ใครเป็นแบบเราไหม มีวิธีให้กำลังใจตัวเองยังไง

ตามหัวข้อกระทู้นะคะ แต่เราจะอธิบายอย่างละเอียด คือ
บ้านเรามีลูก2คนคะ เราเป็นคนน้อง เวลาเรามีปัญหาอะไรเหมือนติดเป็นความรู้สึกตั้งแต่เด็ก
ที่จะไม่บอกคุณแม่ เพราะเราจะไม่ได้รับคำปรึกษากลับมาแต่จะรู้สึกยิ่งแย่เพราะทั้งไม่ได้กำลังใจแต่กำลังโดนตำหนิต่อว่าทุกครั้ง
ส่วนคุณพ่อ การบอกปัญหาของเราคือเรื่องใหญ่ทุกครั้ง ซึ่งคุยในมุมแบบผู้ใหญ่ที่ยังมีความคิดแบบเก่าๆ หรือเรียกว่าค่อยข้างหัวโบราณคะ ซึ่งอธิบายไปท่านล้วนไม่เคยเข้าใจ บางอย่างที่อธิบายอย่างเราพูดอย่างจริงใจและเปิดเผยว่าเราพูดจริง บริสุทธิ์ใจจริง แต่ท่านกลับไม่เคยรับรู้
และฟังให้จบ เคยพยายามเปิดใจคุยเพื่อแก้ปัญหา แต่ทุกครั้งเราเป็นเด็กจะทำอะไรได้ พูดไปปัญหายิ่งใหญ่ มันเลยเริ่มเป็นความเก็บกดมั้งคะ
ก็เริ่มมีโรคส่วนตัวสูงบ้าง วันหนึ่งอยู่บ้านแถบจะไม่เจอหน้ากัน ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ สำหรับเรา เราคิดว่าดีกว่าที่คุยกันเยอะๆ แล้วมี
ปัญหากันทุกครั้ง แล้วทุกครั้งปัญหาไม่เคยสะสางด้วยการเครียร์แต่เลือกที่จะไม่พูด เราก็เหนื่อยจะทำไงได้ ค้างคาใจอยากจะอธิบาย
แต่มันคงไม่มีค่าพอที่เขาจะรับฟัง นอกจากความคิดของเขา มันเกิดเป็นความน้อยใจ จนหลายๆอย่างมันทำให้เรากลายเป็นไม่กล้าปรึกษาไม่กล้าบอกมีปัญหาทุกครั้งเรามักจะแก้มันเอง เมื่อจจะตัดสินใจทำอะไรส่วนใหญ่เราจะคิดเองทำเอง บางครั้งผิด บางครั้งถูก ซึ่งเราก็ไม่รู้แต่เราคิดว่ามันทำให้เราเข้มแข็งขึ้นที่จะเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเอง มันทำให้เรากล้าที่จะตัดสินใจอะไรหลายๆอย่าง ทำหลายๆอย่างด้วยสองมือของเราเอง
แต่แล้วเมื่อมีข้อดีข้อเสียมากกมายมันก็ตามมา เรากลายเป็นคนที่เวลามีปัญหาอะไรแล้วจะไม่พูดเลยแล้วเป็นคนที่มีหัวอารมณ์ค่อนข้างรุนแรงทั้งคำพูด แต่เราไม่ค่อยใช้กำลัง แต่นิสัยแรงๆของเราเพื่อนบอกบ่อยๆว่าเราเป็นคน "แรงเงียบๆ แต่แรงมาก" เหมือนเด็กเก็บกดเวลาอยู่บ้าน เวลาอยู่ รร มันก็ติดมาด้วย
มันเกิดข้อผิดพลาดมากมายจากการแก้ปัญหาเองถึงแม้ผ่านไปได้แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก บางครั้งเคยท้อด้วยซ้ำ พ่อเราก็มีแม่เราก็มีพี่เราก็มีครอบครัวเราก็มี แต่ทำไมทุกครั้ง เราต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เหนื่อยคะเหนื่อยมาก ท้อมาก เคยเครียดจากปัญหาหลายๆอย่างที่ต้องเผชิญและแก้ไขด้วยตัวเอง
จนมีช่วงหนึ่งที่เครียดมากๆ คือทั้งโทรมถามคำตอบคำ นั่งเหม่อลอยแบบน่ากลัวมาก เปลี่ยนเป็นละคนเลย จนเพื่อนแนะนำให้ลองสวดมนต์ทุกวันก็ดีขึ้นมากช่วงนั้น ช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนักและผ่านไปได้ยากมากเพราะมีเรื่องที่เป็นผลกระทบต่อจิตใจเราเข้ามีทีเดียวหลายเรื่อง จนเหมือนจิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดเวลา ว่างทีอยู่ๆนั่งร้องไห้ อยู่นั่งเหม่อ เรายังนั่งคิดเลยว่าผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะค่ะ จริงๆเรื่องมีเยอะมากซึ่งเราก็บรรยายไม่ถูก มันเยอะจนทำให้เราคิดว่าชีวิตผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำอะไรสำเร็จแบบสวยงามเลย
เราเลยอยากถามทุกๆคนว่ามีวิธีให้กำลังใจตัวเองยังไงในวันที่ท้อ มองไปทุกทางแล้วเหมือนไม่เหลือใคร สำหรับคนที่ต้องพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
คุณคิดว่ายังไงกันบ้างคะ ช่วยแชร์วิธีด้วยคะ
อมยิ้ม14
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เท่าที่อ่านเหมือนอยู่ในสภาพจิตตกต่ำต่อเนื่องมานานพอควร ทำให้รู้สึกแย่ไปหมดทุกเรื่อง ส่วนหนึ่งเพราะไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง รอให้คนอื่นแสดงให้เห็นว่าเรามีค่าแต่ไหน อันนี้ไม่แปลกค่ะ เค้าเรียกยังไม่มีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่พอค่ะ เป็นกันทุกคน ช่วงกำลังจะโต มากน้อยว่ากันไปค่ะ

วิธีแก้ เริ่มแรกหยุดให้ความสนใจว่า ฉัน "ไม่ได้" อะไรเลย แล้วลองให้ความสนใจว่า พ่อแม่ "ให้" อะไรคุณบ้าง อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่คุณอยากได้อยากมี แต่เป็นสิ่งที่เค้าคิดว่าดีกับคุณหรือคุณควรได้ควรมี เชื่อแน่ว่าในความเป็นพ่อแม่ ท่านให้คุณเยอะค่ะ เพียงแต่เป็นสิ่งที่คุณไม่อยากได้คุณเลยไม่เห็นคุณค่า แต่ถ้าท่านไม่รักท่านก็ไม่ให้หรอกค่ะ ก็เหมือนกับที่คุณพยายามทำดีให้พ่อแม่ชื่นชม แต่ท่านไม่ชมเพราะไม่ใช่สิ่งที่ท่านคาดหวังจากคุณ คุณก็ว่าท่านไม่เห็นคุณค่า ประมาณเดียวกันค่ะ แต่ความต่างอยู่ที่ว่า ไม่ว่าคุณจะทำให้ท่านผิดหวังหรือเสียใจแค่ไหน ท่านยังมีความรักและให้ความสำคัญกับคุณอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่การแสดงออกของท่านอาจไม่ถูกใจคุณเท่านั้นเอง

อย่างเวลามีปัญหาคุณบอกไม่มีใครช่วย ในชีวิตจริงก็หาคนช่วยยากค่ะ พ่อแม่อาจเห็นว่าเป็นปัญหาที่ไม่ใหญ่เกินกำลังคุณ ก็หวังดีฝึกให้คุณแก้ปัญหาเอง ต่อไปก็เข้มแข็งแก้ปัญหาตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร แบบนั้นจะดีกว่าพ่อแม่ที่โอ๋ลูกจนกลายเป็นลูกทำอะไรเองไม่เป็นเลยนะคะ คราวหน้า เวลาที่มีปัญหาแก้ได้แล้วลองเล่าให้ท่านฟังค่ะ มีปัญหาแบบนี้ หนูแก้ปัญหาไปแบบนี้ถูกใช่มั๊ยคะ ...ลองดูนะคะ

ต้องลองหัดแยกแยะดูค่ะ การให้ความสำคัญกับการไม่ทำอย่างที่เราคาดหวัง มันคนละเรื่องกันค่ะ ถ้าเข้าใจได้ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเยอะค่ะ
ปัญหาทั้งหมดแก้ได้ด้วยมุมมองที่กว้างขึ้น อย่าดูว่าจะได้หรืออยากได้อะไรมาบ้าง ให้ดูว่าเค้าให้อะไร มองให้เห็นเจตนาการให้เป็นหลักค่ะ น่าจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้างนะคะ.....สู้ๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่