20 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก กับ "โลกของแพะ"

กระทู้สนทนา
หัวเราะ

มิถุนายน 2537
หล่อไม่เท่าวันนี้   แต่มีความทรงจำที่น่าหมั่นไส้มาเล่าให้ฟังครับ

ตอนนั้น  หลังเลิกเรียน  เพื่อน ๆ ก็จะกลับบ้านกันทันที  มีแต่ผมคนเดียวที่อ้อยอิ่งไปพิงพักที่ห้องสมุด

ผมสูบบุหรี่ไม่เป็น  จึงไร้กลิ่นปลอดควันยามเข้าไปซุกเงียบที่มุมใดมุมหนึ่งในห้องสมุด
บางวันก็แอบพก "แม่โขง" กลม กับจอกใบน้อยเข้าไปด้วย   เป็นคู่หูกันสามสิ่ง
คือ  หล่อ  เหล้า  จอก

ก็ค่อยรินไป  ซดไป  อ่านหนังสือไป   เงียบ ๆ  คนเดียว
ห้องสมุดปิดสองสามทุ่ม   ก็พอดีกรึ่ม ๆ    เซกลับ   หรือบางคืนก็นอนกับกองหนังสือซะ  เพราะเมาได้ที่

สุขล้น



มีวันหนึ่ง   จำได้ว่าเป็นวันพฤหัส
ผมนึกไงไม่รู้   อยากลองของ    ก็หลังจากห้องสมุดปิดแล้วครับ   แต่ผมยังไม่กลับ  กำลังได้ที่งาม ๆ เลยทีเดียว
วันนั้นคิดว่า  สิ่งที่มีในหัวนี่   จะถ่ายทอดออกมาได้ไหม   ออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร

ราว ๆ สี่ทุ่มคืนนั้น   ผมก็หยิบกระดาษยัดใส่เครื่องพิมพ์ดีด
ลงมือพิมพ์สิ่งที่อยู่ในหัวออกมาทันที
ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง   ต๊อกแต๊ก ๆ  ไปได้สั้น ๆ แค่สองหน้าครึ่งกระดาษ A 4
ก็จบเรื่อง

ไม่ทวน  ไม่ขัดไม่เกลามันล่ะ
พับยัดใส่ซองจดหมายทันที    ส่งไปที่สยามรัฐสปัดาหวิจารณ์

ศุกร์ถัดมา   ที่เป็นวันวางแผงของสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์   
ก็มีเรื่องสั้นตีพิมพ์ในสัปดาหวิจารณ์ฉบับนั้น  ชื่อเรื่อง "โลกของแพะ"
ตรงตามคำที่ว่า  เรื่องสั้นดีไม่มีคิว  ตีพิมพ์เลย



เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเมือง  สังคม   สั้น ๆ แบบที่เรียกว่า  short-short story

ในมุมมองของผมตอนนั้น  ผมมองแต่ว่า  ไอ้พวกนักการเมืองนี่แหละมันตัวร้าย
ประชาชนคือ "แพะ" ตลอดกาล
ผมก็ถ่ายทอดความนึกคิดออกมาเป็นตัวหนังสือ

ผ่านมายี่สิบปี
ผมถึงมองกว้างขึ้น  ลึกขึ้น  เห็นว่า  ไม่ใช่แค่นักการเมือง  แต่มันหนักและเลวกว่านักการเมืองยิ่งนัก


ไม่ว่าจะอำนาจนอกระบบที่เราไม่สามารถทำอะไรได้
ไม่ว่าจะเป็นระบบราชการที่ครึ่ำครึ  ศักดินา  โกงกินทุกระดับ  ทุกเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ทำบุญเอาหน้า  
แต่สมรู้ร่วมคิดกับบนักการเมืองและข้าราชการสวามปามผลประโยชน์ในบ้านเมืองพุงกาง  หนีภาษีมากกว่าบริจาค  
แอบอิงอำนาจนอกระบบเป็นเกราะป้องกันตัว  สร้างภาพสวยหรูแต่ไม่เคยอิ่มกับผลประโยชน์ที่ได้
                                                               
                                                                 ฯลฯ



ยี่สิบปีผ่านไป
แพะก็ยังเป็นแพะ    เพียงแต่แพะหูตากว้างขึ้น  เห็นว่าไม่ใช่มีแค่นักการเมืองเท่านั้น

ก็อย่างที่เห็น ๆ กันอยู่วันนี้แหละครับ
ว่า "คนดี" นี่   up pee กว่านักการเมืองหลายเท่า




ก็ละเมอไปงั้นแหละครับ
อยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับ "แพะ" ที่เป็น talk of the town อยู่ในตอนนี้ก็ไม่กล้าเขียน
เพราะโดนแน่

เลยเอามัน "โลกของแพะ" มาตั้งทู้เล่นซะเลย

ใครหลงเชื่อก็ช่วยไม่ได้


มีไรไหมครับ wm
ชิ
อมยิ้ม06
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่