อาจจะยาวหน่อยนะครับ
ตอนนี้ผมอายุ 22 ปี วัยทำงาน หน้าตาจัดว่าพอดูได้ ส่วนสาวคู่กรณีอายุ 30 พอดิบพอดี เป็นคนเหนือหน้าตาใช้ได้ ขาวและหุ่นดี ผมสวย และโสด เสป็คผมเลย
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเริ่มเข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เจอสาวคนนี้ ขอสมมุติว่าชื่อนุ่น พี่นุ่นเป็นซีเนียร์ที่นี่ ตอนที่เห็นเธอครั้งแรกก็เฉยๆ แต่รู้สึกคุ้นๆติดอยู่ในใจ หน้าเหมือนใครหว่า นึกไม่ออก หลังจากเข้าทำงานได้ไม่นาน บริษัทมีการทำงานเป็นทีม พี่นุ่นเดินเข้ามาแล้วบอกว่าผมอยู่ทีมของเธอนะ หลังจากนั้น เราก็เริ่มคุยกัน เริ่มแชททางเฟสกันพักนึง ผมเริ่มรู้สึกว่าชอบพี่นุ่นเข้าแล้ว(ไม่ได้ใจง่ายนะ ผมเปิดใจรักใครยากมาก)จากนั้นเราก็แอดไลน์คุยกันได้เดือนนึง ผมส่งเพลงชื่อว่าเพลงส่วนบุคคลของ fellow fellow ให้เธอฟังแล้วบอกว่าเพลงนี้เหมาะกับพี่ดีนะ ตอนแรกเธอก็งงๆ พอเธอรู้ตัวก็ปฏิเสฐผมแทบจะในทันที เสียเซลฟ์เหมือนกัน แต่ผมคิดในใจ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ก็ยังคุยกับเธอตามปกติ เธอบอกว่าเคยเจ็บมาเยอะ และกลัวที่จะรักใครซักคน เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา สรุปคือเราตกลงดูใจกันไปก่อน ไม่ได้คบกันแบบเปิดเผยหรือเป็นแฟน ระหว่างที่ดูใจกัน ผมพยายามซื้อของเล็กๆน้อยๆ วางไว้บนโต๊ะทำงานของเธอเป็นประจำ พร้อมกับแปะโน๊ตเขียนข้อความน่ารักๆไว้ให้อ่าน มีวันนึงเธอตากฝนกลับบ้าน ผมบอกให้กินยาดักไว้จะได้ไม่ป่วย เธอบอกว่าไม่ได้ติดยาไว้ที่ห้องเลย รุ่งขึ้นอีกวันผมซื้อยาแก้ปวดกระปุกนึงวางไว้พร้อมแปะโน๊ตบนโต๊ะทำงานเช่นเคย เธอก็บอกขอบคุณนะ มีบางครั้งที่เธอประชุมจนแทบไม่มีเวลากินข้าว เธอปวดท้องเพราะเป็นโรคกระเพาะ ผมก็ซื้อนมยี่ห้อโปรดที่เธอชอบกินมาวางไว้อีกเช่นเคย การทำงานในออฟฟิตก็ต้องนั่งทำงาน ผมกลัวเธอจะปวดหลัง อยากให้นั่งสบายๆ ผมซื้อหมอนอิงหลังให้อันนึงเป็นคิตตี้สีชมพู เธอชอบมากจนไม่ยอมใช้ กลับเอาไปแขวนไว้ที่บ้าน 555 ก็เป็นประจำที่ผมจะดูแลเธอเสมอ เธอก็เหมือนจะตอบรับผม ทำกับข้าวมาให้กิน ชงกาแฟมาให้ตลอด นอกจากนั้นเรามีนัดกันไปดูหนังกันบ้าง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง เราเดินโอบกัน จับมือกัน ทำทุกอย่างต่อกันเหมือนคนรัก ผ่านไป 5 เดือนกับการมีเรา ผมเริ่มจริงจังมากขึ้น ทำงานมากขึ้น เพราะตำแหน่งการงานของผมกับเธอต่างกัน ผมไม่อยากให้ใครว่าเธอได้ และอยากมีความทัดเทียมพอที่จะดูแลเธอให้ไม่ลำบาก ตั้งใจเก็บเงิน ระหว่างที่ดูกันมาผมก็ลองขอคบกับเธอ แต่ทุกครั้งก็จะโดนปฏิเสฐ ส่วนนึงเธอชอบคิดว่าผมเจ้าชู้ ด้วยความที่มีผู้หญิงเข้าหาบ่อยๆ แต่บอกได้เลยผมมีเธอคนเดียวจริงๆ ดังนั้นเลยอยากให้เธอมั่นใจในตัวผม ผมจึงปั๊มกุญแจห้องและทำคีการ์ดไว้สำหรับเธอชุดนึง เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นทุกอย่างของผม ห้องคือห้องส่วนตัว เธอมีสิทธิ์เข้าออกได้ทุกเวลาที่ต้องการ เข้าเดือนที่ 6 เธอก็มาหาผมที่ห้องบ้างแต่ไม่บ่อย จนเรามีความสัมพันธ์กันในระดับนึง ทุกครั้งที่เธอมาหา ดูเหมือนว่าเราต้องการกัน และผมมั่นใจว่าผู้หญิงถ้าไม่รักคงไม่ยอมเรื่องแบบนี้ หลังจากเกิดเรื่องนี้ ผมตัดสินใจบอกเธอไปว่า พี่นุ่น เรามาคบกันแบบจริงจังเถอะ เธอปฏิเสฐผมอีกครั้ง และให้เหตุผลว่าพี่ไม่พร้อม ผมงงไปหมดจากที่เคยมั่นใจ ผมรู้สึกผูกพันธ์แต่ก็สับสน จนตอนนี้ผมลองเงียบ เธอก็บอกผมว่า เธอไม่รู้ว่าทำผิดอะไร แต่ถ้าไม่อยากคุยกันก็โอเค แล้วก็บล็อกไลน์ผมไป ลบเพื่อนในเฟสออก ผมติดต่อเธอไม่ได้ เพราะเธอไม่ยอมให้เบอร์ผมตั้งแต่แรกที่คุยกัน ณ ตอนนี้ผมเข้าใจเลยว่าผมไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น คิดจะตัดกันก็ตัดกันง่ายๆ ดังนั้นผมเลยข้อความในเฟสไปบอกว่าลบผมออกจากเพื่อนทำไม คิดเรื่องงานบ้างนะ เรายังต้องทำงานด้วยกัน เรามีเถียงกันนิดหน่อย สุดท้าย เธอบอกว่าเธอรักผม ที่เราอะไรกันเพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ขอโทษที่เลว และทำตัวง่าย เรารักกันไม่ได้เพราะเธอมีเหตุผลที่ดีกว่าการที่เราจะรักกัน สรุปแล้วผมก็ยังไม่เข้าใจว่าระหว่างเราคืออะไร ผมยังคิดว่าถ้าเรารักกัน ต่างคนต่างมีรอยยิ้ม แต่เธอเลือกที่จะทำให้ระหว่างเรามีแต่ความเสียใจ เธอเลือกที่จะจบแบบไม่เหลืออะไรเลยผมได้แต่ถามกับตัวเองซ้ำๆ เหตุผลอะไรที่ดีกว่าการที่เราจะรักกัน ไม่ใช่เรื่องงาน เพราะที่ทำงานไม่ได้มีปัญหาถ้าใครจะคบใคร และเธอก็โสด แถมยังใช้ชีวิตคนเดียว แล้วมันเหตุผลอะไรกัน !!
ผลของการตามจีบสาวอายุ 30
ตอนนี้ผมอายุ 22 ปี วัยทำงาน หน้าตาจัดว่าพอดูได้ ส่วนสาวคู่กรณีอายุ 30 พอดิบพอดี เป็นคนเหนือหน้าตาใช้ได้ ขาวและหุ่นดี ผมสวย และโสด เสป็คผมเลย
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเริ่มเข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เจอสาวคนนี้ ขอสมมุติว่าชื่อนุ่น พี่นุ่นเป็นซีเนียร์ที่นี่ ตอนที่เห็นเธอครั้งแรกก็เฉยๆ แต่รู้สึกคุ้นๆติดอยู่ในใจ หน้าเหมือนใครหว่า นึกไม่ออก หลังจากเข้าทำงานได้ไม่นาน บริษัทมีการทำงานเป็นทีม พี่นุ่นเดินเข้ามาแล้วบอกว่าผมอยู่ทีมของเธอนะ หลังจากนั้น เราก็เริ่มคุยกัน เริ่มแชททางเฟสกันพักนึง ผมเริ่มรู้สึกว่าชอบพี่นุ่นเข้าแล้ว(ไม่ได้ใจง่ายนะ ผมเปิดใจรักใครยากมาก)จากนั้นเราก็แอดไลน์คุยกันได้เดือนนึง ผมส่งเพลงชื่อว่าเพลงส่วนบุคคลของ fellow fellow ให้เธอฟังแล้วบอกว่าเพลงนี้เหมาะกับพี่ดีนะ ตอนแรกเธอก็งงๆ พอเธอรู้ตัวก็ปฏิเสฐผมแทบจะในทันที เสียเซลฟ์เหมือนกัน แต่ผมคิดในใจ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ก็ยังคุยกับเธอตามปกติ เธอบอกว่าเคยเจ็บมาเยอะ และกลัวที่จะรักใครซักคน เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา สรุปคือเราตกลงดูใจกันไปก่อน ไม่ได้คบกันแบบเปิดเผยหรือเป็นแฟน ระหว่างที่ดูใจกัน ผมพยายามซื้อของเล็กๆน้อยๆ วางไว้บนโต๊ะทำงานของเธอเป็นประจำ พร้อมกับแปะโน๊ตเขียนข้อความน่ารักๆไว้ให้อ่าน มีวันนึงเธอตากฝนกลับบ้าน ผมบอกให้กินยาดักไว้จะได้ไม่ป่วย เธอบอกว่าไม่ได้ติดยาไว้ที่ห้องเลย รุ่งขึ้นอีกวันผมซื้อยาแก้ปวดกระปุกนึงวางไว้พร้อมแปะโน๊ตบนโต๊ะทำงานเช่นเคย เธอก็บอกขอบคุณนะ มีบางครั้งที่เธอประชุมจนแทบไม่มีเวลากินข้าว เธอปวดท้องเพราะเป็นโรคกระเพาะ ผมก็ซื้อนมยี่ห้อโปรดที่เธอชอบกินมาวางไว้อีกเช่นเคย การทำงานในออฟฟิตก็ต้องนั่งทำงาน ผมกลัวเธอจะปวดหลัง อยากให้นั่งสบายๆ ผมซื้อหมอนอิงหลังให้อันนึงเป็นคิตตี้สีชมพู เธอชอบมากจนไม่ยอมใช้ กลับเอาไปแขวนไว้ที่บ้าน 555 ก็เป็นประจำที่ผมจะดูแลเธอเสมอ เธอก็เหมือนจะตอบรับผม ทำกับข้าวมาให้กิน ชงกาแฟมาให้ตลอด นอกจากนั้นเรามีนัดกันไปดูหนังกันบ้าง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง เราเดินโอบกัน จับมือกัน ทำทุกอย่างต่อกันเหมือนคนรัก ผ่านไป 5 เดือนกับการมีเรา ผมเริ่มจริงจังมากขึ้น ทำงานมากขึ้น เพราะตำแหน่งการงานของผมกับเธอต่างกัน ผมไม่อยากให้ใครว่าเธอได้ และอยากมีความทัดเทียมพอที่จะดูแลเธอให้ไม่ลำบาก ตั้งใจเก็บเงิน ระหว่างที่ดูกันมาผมก็ลองขอคบกับเธอ แต่ทุกครั้งก็จะโดนปฏิเสฐ ส่วนนึงเธอชอบคิดว่าผมเจ้าชู้ ด้วยความที่มีผู้หญิงเข้าหาบ่อยๆ แต่บอกได้เลยผมมีเธอคนเดียวจริงๆ ดังนั้นเลยอยากให้เธอมั่นใจในตัวผม ผมจึงปั๊มกุญแจห้องและทำคีการ์ดไว้สำหรับเธอชุดนึง เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นทุกอย่างของผม ห้องคือห้องส่วนตัว เธอมีสิทธิ์เข้าออกได้ทุกเวลาที่ต้องการ เข้าเดือนที่ 6 เธอก็มาหาผมที่ห้องบ้างแต่ไม่บ่อย จนเรามีความสัมพันธ์กันในระดับนึง ทุกครั้งที่เธอมาหา ดูเหมือนว่าเราต้องการกัน และผมมั่นใจว่าผู้หญิงถ้าไม่รักคงไม่ยอมเรื่องแบบนี้ หลังจากเกิดเรื่องนี้ ผมตัดสินใจบอกเธอไปว่า พี่นุ่น เรามาคบกันแบบจริงจังเถอะ เธอปฏิเสฐผมอีกครั้ง และให้เหตุผลว่าพี่ไม่พร้อม ผมงงไปหมดจากที่เคยมั่นใจ ผมรู้สึกผูกพันธ์แต่ก็สับสน จนตอนนี้ผมลองเงียบ เธอก็บอกผมว่า เธอไม่รู้ว่าทำผิดอะไร แต่ถ้าไม่อยากคุยกันก็โอเค แล้วก็บล็อกไลน์ผมไป ลบเพื่อนในเฟสออก ผมติดต่อเธอไม่ได้ เพราะเธอไม่ยอมให้เบอร์ผมตั้งแต่แรกที่คุยกัน ณ ตอนนี้ผมเข้าใจเลยว่าผมไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น คิดจะตัดกันก็ตัดกันง่ายๆ ดังนั้นผมเลยข้อความในเฟสไปบอกว่าลบผมออกจากเพื่อนทำไม คิดเรื่องงานบ้างนะ เรายังต้องทำงานด้วยกัน เรามีเถียงกันนิดหน่อย สุดท้าย เธอบอกว่าเธอรักผม ที่เราอะไรกันเพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ขอโทษที่เลว และทำตัวง่าย เรารักกันไม่ได้เพราะเธอมีเหตุผลที่ดีกว่าการที่เราจะรักกัน สรุปแล้วผมก็ยังไม่เข้าใจว่าระหว่างเราคืออะไร ผมยังคิดว่าถ้าเรารักกัน ต่างคนต่างมีรอยยิ้ม แต่เธอเลือกที่จะทำให้ระหว่างเรามีแต่ความเสียใจ เธอเลือกที่จะจบแบบไม่เหลืออะไรเลยผมได้แต่ถามกับตัวเองซ้ำๆ เหตุผลอะไรที่ดีกว่าการที่เราจะรักกัน ไม่ใช่เรื่องงาน เพราะที่ทำงานไม่ได้มีปัญหาถ้าใครจะคบใคร และเธอก็โสด แถมยังใช้ชีวิตคนเดียว แล้วมันเหตุผลอะไรกัน !!