เจอบ่อยมากเลยค่ะ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไม่เว้นแม้แต่จักรยาน ประเด็นมันอยู่ที่พอคุยโทรศัพท์แล้วเหลือเพียงมือเดียวในการขับขี่ ควบคุมรถ
ไม่ขอพูดถึงรถยนต์นะคะ อันนี้น่าหงุดหงิดค่ะ แต่ไม่เจ็บตัว เป็นเหล็กหุ้มเนื้อ
แต่รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน อันนี้เนื้อหุ้มเหล็กนะคะ มีมือเดียวที่ควบคุมรถ สมองต้องแยกเป็น2ส่วน ทั้งคุมรถที่ขี่อยู่และคุยโทรศัพท์ ขี่รถมือเดียวอีก การควบคุมรถมันก็ไม่ดีเท่า 2 มือ โดนเฉียวล้มไปมันไม่คุ้ม เจ็บตัว รถถลอก
เหตุการณ์ที่เจอคือ รถจักรยานขี่อยู่เลนซ้ายสุด เรามาเลนขวา ถนนมี 2 เลน สวนกันรวมเป็น 4 เลน เลนซ้ายมีรถสองแถวใหญ่วิ่งนำหน้ารถจักรยานอยู่ เราขับในเลนขวาของเรา ถนนค่อนข้างโล่งในช่วงกลางวัน ถนนเลนแคบรถสองแถวใหญ่เต็มเลนพอดี อยู่ดีๆรถจักรยานก็ออกมาเลนขวาแต่ชิดซ้ายของเลนขวาเพื่อหลบรถสองแถวใหญ่นั้นแหละค่ะ คนขี่จักรยานไม่มองรถข้างหลัง เพราะว่าถือโทรศัพท์คุยอยู่มือนึง(จับแฮนรถมือเดียว) เราบีบแตรเตือนไป 2 ครั้ง(เหยียบเบรคเตรียมไว้แล้ว) แล้วเบี่ยงหลบค่ะ รถเลนสวนมาว่างอยู่ คนขี่รถจักรยานด่าเราทันใดที่สวนกันค่ะ อย่าถามค่ะว่าด่าอะไร ได้ยินไม่ชัดหรอก แต่ด้วยสีหน้าที่มองมารับรู้ได้ค่ะ
อันนี้นึกว่าจบแล้วค่ะเราไม่ได้คิดอะไรแล้ว เราไปติดไฟแดงข้างหน้า คนขี่รถจักรยานคันเดิมปั่นมาทัน เราเลยหยุดเถียงกันนิดหน่อยระหว่างติดไฟแดง เราบอกว่าทำไมไม่จอดรถก่อนค่อยคุย ไม่ก็ไม่ต้องรับโทรศัพท์ คนขี่จักรยานบอกว่าเค้ามีเรื่องสำคัญต้องคุยโทรศัพท์ เค้าจอดรถไม่ได้ เถียงไปๆมาๆ คนขี่จักรยานก็ไปเรื่องอื่นค่ะ หาว่าเราทำไมไม่ชลอจอดรถรอเค้าปั่นไปก่อนละ เราถึงกับอึ้งไปเลย เราขับมาเลนเราอยู่ดีๆ เราเบรครถแล้ว เราเบี่ยงหลบจักรยานแล้ว ที่เราโดนด่ามองหน้าเพราะเราไม่ชลอจอดรถให้เค้าแซงรถสองแถวใหญ่หรอ หรือเพราะเราบีบแตรเตือนเค้าค่ะ หรือเราผิดจริงๆ ชักไม่แน่ใจเลยเอากระจกขึ้นเพราะใกล้ไฟเขียวแล้ว คนขี่จักรยานไม่จบค่ะหาว่าเราหนีปิดกระจกทำไมเราก็เลยเปิดอีก คนขี่จักรยานก็ยังหาว่าเราไม่ชลอรถจอดละ ชลอรถแล้วมันจะตายไหม แล้วไฟก็เขียวค่ะ ไม่อยากจะอยู่เถียงแล้วค่ะ เดี๋ยวรถติดยาว คราวนี้คำด่าชัดเจนเต็ม 2 รูหูลยค่ะ แต่เราไม่สะทกสะท้าน แต่หงุดหงิดกับตระกะเค้า คือถ้าเถียงมันก็วนอยู่แค่นี้แหละค่ะ ตอนเราเบี่ยงหลบก็ไม่ได้ไปใกล้รถจักรยาน เรารู้ว่าถ้าเราไปเฉียวเค้ายังไงเราก็ผิด แต่คนขับขี่รถจักรยานคันนั้นไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยค่ะ มันเสี่ยงมากๆกับการขี่จักรยานมือเดียว
จอดรถที่ท่านๆขับขี่มาก่อนแล้วค่อยคุยโทรศัพท์กันเถอะค่ะ ถึงจะเชี่ยวชาญทั้งเส้นทางหรือตัวรถท่านเอง มันก็มีโอกาสรถเฉียวล้ม ทรงตัวไม่ได้ ถ้าไปใกล้ๆสิบล้อมีลมดูดนี้ไม่อยากจะนึกเลยค่ะ
คุยโทรศัพท์จอดรถกันก่อนนะคะ (เตือนสติและเล่าเรื่อง)
ไม่ขอพูดถึงรถยนต์นะคะ อันนี้น่าหงุดหงิดค่ะ แต่ไม่เจ็บตัว เป็นเหล็กหุ้มเนื้อ
แต่รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน อันนี้เนื้อหุ้มเหล็กนะคะ มีมือเดียวที่ควบคุมรถ สมองต้องแยกเป็น2ส่วน ทั้งคุมรถที่ขี่อยู่และคุยโทรศัพท์ ขี่รถมือเดียวอีก การควบคุมรถมันก็ไม่ดีเท่า 2 มือ โดนเฉียวล้มไปมันไม่คุ้ม เจ็บตัว รถถลอก
เหตุการณ์ที่เจอคือ รถจักรยานขี่อยู่เลนซ้ายสุด เรามาเลนขวา ถนนมี 2 เลน สวนกันรวมเป็น 4 เลน เลนซ้ายมีรถสองแถวใหญ่วิ่งนำหน้ารถจักรยานอยู่ เราขับในเลนขวาของเรา ถนนค่อนข้างโล่งในช่วงกลางวัน ถนนเลนแคบรถสองแถวใหญ่เต็มเลนพอดี อยู่ดีๆรถจักรยานก็ออกมาเลนขวาแต่ชิดซ้ายของเลนขวาเพื่อหลบรถสองแถวใหญ่นั้นแหละค่ะ คนขี่จักรยานไม่มองรถข้างหลัง เพราะว่าถือโทรศัพท์คุยอยู่มือนึง(จับแฮนรถมือเดียว) เราบีบแตรเตือนไป 2 ครั้ง(เหยียบเบรคเตรียมไว้แล้ว) แล้วเบี่ยงหลบค่ะ รถเลนสวนมาว่างอยู่ คนขี่รถจักรยานด่าเราทันใดที่สวนกันค่ะ อย่าถามค่ะว่าด่าอะไร ได้ยินไม่ชัดหรอก แต่ด้วยสีหน้าที่มองมารับรู้ได้ค่ะ
อันนี้นึกว่าจบแล้วค่ะเราไม่ได้คิดอะไรแล้ว เราไปติดไฟแดงข้างหน้า คนขี่รถจักรยานคันเดิมปั่นมาทัน เราเลยหยุดเถียงกันนิดหน่อยระหว่างติดไฟแดง เราบอกว่าทำไมไม่จอดรถก่อนค่อยคุย ไม่ก็ไม่ต้องรับโทรศัพท์ คนขี่จักรยานบอกว่าเค้ามีเรื่องสำคัญต้องคุยโทรศัพท์ เค้าจอดรถไม่ได้ เถียงไปๆมาๆ คนขี่จักรยานก็ไปเรื่องอื่นค่ะ หาว่าเราทำไมไม่ชลอจอดรถรอเค้าปั่นไปก่อนละ เราถึงกับอึ้งไปเลย เราขับมาเลนเราอยู่ดีๆ เราเบรครถแล้ว เราเบี่ยงหลบจักรยานแล้ว ที่เราโดนด่ามองหน้าเพราะเราไม่ชลอจอดรถให้เค้าแซงรถสองแถวใหญ่หรอ หรือเพราะเราบีบแตรเตือนเค้าค่ะ หรือเราผิดจริงๆ ชักไม่แน่ใจเลยเอากระจกขึ้นเพราะใกล้ไฟเขียวแล้ว คนขี่จักรยานไม่จบค่ะหาว่าเราหนีปิดกระจกทำไมเราก็เลยเปิดอีก คนขี่จักรยานก็ยังหาว่าเราไม่ชลอรถจอดละ ชลอรถแล้วมันจะตายไหม แล้วไฟก็เขียวค่ะ ไม่อยากจะอยู่เถียงแล้วค่ะ เดี๋ยวรถติดยาว คราวนี้คำด่าชัดเจนเต็ม 2 รูหูลยค่ะ แต่เราไม่สะทกสะท้าน แต่หงุดหงิดกับตระกะเค้า คือถ้าเถียงมันก็วนอยู่แค่นี้แหละค่ะ ตอนเราเบี่ยงหลบก็ไม่ได้ไปใกล้รถจักรยาน เรารู้ว่าถ้าเราไปเฉียวเค้ายังไงเราก็ผิด แต่คนขับขี่รถจักรยานคันนั้นไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยค่ะ มันเสี่ยงมากๆกับการขี่จักรยานมือเดียว
จอดรถที่ท่านๆขับขี่มาก่อนแล้วค่อยคุยโทรศัพท์กันเถอะค่ะ ถึงจะเชี่ยวชาญทั้งเส้นทางหรือตัวรถท่านเอง มันก็มีโอกาสรถเฉียวล้ม ทรงตัวไม่ได้ ถ้าไปใกล้ๆสิบล้อมีลมดูดนี้ไม่อยากจะนึกเลยค่ะ