หลวงปู่พุทธะอิสระ หนุนการคัดสรรสมาชิก สปช.จาก คสช. ตอกกลับ “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” สมัยรัฐบาล “ปู” มีสภาผัวเมียกลับนิ่งเฉย แนะให้รอดูผลงาน อย่าโวยวาย
วันนี้ ( 3 ต.ค.) หลวงปู่พุทธะอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” กรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการคัดเลือก สปช. ของคสช.

หลวงปู่พุทธะอิสระ
โดยข้อความระบุว่า
จากสภาผัวเมีย พัฒนามาเป็นสภา สปช.
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการคัดสรรสมาชิกสภา สปช. ว่าล็อคสเปค ไม่เปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายเข้าไปมีส่วนร่วม แถมท้ายด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม อาจจะเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดความแตกแยกในอนาคตได้ ฉันจึงนึกในใจว่า ทีพวกรัฐบาลปูสนับสนุนกฎหมาย อนุญาตให้มีสภาผัวเมีย สภาพ่อแม่ลูก ไม่เห็นคุณสุรพงษ์ออกมาโวยวายเลย แถมยังยกมือสนับสนุนให้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ด้วยซ้ำ
พอ คสช.เขาคัดสมาชิกสภาปฏิรูปโดยเลือกจากความรู้ความสามารถ เลือกจากบทความการบ้านที่ผู้สมัครเขียนส่งในวันลงสมัคร มิใช่เลือกจากหน้าตา มีหลักคิดที่ว่าขอเพียงมีความรู้ ความสามารถ เชี่ยวชาญในแขนงที่ตนลงสมัครและมีอุดมการณ์คล้ายคลึงหรือสอดคล้องกับ คสช.จึงเลือกด้วยเหตุผลและเงื่อนไขเวลาที่มีน้อย
รวมถึงข้อจำกัดหลายๆด้าน โดยเฉพาะหลักคิด ความตั้งใจ จริงใจ ที่จะปฏิรูปบ้านเมืองในทุกด้าน เพื่อให้ประเทศชาติก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย สถาบันพระมหากษัตริย์ปลอดภัย คนไทยมีความสุข คนชั่วคนโกง นักการเมืองและข้าราชการขี้ฉ้อต้องหมดไป ไม่ใช่เหมือนเช่นสภาผัวเมีย สภาพ่อแม่ลูก อย่างที่รัฐบาลปูพยายามที่จะทำให้มีขึ้นมา เพื่อแสวงหาอำนาจ ผูกขาด ตัดตอน ปิดหูปิดตา ละเมิด บ้าอำนาจ เพื่อการใดการหนึ่ง ที่จะทำให้พวกพ้องของตนอยู่ในอำนาจได้ยาวนาน อันจะตามมาด้วยการทุจริตคดโกงในทุกภาคส่วนของสังคมไทย
ตัวอย่างของการโกงที่ผู้มีอำนาจพวกนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เช่น โครงการรับจำนำข้าว โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โครงการฟื้นฟูสาธารณูปโภคหลังจากมหาอุทกภัยปี ๕๔ โครงการบริหารจัดการน้ำ แม้แต่โครงการแจกปุ๋ยที่แจกให้แก่เกษตรกร โครงการสนามฟุตซอลให้โรงเรียน และจัดซื้อหนังสืออ่านนอกเวลาจากเล่มละ ๑๐๐ กว่าบาท กลายเป็น ๑,๐๐๐ กว่าบาท สุดท้ายทรายอะเบทกันยุงมันยังทุจริตเลย นี่แหละคุณสมบัติของสภาผัวเมียพ่อแม่ลูกหล่ะ
สมาชิกสภา สปช.ที่คุณประยุทธ์เขาคัดสรรขึ้นมามีเป้าประสงค์ชัดเจนว่า นอกจากปฏิรูปทุกภาคส่วนของสังคมแล้ว ยังจะต้องปฏิรูปการเมือง ข้าราชการ ที่ไม่ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง สภา สปช.ต้องช่วยกันคิดหามาตรการ วางแนวทางป้องกันไม่ให้คนชั่วคนไม่ดีเข้ามาสู่อำนาจ สมดังพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองประกอบด้วยคนดีและคนไม่ดี เราต้องช่วยกันป้องกันคนไม่ดีไม่ให้มามีอำนาจ และเปิดโอกาสให้คนดีปกครองบ้านเมือง
แม้การล็อคสเปคของสมาชิกสภา สปช. ที่หากจะเกิดขึ้น ถ้าล็อคด้วยหลักคิดที่ว่าต้องการขัดขวางคนไม่ดี และเปิดโอกาสให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ฉันว่าคนไทยทุกคนยอมรับได้ เพราะมันเป็นประโยชน์ต่อชาติประชาชน เป็นประโยชน์ต่อการเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองอย่างมั่นคงยั่งยืน ซึ่งความแตกต่างมันเห็นได้ชัด ไม่เหมือนสภาผัวเมีย สภาพ่อแม่ลูก มีแต่จะทำความ

เสียหายให้แก่บ้านเมือง จนผู้คนต้องออกไปกินไปนอนและบาดเจ็บล้มตายบนถนน นี่คือผลงานของสภาผัวเมีย สภาพ่อแม่ลูก ที่ต้องการผูกขาดอำนาจเพื่อการโกงกิน แสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง
เรื่องสภาปฏิรูปที่ คสช.เลือกเข้ามา คงต้องเฝ้าดูกันยาวๆ ว่าผลงานออกมาเพื่อประโยชน์ของชาติ ประชาชนจริงหรือไม่ อย่าเพิ่งโวยวาย ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นหน้าตาเลยว่ามีใครบ้าง มีความรู้ความสามารถเป็นที่พึ่งพาของชาติประชาได้จริงหรือไม่ สิ่งที่พวกเขาทำนำมาซึ่งการปฏิรูปบ้านเมืองในทุกมิติได้สมบูรณ์หรือเปล่า พร้อมทั้งสามารถวางรากฐานแนวทางให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย สถาบันพระมหากษัตริย์ปลอดภัย คนไทยมีความสุขได้จริงหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป อย่าพึ่งออกมาโวยวายทั้งที่ยังไม่ได้ทำงานเลย ขืนโวยวายกันมากๆ บ้านเมืองไม่สงบ กฎอัยการศึกยกเลิกไม่ได้ คสช.คงไปไม่ได้เหมือนกัน แล้วจะมาโทษทหารอีก
พวกนักโวยวายทั้งหลาย ไม่ควรจะขุดหลุมพรางให้ คสช.ติดหล่ม เพื่อจะนำมาซึ่งความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวขับไล่ คสช. ขอให้คิดถึงชาติบ้านเมืองกันบ้าง อย่าเห็นแก่ตัวเกินไปนัก เคยฟังบ้างไหม เพลงหนักแผ่นดินน่ะ
พุทธะอิสระ
๓ ตุลาคม ๒๕๕๗
http://news.mthai.com/politics-news/388586.html
‘พุทธะอิสระ’แนะ ‘สุรพงษ์’ อย่าโวยวายให้รอดูผลงานสปช.
วันนี้ ( 3 ต.ค.) หลวงปู่พุทธะอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” กรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการคัดเลือก สปช. ของคสช.
หลวงปู่พุทธะอิสระ
โดยข้อความระบุว่า
จากสภาผัวเมีย พัฒนามาเป็นสภา สปช.
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการคัดสรรสมาชิกสภา สปช. ว่าล็อคสเปค ไม่เปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายเข้าไปมีส่วนร่วม แถมท้ายด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม อาจจะเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดความแตกแยกในอนาคตได้ ฉันจึงนึกในใจว่า ทีพวกรัฐบาลปูสนับสนุนกฎหมาย อนุญาตให้มีสภาผัวเมีย สภาพ่อแม่ลูก ไม่เห็นคุณสุรพงษ์ออกมาโวยวายเลย แถมยังยกมือสนับสนุนให้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ด้วยซ้ำ
พอ คสช.เขาคัดสมาชิกสภาปฏิรูปโดยเลือกจากความรู้ความสามารถ เลือกจากบทความการบ้านที่ผู้สมัครเขียนส่งในวันลงสมัคร มิใช่เลือกจากหน้าตา มีหลักคิดที่ว่าขอเพียงมีความรู้ ความสามารถ เชี่ยวชาญในแขนงที่ตนลงสมัครและมีอุดมการณ์คล้ายคลึงหรือสอดคล้องกับ คสช.จึงเลือกด้วยเหตุผลและเงื่อนไขเวลาที่มีน้อย
รวมถึงข้อจำกัดหลายๆด้าน โดยเฉพาะหลักคิด ความตั้งใจ จริงใจ ที่จะปฏิรูปบ้านเมืองในทุกด้าน เพื่อให้ประเทศชาติก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย สถาบันพระมหากษัตริย์ปลอดภัย คนไทยมีความสุข คนชั่วคนโกง นักการเมืองและข้าราชการขี้ฉ้อต้องหมดไป ไม่ใช่เหมือนเช่นสภาผัวเมีย สภาพ่อแม่ลูก อย่างที่รัฐบาลปูพยายามที่จะทำให้มีขึ้นมา เพื่อแสวงหาอำนาจ ผูกขาด ตัดตอน ปิดหูปิดตา ละเมิด บ้าอำนาจ เพื่อการใดการหนึ่ง ที่จะทำให้พวกพ้องของตนอยู่ในอำนาจได้ยาวนาน อันจะตามมาด้วยการทุจริตคดโกงในทุกภาคส่วนของสังคมไทย
ตัวอย่างของการโกงที่ผู้มีอำนาจพวกนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เช่น โครงการรับจำนำข้าว โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โครงการฟื้นฟูสาธารณูปโภคหลังจากมหาอุทกภัยปี ๕๔ โครงการบริหารจัดการน้ำ แม้แต่โครงการแจกปุ๋ยที่แจกให้แก่เกษตรกร โครงการสนามฟุตซอลให้โรงเรียน และจัดซื้อหนังสืออ่านนอกเวลาจากเล่มละ ๑๐๐ กว่าบาท กลายเป็น ๑,๐๐๐ กว่าบาท สุดท้ายทรายอะเบทกันยุงมันยังทุจริตเลย นี่แหละคุณสมบัติของสภาผัวเมียพ่อแม่ลูกหล่ะ
สมาชิกสภา สปช.ที่คุณประยุทธ์เขาคัดสรรขึ้นมามีเป้าประสงค์ชัดเจนว่า นอกจากปฏิรูปทุกภาคส่วนของสังคมแล้ว ยังจะต้องปฏิรูปการเมือง ข้าราชการ ที่ไม่ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง สภา สปช.ต้องช่วยกันคิดหามาตรการ วางแนวทางป้องกันไม่ให้คนชั่วคนไม่ดีเข้ามาสู่อำนาจ สมดังพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองประกอบด้วยคนดีและคนไม่ดี เราต้องช่วยกันป้องกันคนไม่ดีไม่ให้มามีอำนาจ และเปิดโอกาสให้คนดีปกครองบ้านเมือง
แม้การล็อคสเปคของสมาชิกสภา สปช. ที่หากจะเกิดขึ้น ถ้าล็อคด้วยหลักคิดที่ว่าต้องการขัดขวางคนไม่ดี และเปิดโอกาสให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ฉันว่าคนไทยทุกคนยอมรับได้ เพราะมันเป็นประโยชน์ต่อชาติประชาชน เป็นประโยชน์ต่อการเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองอย่างมั่นคงยั่งยืน ซึ่งความแตกต่างมันเห็นได้ชัด ไม่เหมือนสภาผัวเมีย สภาพ่อแม่ลูก มีแต่จะทำความ
เรื่องสภาปฏิรูปที่ คสช.เลือกเข้ามา คงต้องเฝ้าดูกันยาวๆ ว่าผลงานออกมาเพื่อประโยชน์ของชาติ ประชาชนจริงหรือไม่ อย่าเพิ่งโวยวาย ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นหน้าตาเลยว่ามีใครบ้าง มีความรู้ความสามารถเป็นที่พึ่งพาของชาติประชาได้จริงหรือไม่ สิ่งที่พวกเขาทำนำมาซึ่งการปฏิรูปบ้านเมืองในทุกมิติได้สมบูรณ์หรือเปล่า พร้อมทั้งสามารถวางรากฐานแนวทางให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย สถาบันพระมหากษัตริย์ปลอดภัย คนไทยมีความสุขได้จริงหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป อย่าพึ่งออกมาโวยวายทั้งที่ยังไม่ได้ทำงานเลย ขืนโวยวายกันมากๆ บ้านเมืองไม่สงบ กฎอัยการศึกยกเลิกไม่ได้ คสช.คงไปไม่ได้เหมือนกัน แล้วจะมาโทษทหารอีก
พวกนักโวยวายทั้งหลาย ไม่ควรจะขุดหลุมพรางให้ คสช.ติดหล่ม เพื่อจะนำมาซึ่งความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวขับไล่ คสช. ขอให้คิดถึงชาติบ้านเมืองกันบ้าง อย่าเห็นแก่ตัวเกินไปนัก เคยฟังบ้างไหม เพลงหนักแผ่นดินน่ะ
พุทธะอิสระ
๓ ตุลาคม ๒๕๕๗
http://news.mthai.com/politics-news/388586.html