เพิ่งกลับมาจากดูหนังเรื่อง The Babadook
ขอบอกความรู้สึกว่า นี่คือหนังที่ให้ความรู้สึกหลากหลายมากที่สุดเรื่องหนึ่งอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก พิลึกพิลั่นพิสดารบ้าบิ่น
ไม่รู้คนอื่นเป็นไหม แต่ จขกท ดูเรื่องนี้แล้วได้ครบทุกอารมณ์จริงๆ
1.ช่วงที่ 1 ลึกลับ น่าขนลุก
--- หนังดำเนินเรื่องเรียบนิ่ง สร้างบรรยากาศหลอน กดดันได้ดี ด้วยมุมกล้องของภาพที่ให้ความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงถึงสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป... จินตนาการคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ผู้กำกับคงเข้าใจจุดนี้อย่างดี จึงมีการสร้างบรรยากาศถึงสิ่งที่มองไม่เห็น และ "จินตนาการ" เป็นประเด็นหลักอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี่ ตอนนี้ตัวละครยังดูโอเคน่าเอาใจช่วยอยู่
2.ช่วงที่ 2 รำคาญ อยากตบทั้งแม่ทั้งลูก
--- พอหนังดำเนินเรื่องไปถึงจุดหนึ่ง พฤติกรรมบ้าบอของสองแม่ลูกนี้มีมากขึ้น รู้สึกรำคาญคุณสองแม่ลูกนี้มาก ตัวแม่ก็ทำหน้าลอยๆหลอนๆน่าหงุดหงิดน่าหมั่นไส้ ฝ่ายลูกชายก็เด็กเปรตเด็กนรกจริงๆ คือดูแล้วรำคาญ อยากให้มันตายๆไปทั้งสองแม่ลูกเลย ดูไปก็หงุดหงิดคิดไปว่าผู้กำกับล้มเหลวไม่สามารถทำให้คนดูอย่างเราอยากเอาใจช่วยสองแม่ลูกนี้ และเมื่อ "มิสเตอร์บาบาดุค" เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น หนังยิ่งน่าหงุดหงิดในความปัญญาอ่อนไร้เหตุผลของผีบ้าผีบอที่ตลกมากกว่าจะน่ากลัว สองแม่ลูกก็บ้าอย่างกูไม่กลับไม่รู้ตัวเอง ไม่ทำอะไรที่มันจรรโลง คุณแม่ก็สปอยล์ลูก คุณลูกก็วีนแตกนรกจริงๆ ตัวละครอื่นๆรอบข้างก็ทำชอบทำหน้าเหวอๆไม่มีใครอยากช่วยเหลือ อารมณ์ช่วงนี้อยากตบสองแม่ลูกนั่นและเอาอะไรสักอย่างเขวี้ยงจอหนัง ยิ่งเห็นความติงต๊องของมิสเตอร์บาบาดุคยิ่งอยากให้จบเร็วๆกับหนังไร้สตินี้ แทบจะเดินออกจากโรง รำคาญมาก แต่เดี๋ยวก่อน....
3.ช่วงที่ 3 เริ่มได้รับห่อหมก (เก็ทจนเออออห่อหมกไปกับหนังได้) โหด มันส์ ฮา
--- ช่วงนี้เราเริ่มเก็ทแล้วว่าหนังมันไม่ได้หลอนน่ากลัวอะไร แต่เหมือนตั้งใจให้ออกมาตลกร้ายยังไงไม่รู้ ไอ้ผีบ้าบาบาดุคที่ปัญญาอ่อนมากเลยเข้าโหมดอนุโลม อ๋อ เขาต้องการตลกร้ายนี่เอง ถ้าสังเกตตัวละครสมทบต่างๆก็ชอบทำหน้าเหวอตลกๆอยู่แล้ว มันต้องมาทางนี้แน่... ทีนี้มันเริ่มมันส์ แม่กับลูกฟาดฟันกันอย่างมันส์มาก
**** ฉากเด็ดที่ฮาก๊ากหยุดไม่อยู่ คือฉากที่อยู่ในตัวอย่าง ที่กล้องจะซูมแม่ใหญ่ยาวเป็นยักษ์เหมือนผีเข้าสิง คือช่วงนี้แม่ด่าลูกเป็นชุดเลย เด็กเปรต เด็กนรก อุแม่เจ้า... มันโดนใจจริงๆ น่าจะด่าตั้งนานแล้ว สปอยล์อยู่ได้ เด็กอะไรนรกมาก (ก็เข้าใจนะเด็กมีปัญหาแต่มันจะนรกไปไหน) คือแม่ด่าแทนใจคนดูอย่างเราจริงๆ ช่วงนี้เราขำมากๆ ฮาก๊ากเลย คือนึกอารมณ์ออกไหม เหมือนเราโดนแม่ด่าตอนเด็กๆ แล้วเราเห็นแม่เป็นยักษ์เป็นผี มันใช่เลย แล้วมันค้ำขำ ไอ้ลูกก็เหวอไปเลย ดี โดนซะบ้าง...
ทีนี้หนังเข้าสู่โหมดสงครามแม่ลูก แหม่ มันได้ใจจริงๆหนังเรื่องนี้ จิกกัดล้อเลียนความเป็นแม่ลูกได้อย่างสะใจ
คือหนังเรื่องนี้มันไปไกลมาก มันส์มาก
4.ช่วงที่ 4 โหมดซึ้ง
---- หลังจากสงครามแม่ลูกสงบลง ช่วงนี้แม่เริ่มหายบ้า ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น มีฉากกอดกันรักกันแม่ๆลูกๆ เฮ้ย มันซึ้งอ่ะ เหมือนมารียูเนี่ยนแม่ลูก เราดูแล้วตื้นตันอยากจะร้องไห้ แล้วอารมณ์ต่างๆที่เรารู้สึกกับหนังก่อนหน้านี้ที่ว่าตัวละครสองคนนี้มันน่ารำคาญน่าจะตายนี่มันเรียลมาก คือชีวิตจริงคนเกือบทุกคนมีความประสาทน่ารำคาญของตัวเอง ยิ่งแม่กับลูกหลายคู่คงมีประวัติสงครามประสาทกันมาบ้าง หนังเรื่องนี้จะซึ้งมากกับคนที่เป็นลูกที่เคยมีพฤติกรรมเด็กเปรต หรือมีแม่ที่ค่อนข้างเจ้าอารมณ์หน่อย
....ทั้งซึ้ง และตลกร้ายมากๆ .....
สรุป นี่ไม่ใช่หนังผีแบบหลอนๆอย่างหน้าหนังเลย สำหรับเรา มันคือหนังดราม่าจิตวิทยาตลกร้ายที่เจ๋งมาก หนังสามารถตีความได้หลากหลาย เป็นความเครียดของแม่เลี้ยงเดี่ยว ความทุกข์ทรมานจากอาการซึมเศร้าทางจิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่สูญเสียผู้นำอย่างผู้ชายหรือ "พ่อ"ของลูก การต้องสู้รบปรบมือกับลูกตัวร้ายแต่เพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครเหลียวแล แม้แต่ญาติยังเอือม สังคมก็หันหลังให้ เป็นภาวะที่ตึงเครียดโดดเดี่ยว เราจะเห็นว่าชีวิตประจำวันของตัวละครแม่ดูแห้งแล้งและเงียบเหงามาก ตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของความโดดเดี่ยวคือ หญิงชราคนหนึ่งในหนัง
ช่วงกลางของหนังเราสบประมาทผู้กำกับว่าไม่สามารถผสมผสานหนังดราม่าจิตวิทยาเข้ากับหนังสยองขวัญได้ เพราะมันดูน่ารำคาญมากๆ แถมงี่เง่าๆ แต่เมื่อดูจนจบต้องกลับคำในใจว่า นี่คือหนังผีสดุดีแม่ที่เก๋ไก๋สุดๆ และด้วยความที่ผู้กำกับเป็นผู้หญิง มันส่งผ่านมายังตัวงาน หนังเรื่องนี้มีความเป็นเพศหญิงสูงมาก (จขกท เป็นคนที่สังเกตดูหนังที่ผู้หญิงกำกับหลายเรื่อง จะมีความเป็นหญิงในตัวงานสูง) นี่คือหนังผู้หญิงที่สะท้อนความเป็นหญิงและเพศแม่ได้อย่างมีอารมณ์ขันและน่าขบคิด
ป.ล.รักแม่ ขอบอกผัวแม่หล่อมาก โห เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงกลายเป็นโรคจิต เพราะผัวหล่อน่าเสียดายมากจริงๆ
แล้วตอนต้นๆเรื่องนั่น คุณแม่ทำอะไรเหรอ เสียงครางๆ... คือลูกเห็นไม่ชัด ไม่กล้าคิด +++(แต่คิดไปแล้ว หรือลูกคิดลามก)
บา--- บา--- ดุค ตอนคุณได้ยินเสียงคำนี้รู้สึกอย่างไร ทั้งน่ากลัวทั้งแอบขำใช่มั้ย นั่นแหละสะท้อนอารมณ์ของตัวหนังได้อย่างชัดเจน
8/10
[CR] The Babadook บา บา ดุค หนังผีสดุดีแม่ ...รัก เกลียด รำคาญ หลอน จิต มันส์ ฮา ซึ้ง (สปอยล์)
ขอบอกความรู้สึกว่า นี่คือหนังที่ให้ความรู้สึกหลากหลายมากที่สุดเรื่องหนึ่งอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก พิลึกพิลั่นพิสดารบ้าบิ่น
ไม่รู้คนอื่นเป็นไหม แต่ จขกท ดูเรื่องนี้แล้วได้ครบทุกอารมณ์จริงๆ
1.ช่วงที่ 1 ลึกลับ น่าขนลุก
--- หนังดำเนินเรื่องเรียบนิ่ง สร้างบรรยากาศหลอน กดดันได้ดี ด้วยมุมกล้องของภาพที่ให้ความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงถึงสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป... จินตนาการคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ผู้กำกับคงเข้าใจจุดนี้อย่างดี จึงมีการสร้างบรรยากาศถึงสิ่งที่มองไม่เห็น และ "จินตนาการ" เป็นประเด็นหลักอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี่ ตอนนี้ตัวละครยังดูโอเคน่าเอาใจช่วยอยู่
2.ช่วงที่ 2 รำคาญ อยากตบทั้งแม่ทั้งลูก
--- พอหนังดำเนินเรื่องไปถึงจุดหนึ่ง พฤติกรรมบ้าบอของสองแม่ลูกนี้มีมากขึ้น รู้สึกรำคาญคุณสองแม่ลูกนี้มาก ตัวแม่ก็ทำหน้าลอยๆหลอนๆน่าหงุดหงิดน่าหมั่นไส้ ฝ่ายลูกชายก็เด็กเปรตเด็กนรกจริงๆ คือดูแล้วรำคาญ อยากให้มันตายๆไปทั้งสองแม่ลูกเลย ดูไปก็หงุดหงิดคิดไปว่าผู้กำกับล้มเหลวไม่สามารถทำให้คนดูอย่างเราอยากเอาใจช่วยสองแม่ลูกนี้ และเมื่อ "มิสเตอร์บาบาดุค" เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น หนังยิ่งน่าหงุดหงิดในความปัญญาอ่อนไร้เหตุผลของผีบ้าผีบอที่ตลกมากกว่าจะน่ากลัว สองแม่ลูกก็บ้าอย่างกูไม่กลับไม่รู้ตัวเอง ไม่ทำอะไรที่มันจรรโลง คุณแม่ก็สปอยล์ลูก คุณลูกก็วีนแตกนรกจริงๆ ตัวละครอื่นๆรอบข้างก็ทำชอบทำหน้าเหวอๆไม่มีใครอยากช่วยเหลือ อารมณ์ช่วงนี้อยากตบสองแม่ลูกนั่นและเอาอะไรสักอย่างเขวี้ยงจอหนัง ยิ่งเห็นความติงต๊องของมิสเตอร์บาบาดุคยิ่งอยากให้จบเร็วๆกับหนังไร้สตินี้ แทบจะเดินออกจากโรง รำคาญมาก แต่เดี๋ยวก่อน....
3.ช่วงที่ 3 เริ่มได้รับห่อหมก (เก็ทจนเออออห่อหมกไปกับหนังได้) โหด มันส์ ฮา
--- ช่วงนี้เราเริ่มเก็ทแล้วว่าหนังมันไม่ได้หลอนน่ากลัวอะไร แต่เหมือนตั้งใจให้ออกมาตลกร้ายยังไงไม่รู้ ไอ้ผีบ้าบาบาดุคที่ปัญญาอ่อนมากเลยเข้าโหมดอนุโลม อ๋อ เขาต้องการตลกร้ายนี่เอง ถ้าสังเกตตัวละครสมทบต่างๆก็ชอบทำหน้าเหวอตลกๆอยู่แล้ว มันต้องมาทางนี้แน่... ทีนี้มันเริ่มมันส์ แม่กับลูกฟาดฟันกันอย่างมันส์มาก
**** ฉากเด็ดที่ฮาก๊ากหยุดไม่อยู่ คือฉากที่อยู่ในตัวอย่าง ที่กล้องจะซูมแม่ใหญ่ยาวเป็นยักษ์เหมือนผีเข้าสิง คือช่วงนี้แม่ด่าลูกเป็นชุดเลย เด็กเปรต เด็กนรก อุแม่เจ้า... มันโดนใจจริงๆ น่าจะด่าตั้งนานแล้ว สปอยล์อยู่ได้ เด็กอะไรนรกมาก (ก็เข้าใจนะเด็กมีปัญหาแต่มันจะนรกไปไหน) คือแม่ด่าแทนใจคนดูอย่างเราจริงๆ ช่วงนี้เราขำมากๆ ฮาก๊ากเลย คือนึกอารมณ์ออกไหม เหมือนเราโดนแม่ด่าตอนเด็กๆ แล้วเราเห็นแม่เป็นยักษ์เป็นผี มันใช่เลย แล้วมันค้ำขำ ไอ้ลูกก็เหวอไปเลย ดี โดนซะบ้าง...
ทีนี้หนังเข้าสู่โหมดสงครามแม่ลูก แหม่ มันได้ใจจริงๆหนังเรื่องนี้ จิกกัดล้อเลียนความเป็นแม่ลูกได้อย่างสะใจ
คือหนังเรื่องนี้มันไปไกลมาก มันส์มาก
4.ช่วงที่ 4 โหมดซึ้ง
---- หลังจากสงครามแม่ลูกสงบลง ช่วงนี้แม่เริ่มหายบ้า ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น มีฉากกอดกันรักกันแม่ๆลูกๆ เฮ้ย มันซึ้งอ่ะ เหมือนมารียูเนี่ยนแม่ลูก เราดูแล้วตื้นตันอยากจะร้องไห้ แล้วอารมณ์ต่างๆที่เรารู้สึกกับหนังก่อนหน้านี้ที่ว่าตัวละครสองคนนี้มันน่ารำคาญน่าจะตายนี่มันเรียลมาก คือชีวิตจริงคนเกือบทุกคนมีความประสาทน่ารำคาญของตัวเอง ยิ่งแม่กับลูกหลายคู่คงมีประวัติสงครามประสาทกันมาบ้าง หนังเรื่องนี้จะซึ้งมากกับคนที่เป็นลูกที่เคยมีพฤติกรรมเด็กเปรต หรือมีแม่ที่ค่อนข้างเจ้าอารมณ์หน่อย
....ทั้งซึ้ง และตลกร้ายมากๆ .....
สรุป นี่ไม่ใช่หนังผีแบบหลอนๆอย่างหน้าหนังเลย สำหรับเรา มันคือหนังดราม่าจิตวิทยาตลกร้ายที่เจ๋งมาก หนังสามารถตีความได้หลากหลาย เป็นความเครียดของแม่เลี้ยงเดี่ยว ความทุกข์ทรมานจากอาการซึมเศร้าทางจิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่สูญเสียผู้นำอย่างผู้ชายหรือ "พ่อ"ของลูก การต้องสู้รบปรบมือกับลูกตัวร้ายแต่เพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครเหลียวแล แม้แต่ญาติยังเอือม สังคมก็หันหลังให้ เป็นภาวะที่ตึงเครียดโดดเดี่ยว เราจะเห็นว่าชีวิตประจำวันของตัวละครแม่ดูแห้งแล้งและเงียบเหงามาก ตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของความโดดเดี่ยวคือ หญิงชราคนหนึ่งในหนัง
ช่วงกลางของหนังเราสบประมาทผู้กำกับว่าไม่สามารถผสมผสานหนังดราม่าจิตวิทยาเข้ากับหนังสยองขวัญได้ เพราะมันดูน่ารำคาญมากๆ แถมงี่เง่าๆ แต่เมื่อดูจนจบต้องกลับคำในใจว่า นี่คือหนังผีสดุดีแม่ที่เก๋ไก๋สุดๆ และด้วยความที่ผู้กำกับเป็นผู้หญิง มันส่งผ่านมายังตัวงาน หนังเรื่องนี้มีความเป็นเพศหญิงสูงมาก (จขกท เป็นคนที่สังเกตดูหนังที่ผู้หญิงกำกับหลายเรื่อง จะมีความเป็นหญิงในตัวงานสูง) นี่คือหนังผู้หญิงที่สะท้อนความเป็นหญิงและเพศแม่ได้อย่างมีอารมณ์ขันและน่าขบคิด
ป.ล.รักแม่ ขอบอกผัวแม่หล่อมาก โห เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงกลายเป็นโรคจิต เพราะผัวหล่อน่าเสียดายมากจริงๆ
แล้วตอนต้นๆเรื่องนั่น คุณแม่ทำอะไรเหรอ เสียงครางๆ... คือลูกเห็นไม่ชัด ไม่กล้าคิด +++(แต่คิดไปแล้ว หรือลูกคิดลามก)
บา--- บา--- ดุค ตอนคุณได้ยินเสียงคำนี้รู้สึกอย่างไร ทั้งน่ากลัวทั้งแอบขำใช่มั้ย นั่นแหละสะท้อนอารมณ์ของตัวหนังได้อย่างชัดเจน
8/10