เป็นอาการของ "คนดี"
เมื่อเป็น "คนดี" ย่อมไม่สมาทานร่วมกับนโยบายแนว "ประชานิยม" เมื่อเป็น "คนดี" ต้องออกมาประณามหยามเย้ยในความเลวร้ายของนโยบายแนว "ประชานิยม"
แม้กระทั่ง "คนดี" อันชื่อว่า "อิเหนา"
พลันที่นโยบายแจกเงินชาวนาที่มีนาไม่เกิน 15 ไร่ มูลค่าไร่ละ 1,000 บาท แพร่กระจายออกไปอย่างคึกคัก
ไม่มีเสียงคอมเมนต์จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์จากแดงระดับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แดงระดับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ทุกคนปิดปาก "เงียบ"
มีก็แต่ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาสรุป
ไม่ต่างไปจาก "เช็คช่วยชาติ" 2,000 บาท เมื่อปี 2552
มีก็แต่ นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายกกิตติมศักดิ์ สมาคม โรงสีข้าวไทย
ซึ่งแนบแน่นยิ่งอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาสรุป
ไม่ต่างไปจาก "ยาแก้ปวด"
มีก็แต่ พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย นครปฐม ซึ่งเป็นเจ้าของ "กรวยศักดิ์สิทธิ์" ในห้วงแห่ง "ชัตดาวน์" กทม.ออกมาสรุป เอาเงินไปแจกชาวนาทำไม มีประโยชน์อะไรที่ยั่งยืนบ้าง และเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวหรือไม่
"ฉันไม่อยากจะใช้คำว่า 4 หมื่นล้านเป็นงบหาเสียง หาคะแนนนิยม"
จริงละหรือที่หากเป็น "ประชานิยม" ก็คือ การดำเนินนโยบายเพื่อหาคะแนนและหวังผลในการเลือกตั้ง
หากนิยามเช่นนี้จะประเมินนโยบาย "เช็คช่วยชาติ" ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างไรจะประเมินนโยบาย "มิยาซาว่า" ของ นายชวน หลีกภัย อย่างไร
หรือทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของ "นักการเมือง"
นั่นหมายความว่า กรอบแห่งคำจำกัดความของ "นักการเมือง" อยู่ที่การเลือกตั้งและการหวังผลจากการเลือกตั้ง
แล้ว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ไม่ใช่ "นักการเมือง" หรือ
แล้ว พระพุทธะอิสระ และที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งออกมาเคลื่อนไหว "ชัตดาวน์" เมื่อเดือนมกราคม 2557 กระทั่งเหล่า "อธิการบดี" และบรรดา "หมอจ๊ะ หมอจ๋า" จำนวนมากมายออกมาให้การสนับสนุน
เหล่านี้มิใช่กระบวนการทาง "การเมือง" ของ "นักการเมือง" หรือ
ที่บุคคลซึ่งเรียกว่า "พวกเดียวกัน" ออกมาคอมเมนต์นโยบาย "แจกเงิน" ของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อย่างชนิดเรียงเป็นลูกระนาดก็มิได้มีเงื่อนงำอะไร หากแต่เขาเห็นว่าเป็น "การเมือง"
ยิ้มเห็น "แก้ม" แย้มเห็น "ไรฟัน"
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ก็อีหรอบเดียวกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล และ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน นั่นแล
ที่ปฏิกิริยาในทางสังคมปรากฏเช่นนี้ก็เนื่องจากบทบาทและพฤติการณ์ในความเป็น "คนดี" แต่กาลอดีต เคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นอย่างไร "กรรม" นั้นก็ไล่ตามมาทัน
เข้าทำนอง ว่าแต่ "เขา" ของบรรดา "อิเหนา" ซึ่งเป็นเอง
.......
(ที่มา:มติชนรายวัน 6 ตุลาคม 2557)
***** หรือประเทศนี้คนการศึกษาสูง ร่ำรวย ยกย่องตนเองเป็นคนดี ทำอะไรก็จะไม่มีความผิดครับ.*****
*****อนิจา ชีวิตเริ่ม อยู่ยากขึ้นทุกวัน******
กรรม พลิกไพล่ ประชานิยม "โฟเบีย" คนดี ไหวหวั่น
เป็นอาการของ "คนดี"
เมื่อเป็น "คนดี" ย่อมไม่สมาทานร่วมกับนโยบายแนว "ประชานิยม" เมื่อเป็น "คนดี" ต้องออกมาประณามหยามเย้ยในความเลวร้ายของนโยบายแนว "ประชานิยม"
แม้กระทั่ง "คนดี" อันชื่อว่า "อิเหนา"
พลันที่นโยบายแจกเงินชาวนาที่มีนาไม่เกิน 15 ไร่ มูลค่าไร่ละ 1,000 บาท แพร่กระจายออกไปอย่างคึกคัก
ไม่มีเสียงคอมเมนต์จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์จากแดงระดับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แดงระดับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ทุกคนปิดปาก "เงียบ"
มีก็แต่ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาสรุป
ไม่ต่างไปจาก "เช็คช่วยชาติ" 2,000 บาท เมื่อปี 2552
มีก็แต่ นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายกกิตติมศักดิ์ สมาคม โรงสีข้าวไทย
ซึ่งแนบแน่นยิ่งอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาสรุป
ไม่ต่างไปจาก "ยาแก้ปวด"
มีก็แต่ พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย นครปฐม ซึ่งเป็นเจ้าของ "กรวยศักดิ์สิทธิ์" ในห้วงแห่ง "ชัตดาวน์" กทม.ออกมาสรุป เอาเงินไปแจกชาวนาทำไม มีประโยชน์อะไรที่ยั่งยืนบ้าง และเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวหรือไม่
"ฉันไม่อยากจะใช้คำว่า 4 หมื่นล้านเป็นงบหาเสียง หาคะแนนนิยม"
จริงละหรือที่หากเป็น "ประชานิยม" ก็คือ การดำเนินนโยบายเพื่อหาคะแนนและหวังผลในการเลือกตั้ง
หากนิยามเช่นนี้จะประเมินนโยบาย "เช็คช่วยชาติ" ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างไรจะประเมินนโยบาย "มิยาซาว่า" ของ นายชวน หลีกภัย อย่างไร
หรือทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของ "นักการเมือง"
นั่นหมายความว่า กรอบแห่งคำจำกัดความของ "นักการเมือง" อยู่ที่การเลือกตั้งและการหวังผลจากการเลือกตั้ง
แล้ว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ไม่ใช่ "นักการเมือง" หรือ
แล้ว พระพุทธะอิสระ และที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งออกมาเคลื่อนไหว "ชัตดาวน์" เมื่อเดือนมกราคม 2557 กระทั่งเหล่า "อธิการบดี" และบรรดา "หมอจ๊ะ หมอจ๋า" จำนวนมากมายออกมาให้การสนับสนุน
เหล่านี้มิใช่กระบวนการทาง "การเมือง" ของ "นักการเมือง" หรือ
ที่บุคคลซึ่งเรียกว่า "พวกเดียวกัน" ออกมาคอมเมนต์นโยบาย "แจกเงิน" ของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อย่างชนิดเรียงเป็นลูกระนาดก็มิได้มีเงื่อนงำอะไร หากแต่เขาเห็นว่าเป็น "การเมือง"
ยิ้มเห็น "แก้ม" แย้มเห็น "ไรฟัน"
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ก็อีหรอบเดียวกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล และ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน นั่นแล
ที่ปฏิกิริยาในทางสังคมปรากฏเช่นนี้ก็เนื่องจากบทบาทและพฤติการณ์ในความเป็น "คนดี" แต่กาลอดีต เคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นอย่างไร "กรรม" นั้นก็ไล่ตามมาทัน
เข้าทำนอง ว่าแต่ "เขา" ของบรรดา "อิเหนา" ซึ่งเป็นเอง
.......
(ที่มา:มติชนรายวัน 6 ตุลาคม 2557)
***** หรือประเทศนี้คนการศึกษาสูง ร่ำรวย ยกย่องตนเองเป็นคนดี ทำอะไรก็จะไม่มีความผิดครับ.*****
*****อนิจา ชีวิตเริ่ม อยู่ยากขึ้นทุกวัน******