จาก บั้งไฟพญานาค สู่ ฟูลมูนปาร์ตี้ (ดีไหม)

ออกพรรษา ถึงเวลาเทศกาลบั้งไฟพญานาค

หลังจากมีคำถามในใจตลอดมา จริง  หรือ ฝีมือคน    สืบเนื่องจากประเด็นต่อไปนี้

1. เถียงกันทุกปี น่าเบื่อ ไม่มีใครคิดพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์จริงๆจังๆ  
- ฝ่ายศรัทธาบอกว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"  
- ฝ่ายท้องที่บอก  "ปล่อยพวกกุทำมาหากินบ้าง"  
- ฝ่ายเรียนเยอะบอก  "เฮ้ยพวกเมิงจะบ้าเหรอ  ปรากฎการณ์ธรรมชาติ  อย่ามาหลอกกัน"    
- นักสืบพันทิพ บอก  "พวกเมิงอย่าโง่  พวกคนลาวข้ามมาจุด  แหกตาคนไทยกัน"
- พวกกลางๆ "บอกเฮ้ย  อย่าไปยุ่งเลย  ปล่อยให้ชาวบ้านเขามีรายได้  ปีละหนเดียว  อย่าไปวิทยาศาสตร์จ๋า  บางอย่างหลับหูหลับตาปล่อยๆไปบ้าง"

2. มีพิสูจน์กันบ้าง  อ้างทฤษฎีฝรั่งบ้าง   แต่ทั้งหมดยังไม่ได้จัดแถลง  ทำให้เห็นหน้างาน ถ้าเชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือกระทั่งเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์   ต้องทำซ้ำโชว์ได้   ทำยังไง   ในหน้างานเลย

3. ขายความเชื่อ อาจจะขาลง  ในโลกที่คนเชื่อวิทาศาสตร์ น่าจะเยอะขึ้นเรื่อยๆทุกปี  สักวันต้องชนะเจ้าเข้าทรง  

ผมว่าอย่ากระนั้นเลยครับ  ยกมือไหว้ท่วมหัวต่อให้พญานาคท่านมีปฏิทินขึ้นมาพ่นไฟตรงเวลาทุกปี   จัดโชว์เลยครับ  อธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติเรื่องก๊าซผุด  เปลี่ยนบริเวณนั้นเป็น Science Park ในขณะเดียวกัน ก็จัดทำโชว์ไปเลยครับ   แล้วสุดท้ายเปลี่ยนจาก ปีละหน  เป็นทุก 15 ค่ำไปเลยครับ  ปีนึงโชว์หลายรอบ

ผมว่าในช่วงเวลาแห่ง AEC ภูมิภาคนั้น น่าจะขยายตัวทั้งเศรษฐกิจ และ จำนวนประชากรทั้งคนท้องที่ และ ชาวต่างชาติที่เข้ามาตามแหล่งงานที่เกิดขึ้นตามการขยายตัว

ทำแบบนี้   ชาวบ้านก็ไม่เสียรายได้  แถมน่าจะมากขึ้นด้วย  ปาร์ตี้กัน มีลูกไฟผุดทั้งคืน อย่างกะผับ 5555  พวกเชื่อวิทยาศาสตร์ ก็โล่งอก  บอกประเทศนี้คิดอะไรเป็นวิทยาศาสตร์  คิดค้นหาความจริงซะที  


อาจจะมีผู้แพ้บ้าง คือผู้ศรัทธา พญานาค แต่คงต้องปล่อยไปบ้างตามยุคสมัยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่