ลิขสิทธิ์แฮปปี้เบิร์ธเดย์

กระทู้ข่าว
บันทึกสถิติโลกกินเนสระบุว่า เพลงภาษาอังกฤษที่มีคนร้องมากที่สุดในโลกคือเพลง Hap py Birthday To You และเชื่อว่าทุกคนสามารถร้องเพลงนี้ได้และเคยร้องมาแล้วหลายครั้ง หากแต่ถ้านำเพลงนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์เช่นร้องออกรายการวิทยุ โทรทัศน์ หรือแม้แต่พนักงานร้านอาหารร้องอวยพรให้กับลูกค้า จะต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ หาไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาอาจถูกฟ้องร้องข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ได้

          การร้องเพลง Happy Birthday To You ภายในบ้านหรืองานเลี้ยงส่วนตัวสามารถกระทำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะเป็นการนำเพลงไปใช้ในสถานที่ส่วนตัว แต่ถ้านำเพลงนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์เมื่อไรจะต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ประมาณ 5,000-30,000 ดอลลาร์ แล้วแต่กรณี

         ผู้ที่รับเงินค่าลิขสิทธิ์ก็คือ เลน บลาวัตนิก (Len Blavat nik) มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เชื้อสายรัสเซีย วัย 57 ปี เนื่อง จากเขาเป็นเจ้าของบริษัทแอกเซสอินดัสตรีส์ (Access Indus tries) ซึ่งบริษัทนี้เป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่วงการเพลง วอร์ เนอร์ มิวสิคกรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง Happy Birthday To You นั่นเอง

          อย่างไรก็ตาม หลายคนพอจะรู้ว่าเพลง Happy Birth day To You มีกำเนิดมานานกว่า 100 ปีแล้ว ทำไมจึงยังมีลิขสิทธิ์คุ้มครองทั้งๆที่มันควรจะถูกยกให้เป็นสาธารณสมบัติเหมือนกับเพลงคลาสสิกของบีโธเฟน หรือเพลงกล่อมเด็กสมัยโบราณที่ใครก็สามารถนำไปร้องหรือบรรเลงเครื่องดนตรีได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมันมีที่มาที่ไป ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันในกลุ่มนักกฎหมาย

          บทเพลงเด็กเล็ก
          แพตตี้ สมิธ ฮิล (Patty Smith Hill) เกิดเมื่อ 27 มีนา คม 1868 บิดาเธอให้ความสำคัญกับการศึกษาและปลูกฝังให้เธอใฝ่หาความรู้ตั้งแต่ยังเยาว์ วัย ด้วยเหตุนี้เองเมื่อเติบใหญ่ขึ้นเธอจึงทำงานเป็นครูในโรง เรียนอนุบาล ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับยุวชนรุ่นหลัง

          มิลดริด ฮิล (Mildred Hill) เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 1859 เป็นพี่สาวคนโตของครอบ ครัว บันทึกส่วนใหญ่ระบุว่าเธอเป็นครูโรงเรียนอนุบาลเช่นเดียว กัน นอกจากสองศรีพี่น้องจะให้ความสำคัญกับการศึกษาแล้ว ทั้งคู่ยังสนใจดนตรีพื้นเมืองของคนผิวสี และนำความรู้ทั้งหมดที่มีนำมาพัฒนาระบบการเรียนการสอนระดับอนุบาล จนกระทั่งได้รับประกาศเกียรติคุณในงานชิคาโก้เวิลด์แฟร์ ปี 1893

         แพตตี้มีความเห็นว่าเพลงต่างๆที่นำมาใช้สอนเด็กอนุบาลในสมัยนั้นมีความซับซ้อนเกินกว่าวัยเด็กอนุบาล ทั้งท่วงทำ นองและเนื้อร้องที่จดจำได้ยากสำหรับเด็กวัยนี้ ด้วยเหตุนี้เองราวปี 1889 แพตตี้จึงได้เขียนเนื้อเพลงสำหรับเด็กเล็กขึ้นมาใหม่หลายเพลง รวมถึงเพลง Good Morning To All ซึ่งมีเนื้อเพลงจดจำได้ง่ายคือ
          Good morning to you, Good morning to you, Good morning, dear children,
          Good morning to all. มิลดริดทำหน้าที่ใส่ทำนอง (ทำนองเดียวกับเพลง Happy Birthday To You) เพลง Good Morning To All ก็ได้ถูกนำมาร้องทักทายนักเรียนทุกเช้าจนเด็กๆสามารถจดจำเนื้อร้องและทำนองได้เป็นอย่างดี

          ดัดแปลงเนื้อเพลง
          แพตตี้และมิลดริด ได้ตีพิมพ์โน้ตเพลง Good Morning To All เป็นครั้งแรกในปี 1893 และเนื่องจากมันเป็นเพลงที่จดจำได้ง่ายและมีท่วงทำนองไม่ซับซ้อน ต่อมาจึงมีคนดัดแปลงเนื้อเพลงไปใช้ในเทศกาลต่างๆ เช่น Happy Vacation To You ใช้ร้องในการอวยพรวันหยุด Goodbye to you ร้องในการบอกลา แต่เวอร์ชั่น ที่นิยมมากที่สุดก็คือ Happy Birthday To You หรือเพลงอวยพรครบรอบวันเกิดที่คนทั่วโลกนิยมร้องมากที่สุด โดยมีเนื้อร้องต้นฉบับดังนี้
          Happy Birthday to You Happy Birthday to You Happy Birthday Dear (ชื่อเจ้าของวันเกิด)
          Happy Birthday to You. มิลดริดใช้แนวความคิดง่ายๆ โดยใช้ตัวโน้ตพื้นฐานในวรรคแรก จากนั้นค่อยๆไล่เสียงสูงขึ้นในวรรคต่อๆมาแต่จำนวนตัวโน้ตเท่าเดิม เมื่อถึงวรรคสุดท้ายจึงลดเสียงลงต่ำ ทำให้สามารถจดจำท่วงทำนองเพลงได้ง่าย แต่ยังคงความสุนทรีย์ ให้กับผู้ฟัง เชื่อกันว่ามิลดริด ได้แนวความคิดนี้มาจากการศึกษาดนตรีของคนผิวดำ ซึ่งต่อมากลายเป็นดนตรีประเภท 12 บาร์บลูส์

          ไม่มีใครทราบว่าผู้ใดคือคนแรกที่แต่งเนื้อร้อง Happy Birthday To You แพตตี้และมิลดริดไม่รู้มาก่อนเลยว่าทำนองเพลง Good Morning To All ได้ความนิยมอย่างแพร่หลายกระจายไปทั่วอเมริกา จนกระทั่งเจสสิก้า น้องสาวคนเล็กของตระกูลฮิล ไปชมการแสดงคอนเสริร์ต As Thousands Cheer ของเออร์วิง เบอร์ลิน ในปี 1933 และสะดุดทำนองเพลงๆหนึ่งในการแสดงคืนนั้นว่ามันมีตัวโน้ตเหมือนกับเพลง Good Morning To All อย่างไม่ผิดเพี้ยน

          ณ เวลานั้น มิลดริดได้เสีย ชีวิตไปแล้ว เจสสิก้าพยายามฟ้องร้องเออร์วิง เรียกร้องให้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับพี่สาวของเธอ แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ศาลไม่รับฟ้องคดีนี้

         จดทะเบียนลิขสิทธิ์
          อาจจะด้วยสาเหตุนี้เอง เจสสิก้าและแพตตี้จึงติดต่อเซ็นสัญญาขายเพลง Good Morn ing To All ให้กับค่ายเพลง เคลตัน เอฟ. ซัมมี่ เพื่อให้ค่ายเพลงทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งค่ายเพลงก็ฉลาดพอที่จะนำเนื้อร้องเพลง Hap py Birthday To You มาจดทะเบียนลิขสิทธิ์พร้อมๆกับเพลง Good Morning To All

          ปัญหามันก็เริ่มต้นที่ตรงนี้เอง เพลง Happy Birthday To You ใช้ทำนองเพลง Good Moring To All แต่งโดย แพต ตี้และมิลดริด ฮิล แต่เนื้อร้องแต่งโดยใครไม่ปรากฏ อย่างไรก็ ตาม สำนักงานจดทะเบียนลิขสิทธิ์ก็อนุญาตให้จดทะเบียนได้

         ปี 1988 ค่ายเพลงซัมมี่ถูกควบรวมกับบริษัทบริชทรี กลายเป็นบริษัทซัมมี่-บริชาร์ด และต่อมาบริษัทใหม่นี้ก็ถูกวอร์เนอร์ชาพเพลล์มิวสิคซื้อไปในราคา 25 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่นั้นมาลิขสิทธิ์เพลง Hap py Birthday To You ก็ตกอยู่ในกำมือของวอร์เนอร์ชาพเพลล์มิวสิค

          ต่อมาไม่นานนักวอร์เนอร์ ชาพเพลล์มิวสิค ก็ถูกเปลี่ยนมือกลายเป็นไทม์วอร์เนอร์ และเอโอแอลไทม์วอร์เนอร์ แต่ก็ยังไม่วายถูกมรสุมทางธุรกิจซัดกระหน่ำให้มีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้ง จนล่าสุดถูกบริษัทแอกเซสอินดัสตรีส์ซื้อไปและกลายเป็นเจ้าของจนถึงปัจจุบัน

          เสียเงินดีกว่าค้าความ
          แม้ว่าลิขสิทธิ์เพลง Happy Birthday To You จะหมดอายุไปแล้วตามกฎหมายฉบับเก่า หากแต่ต่อมาในปี 1970 และ 1990 ได้มีการแก้ไขกฎหมาย ยืดเวลาครอบครองลิขสิทธิ์ไปยาวนานถึง 137 ปี นับตั้งแต่เผยแพร่ผลงานเป็นครั้งแรก ซึ่งในกรณีเพลง Happy Birthday To You ก็คือนับตั้งแต่ปี 1893 ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2030

          วอร์เนอร์มิวสิคกรุ๊ปยังคงมีภาระผูกพันต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ให้กับผู้ประพันธ์เป็นจำนวน 1 ใน 3 ของรายได้ หากแต่ว่าทั้งแพตตี้และมิลดริดได้เสียชีวิตไปแล้วและทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงาน ไม่มีทายาท ดังนั้น รายได้ส่วนนี้จึงตกสู่มูลนิธิฮิล ที่สองพี่น้องก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนา การศึกษาเด็ก

          ปัจจุบันวอร์เนอร์มิวสิคกรุ๊ปมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์เพลง Happy Birthday To You ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะที่โรเบิร์ต บรูนีส ศาสตรา จารย์ประจำภาควิชากฎหมาย มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันแย้งว่า ไม่ปรากฏว่าผู้ใดคือผู้ประพันธ์เนื้อเพลง Happy Birthday To You กฎหมายจึงไม่น่าจะคุ้มครองครอบคลุมถึงกรณีนี้

          อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ที่นำเพลง Happy Birth day To You ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ยังคงยอมจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์แต่โดยดี ด้วยเหตุผลว่า มันถูกกว่าค่าจ้างทนายสู้คดีในศาล แต่ในทางตรงกันข้าม บางคนกลับมีความเห็นว่ามันไม่ถูกต้องและยอมให้เป็นคดีความ แม้ปัจจุบันก็ยังคงมีการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่หลายคดี

          สำหรับพวกเราที่ร้องเพลง Happy Birthday To You ในหมู่เพื่อนฝูงโดยไม่ได้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ไม่ต้องวิตกกังวลกัน เพราะสามารถกระทำได้ เพียงแต่รู้ไว้ประดับสมองว่าเพลง นี้มีลิขสิทธิ์ไปจนถึงปี 2030

          --นสพ.โลกวันนี้วันสุข --
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่