อีกไม่กี่วัน ก็คงจะมีการแต่งตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติแล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อสภาปฏิรูปเริ่มประชุมวันแรก การทำงานต่าง ๆ ก็ต้องเริ่มนับหนึ่ง
ตามความเข้าใจ งานของสภาปฏิรูป คือการหาคำตอบที่ดี ในการปฏิรูปประเทศ (ทั้ง 11 ด้านที่กำหนดไว้) ว่าควรทำด้านไหนอย่างไร
แต่จริง ๆ แล้ว การทำงานของสภาปฏิรูป มีการกำหนดไว้ค่อนข้างชัดเจน ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557
ซึ่งสามารถแยกได้ 3 ด้าน ตามมาตรา 31 ในรัฐธรรมนูญ
โดยภารกิจแรกนั้น ในรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้มากกว่าที่แสดงข้างบน
แต่ในภารกิจที่เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ กลับมีเขียนไว้ค่อนข้างละเอียด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยสรุปก็คือ เมื่อมีการประชุมสภาปฏิรูปครั้งแรก ภายใน 15 วัน ต้องแต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และต้องเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะในการร่างรัฐธรรมนูญ ภายใน 60 วัน
และทางคณะกรรมธิการยกร่างฯ จะต้องร่างรัฐธรรมนูญ ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่ได้รับข้อเสนอ จากสภาปฏิรูป หรือก็คือภายในหกเดือน นับแต่การประชุมสภาปฏิรูปครั้งแรก
ซึ่งถ้าร่างไม่เสร็จ คณะกรรมาธิการยกร่าง ฯ เป็นอันสิ้นสุดลง
สมมติทำเสร็จภายในเวลากำหนด ส่งร่างรัฐธรรมนูญ ให้ สภาปฏิรูปฯพิจารณา ซึ่งต้องพิจารณาให้ขอเสนอแนะ หรือความเห็นเพื่อแก้ไขภายใน 10 วัน และมีเวลาขอยื่นแก้ไข ภายใน 30 วัน นับแต่พิจารณาเสร็จ
แล้วคณะกรรมาธิการยกร่างมีเวลาในการแก้ไข 60 วัน ก่อนส่งให้สภาปฏิรูปพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ถ้าสภาปฏิรูปฯ ไม่ให้ควาาเห็นชอบ สภาปฏิรูปฯ และคณะกรรมาธิการยกร่าง ฯ จะสิ้นสุดลง
เมื่อมีการเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ประธานสภาปฏิรูปจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าภายใน 30 วัน ถ้าไม่พระราชทานคืนมาภายใน 90 วันให้ร่างรธน.ตกไป
ถ้าร่างรธน.ตกไป สภาปฏิรูปฯ และคณะกรรมาธิการยกร่างฯ จะสิ้นสุดลง
แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน หมายความว่า ประเทศไทยน่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เกิดจากสภาปฏิรูป และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่แต่งตั้งโดยสภาปฏิรูปฯ ภายในเวลาประมาณ 1 ปี
และการดำรงอยู่ต่อไป ของสภาปฏิรูปฯ และคณะกรรมธิการยกร่างฯ จะขึ้นอยู่กับว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะกำหนดไว้อย่างไร ให้อยู่ต่อเพื่อร่างกฎหมายลูก และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างไร
ถ้าตีความตามขั้นตอนตามลำดับ จะเห็นว่า สิ่งที่สภาปฏิรูปจะหาคำตอบนั้น ไม่มีทางที่จะไปอยู่ในรัฐธรรมนูญได้ทั้งหมด อาจจะมีบ้าง ในขั้นตอนการแก้ไขหลังจากร่างในรอบแรกเสร็จ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ จะเป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการยกร่าง ไปหาคำตอบกันเอง แล้วร่างกันไป ไม่เกี่ยวกับสภาปฏิรูปเท่าไหร่
แต่การดำรงอยู่ของสภาปฏิรูปฯ กลับต้องยึดติดการการได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในกรอบเวลา
ถ้าไม่สามารถทำคลอดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ในกรอบเวลา สภาปฏิรูปก็จะต้องสิ้นสุดลง แล้วก็ดำเนินกระบวนการตั้งชุดใหม่ เพื่อทำงานตามขั้นตอนอีกรอบ
ถ้าอยากอยู่นานกว่าหนึ่งปี ก็ต้องทำคลอดรัฐธรรมนูญให้ได้ในกรอบเวลา และเนื้อหาในรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องรับรองสถานะของสภาปฏิรูป กำหนดกรอบงานที่ต้องทำ ถ้าแบบนี้ ถึงจะสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง
อ่านไปอ่านมา ก็หมายความว่า ในช่วงเวลาในการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ประเทศไทยคงไม่สามารถหาคำตอบเรื่องการปฏิรูป ผ่านสภาปฏิรูปได้ และถึงได้คำตอบ การทำตามช้อเสนอแนะเหล่านั้น คงขึ้นอยู่กับ สนช. รัฐบาล คสช. จะเห็นด้วยและทำตามหรือไม่
ก็คงไม่ต่างจากในอดีต ที่มีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อหาคำตอบต่าง ๆ แต่เหมือนตั้งมาเพื่อซื้อเวลาให้พ้นไป เพราะเมื่อได้คำตอบมา ก็ไม่สนใจทำตาม
ครั้งนี้สภาปฏิรูป ก็คงเช่นเดียวกัน
ตั้งมาเพื่อซื้อเวลา เป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรม ในการบริหารประเทศรอการปฏิรูป
ถ้ายังบริหารประเทศไม่ได้ผลที่หวัง ก็สามารถต่อเวลาได้ ด้วยการร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จ ก็จะได้รับการต่อเวลาไปเรื่อย ๆ ไม่จำกัด
ก็คงเป็นข้อสรุปที่ว่า สภาปฏิรูปฯ ตั้งมาเพื่อใคร
_____________________________________
ปล.หวังว่า กระทู้นี้ จะสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ และในภาคต่อไป จะได้ลงรายละเอียด ในการพูดถึงการปฏิรูปด้านต่าง ๆ
เพราะถึงแม้คาดหวังไม่ได้ แต่ก็คิดว่า เมื่อมีการพูดถึงการปฏิรูป ก็ควรมีส่วนร่วมเสนอบ้าง เพราะยังไงการแก้ไขปรับปรุง ก็ดีกว่า การทำตามแบบเดิม ๆ ที่ไม่ค่อยดีไปเรื่อย ๆ
แต่ถ้ากระทู้นี้ถูกลบ ก็คงต้องรออีกสักพัก รอจนแน่ใจว่า สามารถตั้งได้ ค่อยตั้งกระทู้ในเรื่องการปฏิรูป เพราะตั้งไปคนอื่นไม่ได้อ่าน ก็คงเสียเวลานั่งพิมพ์
สภาปฏิรูปแห่งชาติ (2) : ภารกิจเพื่อชาติ หรือเพื่อใคร
ตามความเข้าใจ งานของสภาปฏิรูป คือการหาคำตอบที่ดี ในการปฏิรูปประเทศ (ทั้ง 11 ด้านที่กำหนดไว้) ว่าควรทำด้านไหนอย่างไร
แต่จริง ๆ แล้ว การทำงานของสภาปฏิรูป มีการกำหนดไว้ค่อนข้างชัดเจน ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557
ซึ่งสามารถแยกได้ 3 ด้าน ตามมาตรา 31 ในรัฐธรรมนูญ
โดยภารกิจแรกนั้น ในรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้มากกว่าที่แสดงข้างบน
แต่ในภารกิจที่เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ กลับมีเขียนไว้ค่อนข้างละเอียด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยสรุปก็คือ เมื่อมีการประชุมสภาปฏิรูปครั้งแรก ภายใน 15 วัน ต้องแต่งตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และต้องเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะในการร่างรัฐธรรมนูญ ภายใน 60 วัน
และทางคณะกรรมธิการยกร่างฯ จะต้องร่างรัฐธรรมนูญ ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่ได้รับข้อเสนอ จากสภาปฏิรูป หรือก็คือภายในหกเดือน นับแต่การประชุมสภาปฏิรูปครั้งแรก
ซึ่งถ้าร่างไม่เสร็จ คณะกรรมาธิการยกร่าง ฯ เป็นอันสิ้นสุดลง
สมมติทำเสร็จภายในเวลากำหนด ส่งร่างรัฐธรรมนูญ ให้ สภาปฏิรูปฯพิจารณา ซึ่งต้องพิจารณาให้ขอเสนอแนะ หรือความเห็นเพื่อแก้ไขภายใน 10 วัน และมีเวลาขอยื่นแก้ไข ภายใน 30 วัน นับแต่พิจารณาเสร็จ
แล้วคณะกรรมาธิการยกร่างมีเวลาในการแก้ไข 60 วัน ก่อนส่งให้สภาปฏิรูปพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ถ้าสภาปฏิรูปฯ ไม่ให้ควาาเห็นชอบ สภาปฏิรูปฯ และคณะกรรมาธิการยกร่าง ฯ จะสิ้นสุดลง
เมื่อมีการเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ประธานสภาปฏิรูปจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าภายใน 30 วัน ถ้าไม่พระราชทานคืนมาภายใน 90 วันให้ร่างรธน.ตกไป
ถ้าร่างรธน.ตกไป สภาปฏิรูปฯ และคณะกรรมาธิการยกร่างฯ จะสิ้นสุดลง
แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน หมายความว่า ประเทศไทยน่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เกิดจากสภาปฏิรูป และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่แต่งตั้งโดยสภาปฏิรูปฯ ภายในเวลาประมาณ 1 ปี
และการดำรงอยู่ต่อไป ของสภาปฏิรูปฯ และคณะกรรมธิการยกร่างฯ จะขึ้นอยู่กับว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะกำหนดไว้อย่างไร ให้อยู่ต่อเพื่อร่างกฎหมายลูก และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างไร
ถ้าตีความตามขั้นตอนตามลำดับ จะเห็นว่า สิ่งที่สภาปฏิรูปจะหาคำตอบนั้น ไม่มีทางที่จะไปอยู่ในรัฐธรรมนูญได้ทั้งหมด อาจจะมีบ้าง ในขั้นตอนการแก้ไขหลังจากร่างในรอบแรกเสร็จ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ จะเป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการยกร่าง ไปหาคำตอบกันเอง แล้วร่างกันไป ไม่เกี่ยวกับสภาปฏิรูปเท่าไหร่
แต่การดำรงอยู่ของสภาปฏิรูปฯ กลับต้องยึดติดการการได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในกรอบเวลา
ถ้าไม่สามารถทำคลอดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ในกรอบเวลา สภาปฏิรูปก็จะต้องสิ้นสุดลง แล้วก็ดำเนินกระบวนการตั้งชุดใหม่ เพื่อทำงานตามขั้นตอนอีกรอบ
ถ้าอยากอยู่นานกว่าหนึ่งปี ก็ต้องทำคลอดรัฐธรรมนูญให้ได้ในกรอบเวลา และเนื้อหาในรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องรับรองสถานะของสภาปฏิรูป กำหนดกรอบงานที่ต้องทำ ถ้าแบบนี้ ถึงจะสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง
อ่านไปอ่านมา ก็หมายความว่า ในช่วงเวลาในการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ประเทศไทยคงไม่สามารถหาคำตอบเรื่องการปฏิรูป ผ่านสภาปฏิรูปได้ และถึงได้คำตอบ การทำตามช้อเสนอแนะเหล่านั้น คงขึ้นอยู่กับ สนช. รัฐบาล คสช. จะเห็นด้วยและทำตามหรือไม่
ก็คงไม่ต่างจากในอดีต ที่มีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อหาคำตอบต่าง ๆ แต่เหมือนตั้งมาเพื่อซื้อเวลาให้พ้นไป เพราะเมื่อได้คำตอบมา ก็ไม่สนใจทำตาม
ครั้งนี้สภาปฏิรูป ก็คงเช่นเดียวกัน
ตั้งมาเพื่อซื้อเวลา เป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรม ในการบริหารประเทศรอการปฏิรูป
ถ้ายังบริหารประเทศไม่ได้ผลที่หวัง ก็สามารถต่อเวลาได้ ด้วยการร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จ ก็จะได้รับการต่อเวลาไปเรื่อย ๆ ไม่จำกัด
ก็คงเป็นข้อสรุปที่ว่า สภาปฏิรูปฯ ตั้งมาเพื่อใคร
_____________________________________
ปล.หวังว่า กระทู้นี้ จะสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ และในภาคต่อไป จะได้ลงรายละเอียด ในการพูดถึงการปฏิรูปด้านต่าง ๆ
เพราะถึงแม้คาดหวังไม่ได้ แต่ก็คิดว่า เมื่อมีการพูดถึงการปฏิรูป ก็ควรมีส่วนร่วมเสนอบ้าง เพราะยังไงการแก้ไขปรับปรุง ก็ดีกว่า การทำตามแบบเดิม ๆ ที่ไม่ค่อยดีไปเรื่อย ๆ
แต่ถ้ากระทู้นี้ถูกลบ ก็คงต้องรออีกสักพัก รอจนแน่ใจว่า สามารถตั้งได้ ค่อยตั้งกระทู้ในเรื่องการปฏิรูป เพราะตั้งไปคนอื่นไม่ได้อ่าน ก็คงเสียเวลานั่งพิมพ์