สวัสดีครับเพื่อนๆกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตของผม อาจจะมีภาษาแปลกๆหรืออ่านไม่ค่อยเข้าใจก็ขออภัยไว้ก่อนนะครับ กระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ที่ต้องการจะบอกเล่าเรื่องราว/ระบายความทุกข์ที่อยู่ในใจของผมครับ
ผมเป็นเด็กหนุ่มอายุ15ปีครับ ฐานะทางครอบครัวถือว่าอยู่ในระดับปานกลางซึ่งพ่อกับแม่ผมนั้นหย่าร้างกันตั้งแต่ผมยังเด็กครับซึ่งผมไม่เคยคิดที่จะเอามาเป็นปมด้อยเลย ผมถูกเลี้ยงมาโดยแม่ของผมครับซึ่งผมมีน้องสาวอีก1คนและผมจะถูกฝังความคิดไว้เสมอว่า ผมเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้านเพราะฉะนั้นผมจึงถูกตั้งความหวังไว้มากมาย และผมก็คิดว่าที่ผ่านมาผมทำหน้าที่นั้นได้ค่อนข้างดีครับ ตั้งแต่ประถมผมเรียนได้เกรดดีพอสมควรมาตลอดจนกระทั่งขึ้นชั้นมัธยมผมต้องสอบแข่งขันกับคนมากมาย(ผมเป็นคนที่เรียนๆเล่นๆแม่ของผมจึงคิดว่าผมเป็นคนไม่เอาอ่าวซึ่งก็ค่อนข้างถูก) แล้ววันนึงผมดันสอบติดที่ รร. มัธยมชื่อดังย่านลาดพร้าว ทำให้ผมยิ่งถูกตั้งความหวังไว้มากขึ้น
ผมก็ตั้งใจเรียนมาตลอดครับได้เกรดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีจนเมื่อผมจบม.3และผมรู้ว่าผมไม่ได้ชอบสายสามัญเลย ผมจึงไปคุยกับแม่ครับว่าไม่อยากเรียนต่อที่เดิมแล้วผมอยากไปเรียนช่างศิลป์มากกว่า(แต่ในความคิดของแม่ผมยังอยากให้ผมเรียนต่อที่เดิมคุยกันไปคุยกันมาจนได้ข้อตกลงครับ คือให้ผมลองเรียนม.4ไปก่อนถึงเวลาที่รู้ว่าไม่ไหวจริงๆค่อยลาออก(ซึ่งผมคิดว่าข้อตกลงนี้มันจะทำให้ผมเสียเวลา)ผมก็ไม่ได้ค้านอะไรครับเพราะผมคิดว่าลองดูสักครั้งคงไม่เป็นไร พอถึงวันที่เริ่มเรียนผมก็เรียนไปตามปกติครับแต่พอเรียนได้ประมาณ1อาทิตย์ผมเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจะเรียนจริงๆในจก็คิดนะครับว่าอยากจะบอกแม่แต่ก็ยังไม่กล้า(ขอเล่าย้อนไปหน่อยนะครับ ตอนที่จบม.3นั่นผมบอกกับแม่ว่าอยากไปเรียนอาชีวะแต่แม่ผมคัดค้านสุดตัวเลยครับ) ผมก็ได้แต่ก้มหน้าเรียนๆไปครับแต่ช่วงม.4นี่ยอมรับเลยครับว่าตัวเองติดเพื่อนมากครับบางวันก็เข้าเรียนบางวันก็ไม่เข้าเรียนแต่ว่าที่ผมโดดเรียนไปนั่นผมไม่เคยโดดไปเล่นเกมส์หรือไปทำอะไรเสื่อมเสียนะครับเพราะทุกครั้งที่ผมโดดเรียนผมจะโดดไปตามงานที่ค้างอยู่ครับ มีช่วงนึงก่อนสอบกลางภาคผมโดดเกือบทั้งอาทิตย์เลยครับเพื่อไปอ่านหนังสือซึ่งผลสอบออกมาก็ถือว่าอยู่ในระดับโอเครครับ
แต่แล้ววันนึงเมื่อถึงเวลาที่ผมเริ่มมั่นใจว่าสิ่งที่ผมเรียนอยู่นี้มันไม่ตรงกับสิ่งที่ผมต้องการจะเรียนผมจึงเริ่มที่จะไม่ไปเรียนเลยและไม่สนใจเรียนเลยครับจนแม่ผมจับได้ครับว่าผมโดดเรียนไปเยอะมากท่านจึงมาคุยกับผมครับว่าจะเอายังไง คราวนี้เหมือนทุกอย่างเป็นใจแม่ผมกลับรับฟังความคิดเห็นของผมจึงได้ข้อตกลงมากว่า ลาออกจาก รร. นี้และระหว่างที่รอเข้าเรียนใหม่ปีการศึกษาหน้าซึ่งรวมเวลาแล้วก็เกือบครึ่งปีท่านจะให้ผมไปสมัครงานแต่ผมไม่ไปครับ ผมเป็นคนที่ชอบศิลปะและดนตรีมากครับจึงบอกกับแม่ว่าขอไปเรียนพิเศษทางด้านนี่ก่อนได้มั้ย ท่านก็ตกลงครับแต่มีข้อแม้ว่าผมต้องไปอยู่กับปู่ ย่า ซึ่งผมก็ตอบตกลงครับและในข้อตกลงนั้นบอกว่า ผมสามารถกลับบ้านได้วัน ศุกร์-อาทิตย์ ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปครับ กลายเป็นว่าผมนั้นไม่สามารถกลับบ้านได้จะออกไปไหนก็ต้องขออนุญาติบอกเวลาที่แน่นอนซึ่งผมก็ทราบครับว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ประเด็นอยู่ที่ว่า พอผมถามแม่ว่าเมื่อไหร่ผมจะได้กลับบ้านท่านก็เงียบครับไม่ตอบผมซักคำจนถึงตอนนี้ผมไม่ได้อยากรู้แล้วครับว่าเมื่อไหร่จะได้กลับแต่ผมแค่อยากรู้ว่าเพราะอะไรผมถึงไม่ได้กลับผมอยู่ที่นี่(บางบัวทอง)มันทรมานมากครับ เพื่อนผมก็ไม่มี และที่สำคัญอาหารการกินที่นี่ก็แย่มากครับอยากให้ทุกคนลองนึกถึงครอบครัวเดอร์สลีย์ที่ทำกับแฮรี่ย์นะครับ ทุกครั้งเวลาที่แม่ผมมาเยี่ยมวันนั้นแหละครับจะเป็นวันที่อาหารการกินในบ้านดีที่สุด ผมรู้สึกทรมานมากครับผมมาอยู่ที่นี่ได้เกือบ1เดือนแล้วและไม่มีวันไหนเลยครับที่น้ำในเบ้าตาผมจะไม่ไหลใช่ครับตอนนี้ผมดูอ่อนแอ อยากให้ทุกคนที่อ่านถึงตอนนี้นึกภาพว่าวันๆนึงคุณตื่นมาในห้องที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรให้ทำเพื่อนก็ไม่มีและอยู่กับความทุกข์ที่มันพร้อมจะเข้ามาหาคุณทุกเมื่อ เมื่อคุณเริ่มที่จะคิดอะไร ตอนนี้ผมกลายเป็นคนที่กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยครับผมเลยตัดสินใจที่จะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อถามว่าผมควรจะทำอย่างไร ผมต้องการแค่นี้ครับ สำหรับคนที่อ่านมาถึงตอนนี้ผมขอขอบคุณมากครับ
สิ่งที่อยู่ในใจของผม
ผมเป็นเด็กหนุ่มอายุ15ปีครับ ฐานะทางครอบครัวถือว่าอยู่ในระดับปานกลางซึ่งพ่อกับแม่ผมนั้นหย่าร้างกันตั้งแต่ผมยังเด็กครับซึ่งผมไม่เคยคิดที่จะเอามาเป็นปมด้อยเลย ผมถูกเลี้ยงมาโดยแม่ของผมครับซึ่งผมมีน้องสาวอีก1คนและผมจะถูกฝังความคิดไว้เสมอว่า ผมเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้านเพราะฉะนั้นผมจึงถูกตั้งความหวังไว้มากมาย และผมก็คิดว่าที่ผ่านมาผมทำหน้าที่นั้นได้ค่อนข้างดีครับ ตั้งแต่ประถมผมเรียนได้เกรดดีพอสมควรมาตลอดจนกระทั่งขึ้นชั้นมัธยมผมต้องสอบแข่งขันกับคนมากมาย(ผมเป็นคนที่เรียนๆเล่นๆแม่ของผมจึงคิดว่าผมเป็นคนไม่เอาอ่าวซึ่งก็ค่อนข้างถูก) แล้ววันนึงผมดันสอบติดที่ รร. มัธยมชื่อดังย่านลาดพร้าว ทำให้ผมยิ่งถูกตั้งความหวังไว้มากขึ้น
ผมก็ตั้งใจเรียนมาตลอดครับได้เกรดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีจนเมื่อผมจบม.3และผมรู้ว่าผมไม่ได้ชอบสายสามัญเลย ผมจึงไปคุยกับแม่ครับว่าไม่อยากเรียนต่อที่เดิมแล้วผมอยากไปเรียนช่างศิลป์มากกว่า(แต่ในความคิดของแม่ผมยังอยากให้ผมเรียนต่อที่เดิมคุยกันไปคุยกันมาจนได้ข้อตกลงครับ คือให้ผมลองเรียนม.4ไปก่อนถึงเวลาที่รู้ว่าไม่ไหวจริงๆค่อยลาออก(ซึ่งผมคิดว่าข้อตกลงนี้มันจะทำให้ผมเสียเวลา)ผมก็ไม่ได้ค้านอะไรครับเพราะผมคิดว่าลองดูสักครั้งคงไม่เป็นไร พอถึงวันที่เริ่มเรียนผมก็เรียนไปตามปกติครับแต่พอเรียนได้ประมาณ1อาทิตย์ผมเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจะเรียนจริงๆในจก็คิดนะครับว่าอยากจะบอกแม่แต่ก็ยังไม่กล้า(ขอเล่าย้อนไปหน่อยนะครับ ตอนที่จบม.3นั่นผมบอกกับแม่ว่าอยากไปเรียนอาชีวะแต่แม่ผมคัดค้านสุดตัวเลยครับ) ผมก็ได้แต่ก้มหน้าเรียนๆไปครับแต่ช่วงม.4นี่ยอมรับเลยครับว่าตัวเองติดเพื่อนมากครับบางวันก็เข้าเรียนบางวันก็ไม่เข้าเรียนแต่ว่าที่ผมโดดเรียนไปนั่นผมไม่เคยโดดไปเล่นเกมส์หรือไปทำอะไรเสื่อมเสียนะครับเพราะทุกครั้งที่ผมโดดเรียนผมจะโดดไปตามงานที่ค้างอยู่ครับ มีช่วงนึงก่อนสอบกลางภาคผมโดดเกือบทั้งอาทิตย์เลยครับเพื่อไปอ่านหนังสือซึ่งผลสอบออกมาก็ถือว่าอยู่ในระดับโอเครครับ
แต่แล้ววันนึงเมื่อถึงเวลาที่ผมเริ่มมั่นใจว่าสิ่งที่ผมเรียนอยู่นี้มันไม่ตรงกับสิ่งที่ผมต้องการจะเรียนผมจึงเริ่มที่จะไม่ไปเรียนเลยและไม่สนใจเรียนเลยครับจนแม่ผมจับได้ครับว่าผมโดดเรียนไปเยอะมากท่านจึงมาคุยกับผมครับว่าจะเอายังไง คราวนี้เหมือนทุกอย่างเป็นใจแม่ผมกลับรับฟังความคิดเห็นของผมจึงได้ข้อตกลงมากว่า ลาออกจาก รร. นี้และระหว่างที่รอเข้าเรียนใหม่ปีการศึกษาหน้าซึ่งรวมเวลาแล้วก็เกือบครึ่งปีท่านจะให้ผมไปสมัครงานแต่ผมไม่ไปครับ ผมเป็นคนที่ชอบศิลปะและดนตรีมากครับจึงบอกกับแม่ว่าขอไปเรียนพิเศษทางด้านนี่ก่อนได้มั้ย ท่านก็ตกลงครับแต่มีข้อแม้ว่าผมต้องไปอยู่กับปู่ ย่า ซึ่งผมก็ตอบตกลงครับและในข้อตกลงนั้นบอกว่า ผมสามารถกลับบ้านได้วัน ศุกร์-อาทิตย์ ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปครับ กลายเป็นว่าผมนั้นไม่สามารถกลับบ้านได้จะออกไปไหนก็ต้องขออนุญาติบอกเวลาที่แน่นอนซึ่งผมก็ทราบครับว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ประเด็นอยู่ที่ว่า พอผมถามแม่ว่าเมื่อไหร่ผมจะได้กลับบ้านท่านก็เงียบครับไม่ตอบผมซักคำจนถึงตอนนี้ผมไม่ได้อยากรู้แล้วครับว่าเมื่อไหร่จะได้กลับแต่ผมแค่อยากรู้ว่าเพราะอะไรผมถึงไม่ได้กลับผมอยู่ที่นี่(บางบัวทอง)มันทรมานมากครับ เพื่อนผมก็ไม่มี และที่สำคัญอาหารการกินที่นี่ก็แย่มากครับอยากให้ทุกคนลองนึกถึงครอบครัวเดอร์สลีย์ที่ทำกับแฮรี่ย์นะครับ ทุกครั้งเวลาที่แม่ผมมาเยี่ยมวันนั้นแหละครับจะเป็นวันที่อาหารการกินในบ้านดีที่สุด ผมรู้สึกทรมานมากครับผมมาอยู่ที่นี่ได้เกือบ1เดือนแล้วและไม่มีวันไหนเลยครับที่น้ำในเบ้าตาผมจะไม่ไหลใช่ครับตอนนี้ผมดูอ่อนแอ อยากให้ทุกคนที่อ่านถึงตอนนี้นึกภาพว่าวันๆนึงคุณตื่นมาในห้องที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรให้ทำเพื่อนก็ไม่มีและอยู่กับความทุกข์ที่มันพร้อมจะเข้ามาหาคุณทุกเมื่อ เมื่อคุณเริ่มที่จะคิดอะไร ตอนนี้ผมกลายเป็นคนที่กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยครับผมเลยตัดสินใจที่จะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อถามว่าผมควรจะทำอย่างไร ผมต้องการแค่นี้ครับ สำหรับคนที่อ่านมาถึงตอนนี้ผมขอขอบคุณมากครับ