ก่อนข้าพเจ้าจะไปทรงฌาน
เลยขออีกสักหน่อย เพิ่มอาวุธให้พวกคุณเอาไปใช้ เเละช่วยกันรักษาธรรมไป.นตัว
ต้องพูดเลยว่าปัจจุบัน พวกคุณ คุยธรรมเเต่เอาเรื่องไม่มีจริงมาพูดเเละเป็นส่วนใหญ่
มันเเน่นอนที่ต้องมีเรื่องอาการของสมาธิที่จะบอก ก้คือ ขนิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปาน
ขอถามหน่อยเวลาคุยกันรู้เรื่องจริงๆหรอ มันเป็นเรื่องที่ไม่มีจริง ขนาด พรามณ ปริพาชก หรือเจ้าลักธิใดๆที่เค้าเพียร เพื่อต้องการพ้นทุกข์เค้าไม่เคยพูดถึงอาการสมาธิที่ว่ามานี้เลย
ดังนั้นเข้าใจได้เลยว่าคุยกันคนละเรื่องจริงๆ ไม่ใช่เรื่องสมาธิ คุยฟุ้งทั้งๆที่มันไม่มี มันเป้นการอธิบายสถานะที่ไม่มีจริง
เมื่อเอาเรื่องที่ไม่ใช่มาเป้นหลักการปฏิบัติ คุณไม่ต้องทำอะไรเลย ความเพียร มันไม่มี มีเเต่สมาธิอย่างนี้ ชื่อนี้ หรือบุญวาสนาเท่านี้เเล้วคิดต่อไปว่าเรามันไม่มีวันถึงฌาน
เเต่หารู้ไหมเพียงคุณมองลมหายใจเข้าออก สัก5นาที นี้ละฌาน1 นะ
งงดิ มันได้กันทุกคนน่ะ ตั้งใจจิงหากจิตคุณโน้มออกมาจากกามได้นี้คือตัววัดที่ถูกต้อง หากชำระจิตพ้นจากนิวรณ์ได้ เท่านี้ละปฐมฌาน
ส่วนคำสาวกที่เเต่งใหม่อาการทั้ง3ไม่มีอยู่จริง ขนิกอะไรเนี่น ให้เห็นเป็น เเค่คนไม่มีความพยามที่จะละกาม ก้พอ
ความสำคัญของสมาธิอยู่ตรง ความตั้งใจ เเละ ความเพียรพยายาม