การศึกษาแบบไทยๆ ทำให้ประเทศไม่พัฒนาเสียที

กระทู้คำถาม
ทำไม่ผมถึงคิดแบบนี้
1. การเรียนซ้ำๆ ซากๆ
ตั้งแต่ อนุบาล ยัน ปริญญาตรี มีหลายวิชาที่ สอนซ้ำ ของเก่า
แทนที่จะต่อยอดกลับต้องมาสอนของเดิมก่อน
สิ่งที่ถูกคือ ควรให้เด็กไปศึกษาเพิ่มเอาเอง
ไม่รู้ไม่ไหวก็ไม่ต้องเรียนแบบนี้ไปหาสิ่งที่เด็กถนัดจะดีกว่า

2. หลากหลายแต่ไม่เฉพาะทาง
อนุบาลยันถึงประถม อันนี้ควรเรียนพวกพื้นฐานที่จำเป็น
เน้นความรู้ทั่วไป เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษต้องได้  กีฬา ศิลปะ งานบ้าน งานช่าง งานฝีมือ เล็กๆน้อย
ดูว่าเด็กชอบอะไรทางไหน ค่อยให้ไปต่อในแนวทางนั้นในชั้นมัธยม

ม ต้น เรื่องหลักควรให้เรียนสิ่งที่เด็กชอบไปเลย
เช่น อยากเป็น หมอ วิชาหลักก็คณิตวิทย์ไปเลย อยากเป็นนักร้อง ไปเรียนร้องเพลงเลย
อยากเป็น Developer ไปเขียนโปแกรม  คือชอบอะไรให้ไปหาเรียนทางนั้นเลย
วิชาเสริม ควรเป็นพวกความรู้ทั่วไป งานบ้าน งานช่าง กีฬา อะไรแบบนี้

ม ปลาย / ปวช อันนี้ควรรวมกันไป เพราะจะเรียนแต่วิชาหลัก
เช่น ชอบเขียนโปรแกรม อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ เรียนเขียนโปรแกรมไปเลย  
อาจมีวิชาเสริมบ้างเป็นวิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น พวกลอจิก ต่างๆ, Technology ในปัจจุบัน และอนาคต    

มหาวิทยาลัย อันนี้ควรเหมือนสถาบันฝึกอบรมไปเลย
แบบสายตรง เช่น หมอก็ สอนหมอพื้นฐาน และก็เฉพาะทางไปเลย อันอื่นไม่ต้อง
วิศวะ ก็เหมือนกันเฉพาะทางไปเลย
ไม่ต้องมี คณิต วิทย์ อังกฤษ อีก 3 รอบ แล้วไปเรียนวิชาชีพนิดเดียว เพราะได้มาจากมัธยมแล้ว

3. นานเกิน
เกี่ยวเนื่องกับข้อ 1 และ 2 คือถ้าทำได้แบบนี้ อายุ 18 ก็ทำงานได้แล้วครับ
ไม่ต้องไปรอจนจบปริญญาตรี อายุ 22 ถ้าตั้งใจเรียน ถ้าขี้เกียจหรือโง่อายุ 28 ไม่รู้จะจบไหม
ทำให้เสียเวลา เสียโอกาสในการทำงานในวัยหนุ่มสาว
พวกเขาควรได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าการไปยัดเยียด อะไรที่มันเกินความจำเป็น
คนเรา อายุ 40-50 ก็ควรจะเกษียณ แล้วเอาเวลาที่ยังเดินเหินได้ไปพักผ่อน หรือเดินทางครับ
ไม่ใช่ 60-70 ยังทำงาน พอเกษียณได้หน่อยก็เดินเหินไม่สะดวก ไปเที่ยวไหนไกลๆ ก็ไม่ค่อยได้

สรุป
ผมเราสังคมไทยเสียเวลาไปกับการเรียนมากเกินไปครับ
เพราะโดยทางสรีระวิทยา อายุ 18 ขึ้นไปเหมาะสมต่อการมีลูกแล้วครับ
โอกาสที่จะมีลูกในวัยทำงานก็สูงขึ้นด้วย และถ้าอายุยังน้อยจะมีโอกาสตั้งครรภ์จะสูงกว่าอายุ 30 แน่นอนครับ

การเรียนในสิ่งที่ชอบในสิ่งที่ใช่โอกาสที่จะเรียนจบก็มีสูงกว่ามากครับ
ปัญหาสังคมก็จะไม่เกิด ถ้าเกิดก็น้อยลงแน่นอนครับ

โอกาสมีงานทำก็ชัดเจนครับ เพราะคนจ้างงานร็ได้ทันทีว่าทำงานได้แน่นอน ดีกว่าเรียนจับฉ่าย
  หรือคิดจะทำงานเป็นของตัวเองก็ได้ครับ เช่น เกษตร อาหาร ศิลปะ

ภาษาอังกฤษของคนไทยก็จะดีขึ้น เพราะจบ ป.6 ต้องพูดได้แน่นอน
เพราะมีอีกหลายวิชาที่ไม่จำเป็นต้องไปเรียนครับ ไม่ขอยกตัวอย่าง เดี๋ยวดราม่า
แต่ถ้าชอบก็ไปศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองครับ  

ส่วนเรื่องเกณฑ์ทหาร ผมว่ายกเลิกไปแล้วรับสมัครไปเลยครับ
เด็กอยากเป็นทหารมีเยอะครับ ดูตอนงานวันเด็กก็ได้ครับ
แบบเพิ่มจำนวนการรับสมัคร สอบบรรจุกันไปเลย ยศก็ 10 ตรีขึ้นไป

โรงเรียนคงต้องปรับหลักสูตรกันใหม่ ถ้ามองไปที่อนาคตผมเชื่อว่าทำได้แน่นอนครับ

แต่ถ้ายังทำหลักสูตรกันอยู่แบบปัจจุบันนี้
ไม่แปลกที่ปริญญาตรี ล้นตลาด ถ้ายังไม่เปลี่ยนแนวคิด
ต่อให้สอนกันแบบนี้อีก 100 ปีข้างหน้าก็เหมือนเดิมครับ


ชาวพันทิป คิดเห็นยังไงกับบ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่