คุณคิดว่าคนที่กลัวการบวชพระเนี่ย คือเพราะรู้ว่าจะต้องไปทำวัตรเช้า-เย็น ซึ่งก็คือการสวดมนต์ แต่ตัวเองดันเป็นคนที่ไม่เชื่อและไม่ศรัทธาในการสวดมนต์ มิหนำซ้ำจะตั้งคำถามเสียก่อนด้วยว่าจะต้องห่มผ้าเหลืองไปทำไม แต่ใจตัวเองกลับอยากไปนิพพาน เลยต้องอาศัยเพศฆราวาสและเอาคำสอนของหลวงพ่อรูปนั้นรูปนี้มาดัดแปลงเพื่อรองรับความเชื่อของตนเองให้มันเดินหน้าไปได้ ทั้งๆที่จริงมันไปไม่ได้ สุดท้ายก็หลง แค่นั้นยังไม่พอยังเอาความหลงของตนเองมาเผื่อแผ่แบ่งปันให้คนอื่นหลงตามไปด้วย (โทษหนักนะเนี่ย)
คุณคิดว่าคนแบบนี้น่าสงสาร น่าสมเพชเวทนาไหมครับ? ไอ้คนที่ผมพูดถึงมีตัวตนอยู่จริง มันดักดานอยู่ในเว็บ pantip มานานแล้วละ
1.ถ้าศาสนาพุทธมีทางลัดป่านนี้พระพุทธเจ้าคงช่วยคนทั้งโลกไปนิพพานกันหมดตั้งแต่ยุคพุทธกาลแล้ว ตอนนี้เราคงไม่ได้เกิดมากันหรอก
2.บันไดก้าวแรกของศาสนาพุทธคือสัมมาทิฏฐิ ตราบใดที่ไม่ยอมก้าวขาขึ้นบันไดขั้นแรกนี้ อย่างอื่นก็อย่าหวัง
3.พระพุทธเจ้ามักปรับทัศนคติของมนุษย์ก่อนที่ท่านจะให้ฟังธรรมที่ลึกซึ้ง โดยการเทศอนุปุพพิกถาให้ฟังเสียก่อน เพื่อปรับอารมณ์ปรับความคิดให้เป็นสัมมาทิฏฐิ แล้วจึงให้ฟังธรรมขั้นสูงต่อไป
4.ในยุคพุทธกาลผู้ที่สำเร็จอรหันต์ในขณะที่เป็นฆราวาสมีน้อยแทบจะนับได้ พอมายุครัตนโกสินทร์มีพระอรหันต์เพียง 28 องค์(บวชก่อน) แล้วคิดหรอว่าถ้าคุณไม่ยอมก้าวขาขึ้นบันไดขั้นแรก แล้วจะทำให้คุณไปนิพพานได้ในขณะที่เป็นฆราวาส(หลอกตัวเองซะละมั้ง)
คุยกัน นานๆมาที แต่จัดหนัก
คุณคิดว่าคนแบบนี้น่าสงสาร น่าสมเพชเวทนาไหมครับ? ไอ้คนที่ผมพูดถึงมีตัวตนอยู่จริง มันดักดานอยู่ในเว็บ pantip มานานแล้วละ
1.ถ้าศาสนาพุทธมีทางลัดป่านนี้พระพุทธเจ้าคงช่วยคนทั้งโลกไปนิพพานกันหมดตั้งแต่ยุคพุทธกาลแล้ว ตอนนี้เราคงไม่ได้เกิดมากันหรอก
2.บันไดก้าวแรกของศาสนาพุทธคือสัมมาทิฏฐิ ตราบใดที่ไม่ยอมก้าวขาขึ้นบันไดขั้นแรกนี้ อย่างอื่นก็อย่าหวัง
3.พระพุทธเจ้ามักปรับทัศนคติของมนุษย์ก่อนที่ท่านจะให้ฟังธรรมที่ลึกซึ้ง โดยการเทศอนุปุพพิกถาให้ฟังเสียก่อน เพื่อปรับอารมณ์ปรับความคิดให้เป็นสัมมาทิฏฐิ แล้วจึงให้ฟังธรรมขั้นสูงต่อไป
4.ในยุคพุทธกาลผู้ที่สำเร็จอรหันต์ในขณะที่เป็นฆราวาสมีน้อยแทบจะนับได้ พอมายุครัตนโกสินทร์มีพระอรหันต์เพียง 28 องค์(บวชก่อน) แล้วคิดหรอว่าถ้าคุณไม่ยอมก้าวขาขึ้นบันไดขั้นแรก แล้วจะทำให้คุณไปนิพพานได้ในขณะที่เป็นฆราวาส(หลอกตัวเองซะละมั้ง)