อย่าให้มันเบียดเบียนตนเองและเบียดเบียนผู้อื่น





เรื่องสมมุติกับวิมุตติมันก็เกี่ยวข้องกันอย่างนี้เรื่อยไป
ฉะนั้น ถ้าหากว่าใช้สมมุติอันนี้อยู่อย่าไปวางอกวางใจว่ามันเป็นของจริง จริงโดยสมมุติเท่านั้น
ถ้าเราไปยึดมั่นหมายมั่นก็เกิดทุกข์ขึ้นมา เพราะเราไม่รู้เรื่องอันนี้ตามเป็นจริงเรื่องมันจะถูกจะผิดก็เหมือนกัน


บางคนก็เห็นผิดเป็นถูกเห็นถูกเป็นผิด  เรื่องผิดเรื่องถูกไม่รู้ว่าเป็นของใคร
ต่างคนต่างก็สมมุติขึ้นมาว่าถูกว่าผิดอย่างนี้แหละเรื่องทุกเรื่องก็ควรให้รู้
พระพุทธเจ้าท่านกลัวว่ามันจะเป็นทุกข์ ถ้าหากว่าถกเถียงกันเรื่องทั้งหลายเหล่านี้มันจบไม่เป็น
คนหนึ่งว่าถูกคนหนึ่งว่าผิดคนหนึ่งว่าผิดคนหนึ่งว่าถูกอย่างนี้


แต่ความจริงแล้วเรื่องถูกเรื่องผิดนั้นน่ะเราไม่รู้จัก เลยเอาแต่ว่าให้เรารู้จักใช้ให้มันสบาย
ทำการงานให้ถูกต้องอย่าให้มันเบียดเบียนตนเองและเบียดเบียนผู้อื่น
ให้มันเป็นกลางๆไปอย่างนี้มันก็สำเร็จประโยชน์ของเรา


รวมแล้วส่วนสมมุติก็ดีส่วนวิมุตติก็ดีล้วนแต่เป็นธรรมะแต่ว่ามันเป็นของยิ่งหย่อนกว่ากัน
แต่มันก็เป็นไวพจน์ซึ่งกันและกัน  เราจะรับรองแน่นอนว่าอันนี้ให้เป็นอันนี้จริงๆอย่างนั้นไม่ได้


ฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านจึงให้วางไว้ว่า "มันไม่แน่"
ถึงจะชอบมากแค่ไหนก็ให้รู้ว่ามันไม่แน่นอน
ถึงจะไม่ชอบมากแค่ไหนก็ให้เข้าใจว่าอันนี้ไม่แน่นอน
มันก็ไม่แน่นอนอย่างนั้นจริง ๆ แล้วปฏิบัติจนเป็นธรรมะ



-----------------------------------------------------------
บางส่วนจาก สมมุติ วิมุตติ - หลวงปู่ชา สุภัทโท
จากหนังสือ นอกเหตุเหนือผล
http://anuchah.com/convention-liberation/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่