AIS สำรองแผนหากปีหน้าไม่มีการประมูล 4G ( ไม่บอก แต่เปรียบสร้างคอนโดฯแทน) ชี้ 3G 2100 ยังใช้ได้อีก12-18 เดือนสบาย ๆ ( ตัดสินใจลุยเน็ตบ้าน )
ประเด็นหลัก
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fixed Broadband) และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 4,600 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์มีมูลค่าสูงถึง 56,000 ล้านบาท และมีจำนวนผู้ใช้งาน 4.8 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 24% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในประเทศไทยจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
โดยคาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มไปอยู่ที่ 6.8 ล้านครัวเรือน อีกทั้งบริษัทมีโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกกว่าแสนกิโลเมตรจากการขยายเครือข่าย 3G จึงคุ้มที่จะลงทุนลากสายเพิ่มเติมต่อมายังบ้านลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ และตอบสนองความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ตที่เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน การมีฟิกซ์บรอดแบนด์ยังช่วยแบ่งเบาการใช้งานโครงข่ายโทรศัพท์มือถือได้ เพราะเมื่อกลับเข้าบ้าน อุปกรณ์สื่อสารหรือสมาร์ทดีไวซ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตจะ เปลี่ยนมาใช้ฟิกซ์บรอดแบนด์แทน ทั้งสองบริการจึงช่วยเสริมซึ่งกันและกัน
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่สามารถนำมาพัฒนาบริการ 4G ที่เลื่อนออกไปจากปี นี้นั้น น่าจะกลับมาดำเนินการต่อในปีหน้า เพราะการเลื่อนก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าระบบต่าง ๆ จะเป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งในระหว่างนี้บริษัทไม่ได้อยู่เฉย ๆ แต่เร่งดำเนินการใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเร่งติดตั้งสถานีฐานขนาดเล็กหรือสมอลเซลเพื่อเพิ่มขีดความ สามารถของระบบให้รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในย่านชุมชน เรื่องที่ 2 คือเตรียมแผนสำรองไว้ 3 รูปแบบ หากชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการประมูลเกิดขึ้นแน่ในปีหน้า
______________________________
เอไอเอสลงสนามฟิกซ์บรอดแบนด์ ต่อยอดแบ็คโบน3G-งัดแผนสำรองแก้เกม4Gเลื่อน
ซีอีโอ "เอไอเอส" สั่งลุยธุรกิจ "ฟิกซ์บรอดแบนด์" ร่วมวงชิงเค้ก 5 หมื่นล้านบาท ท้าชน "ทรู-3บีบี" ควักกระเป๋าลงทุนเพิ่ม 4,600 ล้านบาท เทคโนโลยี "VDSL" ต่อยอดจากแบ็คโบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเข้าถึงบ้านลูกค้า 3 แสนครัวเรือน โฟกัส "กรุงเทพฯ-หัวเมืองใหญ่" ทั่วประเทศ ตั้งเป้าเก็บมาร์เก็ตแชร์ 25% ภายใน 3 ปี พร้อมเตรียม 3 แผนสำรองแก้เกมประมูลคลื่น 4G หากเจอโรคเลื่อนอีกรอบ ระบุความถี่ที่มีรองรับลูกค้าได้ถึง 50 ล้านราย ยืนระยะได้อีก 12-18 เดือน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fixed Broadband) และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 4,600 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์มีมูลค่าสูงถึง 56,000 ล้านบาท และมีจำนวนผู้ใช้งาน 4.8 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 24% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในประเทศไทยจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
โดยคาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มไปอยู่ที่ 6.8 ล้านครัวเรือน อีกทั้งบริษัทมีโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกกว่าแสนกิโลเมตรจากการขยายเครือข่าย 3G จึงคุ้มที่จะลงทุนลากสายเพิ่มเติมต่อมายังบ้านลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ และตอบสนองความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ตที่เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน การมีฟิกซ์บรอดแบนด์ยังช่วยแบ่งเบาการใช้งานโครงข่ายโทรศัพท์มือถือได้ เพราะเมื่อกลับเข้าบ้าน อุปกรณ์สื่อสารหรือสมาร์ทดีไวซ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตจะ เปลี่ยนมาใช้ฟิกซ์บรอดแบนด์แทน ทั้งสองบริการจึงช่วยเสริมซึ่งกันและกัน
"ในอดีตเราไม่ทำฟิกซ์บรอดแบนด์เพราะไม่คุ้ม คนที่ทำได้เลยคือคนที่ทำธุรกิจฟิกซ์ไลน์ไม่ว่าจะเป็นทรู, ที ทีแอนด์ทีหรือทีโอที ซึ่งเอไอเอสไม่มี แต่จากการลงทุนเร่งขยายเครือข่าย 3G คลื่น 2.1GHz ทำให้วันนี้เรามีแบ็คโบนไฟเบอร์ออปติกเป็นแสนกิโลเมตรแล้ว ขณะที่ดีมานด์ในตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การที่เรามาทีหลังคู่แข่งมั่นใจว่า ไม่ช้า เทียบฐานลูกค้ากับครัวเรือนในประเทศยังแค่ 20 กว่า% เท่านั้น และจากความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ต การอัพโหลดข้อมูล, การใช้แอปพลิเคชั่น ต่าง ๆ พบว่า 90% ของ 4.8 ล้านครัวเรือนต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีอย่างสิ้นเชิงเพื่อให้สปีดเร็วขึ้นทำให้ มีโอกาสทางการตลาดจริง ๆ มากกว่า 6.8 ล้านครัวเรือน"
นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่เอไอเอสเลือกลงทุนบริการฟิกซ์บรอดแบนด์ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ เรียกว่า VDSL ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าเทคโนโลยี ADSL 2-5 เท่า แต่สามารถทำราคาได้ออกมาใกล้เคียงหรือเท่ากับคู่แข่ง ประกอบกับมีแบรนด์เอไอเอสที่แข็งแรงจึงเชื่อว่ามีลูกค้ารอ และพร้อมเปลี่ยนมาใช้บริการ โดยบริษัทวางเป้าหมายไว้ว่าต้องการมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 25% หรือเป็น 1 ใน 4 ผู้เล่นหลักในตลาด ซึ่งเฟสแรกเน้นในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก ระบบรองรับลูกค้าได้ 300,000 ครัวเรือน คาดว่าจะเปิดตัวทำตลาดเป็นทางการต้นปีหน้า แต่ระหว่างนี้จะทดลองทำตลาดไปก่อน
นายสมชัยกล่าวถึงนโยบาย การตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้สำหรับธุรกิจโทรศัพท์มือถือด้วยว่า ยังคงเน้นการรักษาการเติบโตของรายได้ที่ 1-2% จากปีที่แล้ว ปรับลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่แต่เดิมตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 6-7% ซึ่งผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแม้ไม่เติบโตแต่เทียบกับคู่แข่งแล้วทำได้ดีกว่า
"ผมบอกทีมงานไปว่าจะทำอะไรยังไงได้เต็มที่ อะไรก็ได้หมด แต่ต้องรักษาระดับรายได้ไว้เท่าเดิมก็แล้วกัน"
จากข้อมูล ณ เดือนมิ.ย. 2557 เอไอเอส มีฐานลูกค้าทั้งสิ้น 42.9 ล้านรายเป็นลูกค้าในระบบ 3G จำนวน 34.4 ล้านราย หรือคิดเป็น 80% ของฐานลูกค้า และ 77% ของรายได้ โดยในไตรมาส 2 โต 2.2% เทียบกับไตรมาสแรก และโต 1.7% เทียบช่วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมา มีรายได้จากการใช้บริการข้อมูลโต 54% เทียบช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และโต 13% เทียบไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้จากการบริการ ครึ่งปีแรก 58,571 ล้านบาท มีรายได้จากการขายซิมและโทรศัพท์มือถือ 10,670 ล้านบาท เพิ่ม 14%
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่สามารถนำมาพัฒนาบริการ 4G ที่เลื่อนออกไปจากปี นี้นั้น น่าจะกลับมาดำเนินการต่อในปีหน้า เพราะการเลื่อนก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าระบบต่าง ๆ จะเป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งในระหว่างนี้บริษัทไม่ได้อยู่เฉย ๆ แต่เร่งดำเนินการใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเร่งติดตั้งสถานีฐานขนาดเล็กหรือสมอลเซลเพื่อเพิ่มขีดความ สามารถของระบบให้รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในย่านชุมชน เรื่องที่ 2 คือเตรียมแผนสำรองไว้ 3 รูปแบบ หากชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการประมูลเกิดขึ้นแน่ในปีหน้า
"ผมคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า 3 โซลูชั่นที่เตรียมไว้จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง บอกได้แค่ว่าเตรียมไว้แล้ว ถึงเวลาจริง ๆ จะใช้แผนไหนก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งพาร์ตเนอร์ที่เราคุย, จังหวะเวลา และอื่น ๆ คาดว่าภายในไตรมาสแรกปีหน้าก็รู้แล้วว่าจะต้องเดินแผน 1-2-3 หรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะมีการประมูลคลื่นในปีหน้า สำหรับความถี่และเครือข่ายที่มี
ปัจจุบันรองรับลูกค้าได้ถึง 50 ล้านราย อยู่ได้ยาวไปอีก 12-18 เดือนสบาย ๆ คนของเรารับมือกับเรื่องนี้ได้ ถ้าเปรียบเป็นบริษัทสร้างบ้านก็อาจสร้างบ้านเดี่ยว สร้างทาวน์เฮาส์ขายได้ถ้ามีที่ดินเยอะ แต่ถ้าที่น้อยก็สร้างคอนโดฯสูง ๆ แทน ซึ่งคนเอไอเอสฝึกสร้างคอนโดฯมานานแล้ว"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1412312611
AIS สำรองแผนหากปีหน้าไม่มีการประมูล 4G(เปรียบสร้างคอนโดฯ)ชี้ 3G 2100 ยังใช้ได้อีก12-18 เดือนสบาย ๆ(ตัดสินใจลุยเน็ตบ้าน)
ประเด็นหลัก
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fixed Broadband) และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 4,600 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์มีมูลค่าสูงถึง 56,000 ล้านบาท และมีจำนวนผู้ใช้งาน 4.8 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 24% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในประเทศไทยจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
โดยคาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มไปอยู่ที่ 6.8 ล้านครัวเรือน อีกทั้งบริษัทมีโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกกว่าแสนกิโลเมตรจากการขยายเครือข่าย 3G จึงคุ้มที่จะลงทุนลากสายเพิ่มเติมต่อมายังบ้านลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ และตอบสนองความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ตที่เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน การมีฟิกซ์บรอดแบนด์ยังช่วยแบ่งเบาการใช้งานโครงข่ายโทรศัพท์มือถือได้ เพราะเมื่อกลับเข้าบ้าน อุปกรณ์สื่อสารหรือสมาร์ทดีไวซ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตจะ เปลี่ยนมาใช้ฟิกซ์บรอดแบนด์แทน ทั้งสองบริการจึงช่วยเสริมซึ่งกันและกัน
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่สามารถนำมาพัฒนาบริการ 4G ที่เลื่อนออกไปจากปี นี้นั้น น่าจะกลับมาดำเนินการต่อในปีหน้า เพราะการเลื่อนก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าระบบต่าง ๆ จะเป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งในระหว่างนี้บริษัทไม่ได้อยู่เฉย ๆ แต่เร่งดำเนินการใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเร่งติดตั้งสถานีฐานขนาดเล็กหรือสมอลเซลเพื่อเพิ่มขีดความ สามารถของระบบให้รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในย่านชุมชน เรื่องที่ 2 คือเตรียมแผนสำรองไว้ 3 รูปแบบ หากชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการประมูลเกิดขึ้นแน่ในปีหน้า
______________________________
เอไอเอสลงสนามฟิกซ์บรอดแบนด์ ต่อยอดแบ็คโบน3G-งัดแผนสำรองแก้เกม4Gเลื่อน
ซีอีโอ "เอไอเอส" สั่งลุยธุรกิจ "ฟิกซ์บรอดแบนด์" ร่วมวงชิงเค้ก 5 หมื่นล้านบาท ท้าชน "ทรู-3บีบี" ควักกระเป๋าลงทุนเพิ่ม 4,600 ล้านบาท เทคโนโลยี "VDSL" ต่อยอดจากแบ็คโบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเข้าถึงบ้านลูกค้า 3 แสนครัวเรือน โฟกัส "กรุงเทพฯ-หัวเมืองใหญ่" ทั่วประเทศ ตั้งเป้าเก็บมาร์เก็ตแชร์ 25% ภายใน 3 ปี พร้อมเตรียม 3 แผนสำรองแก้เกมประมูลคลื่น 4G หากเจอโรคเลื่อนอีกรอบ ระบุความถี่ที่มีรองรับลูกค้าได้ถึง 50 ล้านราย ยืนระยะได้อีก 12-18 เดือน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fixed Broadband) และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 4,600 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์มีมูลค่าสูงถึง 56,000 ล้านบาท และมีจำนวนผู้ใช้งาน 4.8 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 24% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในประเทศไทยจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
โดยคาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มไปอยู่ที่ 6.8 ล้านครัวเรือน อีกทั้งบริษัทมีโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกกว่าแสนกิโลเมตรจากการขยายเครือข่าย 3G จึงคุ้มที่จะลงทุนลากสายเพิ่มเติมต่อมายังบ้านลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ และตอบสนองความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ตที่เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน การมีฟิกซ์บรอดแบนด์ยังช่วยแบ่งเบาการใช้งานโครงข่ายโทรศัพท์มือถือได้ เพราะเมื่อกลับเข้าบ้าน อุปกรณ์สื่อสารหรือสมาร์ทดีไวซ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตจะ เปลี่ยนมาใช้ฟิกซ์บรอดแบนด์แทน ทั้งสองบริการจึงช่วยเสริมซึ่งกันและกัน
"ในอดีตเราไม่ทำฟิกซ์บรอดแบนด์เพราะไม่คุ้ม คนที่ทำได้เลยคือคนที่ทำธุรกิจฟิกซ์ไลน์ไม่ว่าจะเป็นทรู, ที ทีแอนด์ทีหรือทีโอที ซึ่งเอไอเอสไม่มี แต่จากการลงทุนเร่งขยายเครือข่าย 3G คลื่น 2.1GHz ทำให้วันนี้เรามีแบ็คโบนไฟเบอร์ออปติกเป็นแสนกิโลเมตรแล้ว ขณะที่ดีมานด์ในตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การที่เรามาทีหลังคู่แข่งมั่นใจว่า ไม่ช้า เทียบฐานลูกค้ากับครัวเรือนในประเทศยังแค่ 20 กว่า% เท่านั้น และจากความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ต การอัพโหลดข้อมูล, การใช้แอปพลิเคชั่น ต่าง ๆ พบว่า 90% ของ 4.8 ล้านครัวเรือนต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีอย่างสิ้นเชิงเพื่อให้สปีดเร็วขึ้นทำให้ มีโอกาสทางการตลาดจริง ๆ มากกว่า 6.8 ล้านครัวเรือน"
นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่เอไอเอสเลือกลงทุนบริการฟิกซ์บรอดแบนด์ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ เรียกว่า VDSL ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าเทคโนโลยี ADSL 2-5 เท่า แต่สามารถทำราคาได้ออกมาใกล้เคียงหรือเท่ากับคู่แข่ง ประกอบกับมีแบรนด์เอไอเอสที่แข็งแรงจึงเชื่อว่ามีลูกค้ารอ และพร้อมเปลี่ยนมาใช้บริการ โดยบริษัทวางเป้าหมายไว้ว่าต้องการมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 25% หรือเป็น 1 ใน 4 ผู้เล่นหลักในตลาด ซึ่งเฟสแรกเน้นในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก ระบบรองรับลูกค้าได้ 300,000 ครัวเรือน คาดว่าจะเปิดตัวทำตลาดเป็นทางการต้นปีหน้า แต่ระหว่างนี้จะทดลองทำตลาดไปก่อน
นายสมชัยกล่าวถึงนโยบาย การตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้สำหรับธุรกิจโทรศัพท์มือถือด้วยว่า ยังคงเน้นการรักษาการเติบโตของรายได้ที่ 1-2% จากปีที่แล้ว ปรับลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่แต่เดิมตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 6-7% ซึ่งผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแม้ไม่เติบโตแต่เทียบกับคู่แข่งแล้วทำได้ดีกว่า
"ผมบอกทีมงานไปว่าจะทำอะไรยังไงได้เต็มที่ อะไรก็ได้หมด แต่ต้องรักษาระดับรายได้ไว้เท่าเดิมก็แล้วกัน"
จากข้อมูล ณ เดือนมิ.ย. 2557 เอไอเอส มีฐานลูกค้าทั้งสิ้น 42.9 ล้านรายเป็นลูกค้าในระบบ 3G จำนวน 34.4 ล้านราย หรือคิดเป็น 80% ของฐานลูกค้า และ 77% ของรายได้ โดยในไตรมาส 2 โต 2.2% เทียบกับไตรมาสแรก และโต 1.7% เทียบช่วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมา มีรายได้จากการใช้บริการข้อมูลโต 54% เทียบช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และโต 13% เทียบไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้จากการบริการ ครึ่งปีแรก 58,571 ล้านบาท มีรายได้จากการขายซิมและโทรศัพท์มือถือ 10,670 ล้านบาท เพิ่ม 14%
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่สามารถนำมาพัฒนาบริการ 4G ที่เลื่อนออกไปจากปี นี้นั้น น่าจะกลับมาดำเนินการต่อในปีหน้า เพราะการเลื่อนก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าระบบต่าง ๆ จะเป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งในระหว่างนี้บริษัทไม่ได้อยู่เฉย ๆ แต่เร่งดำเนินการใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเร่งติดตั้งสถานีฐานขนาดเล็กหรือสมอลเซลเพื่อเพิ่มขีดความ สามารถของระบบให้รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในย่านชุมชน เรื่องที่ 2 คือเตรียมแผนสำรองไว้ 3 รูปแบบ หากชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการประมูลเกิดขึ้นแน่ในปีหน้า
"ผมคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า 3 โซลูชั่นที่เตรียมไว้จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง บอกได้แค่ว่าเตรียมไว้แล้ว ถึงเวลาจริง ๆ จะใช้แผนไหนก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งพาร์ตเนอร์ที่เราคุย, จังหวะเวลา และอื่น ๆ คาดว่าภายในไตรมาสแรกปีหน้าก็รู้แล้วว่าจะต้องเดินแผน 1-2-3 หรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะมีการประมูลคลื่นในปีหน้า สำหรับความถี่และเครือข่ายที่มี
ปัจจุบันรองรับลูกค้าได้ถึง 50 ล้านราย อยู่ได้ยาวไปอีก 12-18 เดือนสบาย ๆ คนของเรารับมือกับเรื่องนี้ได้ ถ้าเปรียบเป็นบริษัทสร้างบ้านก็อาจสร้างบ้านเดี่ยว สร้างทาวน์เฮาส์ขายได้ถ้ามีที่ดินเยอะ แต่ถ้าที่น้อยก็สร้างคอนโดฯสูง ๆ แทน ซึ่งคนเอไอเอสฝึกสร้างคอนโดฯมานานแล้ว"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1412312611