มาระบายความติ่งของคุณสามีให้ฟังกันค่ะ (ฮา)
เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไป #sneakpeak
ดูภาพยนตร์ปฐมทัศน์ของซีรีส์ Star Wars Rebels ซึ่งกำลังจ่อคิวรอฉาย
4 ตุลาคม สำหรับ Star Wars Rebels Special ทางช่อง Disney Channel เวลา 10 โมงเช้า
ส่วนช่อง Disney XD จะนำมาฉายในวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 8 โมงเช้า
อาห์... นี่มันเวลาการ์ตูนคุณหนูชัดๆ ป้าไม่ตื่นเช้าขนาดนั้นหรอกนะลูก //เบ้ปาก



ภายในงานเปิดตัวจัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์ SF ที่ Central World
กิจกรรมมีทั้งบูธแต่งหน้า ยิงปืน(อารมณ์งานวัดมากอะ ฮาา) ติดแทตทู
ถ่ายภาพคู่กับเหล่า Storm Trooper และแบคดรอปสวยๆงามๆในงานมากมาย
สำหรับตัวงานถือว่าทำออกมาได้ดีค่ะ สามีเพลิดเพลิน ลูกชายมีความสุข
อาหารการกินไม่ขาดตกบกพร่อง น้ำและป๊อปคอร์นตลอดการรับชม
ขุ่นแม่ก็เป็นปลื้ม แถมได้ของพรีเมี่ยมหอบกลับบ้านอีกสองถุงใหญ่



สำหรับตอนที่ได้ชมเป็นตอนสเปเชียลนะคะ คือเป็นการบอกเล่าที่มาของตัวเอก
Ezra ก่อนที่นางจะมาเข้าร่วมกลุ่มกับกลุ่มกบฎบนยานโกสต์



ส่วนตอนแรกของซีรีส์จะเริ่มฉายจริงๆในเดือนพฤศจิกายน
วันที่ 29 เวลาบ่ายโมงทางดิสนีย์แชนแนล (True Vision ch.447)
วันที่ 30 เวลา 8.30 ทางช่อง Disney XD (True Vision ch.129)

ครอบครัวของชั้นมีโกล์ดแพคเกจเลยไม่มีปัญหากับการรับชมแต่อย่างใด
มีปัญหาแค่เวลาฉาย... ถ้าหนูจะฉายเวลางี้แม่ไปหาซื้อดีวีดีสะสมดีกว่าข่า //โบกมือ


มาเท้าความกันก่อนดีกว่า
จากภาพยนตร์สุดอมตะอภิมหากาพย์อย่าง Star Wars ทั้ง 6 ภาค
สู่แอนิเมชั่นซีรีส์ ที่สร้างมาเพื่อสนองติ่งสตาร์วอร์สทั้งหลายอย่างเราๆ (ฮา)
พูดถึงตัวแอนิเมชั่นซีรีส์ก่อนหน้านี้สมัยที่ Lucas Film ยังไม่โดนเทคโอเวอร์มี...


picture credit to: wikipedia

Star Wars: Clone Wars (TV 2003) สมัยลุงจอร์จยังเป็นคนเขียนบทอยู่
ความยาวตอนนึงไม่กี่นาที ทำออกมาได้สนุกมากกกกกก
จนขุ่นสามีของเดี๊ยนถึงกับอุทานว่า "Woooowwww"
กล่าวคือตอนสุดท้ายของซีรีส์นี้เชื่อมกับ Revenge of the Sith
ชนิดที่ว่าจบตอนสุดท้ายปุ๊บ ฉากแรกของภาค 3 จะมาเชื่อมต่อกันอย่างพอดิบพอดี

ฟีดแบคของภาคนี้ดีดี๊ดีมากจนถึงกับต้องจับมาทำเป็นแอนิเมชั่น 3D
ที่มีชื่อว่า Star Wars: The Clone Wars (Film/TV 2008)

picture credit to: joblo.com

ซึ่งทั้งสองภาคมี Timeline อยู่ในช่วงระหว่าง Attack of The Clones และ
Revenge of the Sith แต่ภาค 3D ทำออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ขุ่นสามีถึงกับเบ้ปากแล้วกลอกตาเป็นเลขแปด
นางบอกว่าภาคนี้อนาคินมีลูกศิษย์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนังภาคที่เหลือ
เลยรู้สึกเป็นการทำแฟรนไชส์เพื่อการค้ามากไป ไม่ได้ให้ Pleasure กับ "ติ่ง" ของหนังอย่างนาง

พอมาถึง Star Wars Rebels ตัวนี้ที่โดนดิสนีย์เทคโอเวอร์ไปเรียบร้อยโรงเรียนหนัง
ทีมผู้สร้างชุดนี้เลยไม่มีชื่อลองลุงจอร์จ ลูคัสอยู่ในนั้น
เว้นแต่ในเครดิตว่าเค้าโครงเรื่อง Based on "Star Wars" โดย จอร์จ ลูคัส
//มโนภาพลุงลูคัสนั่งปาดน้ำตาอยู่คนเดียวเงียบๆ

แต่ในทีมผู้อำรวยการสร้างก็ยังมีเดฟ ฟิโลนี่
ผู้ที่ได้รับเลือกให้ควบคุมการกำกับแอนิเมชั่นตัวเก่าอย่าง Star Wars: The Clone Wars
อยู่ในทีมด้วย... ข่ะ ตัวที่อิชั้นเพิ่งเมนชั่นไปว่าสามีไม่ปลื้มน่ะแหละ (ฮาา)

ใน Star Wars Rebels จะอยู่ในช่วงเวลาที่เป็นรอยต่อระหว่างภาค 3 กับ 4



ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจทีเดียวเพราะ Prequal ทั้ง สามภาค ที่คนรุ่นใหม่รู้จัก
กับ Trilogy สุดคลาสสิกที่รุ่นพ่อแม่ปู่ย่าเราโตมากับมัน
แล้วตัวนี้สามารถเป็นตัว "เติมเต็ม" ให้กับคนทุกรุ่น
ให้กลายเป็นการ์ตูนซีรีส์ที่สามารถดูกันได้ทั้งครอบครัว
โอววว นายแน่มาก //ปรบมือให้ทีมดิสนีย์รัวๆ



รีวิว: มาเริ่มจากแนะนำตัวละครหลักทั้ง 6 กันก่อนดีกว่า จากซ้ายไปขวา



สาวติสท์ผมสั้น-ซาบีน นางเป็นศิลปินกราฟิตี้ที่ชื่นชอบการระเบิดสิ่งต่างๆ
แล้วก็ชอบพ่นสีฝากผลงานไว้ตามฝาผนังเวลาระเบิดข้าวของ

หุ่นกระป๋อง-ช็อปเปอร์ เป็นตัวละครต้นแบบของ R2D2 แต่นางจะมีนิสัยกวนทีน แสบสันต์
เป็นหุ่นที่ขี้เกียจและเอาแต่ใจ ฟีลเหมือนอีกขั้วนึงของ R2D2 เลยล่ะ

คาวบอยเจได-เคนัน สลัดเสื้อคลุมเจได้ทิ้งไปแทนที่ด้วยเสื้อเกราะกับซองปืนหนัง
เขาคือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากการกวาดล้างเจไดโดยฝ่ายจักรวรรดิ เป็นอาจารย์ของเอซร่า

โจรผมน้ำเงิน-เอซร่า เป็นโจรหนุ่มที่มีไหวพริบดี จิตใจดี และเป็น Force Sensitive
คือมีคุณสมบัติที่จะเป็นเจได เลยโดนเคนันทาบทามให้มาเป็นลูกศิษย์

วูกกี้พันธ์ไร้ขน-เซ็บ คือจริงๆคาแรกเตอร์นี้เป็นต้นแบบของพวกวูกกี้ขนฟูจริงๆนะ(แอบฮา)
นางเป็นพวกอารมณ์ร้อน บ้าพลัง กล้ามโต แรกๆไม่ถูกกับเอซร่า อนาคตต้องดูกันต่อไป

นักบินสาวผิวเขียว-เฮร่า เป็นคนอบอุ่น อ่อนโยน ดูแล้วเหมือนเป็น "แม่" ของทุกคนเลยอะ
มีพรสวรรค์ด้านการขับขี่ยานบินขั้นสูงถึงสูงมาก และเป็นคนเดียวที่ฟังช็อปเปอร์รู้เรื่อง

โดยรวมถือว่าดิสนีย์ทำดีนะในภาคนี้ รายละเอียดของตัวละครมันมี Nostalgia
ที่ทำให้ลิงค์ไปยังหนังสตาร์วอร์สภาคที่เราได้ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นพวกวูกี้ หุ่นยนต์ที่ทำให้นึกถึง R2D2
หรือแม้กระทั่งการปรากฎตัวของโอบีวัน เคโนบี
กลุ่มฮีโร่ของภาคนี้เป็นการรวมตัวที่ค่อนข้างลงตัวและมีสีสันดีในความคิดเรา
และลักษณะของทุกคนมันสามารถเชื่อมกับบุคลิกของใครก็ได้
ทำให้ทุกคนสามารถสนุกไปกับการ์ตูนเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

เสียดายที่ได้ดูเป็นพากย์ไทย ขัดใจกับการแปล Light Saber = กระบี่แสง มากกก
//ล้มโต๊ะ!!
คือฟีลเหมือนแปลไอ้ Joy Stick = แท่งหรรษา อะไรประมาณนั้นน่ะ
คำไหนทับศัพท์ได้ก็ทับไปเถิด อย่าไปลำบากแปลมันเลยจะด้ายหมายยย (ร้องไห้)

ชอบบทพูดของตัวละคร คือฮาดี ไม่หน่อมแน้มนุ้งนิ้ง ดูเอามันส์ได้เพลินๆ
แต่บางทีก็แอบติดใจเหมือนกันนะ สปอยล์นิดนึงละกัน
ในตอนสเปเชียลจะมีชอทนึงที่โหวตกันว่าจะไปช่วยเอซร่ากลับมาหรือไม่
เฮร่าฟังช็อปเปอร์ออกอยู่คนเดียว ละบอกว่าช็อปเปอร์เห็นด้วยกับนาง
อิชั้นก็แอบเอ๊ะในใจ ถ้าช็อปเปอร์เห็นต่างละเฮร่าโม้ล่ะ?
ก็ไม่มีใครรู้อะดิ? เลยแบบ ว้อททททท???
(แต่จริงๆถ้าเฮร่าโม้ ช็อปเปอร์ก็อาจจะโวยวายก็ได้นะ ก็มีความเห็นต่างมุม)

ถามว่าดีมั๊ยบอกเลยว่าดีค่ะ ดูได้ไม่รู้สึกเสียดายเวลา 1 ชั่วโมงที่เสียไป
นับว่าเป็นการตลาดที่เจ๋งมากสำหรับดิสนีย์ที่ปล่อยซีรีส์นี้มารอ Episode VII
แต่ถามว่าจะถึงขั้นที่ขุ่นแม่จะมานั่งรอดูทางช่องทุกตอนเลยมั๊ย ก็ขอตอบว่าไม่นะ...
อยากรอเก็บเป็น Box Set ทีเดียวมากกว่า
ชีวิตสาวออฟฟิศมันไม่สามารถมาเนิร์ดเฝ้าทีวีได้น่ะเธอว์...

ใครที่ได้ดูตอนสเปเชียลแล้วคิดเห็นยังไงมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครัช
สำหรับวันนี้ขอบคุณทุกคนเลยที่อ่านกันจนจบ
บล๊ายยย ^____^

Disclaimer: โพสนี้เกิดจากความคิดเห็นของขุ่นสามีล้วนๆ(ฮา) มีของอิชั้นเป็นส่วนเสริมเติมแต่ง ที่ได้ไปดูเป็นรอบสื่อฟรีทั้งงาน แต่ทางเจ้าของงานไม่ได้มีผลใดๆต่อเนื้อหาในโพสนี้ยกเว้นภาพประกอบค่ะ //กราบชาบูชาบู