ปิดฉากไปแล้วกับพิธีปิดการแข่งขัน ASIAN GAMES ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมใจของแต่ละชาติในเอเชีย
มีทั้งฉากสนุก สุดซึ้ง หรือแม้กระทั่งฉากดราม่า ควันออกหู
แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ นี่คือการแข่งขันกีฬาที่ย่อมมีแพ้มีชนะ
และนักกีฬารวมไปถึงคนเชียร์ก็ต้องรู้จักการให้อภัยด้วยจ้า
มาดูพิธีปิดการแข่งขันครั้งนี้กันดีกว่าว่าจะมีไฮไลท์อะไรเด็ดๆบ้าง
เปิดมาช่วงแรกด้วยการโชว์ศิลปะการร่ายรำประจำชาติเกาหลี
ที่อ่อนช้อยและงดงาม ชุด ซุนซังวา และ โซโก้แดนซ์ ซึ่งเป็นการร่ายรำประกอบการตีกลองขนาดเล็ก
จากนั้นจึงเป็นการแสดงเทควันโดจากนักแสดงเทคควันโดกว่า 100 คน
ซึ่งกีฬาชนิดนี้ถือว่าเป็นกีฬาประจำชาติ ที่คนเกาหลีภาคภูมิใจ
ถัดมาขบวนธงก็เริ่มเดินเข้าสู่สนาม โดยมีธงของเจ้าภาพเข้ามาก่อน
ซึ่งมีผู้ที่ได้เหรียญทองจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นผู้เชิญธงเข้าสู่สนาม
และร่วมร้องเพลงชาติเกาหลีโดยนักร้องโซปราโน อิมซุนเฮ
จากนั้นก็เป็นการโชว์กลองประจำชาติเกาหลีใต้ เพื่อต้อนรับนักกีฬาจาก 45 ชาติเดินเข้าสู่สนามร่วมกัน
แบบไม่แบ่งชาติ เพราะหลังจากแข่งขันเสร็จแล้ว พวกเราทุกคนคือ “เพื่อน” กัน สมกับคอนเซป ONE ASIA
ซึ่งไฮไลท์สุดๆที่ทุกคนรอคอยคือการแสดงจากศิลปิน K-POP ชื่อดัง CN BLUE
ที่มาร้องเพลง I’m Sorry และ Can’t Stop
พร้อมบรรยากาศเบื้องหลังการแข่งขันทั้งทีมงาน สต๊าฟโค้ช และทุกๆคนที่ทำให้การแข่งขันในครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยดี
ในชื่อชุด Behind the Scene
ถัดจากนั้นเป็นการประกาศรางวัล SAMSUNG MVP AWARD
เพื่อมอบรางวัลให้กับนักกีฬาที่เก่งและโดดเด่นที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งมีผู้ถูกเสนอให้ชิงรางวัล 8 คน
1 ในนั้นก็มีนักกีฬาไทยด้วยคือ สุริยัน เป๊ะชาญ นักกีฬาเซปักตระกร้อทีมชาติไทย
ซึ่งผู้ที่ได้คือ ทาเคโนะ เคสุเกะ นักกีฬาว่ายน้ำจากญี่ปุ่น
หลังจากนั้น ชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัลซาบาห์ ประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)
ได้ออกมากล่าวขอบคุณนักกีฬา ทีมงานและผู้ชมทุกคนในการแข่งขันครั้งนี้
และขอปิดการแข่งขันครั้งนี้อย่างเป็นทางการ
และส่งไม้ต่อให้กับเจ้าภาพในครั้งต่อไป “อินโดนีเซีย”
หลังจากแนะนำประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้มีโชว์เรียกน้ำย่อยเล็กๆน้อยๆ จากว่าที่เจ้าภาพ
ก่อนที่จะไปเจอของจริงในอีก 4 ปีข้างหน้า
ช่วงสำคัญช่วงสุดท้ายคือการดับไฟ ASIAN GAMES ที่เปิดฉากด้วยการแสดงประจำชาติแบบเกาหลีโบราณ
แสดงให้เห็นถึงการมีอิสระ สงบสุข และชีวิตที่เป็นนิรันดร์ ดั่งนกที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอินชอน
หลังจากไฟประจำการแข่งขันดับลง ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงที่หลายคนรอคอย
กับคอนเสิร์ตจากวง BIG BANG ซึ่งมาร้อง 3 เพลง ก่อนที่พิธีปิดการแข่งขันจะจบลง…
เจอกันใหม่ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียในปี 2018


ปิดแล้วจ้า ASIAN GAMES 2014 ใครพลาดถ่ายทอด ดูกระทู้นี้รู้เรื่อง!!!
ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมใจของแต่ละชาติในเอเชีย
มีทั้งฉากสนุก สุดซึ้ง หรือแม้กระทั่งฉากดราม่า ควันออกหู
แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ นี่คือการแข่งขันกีฬาที่ย่อมมีแพ้มีชนะ
และนักกีฬารวมไปถึงคนเชียร์ก็ต้องรู้จักการให้อภัยด้วยจ้า
มาดูพิธีปิดการแข่งขันครั้งนี้กันดีกว่าว่าจะมีไฮไลท์อะไรเด็ดๆบ้าง
ที่อ่อนช้อยและงดงาม ชุด ซุนซังวา และ โซโก้แดนซ์ ซึ่งเป็นการร่ายรำประกอบการตีกลองขนาดเล็ก
จากนั้นจึงเป็นการแสดงเทควันโดจากนักแสดงเทคควันโดกว่า 100 คน
ซึ่งกีฬาชนิดนี้ถือว่าเป็นกีฬาประจำชาติ ที่คนเกาหลีภาคภูมิใจ
ถัดมาขบวนธงก็เริ่มเดินเข้าสู่สนาม โดยมีธงของเจ้าภาพเข้ามาก่อน
ซึ่งมีผู้ที่ได้เหรียญทองจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นผู้เชิญธงเข้าสู่สนาม
และร่วมร้องเพลงชาติเกาหลีโดยนักร้องโซปราโน อิมซุนเฮ
จากนั้นก็เป็นการโชว์กลองประจำชาติเกาหลีใต้ เพื่อต้อนรับนักกีฬาจาก 45 ชาติเดินเข้าสู่สนามร่วมกัน
แบบไม่แบ่งชาติ เพราะหลังจากแข่งขันเสร็จแล้ว พวกเราทุกคนคือ “เพื่อน” กัน สมกับคอนเซป ONE ASIA
ซึ่งไฮไลท์สุดๆที่ทุกคนรอคอยคือการแสดงจากศิลปิน K-POP ชื่อดัง CN BLUE
ที่มาร้องเพลง I’m Sorry และ Can’t Stop
พร้อมบรรยากาศเบื้องหลังการแข่งขันทั้งทีมงาน สต๊าฟโค้ช และทุกๆคนที่ทำให้การแข่งขันในครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยดี
ในชื่อชุด Behind the Scene
ถัดจากนั้นเป็นการประกาศรางวัล SAMSUNG MVP AWARD
เพื่อมอบรางวัลให้กับนักกีฬาที่เก่งและโดดเด่นที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งมีผู้ถูกเสนอให้ชิงรางวัล 8 คน
1 ในนั้นก็มีนักกีฬาไทยด้วยคือ สุริยัน เป๊ะชาญ นักกีฬาเซปักตระกร้อทีมชาติไทย
ซึ่งผู้ที่ได้คือ ทาเคโนะ เคสุเกะ นักกีฬาว่ายน้ำจากญี่ปุ่น
หลังจากนั้น ชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัลซาบาห์ ประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)
ได้ออกมากล่าวขอบคุณนักกีฬา ทีมงานและผู้ชมทุกคนในการแข่งขันครั้งนี้
และขอปิดการแข่งขันครั้งนี้อย่างเป็นทางการ
และส่งไม้ต่อให้กับเจ้าภาพในครั้งต่อไป “อินโดนีเซีย”
หลังจากแนะนำประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้มีโชว์เรียกน้ำย่อยเล็กๆน้อยๆ จากว่าที่เจ้าภาพ
ก่อนที่จะไปเจอของจริงในอีก 4 ปีข้างหน้า
ช่วงสำคัญช่วงสุดท้ายคือการดับไฟ ASIAN GAMES ที่เปิดฉากด้วยการแสดงประจำชาติแบบเกาหลีโบราณ
แสดงให้เห็นถึงการมีอิสระ สงบสุข และชีวิตที่เป็นนิรันดร์ ดั่งนกที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอินชอน
หลังจากไฟประจำการแข่งขันดับลง ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงที่หลายคนรอคอย
กับคอนเสิร์ตจากวง BIG BANG ซึ่งมาร้อง 3 เพลง ก่อนที่พิธีปิดการแข่งขันจะจบลง…
เจอกันใหม่ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียในปี 2018