....15 Tips For Getting Razor Sharp Photos .... 15 เคล็ดวิชาถ่ายภาพให้คมชัด โดย Jimmy Mcintyre ....

กระทู้สนทนา



สวัสดีเพื่อนร่วมสังสารวัฏทุกท่านครับ วันนี้จะมากล่าวบทไปถึงการทำภาพถ่ายให้คมชัดกัน
ด้วยเคล็ดลับ 15 ประการ ซึ่งจะแบ่งเป็นสองส่วนคือ ถ่ายอย่างไรให้คมชัด และถ่ายมาแล้ว
เอามาโพรเซสอย่างไรให้คมชัดไม่ให้เสียความคมชัดไปอย่างน่าเสียดายครับ

บทความนี้เป็นของน้า Jimmy Mcintyre  นักถ่ายภาพท่องเที่ยว 500px ISO contributor และวิทยากร
ผลงานของน้าได้ตีพิมพ์ในสื่อระดับท้องถิ่นและสากลรวมทั้งสื่อชั้นนำอย่าง BBC  
ติดตามเยี่ยมยามถามข่าวน้าแกได้ที่นี่ครับ
ดอกไม้http://www.throughstrangelenses.com/ดอกไม้

บทความนี้แปลมาจาก 15 Tips For Getting Razor Sharp Photos
บทความต้นฉบับภาษาอังกฤษ ดูได้ที่นี่ครับ
ดอกไม้http://goo.gl/EIXkhlดอกไม้
ขอขอบพระคุณเจ้าของบทความมา ณ ที่นี้ด้วยจ่ะ

อย่างที่เราทุกคนคงทราบดีว่า หัวใจหลักของการถ่ายภาพอย่างหนึ่งก็คือ การถ่ายภาพออกมาให้คมชัด
ถึงแม้ว่าด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เลนส์รุ่นใหม่ๆให้ภาพที่คมชัดมากขึ้น เทคโนโลยี
ช่วยเพิ่มโอกาสให้เราได้ภาพที่คมชัดมากขึ้นก็ตาม

เคล็ดลับ 15 ประการต่อจากนี้ คือตัวช่วยให้เราไม่ต้องกลับบ้านมาแล้วพบว่า
ภาพที่ถ่ายออกมานั้นเบลอๆฟรุ้งฟริ้งไปหมด บทความนี้เน้นหนักโดยเฉพาะช่างภาพสายแลนด์สเคป
และซิตี้สเคปครับ แต่ก็มีประโยชน์ไม่น้อยสำหรับช่างภาพแนวอื่นเช่นกัน


อย่างที่เกริ่นนำไปในตอนต้นว่าเนื้อหาแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ การถ่ายให้ชัด และการปรับให้ชัดขึ้น
หรือคงความคมชัดเอาไว้หลังจากการโพรเซสภาพ

Getting Sharp Pictures In-Camera
ถ่ายให้ชัดตั้งแต่หลังกล้อง


1. Use manual focus.
ใช้การโฟกัสด้วยมือ


โดยปรกติ ระบบออโต้โฟกัสของเลนส์ในปัจจุบันให้ความแม่นยำแบบไม่ต้องกังวลอยู่แล้ว
แต่ในสภาวะที่แสงน้อย และในสภาพแสงที่ซํบซ้อน ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการโฟกัสด้วยมือ
ซึ่งวิธีทำนั้นก็ง่ายมากครับ เพียงปรับโหมดการมองภาพมาเป็นไลฟ์วิว (มองจากจอ LCD)
จากนั้นกดปุ่มขยายภาพ(ขึ้นอยู่กับรุ่นกล้อง) ซึ่งส่วนมากจะขยายได้ถึง 10 เท่า
ปรับโฟกัสที่เลนส์ให้เป็นแบบแมนวลโฟกัส จากนั้นหมุนปรับวงแหวนโฟกัส
จนได้รายละเอียดที่คมชัดที่สุด จากนั้นซูมภาพหลังจอกลับมา แล้วลงมือถ่าย
เพียงเท่านี้ก็ไม่พลาดโอกาสได้ภาพคมๆกลับบ้านแล้ว


2. Mirror lock up.
ล็อคกระจกสะท้อนภาพ


ขณะที่เรากดชัตเตอร์ลงเพื่อเก็บภาพ กระจกสะท้อนภาพของกล้อง DSLR จะสะท้อนขึ้นลง
เพื่อให้แสงผ่านไปยังเซ็นเซอร์รับภาพ ซึ่งการสะท้อนขึ้นลงจทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ซึ่งบางครั้งก็มากพอที่จะก่อให้เกิดการสั่นไหวของภาพ โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย
และการถ่ายแบบเปิดชัตเตอร์นานๆ ( Long-exposure photography ) แต่โชคดี
หากเราถ่ายภาพด้วยไลฟ์วิวอยู่แล้ว กระจกสะท้อนภาพจะถูกล็อคโดยอัตโนมัติเวลาถ่ายภาพ
แต่ก็ไม่เสมอไปในกล้องแต่ละรุ่น หากกระจกสะท้อนภาพไม่ล็อคเวลาถ่ายภาพ
ลองอ่านคู่มือของกล้องอีกครั้ง เพื่อหาฟังก์ชั่นล็อคกระจก

3.Clean lens.
เลนส์ที่สะอาด


ก่อนจะถ่ายหรือกำลังถ่ายภาพใดๆ สิ่งที่สำคัญมากคือ เลนส์เราต้องสะอาดเอี่ยม
คราบสกปรกหน้าเลนส์หรือฝุ่นละออง ไม่เพียงแต่ทำให้ภาพเรานุ่มนิ่มไม่คมชัด
แต่ยังบิดเบือนแสงที่เข้าสู่ตัวเซ็นเซอร์ของกล้องอีกด้วย
พกกระดาษเช็ดเลนส์ให้เป็นนิสัย (อย่าเช็ดด้วยทิชชู่นะครับ)
และหากจะทำความสะอาดเลนส์ด้วยสารเคมีใดๆ ควรเจือจางด้วยน้ำสะอาด 1/5 ส่วน
จากนั้นฉีดใส่กระดาษเช็ดเลนส์ อย่าฉีดใส่หน้าเลนส์โดยตรงนะครับ



4. Use a tripod or other sturdy surface.
ใช้ขาตั้งกล้องหรือพื้นผิวที่มั่นคง


เคล็ดลับข้อนี้เป็นทราบกันดี(แต่ไม่ค่อยทำกันเพราะขาตั้งกล้องมันพกไม่สะดวก)
การถ่ายโดยใช้มือถือกล้องไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการได้ภาพที่คมชัดเต็มประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย  การเลือกลงทุนกับขาตั้งกล้องที่คุณภาพดี

คือทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า เพราะขาตั้งกล้องที่ราคาถูก มักจะสลายตัว
กลายเป็นชิ้นเป็นอันในเวลาไม่นานนัก

แต่หากเราไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อขอตั้งกล้องที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
อันละสองสามหมื่นจะทำยังไง?

ถ้าอย่างนั้น ผู้เขียนขอแนะนำ Benro ขาตั้งกล้องสำหรับขาถ่ายภาพท่องเที่ยว
ราคาไม่สูงมาก คุณภาพไว้ใจได้ครับ

5. Block wind.
บังลมเอาไว้


ลมแรงๆสามารถน็อคขาตั้งกล้องของเราได้ง่ายๆ เหลือทิ้งไว้เพียงภาพเบลอๆให้ช้ำใจเล่น
หากเป็นไปได้ จงเอาตัวบังกล้องไว้ในทิศทางที่ลมพัดมาเพื่อป้องกัน



กระทิงเริงร่ากระทิงเริงร่ากระทิงเริงร่ากระทิงเริงร่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่