่กรณีคริสนี่ไม่สมเหตุสมผล เราว่า SM ง้อคริสมาก วงเต็มๆ ต้องเลื่อนคัมแบ็คเพื่อรอเจ้าตัว

แล้วคริสกลับมา เขียนใน THANKS TO: ของอัลบั้มว่า "ขอบคุณอาจารย์อีซูมานที่ให้โอกาสผม ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังอีก ฯลฯ"

แต่อยู่ดีๆ คริสก็ไปเฉยเลย

ซึ่งเรามองว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย อยากให้ติ่งลืมหูลืมตา มองความเป็นจริงบ้าง
พวกเขาอาจจะรักกัน ไม่อยากทิ้งกัน แต่พอมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง พี่น้องพ่อแม่เดียวกันยังแตกคอแย่งชิงมรดกกันได้
ขออ้างอิงความคิดเห็นของคุณ สมาชิกหมายเลข 988233 จากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/32073533


ไม่เห็นด้วยในประเด็นที่แฟนคลับบางกลุ่มเสพข้อมูลโดยไม่กลั่นกรอง
แต่เชื่อว่าแฟนคลับกลุ่มที่มโนเองต่อจากข้อมูลพวกนั้นส่วนใหญ่ น่าจะเป็นแฟนกลุ่มเด็กวัยรุ่นหรือ พวกนักเรียนนักศึกษา
ไม่ใช่แฟนกลุ่มที่โตหน่อย หรือ อยู่ในสังคมคนที่ทำงานแล้ว

ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่า มันเป็นการกีดกันการแพร่ของ kpop ของกลุ่มธุรกิจบันเทิงจีน
ที่เสียผลประโยชน์ หรือเห็นลางว่ากำลังจะเสียผลประโยชน์
จากการที่ kpop จะบุกจีนอย่างเต็มตัว
โดยเริ่มต้นจากการที่ Baido มาจับมือกับ SM

มันแค่บังเอิญที่ วง kpop ที่กำลังโด่งดังในจีนเป็นวง exo แล้วบังเอิญมีสมาชิก 1 คนในนั้นกำลังมีปัญหากับการจัดการศิลปินของต้นสังกัด

คริส กับ วง exo ก็เป็นแค่หมากเล็กๆ ของเกมส์กีดกันทางธุรกิจบันเทิงระหว่างจีนกับเกาหลีเท่านั้น
มันเป็นเรื่องประจวบเหมาะเกินไป ที่หลายเรื่องมาเกิด หรือมาเปิดเผย เอาในเวลาที่สร้างความเสียหายให้กับ SM อย่างสูงที่สุด

เด็กอายุ 24 คนเดียว สร้างความเสียหายขนาดนี้ให้กับบริษัทธุรกิจบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีไม่ได้หรอก

ในโลกของธุรกิจ ไม่มีคำว่าเป็นความบังเอิญอยู่แล้ว
มีแต่การวางแผนอย่างรอบคอบและรัดกุมอย่างที่สุด
คริสเป็นแค่เครื่องมือ หรือ ตัวประกันทางธุรกิจเท่านั้นเอง

มันก็เหมือนภาษิตไทยที่ว่า
ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกแหลกราน
ร่วมกับ เชือดไก่ให้ลิงดู

ช้างที่กำลังชนกันที่แท้จริง ไม่ใช่ คริส กับสมาชิกวงอีก 11 คนที่เหลือ
แต่เป็น กลุ่มธุรกิจบันเทิงเจ้าถิ่น คือ จีน และวัฒนธรรม kpop ของเกาหลี

ไก่ คือ SM ส่วนลิง ก็ คือ พวกบริษัทบันเทิงเกาหลี ที่คิดจะบุกตลาดจีนตามรอยที่ SM เปิดเอาไว้นี้

ของรางวัลสำหรับชัยชนะครั้งนี้ คือ เงิน จากกระเป๋าแฟน kpop ในจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ส่วนตัวอีกอย่าง คือ เราคิดว่า เกมส์นี้kpop แพ้ไปเกินครึ่งตัวแล้ว เพราะ ไม่ว่าผลการตัดสิน
ของศ่าลจะออกมาเป็นอะไร ไม่ว่า exo จะกลับมามี 12 คน เหมือนเดิม หรือ คงเหลือ แค่ 11 คนก็ตาม
แต่เครดิตของ kpop ในจีนก็เสียไปมากมายแล้ว

และแค่ข่าวออกมา SM ก็สูญเม็ดเงินไปมหาศาลจากราคาหุ้นที่ดิ่งตกลงไปพรวดๆ และยังจะสูญเสียเพิ่มขึ้นไปอีกแน่นอน กว่าจะฟื้นตัวได้คงอีกนาน

ส่วนบริษัทอื่นที่คิดจะส่งวง kpop เข้าไปบุกตลาดจีน เชื่อว่าตอนนี้ใส่เบรคกันตัวโก่ง
จากนี้ไปวง kpopที่คิดจะบุกจีนแบบ SM จะต้องวางแผนให้ดีขึ้นกว่าเดิม

เพราะแม้แต่บริษัทธุรกิจบันเทิงที่แข่งแกร่งที่สุดในเกาหลีอย่าง SM ที่วางแผนบุกตลาดจีนมาร่วม 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปั้นศิลปินสัญชาติจีน มาตั้งแต่ยังเด็กๆ
ซึ่งเป็นจุดแข็งที่จะทำให้ kpop ตีตลาดจีนได้ยังพลาดท่าเสียทีถูกเอาจุดแข็งนั้นมาทำให้กลายเป็นจุดอ่อน ทำลายเส้นทางนี้ได้





มันไปสอดคล้องกับสิ่งที่ SM พูดว่า "เราคิดว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการฟ้องร้องของศิลปินต่างชาติเมื่อพวกเขาโด่งดังแล้ว"

แต่กรณีลู่หานคาดว่าคงมีเรื่องสุขภาพมาเกี่ยวจริงๆ
เท่าที่ดูจากอี้ชิงอัพเว่ยป๋อ คาดว่าพวกเมมเบอร์คงคุยเรื่องนี้กันแล้ว มันเลยไม่ดราม่าเมื่อตอนคริสออกเพราะนั้นเล่นทิ้งกันไปดื้อๆ เลย
ก็ว่าเลย์พูดเป็นนัยๆ หลายครั้ง TT แล้วคอน TLP ที่ปักกิ่งคือเลย์กอดลู่หานเยอะมาก คลุกวงในกันจนแม่ยกเลย์ลู่ฟินไปตามๆ กัน
ลู่หานก็ร้องไห้หนักมาก

ต้องดูต่อไปว่า ลู่หานจะโฟกัสกับการทำงานในจีนเหมือนคริส หรือว่าจะออกจากวงการบันเทิงไปเลย
เพราะ Weibo ที่ลู่หานอัพล่าสุดคือมีความนัยแปลกๆ ที่บอกว่า "ผมกลับมาบ้านแล้ว"

เนื่องจากมันมีอีกกระแสที่เขาบอกว่า พ่อของลู่หานไม่สนับสนุนให้ลูกเป็นนักร้อง (แต่ก็ให้มาเกาหลีแต่แรกเนี่ยนะ? แถมลู่หานคืออยู่เกาหลีตั้ง 5 ปีทั้งๆ ที่ออดิชั่นไม่ติดสักค่าย แต่ว่าบังเอิญมีแมวมอง SM มาเดินเจอตามถนนเลยได้ทำตามฝัน) คือคุณพ่ออยากให้ลูกชายสืบทอดธุรกิจที่บ้าน (เพราะเท่าที่ดูลู่หานก็คงเป็นลูกคนรวยนั่นแหละ) ข่าวลือว่า ลู่หานอยากจะออกเงียบๆครอบครัวพร้อมจะจ่ายค่าฉีกสัญญา แต่เอสเอ็มไม่อยากให้ออกอาจจะจริง ยิ่งลู่หานป่วยหนักแบบนี้ครอบครัวเลยไม่อยู่เฉย ฟ้อง SM ด้วยเงินแบบมโหฬาร แถมฟ้องได้โหดมากกกกก

เราก็ต้องรอดูทิศทางต่อไป เพราะแถลงการณ์จากฝั่งเอสเอ็มบอกว่า "กำลังตกลงเกี่ยวกับเรื่องกิจกรรมเดี่ยวและกิจกรรมกลุ่มของลู่หานอยู่ แต่จู่ๆ ก็ได้รับการฟ้องออกกระทันหัน ฉะนั้น น่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังที่ผลักดันให้ศิลปินต่างชาติแยกตัวเมื่อดังแล้ว"

ซึ่งเราคิดว่าคงไม่พ้นพวกนายหน้าจากจีน

จากใจ ไม่อยากให้ลู่หานออก ความฝันของเขาคือการเป็นไอดอลเกาหลีไม่ใช่เหรอ
นี่แสดงให้เห็นเลยว่า Unity ของ EXO ไม่เข้มแข็ง
คือสนิทกัน แต่ไม่ได้สนิทแบบร่วมหัวจมท้ายกันเหมือนวงรุ่นพี่เก่าๆ
คงเพราะดังเร็วเกินไป... แล้วก็ดังมากกกกกกกก ทำให้อิ่มตัวเร็วสุดๆ
และเพราะเป็นเด็ก Gen Y ที่ Gen Y จัดมากกก จะไม่ค่อยมีความอดทนเหมือนพวกวงรุ่นพี่


ขอร้องเหอะอีก 10 คนอย่าออกเลยนะ คือไม่อาจเดาทรงได้เลยจริงๆ มันเหมือนกับว่าจะมีคนออกได้อีกตลอดเวลา แต่อีกมุมหนึ่งก็รู้สึกว่า พวกเขาคงเข้มแข็งมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ แล้วก็เหนียวแน่นขึ้น (สงสารสุดๆ ก็ลีดเดอร์ซูโฮ 7 ปีที่เป็นเทรนนี่รอตามฝัน พอวันที่ได้ยิ่งใหญ่กลับต้องมาเสียศูนย์ซ้ำๆ)

แต่ยังไงก็ซัพพอร์ตทั้ง 12 คนค่ะ

ปล. สิ่งที่ EXO เสียไปเต็มๆ จนกู้คืนไม่ได้คือสโลแกน "We are one" เสียมากๆ...
ความคิดเห็นที่ 34
ว่าจะไม่เข้ามาตอบ แต่แบบ...นิดนึง นับตัวเองเป็นเอ็กโซแอลคนนึงที่ตามเอ็กโซมาได้ไม่นาน
ความจริงหลุดจากวงโคจรไปพอสมควร (เราเป็นแคสฯ ครึ่งนึง เป็นชางโจครึ่งนึงค่ะ)
แต่มาโดนแอคแทคตอน perfor งานมาม่าปีที่แล้ว เลยตัดสินใจตามเด็กๆ ด้วยความที่เป็นแคสฯ ยุคเริ่มแรก
เลยแทรกซึมรู้เรื่องได้เร็ว เลยกลายเป็นตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น

มาถึงปัญหาชาวต่างชาติในค่าย จริงอยู่ที่ว่าคนจีนนั้นมีอิสระมากและมีธรรมเนียมไม่เหมือนเกาหลี
แต่เราว่าคนจีนก็ไม่ได้มีความอดทนต่ำนะคะ และไชน่าไลน์สี่คนในเอ็กโซก็ไดรับคำชมทั้งจากทีมงานเกาหลีและจีนเสมอ
เรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตนและทำงานหนักขยันขันแข็ง แต่อย่างที่คงพอจะมองออกกันว่าไอดอลเดี๋ยวนี้พื้นฐานครอบครัว
ไม่ยากจนค่อยไปทางร่ำรวยกันด้วยซ้ำ ในกรณีของลู่หานที่แว่วๆ มาว่าที่บ้านมีธุรกิจใหญ่โตที่ปักกิ่งถ้าคุณเป็นพ่อแม่
มีเงินมีทองให้ลูกใช้ มีบริษัทให้สืบทอดคุณจะยอมให้ลูกไปลำบากทำงานหนักต่างประเทศจนสุขภาพทรุดโทรมเหรอคะ
เคยเห็นภาพลู่หานเวลากลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวพักหลังๆ ไหม เทียบกับช่วง mama นี่ต่างราวฟ้ากับเหว คือดูโทรมมากจริงๆ
โดยส่วนตัวคิดว่าความฝันการอยากเป็นศิลปินของเขาไม่ได้น้อยไปกว่าใครเลยนะ (ลองออดิชั่นตั้งหลายค่าย)
เพราะงั้นมันต้องถึงจุดที่ไปต่อไม่ไหวจริงๆ ซึ่งเราคิดว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องสุขภาพและครอบครัว (คิดถึงบ้านเป็นธรรมดา ปีนึงได้เจอ
หน้ากันกี่ครั้งเชียว ขนาดมีงานที่ปักกิ่งยังกลับบ้านไม่ได้เลย และลู่หานเคยให้สัมภาษณ์ว่าถ้าคิดถึงบ้านทำยังไง "ก็ทำได้แค่คิดถึง")

เราว่าการไปครั้งนี้ของลู่หานได้มีการพูดคุยกับเมมเบอร์คนอื่นๆ แล้ว ทุกคนรับรู้หมด ถ้าตามคอนฯ ที่ปักกิ่งซึ่งเป็นคอนฯ สุดท้าย
จะเห็นปฎิกิริยาว่าทุกคนเหมือนรู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่บนเวทีเดียวกัน ลู่หานร้องไห้ทั้งที่ปกติไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายๆ
จง-อดลู่หานแน่นหลายครั้งทั้งที่กำลังร้องเพลง ซิ่วหมินก็คอยอยู่ข้างกัน หรือแม้แต่อี้ชิงที่คอยกอด จับมือตลอดเวลา
แถมเมื่อเช้าอี้ชิงยังอัพเว่ยบอกลาถึงลู่หานอีก ต่างจากกรณีของคริสที่เมมเบอร์ดูสบสันงุนงงกันมาก
จนกระทั่งตอนนี้แฟนคลับก็ยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ

พูดถึงเรื่องการปฎิบัติที่เหลื่อมล้ำกันของเมมเบอร์ชาวเกาหลีและชาวจีน...สำหรับเราคิดว่ามันคงมีจริงๆ เรื่องการบาดเจ็บและป่วยนี่เลย
ถ้าเคยอ่านแฟนแอคที่แฟนคลับบังเอิญไปเจอแล้วเอามาเล่าพร้อมรูปประกอบ เวลาเจอเมมเบอร์ไปโรงพยาบาลส่วนมากจะเป็นฝั่งเค
แล้วก็เจอพร้อมเมเนฯ หรือแม้แต่ตอนที่บาดเจ็บเมมเบอร์เกาหลีจะถุกพาให้ไปรักษาทันที แต่ฝั่งเอ็มเคยให้สัมภาษณ์ในรายการที่จีน
หลายครั้งว่าเวลาอี้ชิงป่วยลู่หานกับคริสจะเป็นคนแบกไปโรงพยาบาล หรือคริสเองที่แฟนคลับเคยเจอที่โรงพยาบาลคนเดียว
หรือแม้แต่เทาที่จงแดบอกว่าเคยช่วยลู่หานแบกน้องไปหาหมอ

เรื่องงานนี่อย่าลืมนะคะว่าตอนนี้เอ็กโซงานชุกแค่ไหน ยิ่งดังงานยิ่งเยอะก็ต้องทำงานหนักเดินทางบ่อย อย่างที่รู้ว่าลู่หานกลัวความสูง
เขาจะมีปัญหาเวลานั่งเครื่องนานๆ หลายครั้งที่ควรบินตรงจากจีนไปยังจุดหมาย แต่ sm ก็มักจะให้บินกลับเกาหลีก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อ
มีสองสามครั้งที่ลู่หานเลือกนั่งรถไฟความเร็วสูงเดินทางแทนเพื่อไม่ต้องนั่งเครื่องเวลาโปรโมทในจีน เขาคงไม่โอเคกับเรื่องนี้จริงๆ
แล้วก็จริงอยู่ค่ะว่างานในจีนนี่ได้เงินดี ซึ่งไม่แน่ใจว่าเงินนี่ได้แล้วหารเฉพาะฝั่งที่ทำหรือหารวง แต่คิดว่าหารวงมากกว่า
เท่าที่ดูนี่หนักนะอย่างตอนคัมแบค วันนึงสามสี่งาน กว่าจะเสร็จงานสุดท้ายตีสองตีสาม กว่าจะกลับโรงแรม
เผลอๆ วันรุ่งขึ้นต้องบินไปอีกเมืองแล้วหรือบินข้ามประเทศเลยก็มี ช่วงนั้นแต่ละคนดูแย่มากจริงๆ ความจริงเราก็เข้าใจนะว่ามันเป็นช่วง
เวลากอบโกยแต่บางครั้งมันก็ต้องใส่ใจสุขภาพศิลปินด้วย แค่ทำงานก็เหนื่อยมากแล้วยังจะเรื่องเดินทางอีก ส่วนนี้เราคงต้องเห็นใจ
(ช่วงท้อยการทัวร์คอนฯ นี่หลายคนมีงานเดี่ยว หลังจบคอนฯ อาบน้ำเสร็จก็ขึ้นเครื่องกลับเลย อย่างคยองซู (ถ่ายละคร)
ซูโฮ แบคฮยอน (เอ็มซีรายการเพลง) หรืออี้ชิงที่มีถ่ายรายการที่จีน ไปถึงตอนสายอีกวัน ถ่ายรายการยาวถึงเที่ยงคืนตีหนึ่ง
สตาฟฟ์ถามโอเคไหม ตอนแรกอี้ชิงบอกว่าไม่เป็นไร แต่สภาพคงแย่จนสตาฟฟ์ถามอีกรอบ เจ้าตัวเลยตอบติดตลกว่าผมเหนี่อยจะตายอยู่แล้ว)

ส่วนตัวไม่ได้โทษ sm ไปหมดทุกอย่าง ขึ้นชื่อว่าธุรกิจเรื่องผลประโยชน์ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ แต่เอาจริงๆ แอบเคืองคำแถลงที่ออกมาต่อว่า
ทั้งลู่หานและคริส แต่บังเอิญว่าคราวนี้ sm ออกมาช้ากว่าอี้ชิง อี้ชิงอัพเว่ยบอกชัดเจนแล้วว่าพวกเขาจากกันด้วยดีและคอยสนับสนุนกัน
คะแนนที่มีให้ sm ซึ่งต่ำเตี้ยอยู่แล้วยิ่งดิ่งลงไปอีก คำว่าเอาบทเรียนเก่ามาใช้คงทำอะไรไม่ได้ ตราบใดที่ sm ยังคงเป็นแบบนี้อยู่
วงล้อก็จะวนกลับมาเรื่อยๆ แต่คิดว่า sm คงเข็ดกับเด็กจีนแล้วมั้ง ไม่ได้ตามรุกกี้แต่เท่าที่ดูนี่ไม่มีคนจีนเลย มีญี่ปุ่น ไทย แคนาดา
เด็กเทรนจีนที่เคยมีก็เหมือนจะไม่เห็นแล้วหรือยังไง อ้อ ขอไม่พูดเรื่องใหญ่อย่างการงัดข้อระหว่างวงการบันเทิงเกาหลีและจีนนะ
ไม่งั้นสามวันก็ไม่หมด

(ความจริงอยากมาตอบแค่ความไม่เท่าเทียมและปฏิกิริยาเมมเบอร์นะเนี่ย ==)
ความคิดเห็นที่ 35
ว่าไม่ได้นะคะ เรื่องลาออกจากงานเนี่ย ..  นี่ลาออกมาหลายบริษัท ทั้งออกดีและไม่ดี ไม่มีHR ที่ไหนพูดความจริงทั้งหมด  เพราะว่าพวกเค้าไม่ได้มานั่งทำงานด้วย เค้าไม่รู้จริงๆค่ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในแต่ละวันที่เรามาทำงาน ..
บริษัทปั้นเราก็จริง แต่ไม่ใช่ด้วยตัวเราหรือที่ทำให้เค้ามาเลือก แล้วที่อดทนทำงานให้เค้า มันไม่ใช่ว่าแลกกันคุ้มแล้วเหรอ..
หรือบุญคุณที่เค้าสอนงานมา ทดแทนทั้งชาติก็ไม่หมด ..
พรสวรรค์ที่เรามี บวกกับสกิลที่เค้าสอน คูณสิบกับการทุ่มเทเอาตัวเข้าแลกของเรา
วันนึง เราต้องได้รับการตอบแทนที่เรารู้สึกพอดีและพอใจมากที่สุด เราคิดแบบนี้ค่ะ
ตำแหน่งงานใดก็ตามที่มีอัตราturn over สูง มันอันตรายค่ะ แต่.. เด็ก.. ที่อยู่ข้างในนั้น เค้ายังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอจนถึงวันที่มีโอกาส เพื่อที่จะจากไป
ไม่ต้องว่ากันให้ถึงออกกันยกค่ายหรอกค่ะ เปรียบเทียบแค่สามค่ายใหญ่ในเกาหลี มีศลปค่ายไหนเค้าฟ้องออกกันเป็นว่าเล่นแบบนี้บ้างล่ะคะ
นายเรา ยังเคยพูดเลยว่า ถ้ามีพนักงานออก มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรู้ให้ได้ ว่าที่จริงเราบกพร่องตรงไหน ทำไมเค้าถึงไม่อยากอยู่กับเรา
คนญี่ปุ่นที่บริษัทเรา เป็นintern มีwork permit กันทุกคนนะคะ ประกันสุขภาพ ประกันกลุ่มอะไรก็ได้เหมือนกัน สลิปเงินเดือนอะไรก็มีหมด เพราะมันเป็นคุณธรรมพื้นฐานในการจ้างงาน
ค่ายเพลงนี้เค้าทำแบบนี้รึเปล่า.. มันมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทอาจจะมีนโยบาย ไม่แคร์ เค้าออกแบบวิธีการทรีทพนักงานมาแบบนี้ รับได้ก็อยู่ รับไม่ได้ก็ไป
สิ่งที่ลูกค้าเห็น คือการที่เค้าสนใจเรื่องผลประกอบการด้านยอดขายมาก จนลืมบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งมันทำให้ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของบริษัทดูแย่ เค้าไม่สนใจคนได้ยังไง ในเมื่อเค้าขายคน
จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ เราว่าเค้าล้มเหลวในจุดนี้
ความคิดเห็นที่ 14
EXO เป็นวงที่ดังเร็วมากกก ดังมากกก แล้วก็ (ดูเหมือน) ว่าจะไปเร็วมาก...
ถามว่ายังดงอยู่ไหม คงยังดังอยู่ เพราะแบรนด์ EXO เลยนะ แต่ความดังจะให้กลับไปพีคๆ เหมือนช่วง Growl คงจะยากแล้ว...

คิดดูว่าเป็นวงน้องใหม่ที่ได้เปิดคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นของตัวเองในระยะเวลาเพียง 2 ปี
ขายได้ "ล้านแผ่น" อันนี้คือโหดจริงในยุคที่ mp3 กับ youtube ระบาด...

เพราะเหตุนี้รึเปล่าทุกคนถึงได้ความอดทนน้อย
เพราะมันฝ่าฟันแค่แป๊บเดียว มันแตะจุดสูงสุดไปแล้ว

ไม่รู้ว่ามีเรื่องสุขภาพหรืออะไรมาเกี่ยวข้อง แต่เท่าที่อ่านๆ มาคือพวกนายหน้าจากจีนเนี่ยตัวดีเลย
เอาเป็นว่าลู่หานคงคุยกับเพื่อนๆ ในวงแล้วถึงไม่ได้เกิดการดราม่ามากเหมือนตอนอี้ฟานออก

รู้สึกแย่นะ คือแบบ มาชอบวงนี้ แล้วก็เจอแต่เรื่องแย่ๆ กระหน่ำเข้ามาภายในเวลาอันรวดเร็ว
จากที่ฟังเพลง EXO ได้ยินเสียงแร็พคริสก็ว่าคิดถึง
มาตอนนี้ต้องมาได้ยินเสียงของลู่หาน (ซึ่งเสี่ยวลู่ก็ร้องซะเยอะเลยอ่ะ) ต้องมาคิดถึงลู่หานอีก

เฮ้อ.......................................................................................
ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยว้า TT
เพลงยังไม่ได้ปล่อยอีกตั้งหลายเพลง ที่อยู่ในทีเซอร์เปิดตัว EXO
ไหนจะ Time Control ฯลฯ ชาตินี้จะได้ฟังมั้ย...

แล้วดูทีเซอร์อันนี้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
จะปล่อยวันที่ 15 นี้อยู่แล้วดันมาฟ้องวันที่ 10 โอ๊ยย ปวดใจเป็นบ้า

เราว่าปัญหาคือมาจากดังเร็วไป แล้วก็ดังมากเกินไปจริงๆ ค่ะ
อายุแค่ 20 กว่าๆ กันกลับต้องมาถูกจำกัดอยู่ในกรอบ
ไปไหนมีคนคอยตามตลอดเวลามันก็กดดัน (พวกซาแซงแฟน)
เลยรู้สึกโหยหาอิสรภาพ งานก็เยอะ พอป่วยเลยอยากกลับบ้าน อยากไปพักสบายๆ


ยังไงก็ตาม การฟ้องของลู่หาน ยังดูมีมูลมีอะไรน่าเชื่อถือ และดูดีกว่าของคริสเยอะ
อันนั้นเหตุผลยังไม่ชัดเจนอะไรสักอย่างจวบจนตอนนี้ แล้วก็โฉบไปรับงานเดี่ยวอย่างรวดเร็ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่