ตอนเด็กๆ เราไม่กินปลาร้าตามแม่ แม่เราทำกับข้าวที่ใส่ปลาร้าแบบภาคกลางให้คนอื่นกินได้นะคะ แต่แม่ไม่กิน
อาจจะเพราะกลิ่น เพราะปลาธรรมดาแม่ก็ไม่ค่อยกิน จะกินได้แต่ปลาทอดกรอบๆ พึ่งมายอมกินปลาอื่น ไม่กี่ปีนี้เอง
เพราะว่าไปเที่ยวเมืองกาญกัน แล้วได้ปลาสดๆ มาทำอาหาร กลิ่นมันคาวน้อยมาก แม่เลยกินได้อย่างอร่อย
ส่วนทางบ้านพ่อเรา ย่า อา ก็กินกัน ( นครสวรรค์ )
ปู่เราชอบตกปลา ย่าเราก็เลยหมักปลาร้ากินเอง
บริเวณบ้านย่า มุมนึงของบ้าน จะมีกระท่อมไว้ ข้างในมีไหที่หมักปลาร้า เวลาเราเดินผ่าน ก็มีกลิ่นเค็มๆ เราก็ยิ่งยี้ปลาร้าใหญ่เลย
กับข้าวที่ย่าทำ เป็นแบบภาคกลาง มีหลนปลาร้า, ปลาร้าต้ม อะไรอย่างนั้นเป็นปลาร้าที่สุกแล้ว
( ปลาร้าเป็นแบบไหน เราก็ไม่เคยเห็นหน้าตา แค่พูดถึงเราก็ยี้แล้ว )
ตอนเข้าเรียนปวช. รับน้องรุ่นพี่แกล้งเพื่อนเรา ปลาร้าติดผม กลิ่นแรงมาก น่าสงสาร เราก็ยิ่งแหยง
รู้แต่มันดำๆ เหม็นๆ
ระหว่างที่เราเรียนอยู่นั้น แม่เราจับผลัดจับผลูไปเซ้งร้านขายปลาร้า
ที่ร้านมีปลาร้าที่ขายอยู่ 6 - 7 อย่าง
พอเราเรียนหนังสือจบ ช่วงว่างงาน แม่ก็ชวนเราไปขายด้วย
ไปแรกๆ เหงื่อแตกเลย เจอกลิ่นปลาร้าโหน่งเข้าไป ( ปลาร้าโหน่งเป็นปลาร้าเหม็นๆ ของอีสาน สีเทาๆ ที่ทำมาจากปลาทะเล )
แม่เล่าว่าวันแรกๆ แม่ก็แทบไม่ไหว แทบจะเป็นลมเลย
และเราก็พึ่งรู้ว่า ปลาร้าภาคกลาง ที่เขาหมักใส่ข้าวคั่ว อย่างปลากระดี่ ปลาสร้อย เวลาหมักเสร็จได้ที่แล้วไม่ได้เหม็นเลย หอมกลิ่นข้าวคั่ว
ปลาร้ารำ แบบอีสานสีน้ำตาล ก็กลิ่นไม่แรง แต่ถ้ายืนขายหลายๆ ชม.นี่กลิ่นติดเสื้อผ้าได้ทนนานมาก ยิ่งถ้าเปื้อนเสื้อผ้านี่ กลับบ้านต้องรีบถอดออก
แม้รู้จักปลาร้าหลายอย่างแล้ว เราก็ยังไม่กินปลาร้าอยู่ดี แม่ก็ไม่กิน
ใจเราก็คิดไป กลัวว่าลูกค้าบางคนจะกลัวว่าไม่สะอาดหรือเปล่านะ คนขายถึงไม่กินกัน
จนวันนึง แม่เอาปลาร้าปลานิลมาขาย
ระหว่างลูกค้ารอเอาใส่ถุงให้ เราแอบเห็นเขากลืนน้ำลายอยู่หลายคน ก็เลยข้องใจ
ก็เลยถามลูกค้าประจำว่า "เอาไปทำอะไรกินเหรอคะ"
ลูกค้าก็บอกว่า " เจียวหอม ทอดพริกรอไว้ แล้วเอาปลาลงไปทอด ถ้าชอบเปรี้ยวก็บีบมะนาวใส่ กินกับข้าวร้อนๆ ว่าแล้วน้ำลายแตก "
เราก็อ๋อ กินสุก เราก็น่าจะกินได้นะ เพราะเมื่อก่อนไม่กินของดิบเลย ยกเว้นปูเค็ม
กลับบ้านมาก็เลยเอาปลานิลตัวเล็กลองทำดู อร่อยมากกกกกกกกกกกก
อร่อยกว่ากินปลาเค็มเสียอีก มันมีกลิ่นเฉพาะหอมขึ้นจมูก
ก็เลยเป็นปลาร้าแบบเดียวที่กินได้ตอนนั้น
แต่เดี๋ยวนี้แม่ไม่ได้ขายปลาร้าปลานิลแล้วนะคะ
หาซื้อก็ยาก แถวบ้านไม่ค่อยมีขาย ส่วนใหญ่คนนิยมกินปลาช่อนมากกว่า
เราเคยชิมแล้วเราไม่ชอบ
เคยได้กินแค่ 2 ครั้ง หลังจากนั้นไม่ได้กินหลายปีแล้ว จนเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ไปเดินห้างแล้วเจอ เลยจัดมาให้หายอยาก
แต่เราว่าตัวมันใหญ่ไปหน่อย รู้สึกไม่อร่อยเหมือนตอนนั้นเลย
กินไปได้แค่ครึ่งตัว ประจวบเหมาะกับวันนั้นไมเกรนขึ้น อาเจียนมาก เลยจำต้องทิ้งไป นึกเสียดายเหมือนกัน
แต่คงไม่อยากอีกนาน
ไว้มาต่อนะคะ ขอดูเดอะวอยซ์ก่อน
ชอบกินปลาร้าแบบไหนกันคะ มาเม้าท์กัน
อาจจะเพราะกลิ่น เพราะปลาธรรมดาแม่ก็ไม่ค่อยกิน จะกินได้แต่ปลาทอดกรอบๆ พึ่งมายอมกินปลาอื่น ไม่กี่ปีนี้เอง
เพราะว่าไปเที่ยวเมืองกาญกัน แล้วได้ปลาสดๆ มาทำอาหาร กลิ่นมันคาวน้อยมาก แม่เลยกินได้อย่างอร่อย
ส่วนทางบ้านพ่อเรา ย่า อา ก็กินกัน ( นครสวรรค์ )
ปู่เราชอบตกปลา ย่าเราก็เลยหมักปลาร้ากินเอง
บริเวณบ้านย่า มุมนึงของบ้าน จะมีกระท่อมไว้ ข้างในมีไหที่หมักปลาร้า เวลาเราเดินผ่าน ก็มีกลิ่นเค็มๆ เราก็ยิ่งยี้ปลาร้าใหญ่เลย
กับข้าวที่ย่าทำ เป็นแบบภาคกลาง มีหลนปลาร้า, ปลาร้าต้ม อะไรอย่างนั้นเป็นปลาร้าที่สุกแล้ว
( ปลาร้าเป็นแบบไหน เราก็ไม่เคยเห็นหน้าตา แค่พูดถึงเราก็ยี้แล้ว )
ตอนเข้าเรียนปวช. รับน้องรุ่นพี่แกล้งเพื่อนเรา ปลาร้าติดผม กลิ่นแรงมาก น่าสงสาร เราก็ยิ่งแหยง
รู้แต่มันดำๆ เหม็นๆ
ระหว่างที่เราเรียนอยู่นั้น แม่เราจับผลัดจับผลูไปเซ้งร้านขายปลาร้า
ที่ร้านมีปลาร้าที่ขายอยู่ 6 - 7 อย่าง
พอเราเรียนหนังสือจบ ช่วงว่างงาน แม่ก็ชวนเราไปขายด้วย
ไปแรกๆ เหงื่อแตกเลย เจอกลิ่นปลาร้าโหน่งเข้าไป ( ปลาร้าโหน่งเป็นปลาร้าเหม็นๆ ของอีสาน สีเทาๆ ที่ทำมาจากปลาทะเล )
แม่เล่าว่าวันแรกๆ แม่ก็แทบไม่ไหว แทบจะเป็นลมเลย
และเราก็พึ่งรู้ว่า ปลาร้าภาคกลาง ที่เขาหมักใส่ข้าวคั่ว อย่างปลากระดี่ ปลาสร้อย เวลาหมักเสร็จได้ที่แล้วไม่ได้เหม็นเลย หอมกลิ่นข้าวคั่ว
ปลาร้ารำ แบบอีสานสีน้ำตาล ก็กลิ่นไม่แรง แต่ถ้ายืนขายหลายๆ ชม.นี่กลิ่นติดเสื้อผ้าได้ทนนานมาก ยิ่งถ้าเปื้อนเสื้อผ้านี่ กลับบ้านต้องรีบถอดออก
แม้รู้จักปลาร้าหลายอย่างแล้ว เราก็ยังไม่กินปลาร้าอยู่ดี แม่ก็ไม่กิน
ใจเราก็คิดไป กลัวว่าลูกค้าบางคนจะกลัวว่าไม่สะอาดหรือเปล่านะ คนขายถึงไม่กินกัน
จนวันนึง แม่เอาปลาร้าปลานิลมาขาย
ระหว่างลูกค้ารอเอาใส่ถุงให้ เราแอบเห็นเขากลืนน้ำลายอยู่หลายคน ก็เลยข้องใจ
ก็เลยถามลูกค้าประจำว่า "เอาไปทำอะไรกินเหรอคะ"
ลูกค้าก็บอกว่า " เจียวหอม ทอดพริกรอไว้ แล้วเอาปลาลงไปทอด ถ้าชอบเปรี้ยวก็บีบมะนาวใส่ กินกับข้าวร้อนๆ ว่าแล้วน้ำลายแตก "
เราก็อ๋อ กินสุก เราก็น่าจะกินได้นะ เพราะเมื่อก่อนไม่กินของดิบเลย ยกเว้นปูเค็ม
กลับบ้านมาก็เลยเอาปลานิลตัวเล็กลองทำดู อร่อยมากกกกกกกกกกกก
อร่อยกว่ากินปลาเค็มเสียอีก มันมีกลิ่นเฉพาะหอมขึ้นจมูก
ก็เลยเป็นปลาร้าแบบเดียวที่กินได้ตอนนั้น
แต่เดี๋ยวนี้แม่ไม่ได้ขายปลาร้าปลานิลแล้วนะคะ
หาซื้อก็ยาก แถวบ้านไม่ค่อยมีขาย ส่วนใหญ่คนนิยมกินปลาช่อนมากกว่า
เราเคยชิมแล้วเราไม่ชอบ
เคยได้กินแค่ 2 ครั้ง หลังจากนั้นไม่ได้กินหลายปีแล้ว จนเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ไปเดินห้างแล้วเจอ เลยจัดมาให้หายอยาก
แต่เราว่าตัวมันใหญ่ไปหน่อย รู้สึกไม่อร่อยเหมือนตอนนั้นเลย
กินไปได้แค่ครึ่งตัว ประจวบเหมาะกับวันนั้นไมเกรนขึ้น อาเจียนมาก เลยจำต้องทิ้งไป นึกเสียดายเหมือนกัน
แต่คงไม่อยากอีกนาน
ไว้มาต่อนะคะ ขอดูเดอะวอยซ์ก่อน